Monday, 1 July 2024
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์

กระทรวงการต่างประเทศ ตบหน้า 'รพ.ธรรมศาสตร์' แจงดีล Moderna ล่ม เหตุโปแลนด์ไม่ให้เอาไปขาย

กระทรวงการต่างประเทศ แจงเหตุ ดีลบริจาควัคซีน Moderna จากโปแลนด์ล่ม เพราะรพ.ธรรมศาสตร์ จะขอรับวัคซีน 1 ใน 3 ส่วนอีก 2 ใน 3 ให้เอกชนที่เป็นหุ้นส่วนนำไปจำหน่ายให้ผู้สนใจ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งโปแลนด์แจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปขาย

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ ออกคำชี้แจง หลังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ อ้างว่ากระทรวงการต่างประเทศ ไม่ทำหนังสือยืนยันตัวตนให้ รพ.ธรรมศาสตร์ในการขอรับบริจาควัคซีน Moderna ซึ่งยังมีอายุใช้งานได้ถึงเดือนเมษายน 2565 จำนวน 1.5 ล้านโดส จากประเทศโปแลนด์ เป็นเหตุให้ต้องยุติการขอรับบริจาคลง โดยระบุว่า…

ตามที่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ได้ลงข้อความพาดพิงถึงการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอรับบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของโปแลนด์ จำนวน 1.5 ล้านโดส โดยระบุว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอให้กระทรวงการต่างประเทศออกจดหมายยืนยันว่า รัฐบาลไทยยินดีรับบริจาควัคซีนดังกล่าว เนื่องจากหน่วยงานผู้บริจาคประสงค์ให้รัฐบาลไทย โดยหน่วยงานภาครัฐที่มีสถานะเป็นผู้แทนรัฐบาล แจ้งเจตนาจะรับบริจาค แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่ออกหนังสือดังกล่าวให้ ทำให้การบริจาควัคซีนดังกล่าวต้องยกเลิกไปนั้น

กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงดังนี้ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แจ้งกระทรวงการต่างประเทศว่า ในการรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงจะรับวัคซีนจำนวน 1 ใน 3 ของวัคซีนที่ได้รับบริจาคไว้เอง เพื่อให้บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และจะมอบวัคซีนที่ได้รับบริจาคมาอีก 2 ใน 3 ให้เอกชนที่เป็นหุ้นส่วน เพื่อนำไปจำหน่ายให้ผู้สนใจ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

กระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์แล้ว ได้รับแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปขาย และฝ่ายไทยต้องได้รับ market authorization จากบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นาด้วย ซึ่งทั้งสองประเด็นเป็นแนวปฏิบัติโดยทั่วไปของการบริจาควัคซีนและเวชภัณฑ์ระหว่างประเทศ และไม่สามารถเจรจาต่อรองเป็นอื่นได้

‘ตะวัน’ ถูกหามส่ง ‘รพ.ธรรมศาสตร์’ หลังประท้วงอดอาหารเข้าวันที่ 9

(22 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan ของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 116 จากการบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ เปิดเผยว่า ขณะกำลังรอเข้าเยี่ยม เพื่อนได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่าได้มีการส่งตัวตะวันไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์แล้ว ขอให้ตะวันปลอดภัย หายใจเข้าไว้

ล่าสุด ตะวัน ได้ส่งตัวถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

‘รพ.ดัง’ แจงยิบ!! กรณีลืมผ้าก๊อซในช่องคลอดคนไข้ เหตุ!! ไม่ได้วัดความยาวผ้า ยัน!! จะไม่เกิดเหตุซ้ำอีก

(18 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกแถลงการณ์ เรื่อง กรณีข่าวผู้ป่วยของโรงพยาบาลพบผ้าก๊อซตกค้างในช่องคลอด 

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ได้รับการรักษาโดยการฉายรังสีและใส่เครื่องมือสำหรับใส่แร่ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567

ซึ่งทางทีมแพทย์ ได้ใส่เครื่องมือสำหรับใส่แร่เข้าไปในช่องคลอด พร้อมใส่ผ้าซับโลหิต ชนิดก๊อซแบบม้วน เพื่อให้เครื่องใส่แร่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และลดปริมาณรังสีที่มีผลต่ออวัยวะข้างเคียง หลังจากนั้นผู้ป่วยมีปัญหาในการติดเชื้อ ทางโรงพยาบาลได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมหาแนวทางดูแลผู้ป่วยและญาติในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีข้อสรุปดังต่อไปนี้ 

1.การใส่เครื่องใส่แร่พร้อมผ้าก๊อซแบบม้วนจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ได้มีการนำอุปกรณ์และผ้าก๊อซออก แต่ขาดการตรวจสอบความยาวของผ้าก๊อซ ซึ่งโรงพยาบาลได้เน้นย้ำมาตรการให้เข้มงวดขึ้นดังนี้

1.1 ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด บันทึกอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนและหลังทำหัตถการ การตรวจภายในซ้ำเพื่อตรวจสอบสิ่งตกค้าง รวมไปถึงการตรวจสอบซ้ำ (Double check) จากเจ้าหน้าที่อีกคนก่อนเสร็จสิ้นหัตถการ

1.2 ตรวจสอบและบันทึกความยาวของผ้าก๊อซทุกครั้งก่อนและหลังการทำหัตถการ

1.3 เปลี่ยนผ้าก๊อซแบบม้วนปกติเป็นชนิดพิเศษที่มีแถบรังสี เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้จากการถ่ายภาพรังสี กรณีที่ความยาวของผ้าก๊อซไม่ครบ

2.การไม่ได้รับการอนุมัติสิทธิการรักษาอื่นนอกเหนือจากสิทธิการรักษามะเร็งที่ผู้ป่วยได้รับ เกิดจากการประเมินที่ไม่ครบถ้วน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ทบทวนให้ความรู้เจ้าหน้าที่และเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับแพทย์ผู้ให้การรักษา

ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ให้ข้อมูลกับผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริงดังกล่าว โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเสียใจและพร้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้การรักษาพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยหายเป็นปกติ พร้อมเร่งดำเนินการเยียวยาและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเน้นย้ำมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top