‘รพ.ดัง’ แจงยิบ!! กรณีลืมผ้าก๊อซในช่องคลอดคนไข้ เหตุ!! ไม่ได้วัดความยาวผ้า ยัน!! จะไม่เกิดเหตุซ้ำอีก

(18 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกแถลงการณ์ เรื่อง กรณีข่าวผู้ป่วยของโรงพยาบาลพบผ้าก๊อซตกค้างในช่องคลอด 

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ได้รับการรักษาโดยการฉายรังสีและใส่เครื่องมือสำหรับใส่แร่ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567

ซึ่งทางทีมแพทย์ ได้ใส่เครื่องมือสำหรับใส่แร่เข้าไปในช่องคลอด พร้อมใส่ผ้าซับโลหิต ชนิดก๊อซแบบม้วน เพื่อให้เครื่องใส่แร่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และลดปริมาณรังสีที่มีผลต่ออวัยวะข้างเคียง หลังจากนั้นผู้ป่วยมีปัญหาในการติดเชื้อ ทางโรงพยาบาลได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมหาแนวทางดูแลผู้ป่วยและญาติในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีข้อสรุปดังต่อไปนี้ 

1.การใส่เครื่องใส่แร่พร้อมผ้าก๊อซแบบม้วนจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ได้มีการนำอุปกรณ์และผ้าก๊อซออก แต่ขาดการตรวจสอบความยาวของผ้าก๊อซ ซึ่งโรงพยาบาลได้เน้นย้ำมาตรการให้เข้มงวดขึ้นดังนี้

1.1 ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด บันทึกอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนและหลังทำหัตถการ การตรวจภายในซ้ำเพื่อตรวจสอบสิ่งตกค้าง รวมไปถึงการตรวจสอบซ้ำ (Double check) จากเจ้าหน้าที่อีกคนก่อนเสร็จสิ้นหัตถการ

1.2 ตรวจสอบและบันทึกความยาวของผ้าก๊อซทุกครั้งก่อนและหลังการทำหัตถการ

1.3 เปลี่ยนผ้าก๊อซแบบม้วนปกติเป็นชนิดพิเศษที่มีแถบรังสี เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้จากการถ่ายภาพรังสี กรณีที่ความยาวของผ้าก๊อซไม่ครบ

2.การไม่ได้รับการอนุมัติสิทธิการรักษาอื่นนอกเหนือจากสิทธิการรักษามะเร็งที่ผู้ป่วยได้รับ เกิดจากการประเมินที่ไม่ครบถ้วน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ทบทวนให้ความรู้เจ้าหน้าที่และเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับแพทย์ผู้ให้การรักษา

ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ให้ข้อมูลกับผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริงดังกล่าว โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเสียใจและพร้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้การรักษาพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยหายเป็นปกติ พร้อมเร่งดำเนินการเยียวยาและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเน้นย้ำมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก


ที่มา: Matichon