Wednesday, 3 July 2024
เชียงใหม่

ต้อนรับนักท่องเที่ยวเหมาลำไฟล์ปฐมฤกษ์เฉินตู-เชียงใหม่

Sichuan Global Travel International Travel Service Co.,Ltd ร่วมกับ Sichuan Airlines จัดเที่ยวบินเหมาลำจากเฉินตูบินตรงเข้าจังหวัดเชียงใหม่ หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังโควิดเริ่มคลี่คลาย เผยชาวเมืองเฉินตูนิยมมาเที่ยวเชียงใหม่ เพราะอากาศดี สถานที่ท่องเที่ยวและความเป็นอยู่ทุกอย่างเอื้ออำนวย เตรียมบินตรงเข้ามาทุกวัน ขณะที่จะประสานเมืองต่างๆของประเทศจีนให้บินตรงเข้ามาเที่ยวเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 เวลา 19.05 น. สายการบินเสฉวนแอร์ เที่ยวบิน 3 U 3933 ได้ถึงยังท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์เฉินตู - เชียงใหม่ แบบเหมาลำ โดยนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  เป็นตัวแทนจังหวัดเชียงใหม่ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย ร้อยเอกสันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) 

MR.GUO HUI ประธานบริหาร Sichuan Global Travel International Travel Sevice เปิดเผยว่า ทาง Sichuan Giobal Travel International Travel Service ดำเนินกิจการเหมาลำสายการบินระหว่างประเทศ มาตลอดระยะเวลา 8 ปี และมีสถิติโดยสารนักท่องเที่ยวจีนหลายแสนคนต่อปีที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงเชียงใหม่ ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจไทย การท่องเที่ยวไทยให้ดียิ่งๆขึ้นไป จากสถานการณ์โควิด 19 ที่เริ่มคลี่คลาย ทางSichuan Global Travel International Travel Service จึงได้ดำเนินการเหมาลำสายการบินเสฉวนแอร์ไลน์ และมีการเหมาลำสายการบินอื่นๆ เพื่อเพิ่มไฟล์บินและกระตุ้นการท่องเที่ยว

เปิดงาน 'ชุมชน ชุมใจ : เทศกาลศิลปะ งานฝีมือ และอาหาร นครเชียงใหม่'

เมื่อวานนี้ (1 ก.พ. 66) นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน 'ชุมชน ชุมใจ : เทศกาลศิลปะ งานฝีมือ และอาหาร นครเชียงใหม่' เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์และพัฒนาเมือง กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย การจัดแสดงนิทรรศการผลงานด้านการอนุรักษ์ และพัฒนาเมืองของเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ได้มีความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ โดยกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2566 ณ บริเวณศูนย์มรดกเมือง เทศบาลนครเชียงใหม่ และพื้นที่เชื่อมต่อบริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ถึงลานด้านหน้าหอพื้นถิ่นล้านนา โดยมี รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ปลัดเทศบาล รองปลัดเทศบาล ชาวชุมชน ภาคีเครือข่ายต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีเปิดงานดังกล่าว ณ บริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์

นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการดำเนินโครงการที่มุ่งเน้นและส่งเสริมให้ภาคประชาชน ประชาสังคม และนักวิชาการเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการต่าง ๆ ให้คนในชุมชนซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เป็นผู้ร่วมออกแบบ วางแผน และกำหนดรูปแบบของกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งวิธีการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นแนวทางการทำงานอย่างบูรณาการ เป็นการสร้างความตระหนักและสร้างความรู้สึกในการเป็นเจ้าของเมือง และทำให้เกิดความภาคภูมิใจ และจะนำไปสู่ ความยั่งยืนได้ในที่สุด อีกทั้งเทศบาลฯ ได้มีโครงการจัดตั้งศูนย์สร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ในบริเวณพื้นที่ หอพื้นถิ่นล้านนา เพื่อให้เป็นสถานที่ที่ทุกคน ทุกภาคส่วนสามารถใช้เป็นพื้นที่พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และจัดเก็บข้อมูล (Data) เมือง

ผบช.ภ.1 ร่วมกับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ปปส.ภาค 1 จัดแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดเครือข่าย 'เฮียเยะ เชียงราย' ได้ของกลางยาบ้า 1.73 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 35 ล้านบาท สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือสู่ภาคกลาง

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สํานักงาน ปปส.ภาค 1 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายลําเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ "เฮียเยะ เชียงราย" เพื่อนํามาจําหน่าย และแพร่กระจายในภาคกลางและภาคตะวันตก

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายบุญหลง หรือ หลง ยานะนวล อายุ 42 ปี ลําเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย จึงประสานให้ สภ.มหาราช ตั้งจุดสกัดที่ถนนสายเอเชีย กม.47 บริเวณหน้าตู้ยาม ต.02 สภ.มหาราช ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนกําลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่เหลือ ได้วางกําลัง เฝ้าสังเกตุการณ์ตามเส้นทางหลักและรอง เพื่อจะสกัดกั้นการลําเลียงยาเสพติดในครั้งนี้

สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีครั้งที่ 1/2566

เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ระหว่างเวลา 14.00 น. - 16.00 น. คณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ชุดปัจจุบันสมัยที่ 22 ในวาระการดำรงตำแหน่ง การบริหารกิจการสมาคมฯ ระหว่างปี พ.ศ.2565 - 2567 โดย นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายสมาคมฯ ได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2566 โดยเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากรับตำแหน่ง นายกสมาคมฯ เพื่อแถลงนโยบายการบริหารงาน แนะนำ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และ คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ กิจกรรมของสมาคมฯ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะแนวทาง ข้อแนะนำในการบริหารงาน ณ ห้องประชุม โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่

นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ มีวิสัยทัศน์ ยกระดับการประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ไปสู่ความยั่งยืน เพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่  เพิ่มแหล่งท่องเที่ยว
เพิ่มช่องทางรายได้ให้กับสมาชิกสมาคมฯ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกสมาคมฯ

สำหรับกลยุทธ์ เพิ่มช่องทางรายได้ให้กับสมาชิก โดยการเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว และการจัด Event มากขึ้นเพื่อประโยชน์ของสมาชิกสมาคมฯ ให้มากที่สุด การเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว ดำเนินการติดต่อประสานงานในการเพิ่มปริมาณสายการบินตรงจากต่างประเทศเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มการประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ โดยประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยว 25 อำเภอ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งระดับพื้นที่และระดับเมืองจัดทำแพ็คเกจการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ที่มีความหลากหลายและเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพื่อตอบโจทย์ในทุกตลาด 

อีกทั้งการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกให้คำปรึกษาและอัพเดทข้อมูลทางการตลาดให้กับสมาชิก จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาดให้ทันสมัย พัฒนาเว็บไซต์สมาคมฯ ให้ทันสมัยเพื่อเป็นพื้นที่กลางในการแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก เพื่อการประชาสัมพันธ์ธุรกิจให้เป็นที่น่าเชื่อถือและมีความเป็นสากลมากขึ้น รวมถึงเป็นช่องทางในการติดต่อกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศ Line Official

สำหรับแผนการปฏิบัติงาน (Action Plan) การสร้างสินค้าและบริการการท่องเที่ยวใหม่ๆ เสริมภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยการนำจุดแข็งด้านวัฒนธรรมที่มีอยู่ดั้งเดิมมาผสมผสานให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน จัดให้มีกิจกรรมการตักบาตรเช้าทุกวันเสาร์ รอบองค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า600 ปี วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ในเวลา 07.00 น. โดยจะเริ่มวันเสาร์ที่ 11 ก.พ.2566 เป็นเสาร์แรก ภายใต้ชื่องานประเพณีตักบาตรโซติกา วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร  สืบสานประเพณี เสริมมงคลรับปีเถาะ” กิจกรรม ที่วัดป่าดาราภิรมย์ เป็นการแสดง แสง สี วัฒนธรรม ศิลปะ  เพื่อทำให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้าในวัดในช่วงเย็นจนถึง 21.00 น.
เพื่อสร้างจุดขายและดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ เปิดเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล

วันนี้ เมื่อ 37 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล

เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอเนกประสงค์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ตั้งอยู่ที่ ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เกิดจากความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับกรมชลประทาน โดยกรมชลประทานรับผิดชอบในการสร้างเขื่อนและอาคารประกอบต่างๆ ส่วน กฟผ. รับผิดชอบโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้า

เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เป็นเขื่อนอเนกประสงค์อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เดิมชื่อว่า “เขื่อนแม่งัด” มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ด้านเหนือเขื่อนที่สามารถอำนวยประโยชน์ได้หลายด้าน อาทิ ด้านการชลประทาน การผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ การบรรเทาอุทกภัยแก่พื้นที่เพาะปลูกท้ายอ่างเก็บน้ำ การประมงในอ่างเก็บน้ำ ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายได้ร่วมมือกันดำเนินงานมาตั้งแต่เริ่มการศึกษาโครงการ จนกระทั่งการก่อสร้างงานต่างๆ ตามโครงการได้สำเร็จลงด้วยดี

'เพื่อไทย' เตรียมปราศรัย เชียงใหม่-เชียงราย 24-25 ก.พ.นี้ แง้ม!! ประกาศ 'นโยบายชุดใหญ่' หลังจากยุบสภาฯ

(23 ก.พ. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย แถลงข่าวการลงพื้นที่ปราศรัย จ.เชียงรายและเชียงใหม่ในวันที่ 25-26 ก.พ.นี้ว่า ในวันที่ 25 ก.พ. พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่พบปะประชาชนและเปิดปราศรัยใหญ่ที่จ.เชียงราย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และตน โดยในช่วงเช้าจะไปพบปะผู้ประกอบการในพื้นที่ และประชาชนที่จุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากนั้นจะเปิดปราศรัยใหญ่ที่รร.ปล้องวิทยาคม อ.เทิง จ.เชียงราย โดยเวทีจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. - 18.30 น. โดยหลังจากปราศรัยเสร็จสิ้น พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่ถนนคนเดิน อ.เมือง จ.เชียงรายด้วย

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 26 ก.พ.เดินทางไปยังจ.เชียงใหม่ โดยในช่วงเช้าจะไปพบผู้ประกอบการท่องเที่ยวและพี่น้องชาวชาติพันธุ์ที่ม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และในช่วงบ่ายจะเดินทางไปที่ศูนย์เฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5  ช่วงเย็นจะเป็นการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 

ทั้งนี้ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การตอบรับอย่างเนืองแน่นล้นหลาม จากการลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ในหลายจังหวัดที่ผ่านมา มีผู้คนที่มาเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพผู้คนจำนวนไม่มากหน้าเวที หรือพี่น้องออกจากเวทีขณะที่เวทียังไม่จบนั้น ขอเรียนให้ทราบว่าเราเล็งเห็นและเข้าใจความพยายามนี้ แต่ความจริงต้องเป็นความจริง ทุกเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทย แม้กระทั่งในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดี มีตัวชี้วัดหลายประการ เช่น ผลการสำรวจของสำนักโพลที่ได้มาตรฐาน ชี้ตรงกันว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพท.ยกระดับสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ พรรคพท.เชื่อมั่นว่าหลังยุบสภาเมื่อประกาศนโยบายชุดใหญ่ คะแนนนิยมของทั้งพรรคและว่าที่แคนดิเดตนายกฯ จะพุ่งทะยานสูงขึ้นมากขึ้นไปกว่านี้

‘จักรพล’ ซัด!! รัฐละเลยปัญหา PM 2.5 ทำติดอันดับฝุ่นโลกซ้ำซาก ชี้!! พท.ช่วยได้

(24 ก.พ. 66) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานเป็นปัญหาเรื้อรังในช่วง 4-5 ปี ล่าสุดพบว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองหลักที่มีมลพิษติดอันดับที่ 6 ของโลก และถูกจัดอันดับต่อเนื่องหลายวัน กระทบต่อการหายใจของประชาชน ลูกหลานเยาวชน ขณะที่รัฐบาลละเลย เมินเฉยต่อปัญหา และยังดอง พ.ร.บ.อากาศสะอาดเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี 1 เดือน แต่ใช้งบประมาณมากมาย หากมองย้อนหลังไป 2 ปี งบประมาณแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในปี 2565 และ 2566 ประมาณ 406 ล้านบาท และ 410 ล้านบาท รวม 816 ล้านบาท ทั้งหมดคือ การผลาญงบ ผลาญชีวิต ผลาญเวลาของประชาชน

นายจักรพล กล่าวอีกว่า พรรค พท.ได้เคยเสนอแนวทางแก้ฝุ่น PM 2.5 ที่จะผลักดันเป็นนโยบายได้แก่

'อุ๊งอิ๊ง' นำทีม รับฟังปัญหาผู้ประกอบการม่อนแจ่ม โว 'ขยายสนามบิน-รถไฟความเร็วสูง' รองรับ นทท.

(26 ก.พ.66) ที่ม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดกิจกรรมพบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยวและกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพท., นายพานทองแท้ ชินวัตร และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย โดยทันทีที่เดินทางมาถึง น.ส.แพทองธารพร้อมคณะได้ร่วมทักทายถ่ายภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์ชาวม้ง และเยาวชนนักฟุตบอลของคริสต์ เอฟซี อะคาเดมี่ ของม่อนแจ่ม

'จักริน' 'ศักดิ์ชัย' เยี่ยมชมหม้อแปลงลดค่าไฟ ลดคาร์บอน ตอบโจทย์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่และผู้ประกอบการภาคเหนือ

บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด ขอขอบคุณ นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายจักริน วังวิวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่, คุณศิริพร ตันติพงษ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่และ นายอาคม ศุภางค์เผ่า รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ที่ให้เกียรติเยี่ยมชมหม้อแปลงลดค่าไฟ ลดคาร์บอน บูธของบริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด หม้อแปลงบริหารระบบจัดการพลังงานสิ้นเปลือง ลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้า 5-20% ลดมลพิษ ลดคาร์บอน และลดก๊าซเรือนกระจก สร้างความมั่นคงพลังงานอย่างยั่งยืน ให้โรงงานอุตสาหกรรม อาคาร สถานประกอบการ สอดคล้อง พันธกิจ พพ. ส่งเสริม สนับสนุนการผลิต และการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

นวัตกรรมหม้อแปลงลดค่าไฟ ลดคาร์บอน นอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานลดค่าไฟ ลดคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว นวัตกรรมของคนไทยชิ้นนี้ ได้รับรางวัลเป็นเครื่องการันตีในคุณภาพมากมาย รางวัลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน รางวัลกระทรวงพลังงาน Energy Award, ตีพิมพ์วารสาร IEEE ที่ประเทศสิงคโปร์, รางวัลนวัตกรรมสินค้าสนับสนุนส่งเสริมสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA, สินค้า มอก. 384 และใบประกาศเกียรติคุณ โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) TGO และรางวัล ASEAN Outstanding Engineering Achievement Project Award และ ASEAN Outstanding Engineering Contribution Award การันตี ทำคุณประโยชน์ในงานด้านวิศวกรรมในระดับประเทศ ASEAN Federation of Engineering Organization (AFEO) ที่ประเทศกัมพูชา

(เชียงใหม่) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ประธานการแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 

วันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 คดี  ตรวจยึดยาบ้า 6  ล้านเม็ด ยึดรถยนต์ 3 คัน (สภ.แม่จัน เชียงราย)โดยมี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าว ณ ใต้ตึก บก.สส.ภ.5 

ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในทุกมิติ  ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข,พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ท.สุริยะ เอี่ยมสุโร มทภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ชน. ได้รับบัญชานำข้อสั่งการไปสู่การปฏิบัติ

ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร, พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5

ฝ่ายทหาร  โดย พล.ต.จรัส ปัญญาดี รอง มทน.3/รอง ผอ.ศอ.ปส.ชน., พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กกล.ผาเมือง ฝ่ายปกครอง  โดย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.เชียงราย สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5  โดย นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ  ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 แถลงผลการตรวจยึดยาเสพติดรายสำคัญของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1   ยาบ้า จำนวน 6,000,000 เม็ด หน่วยที่ตรวจยึด สภ.แม่จัน จว.เชียงราย, ชปส.ภ.จว.เชียงราย, กก.สส.ภ.จว.เชียงราย, ชุดสกัดกั้นและปราบปราม  ยาเสพติดฯ ภ.5, สภ.เวียงแก่น, สภ.เชียงแสน, สภ.เชียงของ จว.เชียงราย, ป.ป.ส., ตชด.327,  ตชด.326, นรข., ทพ.3104 และทพ.31วัน-เดือน-ปี ที่ตรวจยึด 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 15.30 น.สถานที่ตรวจยึด บนถนนสาธารณะภายในหมู่บ้านห้วยน้ำราก หมู่ที่ 5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย ต่อเนื่อง  จุดผ่อนปรนบ้านแจมป๋อง หมู่ที่ 5 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จว.เชียงราย ของกลาง   1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 6,000,000 เม็ด 2. รถยนต์จำนวน 2 คัน

พฤติการณ์แห่งคดีก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์เครือข่ายยาเสพติดกลุ่มชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้เส้นทางผ่านพื้นที่ อ.แม่จัน จว.เชียงราย และ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย โดยกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊คแคป สีดำ ติดแผ่นป้านทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีน้ำตาล ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผค 7*** เชียงราย เป็นยานพาหนะใช้ในการลำเลียงยาเสพติด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้รับแจ้งจากสายลับในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ว่าพบกลุ่มรถยนต์ต้องสงสัยที่ได้แจ้งไว้ทั้ง 2 คัน ขับขี่อยู่ในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ลักษณะมีพิรุธ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกติดตามพฤติการณ์ ปรากฏพบว่ารถยนต์กระบะ ทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ และรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผค 7*** เชียงราย

ขับขี่วิ่งตามกันเป็นขบวนออกจากพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่จัน จว.เชียงราย โดยด้านหลังกระบะมีผ้าใบปกคลุม ขับตามกันในลักษณะเป็นกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด มีการใช้ความเร็วและชะลอเป็นระยะ ๆเพื่อเช็คการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อรถยนต์ทั้ง 2 คัน ขับมาถึงเขตบ้านห้วยน้ำราก ม.5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย รถยนต์กระบะ ทะเบียน ผค 7*** เชียงราย ได้ขับมุ่งตรงไปทาง อ.เชียงแสน จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดส่วนหนึ่งได้ติดตามไป ส่วนรถยนต์กระบะ ทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ ได้กลับรถยนต์แล้วเลี้ยวเข้า ซอย 4 บ้านห้วยน้ำราก ม.5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย เมื่อขับมาถึงถนนสายสาธารณะบริเวณสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ขับรถยนต์ติดตามมาจนทัน พบชายวัยรุ่น 2 คน ได้เปิดประตูรถยนต์ฯ แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงได้ติดตามไปแต่ไม่พบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงได้ทำการตรวจสอบรถยนต์พบกระสอบสีเขียว จำนวน 10 กระสอบ บริเวณในห้องโดยสารรถยนต์ และพบกระสอบสีเขียว จำนวน 20 กระสอบ บริเวณด้านหลังกระบะรถยนต์ รวมทั้งหมด 30 กระสอบ ปรากฏพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 6,000,000 เม็ด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top