Thursday, 4 July 2024
เชิดชูคนดี

‘วราวุธ’ มอบรางวัล ‘ประชาบดี’ ยกย่อง ผู้ทำความดี อุทิศตนเพื่อสังคม ‘หนังสืออยู่กับก๋ง-รพ.รามาธิบดี-แว่นท็อปเจริญ’ ได้รับรางวัลนี้ด้วย

(28 ก.ย. 66) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานพิธีมอบรางวัล ‘ประชาบดี’ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก และผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ที่ดูแลช่วยเหลือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก อีกทั้งส่งเสริมเจตคติเชิงบวกในการอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร เห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมในพิธี

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้ดำเนินการจัดพิธีมอบรางวัล ‘ประชาบดี’ มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2550 เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้ทำความดีอุทิศตนเพื่อสังคมให้เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่นำต้นแบบมาจาก ‘พระประชาบดี’ เทพผู้เป็นที่พึ่งและสงเคราะห์ประชาชน ด้วยพลังแห่งการให้และแบ่งปัน เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้รอดพ้นจากสภาวะยากลำบาก

สำหรับปีนี้ มีผู้รับรางวัล ‘ประชาบดี’ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 รวมจำนวนทั้งสิ้น 87 คน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

1.) ประเภทบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 รวม 19 ราย อาทิ นางสุพัตรา จิราธิวัฒน์ ผู้ริเริ่มโครงการ Centara Academy โดยเปิดสอนด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียน, นางสาวเรณู ภาวะดี ผู้มีความมุ่งมั่นในงานจิตอาสา เป็นกระบอกเสียงและอุทิศตนเพื่อผู้ประสบความเดือดร้อน, นายแพทย์ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย ผู้จัดการโครงการช่วยเหลือสังคมในทุกมิติ รวมถึงสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลหลายแห่ง, นายสายชล พันพืช อาสามูลนิธิกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน ผู้เสียสละตนเพื่อช่วยเหลือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก คนเร่ร่อน และกลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง

2.) ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 รวม 16 ราย อาทิ หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างงาน สร้างอาชีพแก่ผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก จนเกิดการรวมกลุ่มในชุมชนเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันและพึ่งพาตนเองได้, สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกายเชียงราย ส่งเสริมอาชีพคนพิการให้มีงานทำ มีรายได้ หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว, แว่นท็อปเจริญ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่มีปัญหาด้านสายตาทั่วประเทศ, โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนากระบวนการรักษาและระบบการให้ข้อมูลการรักษาผู้ป่วยโรคหายาก

3.) ประเภทสื่อสร้างสรรค์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 รวม 23 ราย อาทิ รายการวันใหม่วาไรตี้ ช่วงร้องทุก(ข์) ลงป้ายนี้ นำเสนอการช่วยเหลือประชาชนและผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งประสานช่วยแก้ปัญหาสังคม, รายการ น.ช. ไม่ทิ้งกัน สร้างกำลังใจแก่อดีตเพื่อนนักโทษให้ดำเนินชีวิตในทางที่สุจริต, สถานีเฟซบุ๊กไลฟ์ & ศูนย์ช่วยเหลือออนไลน์ ‘สื่ออาสาประชาชน’, หนังสือเรื่อง ‘อยู่กับก๋ง’ โดยหยก บูรพา รายการที่สอดแทรกคำสอนที่มีคุณค่า ปลูกฝังทัศนคติที่ดีแก่คนทุกช่วงวัย 

4.) ประเภทต้นแบบคนสู้ชีวิต ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 รวม 29 ราย อาทิ นายธนเดช  โพธิ์เงิน คนพิการจิตอาสา สู้ชีวิต อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือและให้กำลังใจผู้ที่มีความพิการเช่นเดียวกัน, นายเอนก แก้วผา ผู้เคยเดินทางผิดและเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยอุทิศตนช่วยคนเปราะบาง, นายณรงค์ฤทธิ์ ชาวบางมอญ ใช้การพูดสร้างกำลังใจแก่ผู้ต้องขังและใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวซื้ออาหารเพื่อมอบให้แก่เด็ก คนเร่ร่อน และคนไร้ที่พึ่ง, นางสาวสุวรรณดี อ่ำศรีสุข ผู้ถือคติ “ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ กตัญญู” ลุยช่วยเด็กกำพร้าและผู้มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารางวัล ‘ประชาบดี’ ที่ได้มอบให้ จะเป็นกำลังใจ และสามารถขยายผลไปสู่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่า วันนี้ การทำความดีของท่านมีคนเห็น และเป็นแรงผลักดันที่สำคัญให้กับสังคมไทยเดินไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ภาครัฐจะไม่สามารถทำงานเพียงลำพังได้ การได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ภาคประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดนั้น คือหัวใจสำคัญในการช่วยคนทุกๆ กลุ่ม ทุกๆ เพศ ทุกๆ วัย และทุกๆ สถานะ กระทรวง พม. ขอขอบคุณทุกคนที่ได้รับรางวัล “ประชาบดี” และหวังว่าในปีต่อๆไป เราจะมีผู้ได้รับรางวัลเพิ่มขึ้น และหลากหลายสาขามากขึ้น สำหรับการเข้ามาช่วยกันทำงาน เพื่อให้สังคมไทยน่าอยู่มากขึ้น

'ดร.หิมาลัย' จัดกิจกรรม 'ยิ่งให้ ยิ่งสุข' มอบโล่เกียรติยศแก่นายกองตรี 'ฝันเด่น' ส่งเสริมคนดี ผู้มีจิตเสียสละ ตามดำริโครงการ 'มูลนิธิพระราหู'

'มูลนิธิพระราหู' โดย ดร.หิมาลัย และพล.ต.ท.ไตรรงค์ จัดกิจกรรม 'ยิ่งให้ ยิ่งสุข' พร้อมมอบโล่เกียรติยศให้ นายกองตรีฝันเด่น และ มูลนิธิกระจกเงา ผู้เสียสละ ทำความดีเพื่อสังคม ตามโครงการ 'ส่งเสริมคนดี มูลนิธิพระราหู'

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.67 ที่ ห้องบุญยะจินดา 1-2 สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร มูลนิธิพระราหู จัดกิจกรรม 'ยิ่งให้ ยิ่งสุข' ภายใต้ชื่องาน 'GIVER'S NIGHT 2024' โดยมี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร./ที่ปรึกษามูลนิธิฯและประธานโครงการส่งเสริมคนดี มูลนิธิพระราหู รวมทั้ง คุณหทัยรัตน์ ผิวพรรณ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ กรรมการมูลนิธิฯ และคณะผู้มีจิตศรัทธา นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน กลุ่มหิมาลัย กรุ๊ป กลุ่มเพื่อนไตรรงค์ เข้าร่วมภายในงาน

ทั้งนี้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ ได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบโล่เกียรติยศ พร้อมมอบเงินสนับสนุน โครงการ 'ใจถึงใจ' จำนวน 100,000 บาท ให้กับนายกองตรี ฝันเด่น จรรยาธนากร กลุ่มอาสาสมัครภาคประชาชน โครงการ 'ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน' รวมทั้ง มอบโล่เกียรติยศ พร้อมมอบเงินสนับสนุน โครงการ 'สดชื่นสถาน' ให้กับ มูลนิธิกระจกเงา จำนวน 100,000 บาท นอกจากนี้ยังได้มอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับหน่วยงานในสังกัด สพฐ.ตร.เช่น มอบเครื่องปริ้นเตอร์ให้กับ ศพฐ.4 มอบแอร์ให้กับ พฐ.จว.สุพรรณบุรี และมอบกล้องถ่ายภาพให้กับ พฐ.ก.เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์อีกด้วย

ด้าน ดร.หิมาลัย เปิดเผยว่า กิจกรรม "ยิ่งให้ ยิ่งสุข"เราจัดขึ้นครั้งนี้ เพื่อขอบคุณคณะผู้มีจิตศรัทธา มีทั้ง องค์กร ชมรมฯ นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน ที่ให้การสนับสนุนงานด้านการกุศลกับ มูลนิธิพระราหู ด้วยดีมาตลอด รวมทั้งเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับบุคคล และองค์กร ดีเด่นที่ทำความดีด้านจิตอาสา เสียสละ เพื่อสังคม ตามโครงการ 'ส่งเสริมคนดี มูลนิธิพระราหู' ผมและกรรมการมูลนิธิพระราหู มีความศรัทธาในการทำหน้าที่การช่วยเหลือสังคมของทีมงาน 'ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน' เป็นอย่างมาก จึงให้การสนับสนุนตลอดมา และจากความดี ความเสียสละ ที่เราสัมผัสมาได้เป็นเวลาหลายปีที่ร่วมงานกันมา 

"โดยทาง โครงการ 'ส่งเสริมคนดี มูลนิธิพระราหู' ซึ่งมีท่าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ เป็นที่ปรึกษามูลนิธิและประธานโครงการฯ จึงได้คัดเลือก นายกองตรี ฝันเด่น จรรยาธนากร กลุ่มอาสาสมัครภาคประชาชนโครงการ 'ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน' เป็นบุคคลและโครงการดีเด่น ประจำปี 2566 รวมทั้ง มูลนิธิกระจกเงา ที่เสียสละ ในการเสียสละช่วยเหลือสังคมมาตลอด คณะกรรมการมูลนิธิพระราหู จึงได้คัดเลือกเป็นบุคคลและองค์ ดีเด่น พร้อมมอบโล่ห์เกียรติยศและเงินสนับสนุนโครงการ จำนวน 100,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เสียสละ ในการทำความดีเพื่อสังคม 

"สุดท้ายผมและมูลนิธิฯ รู้สึกขอบคุณ นายกองตรี ฝันเด่น จรรยาธนากร และพี่ๆ น้องๆ ทีมงานทุกคน ที่เป็นสะพานบุญให้กับมูลนิธิพระราหูและคณะผู้มีจิตศรัทธาเสมอมา ขอให้โครงการ 'ใจถึงใจ' ปฏิบัติภารกิจจิตอาสาตามอุดมการณ์ ในการเสียสละช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเดินหน้าต่อไป รวมทั้งขอขอบคุณ มูลนิธิกระจกเงา ที่ช่วยเหลือประชาชนและสังคมมายาวนาน ซึ่งมูลนิธิพระราหู พร้อมอยู่เคียงข้างให้กำลังใจและจะร่วมสนับสนุนในทุกโอกาส ในการช่วยเหลือสังคม ตามโครงการ 'ส่งเสริมคนดี มูลนิธิพระราหู' ต่อไป" ดร.หิมาลัย กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top