Monday, 1 July 2024
เครือสหพัฒน์

'เครือสหพัฒน์ฯ' ร่วมทุน 'Zhen Ding Tech' ปักหมุดสร้างโรงงาน PCB ในไทย ดึงเงินลงทุนเข้าประเทศ 'เฟสแรกหมื่นล้าน-มากกว่า 5 หมื่นล้าน' ภายในปี 2573

(12 ธ.ค. 66) นายวิชัย กุลสมภพ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI เปิดเผยว่า เครือสหพัฒน์ โดยบมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง  ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ กับ กลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech ตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาผลิตและจำหน่ายแผงวงจรพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงหลายชั้น (Multi-layer PCB) โดยเริ่มก่อสร้างโรงงานในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีเมื่อเดือนธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา

เครือสหพัฒน์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech ดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยมีสัดส่วนการผลิต PCB ในตลาดโลกเพิ่มขึ้น เป็นฐานการผลิต PCB ที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน สร้างโอกาสการจ้างงานที่มีคุณภาพ และเกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้ในกระบวนการผลิตมายังประเทศไทย รวมทั้งสร้างโอกาสการดึงดูดผู้ประกอบการรายใหญ่ในห่วงโซ่อุปทานให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้เพิ่มเติมในอนาคต

สำหรับการร่วมทุนระหว่างเครือสหพัฒน์ และกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech ในครั้งนี้ เครือสหพัฒน์คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยประมาณ 1 หมื่นล้านบาทในเฟสแรก และมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2573 โดยอุตสาหกรรม PCB เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริม และได้รับการสนับสนุนจาก BOI (The Board of Investment of Thailand)

นายชาร์ล เสิ่น ประธานกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech โดย บริษัท Zhen Ding Technology Holding Limited กล่าวว่า กลุ่ม Zhen Ding Tech เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทย และมีความเชื่อมั่นที่ได้ร่วมมือทางธุรกิจกับเครือสหพัฒน์ พร้อมที่จะเข้ามาขยายการลงทุนสร้างความเติบโต ผลักดันธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย นับเป็นโอกาสเติบโตที่ยิ่งใหญ่เพราะ PCB ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด

สำหรับกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech เป็นผู้ดำเนินธุรกิจออกแบบ ค้นคว้าวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายแผงวงจร (Printed Circuit Board, PCB) รายใหญ่อันดับ 1 ของโลก หรือคิดเป็นสัดส่วน 7% มีฐานการผลิตที่สำคัญ 6 แห่งตั้งอยู่ในเมืองเซิ่นเจิ้น (Shenzhen) เมืองหฺวายอาน (Huai’an) เมืองฉินหวงเต่า (Qinhuangdao) เขตเถา-ยฺเหวียน (Taoyuan) และเกาสฺยง (Kaohsiung) และเมืองเจนไน (Chennai) ทางตอนใต้ของอินเดีย โดยคาดว่าภายในปี 2573 ส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech จะเพิ่มขึ้นเท่ากับ 10% ของตลาดทั้งหมด

“เครือสหพัฒน์มีความพร้อมในการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความตั้งใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เรามีที่ดินเพียงพอ มีเครือข่ายที่พร้อมช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วและดูแลครบวงจร ครอบคลุม 4 ทำเลยุทธศาสตร์ได้แก่ 1.อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี 2.อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 3.อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน 4.อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ใช้ที่ดินกว่า 300 ไร่ เป็นการเปิดประตูเข้าสู่อุตสาหรรมใหม่และเป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญในการปูรากฐานสู่อนาคต ให้กับบริษัทในเครือสหพัฒน์เข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ที่เน้นเทคโนโลยี  สร้างงานที่พัฒนาทักษะด้านวิศวกรรมมากกว่าหนึ่งพันตำแหน่ง เชื่อว่าการขยายการลงทุนภายใต้แนวความคิด ECO-TECH INDUSTRIAL PARK นอกจากจะเป็นประโยชน์โดยตรง ต่อชุมชนแล้วยังส่งผลช่วยยกระดับขีดความสามาถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมในประเทศอีกด้วย” นายวิชัย กล่าว

แนวคิดเรื่องการให้จาก ‘บุญเกียรติ โชควัฒนา’

ยิ่งให้มาก ยิ่งได้รับมาก ❤

บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการและกรรมการ บริษัทในเครือสหพัฒน์ เผยแนวคิดดี ๆ เรื่องการให้ ระบุว่า… “ที่สําคัญก็คือ ผลักน้ำออกไป น้ำไหลเข้ามา แต่หากวักน้ำเข้ามา น้ำจะไหลออกไป การผลักน้ำออกไปคือการให้ และเราจะได้รับกลับมา หากคนหวังแต่จะกอบโกย มักจะสูญเสีย ยิ่งให้ก็ยิ่งได้รับกลับมา แต่ที่ได้รับกลับมาอาจจะไม่ใช่เงินทอง แต่ชื่อเสียง ความยอมรับ คนชื่นชม ดังนั้นสหพันธ์จะเน้นการให้ ไม่ได้รีบร้อนจะเป็นเจ้าตลาด ครองตลาด” 

'เครือสหพัฒน์' ผนึกกำลัง 'fufu' ธุรกิจร้านทำสีผมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น ผุด 100 สาขา เจาะตลาดทำสีผมแฟชั่น และกลุ่มสูงวัยปิดผมขาว

(4 มิ.ย. 67) คุณธีรดา อำพันวงษ์ คณะกรรมการในเครือสหพัฒน์ เผยถึงความร่วมมือกับพันธมิตร ‘ฟาสต์ บิวตี้’ จากประเทศญี่ปุ่น ขยายธุรกิจร้านทำสีผม fufu ในประเทศไทย ว่า เพราะคนไทยมีความสนใจเรื่องความงามคล้ายกับคนญี่ปุ่น ปัจจุบันประเทศไทยมีกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นอีกโอกาสของตลาดทำสีผมทั้งปิดผมขาวและสีแฟชั่น

ร้านทำสีผม ‘fufu’ ที่จะเข้ามาเปิดตลาดในไทย เป็นการทำสีผมที่แตกต่างจากเดิม คือตอบโจทย์ทั้งกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงวัย โดยการนำเทคโนโลยีและระบบ CRM มาให้บริการ เพื่อวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า และใช้ AI เสนอทางเลือกที่เหมาะกับให้ลูกค้า ตั้งเป้าเปิดให้บริการในประเทศไทย 100 สาขา สำหรับสาขาแรกเปิดในทำเลทองหล่อ

มร.ยูกิฮิโระ ฮิกาชิคุโบะ ประธานบริษัทและผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟาสต์บิวตี้ จำกัด กล่าวว่า 'ฟาสต์ บิวตี้' ดำเนินธุรกิจร้านทำสีผม fufu ที่มีกว่า 130 สาขา และเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจร้านทำสีผมในประเทศญี่ปุ่น โดยให้บริการเฉพาะการทําสีผม ในราคาคุ้มค่าและรวดเร็ว ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการกว่า 4.15 ล้านคนต่อปี

นอกจากให้บริการทำสีผมแล้ว ฟาสต์ บิวตี้ ยังเป็นผู้จําหน่ายผลิตภัณฑ์ความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผ่านทางเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซด้วย

สำหรับร้านทำสีผม fufu ในประเทศไทย ให้บริการลูกค้าครบวงจร ทั้งบริการทําสีผมแฟชั่น สําหรับกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และบริการทำสีผมเพื่อปกปิดผมขาว สำหรับกลุ่มคนสูงวัย โดยจะลงนามความร่วมมือขยายธุรกิจร่วมกันในงาน สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 28 ในวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2567

'บิ๊กสหพัฒน์ฯ' เปิดตัว ‘MILKIE WAY’ ตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ ท้าชน 'ตู้เต่าบิน' ปักธงวางตลาดไตรมาสแรกปี 68

(27 มิ.ย.67) จากบทสัมภาษณ์ของกรุงเทพธุรกิจ เปิดเผยว่า ‘ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี’ ได้เปิดตัว ‘ตู้ MILKIE WAY’ โดย เวทิต โชควัฒนา กรรมการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงที่มาของการพัฒนาตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ MILKIE WAY เพราะมองเห็น ‘โอกาส’ จากมีผู้เล่นในตลาดสามารถแจ้งเกิดตู้ได้ สร้างความโด่งดังเป็นกระแสนิยมให้กับผู้บริโภคได้อย่างดี ขณะที่ ‘ซันเวนดิ้ง’ ก็โด่งดังมานาน จึงคิดพัฒนาประกอบตู้อีกแบบเข้าสู่ตลาด

"เดิมเราทำตู้เวนดิ้ง แมชชีน เราคือ เบอร์ 1 มีจำนวนตู้ให้บริการ 1.67 หมื่นตู้ เราเน้นธุรกิจนี้เป็นหลัก ในฐานะเราเป็นลีดเดอร์จึงมองว่าต้องมีตู้แบบนี้ด้วย(ตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ) เรามีการผลิตตู้ ขาย ให้เช่า ตู้เวนดิ้งทั้งหมดมาจากเรา จึงอยากให้ทุกคนมองเราคือ วัน สต๊อป เวนดิ้ง โซลูชั่น อยากให้มองว่าเราทำได้"

สำหรับการเลือกตั้งชื่อแบรนด์ว่า MILKIE WAY เพราะมีความหมายยิ่งใหญ่ในกรอบของกาแล็กซี 'ทางช้างเผือก' โดยเครื่องดื่มที่จะจำหน่ายในตู้เบื้องต้น มีประมาณ 40 เมนู ทั้งเครื่องดื่มผสมโซดา กาแฟ เครื่องดื่มปั่น เช่น มัทฉะปั่นในตำนาน สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต ลิ้นจี่กุหลาบโซดา และมอคค่า เอสเฟรสโซ่ โกโก้ ฯลฯ พร้อมเปิดราคาแนะนำที่ 19 บาท เฉพาะในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 27-30 มิถุนายน 2567 เฉพาะในงานเมนูละ 19 บาท 

ส่วนราคาขายเมนูเครื่องดื่มที่ตั้งไว้สูงสุดจะอยู่ที่ราว 50 บาทต่อแก้ว โดยตู้ MILKIE WAY สามารถเสิร์ฟเครื่องดื่มได้มากถึง 500 แก้วต่อวัน โดยพร้อมจะเปิดตัวทำตลาดในไตรมาสแรก ปี 2568

>> ลุยธุรกิจแฟรนไชส์ต่อยอดโต
การขยายธุรกิจตู้เวนดิ้ง แมชชีน บริษัทยังเปิดกว้างโอกาสด้วยการส่งโมเดล ‘แฟรนไชส์’ เจาะลูกค้าทั่วไทยที่ต้องการนำตู้เวนดิ้ง แมทชีนไปจำหน่ายสินค้า ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ซี 1 ราย อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วน ‘ตู้ MILKIE WAY’ จะยังไม่มีแฟรนไชส์เพราะต้องการยกระดับมาตรฐาน คุณภาพให้มั่นใจก่อน โดยเฉพาะ ‘ความสะอาด’ สำคัญมาก ต้องมีทีมงานคอยดูแลตู้ทุกวัน

“ตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ MILKIE WAY เราให้ความสำคัญกับการดูแลความสะอาด การกำหนดมาตรฐาน เพราะตู้รูปแบบดังกล่าวต้องดูแลค่อนข้างมาก”

>> ตู้ชงเครื่องดื่มร้อน-เย็นทำตลาดมา 20 ปี มีกว่า 1,000 ตู้
ด้าน พิศณุ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีตู้ชงเครื่องดื่มร้อน และเย็นทำตลาดตอบสนองผู้บริโภคมาราว 20 ปี แต่ส่วนใหญ่เป็นเมนูราคา 5-7 บาท และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เร่งรีบ เช่น พนักงานโรงงานต่างๆ เป็นต้น โดยมีจำนวนตู้ให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายมากกว่า 1,000 ตู้ โดยเฉพาะพื้นที่โรงงานครองสัดส่วนถึง 70%

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ MILKIE WAY จะเห็นไตรมาส 1 ปีหน้า กลยุทธ์เบื้องต้นจะประกอบคู่กับตู้เวนดิ้งแมชชีนของบริษัทในทำเลต่างๆ

“เราเห็นโอกาสเพราะมีผู้ทำตลาดค่อนข้างประสบความสำเร็จ แม้เทรนด์จะเริ่มลดลงก็ตาม แต่เราทำโอเปอเรชันอยู่แล้วเกือบ 1.7 หมื่นตู้ จึงต้องการเสริมตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ MILKIE WAY เพิ่มออปชันให้ลูกค้าของเรา”

สำหรับการพัฒนาปรับปรุงตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ MILKIE WAY ปัจจุบันต้นทุนอยู่ที่ 3 แสนบาทต่อตู้ ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งที่ต้นทุนราว 2 แสนบาทต่อตู้

>> ลุยทวงคืนส่วนแบ่งตลาดตู้เวนดิ้ง แมชชีน
พิศณุ กล่าวอีกว่า ภาพรวมธุรกิจตู้เวนดิ้งแมชชีนปี 2567 จะเป็นปีแห่งการทวงคืนส่วนแบ่งทางการตลาดให้กลับไปอยู่ในระดับสูงขึ้น โดยบริษัทเคยครองส่วนแบ่งถึง 60% ของตลาด กระทั่งมีคู่แข่งเข้ามามากขึ้น ส่วนแบ่งทางการตลาดจึงปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 45%

“ตู้เวนดิ้ง แมชชีน เราเป็นเบอร์ 1 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 45% เมื่อก่อนเราเคยอยู่สูงถึง 60% แต่ลงมาเพราะคู่แข่งมากขึ้น ตอนนี้คู่แข่งไม่ค่อยสบาย เชื่อว่าปลายปีนี้ส่วนแบ่งตลาดเราจะกลับขึ้นมาเติบโต”

>> เต่าบินรับน้อง (ทุน) ใหญ่
พลันที่คู่แข่งหน้าใหม่เปิดหน้าท้าชน ด้าน ‘เต่าบิน’ ผู้นำตลาด ที่ตู้สามารถชงเครื่องดื่มสารพัดได้ถึง 200 เมนู สร้างยอดขายทะลุหลายร้อยแก้วต่อวัน และยิ่งกว่านั้นเป้าหมายใหญ่ ‘เต่าบิน’ ต้องการมีตู้ให้บริการทะลุ ‘1 หมื่นตู้’ ในปีนี้ ก็ถือโอกาสเปิดตัวแคมเปญการตลาด จัดโปรโมชันดึงดูดลูกค้า จังหวะเหมาะเหมือน ‘รับน้อง’ ที่เป็นทุนใหญ่ 

โดย ‘เต่าบิน’ ได้เผยว่า "เรียนคุณลูกค้าที่น่ารัก เพื่อประกาศขอเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มความตื่นเต้น!! ด้วยกิจกรรมสุดพิเศษจะจัดขึ้นในครึ่งปีหลังไปจนถึงต้นปีหน้า มูลค่าของรางวัลที่ทางเต่าบินจะทำการแจกทั้งสิ้น 5.9 ล้านบาท แต่ขออุบเอาไว้ก่อนว่าแจกอะไรบ้าง เพื่อประกาศ 1 กรกฎาคมนี้...

"ส่วนขั้นตอนการลุ้น เพียงแค่ทำการสั่งซื้อเครื่องดื่มทุก ๆ 15 บาทก็มีสิทธิร่วมตื่นเต้นกับการลุ้นรางวัล ซึ่งการสะสมสามารถร่วมได้ตั้งแต่ 17 มิถุนายน 2567 สะท้อน ‘รับน้องของแท้’ เพราะรางวัลยังกั๊กไว้ แถมสะสมสิทธิย้อนหลังได้"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top