Tuesday, 2 July 2024
สาธารณรัฐประชาชนจีน

จีนเสนอ “เรือดำน้ำมือสอง” 2 ลำมาแล้ว คาดให้ฟรีในฐานะมิตรประเทศ แต่ต้องปรับคืนสภาพให้พร้อมใช้งาน ทร. อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจะไปเจรจาหรือไม่ 

เมื่อวันที่ 5 ก.พ.มีรายงานว่า จากกระแสข่าวสาธารณรัฐประชาชนจีนจะมอบเรือดำน้ำชั้น Song (ซ่ง) ให้ไทย 2 ลำ แต่ไม่มีคำยืนยันจากกองทัพเรือ และ กระทรวงกลาโหมของไทยในเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทางบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีนซึ่งรับหน้าที่บริหารเรือดำน้ำมือสองที่กำลังปลดประจำการในกองเรือดำน้ำกองทัพเรือจีน  ได้ประสานงานเพื่อแจ้งความประสงค์ผ่านสำนักผู้ช่วยฑูตทหารประจำกรุงปักกิ่ง ว่าทางบริษัททีเรือดำน้ำมือสองจำนวนหลายลำ ที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์กับกองทัพเรือไทย หากสนใจในโครงการดังกล่าวให้แจ้งความประสงค์ในการหารือในรายละเอียด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุว่าเป็นการให้เปล่า หรือเป็นการซื้อในราคามิตรภาพ  
 
แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ ระบุว่า  เป็นครั้งแรกที่มีการแสดงเจตนารมณ์อย่างเป็นทางการ เพราะก่อนหน้านี้เป็นเพียงกระแสข่าวว่าทางการจีนได้มีการพูดคุยกับคณะทำงานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  และจะให้เรือดำน้ำฟรี 2 ลำ แต่ไม่มีการยืนยันข่าวจากฝั่งของ พล.อ.ประวิตร แต่อย่างใด ทั้งนี้  ทางพล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ จะได้นำข้อเสนอของบริษัทฯ ไปพิจารณาร่วมกับ พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์  เสนาธิการทหารเรือ  ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ทร. ว่าจะไปพูดคุยในรายละเอียดหรือไม่ และถ้าสรุปว่าจะพูดคุย ก็ต้องดูรายละเอียดว่ามีข้อเสนออย่างไร  ซึ่งจะเป็นการให้เปล่า หรือ เป็นการซื้อในราคามิตรภาพ ยังไม่มีการยืนยัน
 
อย่างไรก็ตาม สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มอบเรือดำน้ำ ชั้น Ming(หมิง)ให้กับกองทัพเรือเมียนมาร์ เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ ทร.เมียนมาร์มีเรือดำน้ำเข้าประจำการแล้ว 2 ลำ จึงคาดว่าข้อเสนอของจีนจะเป็นเสนอแบบให้เปล่ากับไทยในฐานะมิตรประเทศเช่นกัน   ซึ่งต้องดูในรายละเอียดว่าจะต้องซ่อมปรับคืนสภาพ และ ต้องใช้งบประมาณในนำเข้าประจำการเท่าใด รวมถึงมีข้อเสนออื่นๆ ที่ ทร.ไทยจะได้รับเพิ่มเติมหรือไม่ 

‘สี จิ้นผิง’ ขอบคุณรัฐบาลไทยอย่างสุดซึ้งที่ตั้งใจและใช้ความพยายามจัดประชุม APEC 2022

สุนทรพจน์ของนาย ‘สี จิ้นผิง’ ปธน.จีนในที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ครั้งที่ 29 ในหัวข้อ ‘สามัคคี ร่วมมือ และกล้ารับผิดชอบ เพื่อประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของเอเชียแปซิฟิก’ (ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022)

ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และมิตรสหายทั้งหลาย ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับท่านทั้งหลาย ณ กรุงเทพมหานคร ‘เมืองแห่งสวรรค์’ ที่สวยงาม นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันโดยตรงแบบออฟไลน์ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งไปยังรัฐบาลไทย โดยเฉพาะ ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ที่ตั้งใจและใช้ความพยายามเพื่อเป็นเจ้าภาพการประชุมในครั้งนี้

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นซ้ำหลายระลอกและจะยืดเยื้อต่อไป การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ลัทธิฝ่ายเดียวและลัทธิคุ้มครองได้ทวีความรุนแรง ห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทานของโลกได้รับผลกระทบ ปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ความปลอดภัยด้านธัญญาหาร ความมั่นคงด้านพลังงาน และปัญหาอื่นๆ มีความซับซ้อนและรุนแรงอย่างหนัก

ภูมิภาค ‘เอเชียแปซิฟิก’ เป็นสถานที่ลงหลักปักฐานของเรา และเป็นแหล่งขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้พัฒนาและเป็นไปอย่างคึกคัก โดยได้สร้าง ‘ปาฏิหาริย์แห่งเอเชียแปซิฟิก’ ดึงดูดความสนใจของทั่วโลก ความร่วมมือส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้หยั่งรากลึกในใจของผู้คนทั้งหลายช้านานมาแล้ว

ขณะนี้โลกได้ยืนอยู่ที่ทางแยกของประวัติศาสตร์อีกครั้ง ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความสำคัญและมีบทบาทโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

คนจีนสมัยโบราณระบุไว้ว่า ‘ผู้รอบรู้จะไม่สับสน ผู้มีคุณธรรมจะไม่กังวล ผู้กล้าหาญจะไม่หวั่นเกรง’ ในสถานการณ์ใหม่เราต้องร่วมมือสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งเอเชียแปซิฟิก เพื่อสร้างความรุ่งโรจน์ใหม่ของความร่วมมือแห่งเอเชียแปซิฟิก ด้วยประการเหล่านี้ ข้าพเจ้ามีข้อเสนอดังต่อไปนี้

ประการแรก ปกป้องความยุติธรรมและความเที่ยงธรรมระหว่างประเทศ สร้างสรรค์เอเชียแปซิฟิกให้มีสันติภาพและความมั่นคง

ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากสภาพแวดล้อมที่สงบสุขและมั่นคง ทำให้เราตระหนักว่าต้องให้เกียรติแก่กัน สามัคคีกัน และร่วมมือกัน เมื่อเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ เราต้องปรึกษาหารือกันเพื่อค้นหาปัจจัยร่วมที่ใหญ่ที่สุด

เราควรยึดมั่นแนวคิดด้านความปลอดภัยที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ครอบคลุม ให้ความร่วมมือ และยั่งยืน เคารพอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนแต่ละประเทศ ไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น เคารพเส้นทางการพัฒนาและระบบสังคมที่ประชาชนของแต่ละประเทศเลือกเอง ให้ความสำคัญต่อความห่วงใยด้านความปลอดภัยที่สมเหตุสมผลของแต่ละประเทศ ขจัดความขัดแย้งและข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยการเจรจาอย่างสันติ  

เราต้องมีส่วนร่วมในการสร้างธรรมาภิบาลโลกอย่างแข็งขัน เพื่อผลักดันให้ระเบียบของประชาคมโลกพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ยุติธรรม และสมเหตุสมผล อีกทั้งให้มีหลักประกันทางสันติภาพและความมั่นคงทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก

ประการที่สอง ยึดมั่นในความเปิดกว้าง สร้างสรรค์เอเชียแปซิฟิกให้มีความมั่งคั่งร่วมกัน

ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าการเปิดกว้าง ร่วมมือและได้ชัยชนะร่วมกันถึงเป็นหนทางที่ถูกต้องในโลก เราต้องยืนหยัดลัทธิภูมิภาคแบบเปิดกว้าง เสริมสร้างการประสานนโยบายเศรษฐกิจแบบมหภาค สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน ขับเคลื่อนกระบวนการให้เศรษฐกิจเป็นแบบองค์เดียวกันในระดับภูมิภาคอย่างคงเส้นคงวา และสร้างเขตการค้าเสรีระดับสูงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้สำเร็จโดยเร็ว

เราต้องยืนหยัด ‘การพัฒนาเพื่อประชาชน ด้วยประชาชน และผลลัพธ์สู่ประชาชน’ ส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมั่งคั่งร่วมกัน จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายต่างๆ ปฏิบัติตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้ครอบคลุมและมีคุณภาพ ขับเคลื่อนต่อไปเพื่อเข้าร่วม ‘ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก’ และ ‘ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจดิจิทัล’ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาแบบหลอมรวมระดับภูมิภาค

ในปีหน้าจีนจะพิจารณาการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฟอรัมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ ( BRI : Belt and Road Initiative) ครั้งที่ 3 เพื่อเพิ่มพลังขับเคลื่อนใหม่แก่การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก

ผบ.ทร. เยี่ยมคำนับ รมว.กระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐประชาชนจีน

วันที่ 14 เม.ย.66 พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยคณะ เข้าเยี่ยมคำนับ พลเอก หลี่ ซ่าง ฝู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ เรือนรับรอง เตียวหยูไถ่ ของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกองทัพเรือ แห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ตามคำเชิญของ พลเรือเอก ต่ง จวิน ผู้บัญชาการทหารเรือจีน และร่วมพิธีรับมอบเรืออเนกประสงค์ ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (เรือหลวงช้าง) เดินทางกลับประเทศไทย 

ทั้งนี้ ในระหว่างการเข้าเยี่ยมคำนับฯ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีน ที่ได้สนับสนุนการต่อเรือหลวงช้าง จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จนถึงวาระที่จะส่งมอบและการเดินทางสู่ประเทศไทย รวมทั้งขอบคุณที่กระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะกองทัพเรือจีน ให้การสนับสนุนและมีมิตรภาพที่ดีต่อ กองทัพเรือไทยเสมอมา ที่ผ่านมา กองทัพเรือจีนและกองทัพเรือไทยมีความร่วมมือด้านความมั่นคงที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเน้นการให้ความสำคัญในความร่วมมือทางทหาร ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างชาติอาเซียนและจีน ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือมีความมั่นใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองจะมีความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไป 

ผบ.ทร. รับมอบเรือหลวงช้าง ณ อู่ต่อเรือ 'หูตงจงหัว' สาธารณรัฐประชาชนจีน

วันนี้ 17 เมษายน 2566 พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย นางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะเป็นประธานในพิธีรับมอบ เรือหลวงช้าง เรือยกพลขึ้นบก ลำใหม่ของกองทัพเรือ ณ อู่ต่อเรือหูตงจงหัว สาธารณรัฐประชาชนจีน   

กองทัพเรือ ได้จัดหาเรือยกพลขึ้นบกลำใหม่ เข้าประจำการในกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ เพื่อทดแทนเรือยกพลขึ้นบกลำเก่า (เรือหลวงช้างลำที่ 2) ตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือระยะ 20 ปี พ.ศ.2560-2579 ซึ่งกำหนดความต้องการเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก ขนาดใหญ่ไว้ จำนวน 4 ลำ เพื่อใช้ปฏิบัติงานร่วมกับเรือ อากาศนาวี หน่วยกำลังต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หน่วยกำลังนาวิกโยธิน และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ตั้งแต่ในภาวะปกติ

ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น

จีนเตรียมจัดพิธีเฉลิมฉลอง กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯเยือนจีน ครั้งที่ 50 

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 1 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน พุทธศักราช 2566

สมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดพิธีเฉลิมฉลอง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเยือนจีน ครั้งที่ 50 

พิธีจะจัดขึ้น ณ เรือนรับรองรัฐบาลจีนหยู่ไถ กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ เพื่อแสดงถึงมิตรไมตรีระหว่างจีน-ไทยที่มีมาช้านานและจะขยายความร่วมมือใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top