Tuesday, 2 July 2024
ลลิษามโนบาล

2 สาวไทย ‘ลิซ่า - ลูกหนัง’ ติดท็อป 5 การจัดอันดับใบหน้าที่สวยที่สุดของโลก 2022

เมื่อวานนี้ (28 ธ.ค. 65) เว็ปไซต์จัดอันดับที่คนทั่วโลกยอมรับ อย่าง TC CANDLER ได้เผยรายชื่อ 100 ใบหน้าที่สวยงามที่สุดของโลก ได้รับการตีพิมพ์เป็นประจำทุกปีโดย นักวิจารณ์อิสระตั้งแต่ปี 1990

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รายชื่อได้รับความประทับใจจากสื่อสังคมออนไลน์มากกว่า 12 พันล้านครั้งและยอดวิวหลายร้อยล้านครั้ง TC CANDLER ได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่าเป็นรายชื่อที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติมากที่สุด

โดยในปีนี้ อันดับ 1 ได้กลายเป็นของ Jasmine Tookes นางแบบชาวอเมริกัน เธอเป็นหนึ่งในนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต ส่วนใน TOP 5 นั้น ยังมี สาวไทยคว้าตำแหน่งถึงสอง 2 คน อันดับ 3 ลิซ่า BlackPink หรือ ลลิษา มโนบาล ผู้ได้มีชื่อเข้าชิงเป็นปีที่ 7 และคว้าอันดับ 1 ใน 100 ใบหน้าสวยในปี 2021 และ อันดับ 5 ตกเป็นของ ลูกหนัง ศิตลา วงษ์กระจ่าง ซึ่งถือว่าปังมากที่ได้อันดับ 5 ในฐานะ NEW ENTRY ในปีนี้

‘ลิซ่า BLACKPINK’ งานเข้า ชาวเน็ตแห่จับผิดภาพรอยสัก ชี้ เป็นผู้หญิง ไม่ควรสัก ด้านชาวบลิ๊งค์โต้กลับดุเดือด!!

(6 มี.ค. 66) ดรามามาเต็ม ชาวเน็ตแห่จับผิด ภาพรอยสัก ‘ลิซ่า BLACKPINK’ วิจารณ์เดือด มันไม่ดี อยู่ ๆ ก็เกิดดรามา งานเข้าแบบไม่ทันตั้งตัว สำหรับศิลปินระดับโลก ‘ลิซ่า BLACKPINK’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ ที่มีผลงานระดับโลกและเป็นที่ภาคภูมิใจคนพี่น้องคนไทย

เพราะล่าสุด ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ได้ไปถ่ายแบบแฟชั่นชั้นนำ Harper’s BAZAAR จนมีเสียงฮือฮาตามมา เพราะรูปที่ปล่อยออกมาเหมือนว่า จะมีรอยสักอยู่ด้านหลังของลิซ่า ทำให้มีชาวเน็ตบางคนถึงกับไม่เห็นด้วยกับที่ลิซ่าสักบนเรือนร่าง

โดยระบุว่า ‘ผิวเนียน ๆ สวย ๆ สักทำไม คนไทยถือว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ไปสักอะ เตือนเพราะหวังดี สักไปทำงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ ผู้ใหญ่เห็นก็ไม่ชอบ โดยเฉพาะพวกข้าราชการ เป็นไอดอลน่ารักให้เด็ก ๆ ทุกเพศ ทุกวัย ก็ดีอยู่เเล้ว ภาพลักษณ์ภายนอกมีผล

‘ลิซ่า BLACKPINK’ ศิลปินหญิงคนแรกของโลก มียอดวิวบนติ๊กต๊อกทะลุ 1 แสนล้านวิว!!

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.66 ทวิตเตอร์ของ World Music Awards ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า ‘ลิซ่า วงแบล็กพิงค์’ ได้กลายเป็นศิลปินหญิงคนแรกของโลก ที่มียอดวิวบนแอพพลิเคชั่นติ๊กต็อก ทะลุ 1 แสนล้านวิว จาก #LISA


ที่มา : https://www.matichon.co.th/entertainment/interstars/news_3939465
 

บุรีรัมย์ จัดใหญ่ ฉลองวันเกิดให้ ‘ลิซ่า’ ดันให้เป็น ‘วันลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์’ ตอกย้ำ ที่ทำให้ทั่วโลกรู้จัก พร้อมดันเป็นอีเว้นท์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

(24 มี.ค.67) ผู้ประกอบการลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีบุรีรัมย์ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด องค์การส่วนบริหารจังหวัดบุรีรัมย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานบุรีรัมย์ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ และ สถานีรถไฟบุรีรัมย์ เตรียมจัดกิจกรรมฉลอง วันคล้ายวันเกิด อายุครบ 27 ปี ให้แก่ ‘ลิซ่า แบล็คพิงค์’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ เป็นสมาชิก วงเกิร์ลกรุ๊ป ‘แบล็คพิงค์’ ศิลปินนักร้องชื่อดังระดับโลก ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และเป็นผู้สร้างกระแสทำให้ลูกชิ้นยืนกินเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และพลิกชีวิตให้ร้านลูกชิ้นยืนกินมียอดขายถล่มทลาย ในวันที่ 27 มีนาคม 2567 ที่บริเวณหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ชุมชนหลังสถานีรถไฟ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์

โดยจะเริ่มกิจกรรม ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ซึ่งจะมีนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ มาเป็นประธานในพิธี โดยภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมการเปิดตัว กางเกงลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ของบริษัทประชารัฐรักสามัคคีบุรีรัมย์ จากนั้น เวลา 09.00 น.ประธานในพิธี ผู้ประกอบการลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ และแขกผู้มีเกียรติ มาร่วมกัน แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ให้กับ ‘ลิซ่า แบล็คพิงค์’ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด อายุครบ 27 ปี และประธานในพิธี ปักหมุด วันที่ 27 มีนาคม ของทุกปี ให้เป็น ‘วันลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์’ เนื่องด้วยเพราะ ‘ลิซ่า แบล็คพิงค์’ เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ทำให้ทั่วโลกรู้จักลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้และเศรษฐกิจของบุรีรัมย์ให้ดีขึ้น พร้อมยกระดับงานให้เป็นกิจกรรม อีเว้นท์ระดับประเทศเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์

จากนั้น ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ผู้ประกอบการลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ พร้อมใจกันแจกลูกชิ้นยืนกินกว่า 700 กก. ให้บรรดาแฟนคลับ และประชาชนทั่วไปที่มาร่วมงาน

ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ จึงขอเชิญชวนบรรดาแฟนคลับ และประชาชน มาร่วมงาน แฮปปี้เบริ์ดเดย์ ให้กับ ลิซ่า ‘ลลิษา มโนบาล’ เนื่องในวันคล้ายวันเกิด อายุครบ 27 ปี ในวันที่ 27 มีนาคม 2567 ตั้งแต่ 08.30-12.00 น.ที่บริเวณหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ชุมชนหลังสถานีรถไฟ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นตลาดร้านค้าลูกชิ้นยืนกินชื่อดังของ จ.บุรีรัมย์ นั่นเอง 

‘ลิซ่า’ แกร่ง!! ผ่านทุกด่านทรหดในค่ายเพลงเกาหลีใต้ ส่งผลให้วันนี้ก้าวเดินอย่าง ‘สง่างาม’ ในเส้นทางของตนเอง

(16 พ.ค. 67) ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ ‘Sappisansook Yodmongkhon’ ได้โพสต์ข้อความถึงเส้นทางชีวิตการเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีจากค่ายใหญ่อันดับต้น ๆ ในประเทศเกาหลีใต้ของ ‘ลิซ่า’ ลลิษา มโนบาล สาวไทยสุดเก่งที่ขณะนี้กำลังโด่งดังไปทั่วโลก ว่า…

“ค่าย YG ดูแลเด็กในค่าย 2 มาตรฐาน ส่งลิซ่าไปออกรายการโหดมาก คนอื่น ๆ ไปออกรายการสวยงาม ดีที่น้องลิซ่ามีความอดทนแสดงความแข็งแกร่งเท่าที่จะทำได้ให้คนรอบตัวได้เห็น ขนาดพี่แมทธิวยังทนไม่ได้ต้องแอบช่วยน้อง แอบใช้มือตุ้มสัมภาระทหารของลิซ่าให้ ขอบคุณพี่แมทธิวมากๆ”

“ถ้าจำไม่ผิด รายการนี้รายการเดียวที่น้องลิซ่าได้ไปออกรายการคนเดียวในเกาหลี ลำบากหนักเหนื่อย คนอื่นได้ไปสบาย ๆ หมด รายการนี้ ศิลปิน ผช. ยังไม่ไป แต่ YG ส่งลิซ่าไป…”

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ระบุเพิ่มว่า “ยังไม่นับอีกสารพัดที่น้องโดนจากค่ายหลังเดบิวส์ ไม่แปลกที่น้องไม่อาลัยอาวรณ์ ขอต่อสัญญาด้วยเงิน 2,400 ล้านวอน แต่น้องก็เซย์โน​ ลำพังน้องหาได้เยอะกว่านั้นอีกมหาศาล อย่าอ้างบุญคุณ เพราะน้องหาเงินให้เยอะแยะมหาศาล มันตอบแทนกันไปหมดนานแล้ว ตอนนี้ YG ที่ไม่มีลิซ่าขาดทุนยับ”

“เพราะลิซ่าได้ผ่านมาแล้วทุกความท้าทาย น้องจึงเป็นยอดเพชรประดับมงกุฎซึ่งทรงไว้ซึ่งความสง่างาม มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความรุ่งเรือง เลอค่า สมแล้วที่ใครก็ตามได้พบน้อง จะชื่นชมอย่างจริงใจ ไม่ว่า YG จะปฏิบัติกับน้องด้วยอคติ หรือเป็นแค่การทดสอบคนต่างชาติก็ตาม ขอบคุณที่ทำให้น้องเป็นเพชรจรัสแสงประกายเรืองโรจน์ เป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงเรืองรองด้วยตนเองในที่สุด” 

เฉลยที่มา ท่อน LA-la-Lisa, can you teach me Japanese? จากเพลง Rockstar อดีตเคยโดน ‘ดูถูก-แอนตี้-บูลลี่’ ก่อนที่วันนี้ จะได้ดี ดังระดับโลก

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ‘Gitanjali Ae Saengsang’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ และเพลงฮิต เพลงใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Rockstar โดยได้ระบุว่า

ทำไมเพลงลิซ่า จะต้องมีท่อน LA-la-Lisa, can you teach me Japanese?

เอาสั้นๆ สำหรับคนขี้เกียจอ่าน ... พวกแฟนคลับที่ติดตามลิซ่ามานาน คิดว่าท่อนนี้มันมาจากการที่ ลิซ่าเคยโดนถามจาก anti-fan ที่พยายามด้อยค่าลิซ่าสมัยที่เธอยังไม่ดังระดับโลก >>> นี่คือคำตอบ

ส่วนใครพร้อมอ่านยาวๆ มาต่อกันทางนี้จ้า บอกก่อนว่าไม่ได้คิดเอง แต่รวบรวมเอามาจากแฟนคลับลิซ่ามาเล่าต่อ...

ต้องปูพื้นฐานก่อนว่าประเทศเกาหลีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาการด้อยค่า จนเกิดการฆ่าตัวตายหรือที่สื่อสมัยนี้พูดอย่างสุภาพว่า การจบชีวิตตัวเอง ติดท็อปเท็นโลกชนิดไม่เคยตกอันดับ

หนึ่งในการบูลลี่กันเองก็ไม่พ้นสีผิว รูปร่างหน้าตา ความรวยความจน นั่นจึงเป็นคำตอบว่า ทำไมคนเกาหลีถึงศัลยกรรมกันทั้งบ้านทั้งเมือง และประเทศที่คนเกาหลีมองว่าหน้าบู้บี้ ยากจน ด้อยพัฒนา ก็คือพวกเรา ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะสายพันธุ์ของพวกเรานั้นหน้าตาผิวพรรณ ห่างไกลกับคนประเทศเกาหลี และห่างไกลกับมาตรฐานความงาม (หลังศัลยกรรม) ของเกาหลีลิบลับ

อ่านถึงตรงนี้ไม่ได้ยุยงให้เกลียดเขานะ ที่เขาเป็นแบบนี้มันมีเหตุปัจจัย ซึ่งยังไม่ขอพูด เดี๋ยวจะยาว 

ทีนี้พอลิซ่าปรากฏตัวขึ้นในฐานะนักร้อง girl group ซึ่งเป็นต่างชาติคนเดียวในวงสาวเกาหลี แฟนคลับจำนวนมากจึงรับไม่ได้ ถึงกับเรียกร้องให้ไล่ลิซ่าออกจากวง ทำนองว่าเอาคนบ้านนอกมาร่วมจะทำให้วงโลว์คลาส วงสาวเกาหลีจะตกต่ำ ถึงขนาดมีการลงชื่อส่งไปถึง YG ต้นสังกัด Black Pink ให้เปลี่ยนตัวสมาชิกกันเลยทีเดียว 

แต่ YG ก็วางเฉย เพราะในฐานะเด็กฝึก ลิซ่าคือเพชรเม็ดงาม เธอได้คะแนนการซ้อมต่อสัปดาห์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง เรียกว่า ขยัน พยายามและอดทนสุด ๆ ยิ่งตอนปล่อยเพลงออกมา แม้ในประเทศเกาหลีลิซ่าจะดังน้อยที่สุด โดนเกลียดมากที่สุด แต่นอกประเทศลิซ่าดังสุด หาเงินเข้าบริษัทโดยเฉพาะจากแม่จีนได้เยอะสุดๆ 

แต่ถึงจะดังนอกประเทศแล้ว ด้วยความอิจฉาที่เธอดังมากหรืออะไรไม่ทราบได้ ลิซ่าโดนด้อยค่าจากแฟนเพลงเกาหลีด้วยการไม่ยอมรับของที่ระลึกจากมือเธอ เมิน (น่าตบมาก) หน้าใส่ ไปรับของจากสมาชิกวงคนอื่นแทน 

ยิ่งดังนอกประเทศมากเท่าไร เธอก็ถูกตั้งกระทู้ด่าทอเรื่องรูปร่างหน้าตา และได้รับการปฏิบัติจากค่ายราวกับพลเมืองชั้นสองมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเรื่องชุดที่ต้องเลือกทีหลัง หรือเตรียมชุดซ้ำ ๆ มาให้ใส่ ในขณะที่สมาชิกวงคนอื่นได้เปลี่ยนไป 3 ชุด ลิซ่าจะมีใส่เพียงชุดเดียว 

และที่ยังฝังใจ blink (blink คือคำเรียกแฟนคลับแบล็คพิ้งก์) ก็คือแอนตี้แฟนพูดกับลิซ่าว่า “ลิซ่า..สอนพูดญี่ปุ่นหน่อย” ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอคือคนไทย คำว่า สอนพูดญี่ปุ่นหน่อย... ทำไมถึงเป็นการพยายามด้วยค่า นั่นก็เพราะมีศิลปินญี่ปุ่นซึ่งเป็นนักร้องนักแต่งเพลงชื่อว่า โอริเบะ ริซะ ซึ่งใช้ชื่อในวงการว่า LiSA พวกแอนตี้จงใจถามลิซ่าไปอย่างนั้นเพื่อแสดงว่าหล่อนไม่ดัง ฉันไม่ได้สนใจหล่อน ฉันก็เคยได้ยินคนชื่อลิซ่านะ ที่เป็นคนญี่ปุ่นใช่ไหมอ่ะ...

ดราม่าและกระแสแอนตี้ลิซ่าในเกาหลีนั้นมีเยอะและยาวเหยียด… กว่าจะมาเป็นลิซ่าเจ้าแม่ทุบสถิติอย่างทุกวันนี้ ด.ญ.ลลิษา มโนบาล ต้องใช้ความอดทนอดกลั้น และมองโลกในแง่บวก ดีที่สมาชิกวงอีก 3 เป็นเกาหลีใจงาม คอยให้กำลังใจลิซ่าตลอด ไม่อย่างนั้นคงจะถอดใจกลับเมืองไทยเหมือนที่เด็กไทยบางคนทนไม่ไหว หนีกลับบ้านมาแล้ว 

พอหลุดจาก YG มาได้ ภาพแรกที่ปล่อยออกมาคือการทาผิวแทน สร้างกระแสดิ้นพล่านในเกาหลี ที่มีมาตรฐานความงามคือขาวใส เอาซี้... อีแอนตี้แฟนเกา

ส่วนไอ้ท่อน 
"La-la-Lisa, can you teach me Japanese?"

ลิซ่าก็บอกว่า
I said, "はい, はい" ฉันตอบว่า ไฮ..ไฮ...
That's my life, life, baby, I'm a Rockstar นี่มันชีวิตของฉัน ฉันคือร็อคสตาร์

ก่อนจะฟาดด้วยท่อน
Yes, yes, I can spend it แม่นแล้ว แม่นแล้ว ฉันจ่ายได้หมด
Yes, yes, no pretendin' แม่นแล้ว แม่นแล้ว ไม่มีเวลามาเสแสร้ง
Tight dress, LV sent it ชุดแซ่บ ๆ ของฉัน LV (หลุยส์ วิตตอง) เขาส่งมาให้ย่ะ 

เป็นไงล่ะแอนตี้ รู้ไว้ซะด้วย.....
ฉันคือลิซ่า ฉันคือร็อคสตาร์ ทุกเมืองที่ฉันไปคือที่ของฉัน ไม่ได้อยู่แค่เกา ฉันจะผิวแทน ฉันจะโปร (สนับสนุน) LGBTQ มันก็เรื่องของฉันเว้ยเฮ้ย.....

อารมณ์ร่วมอาจมากไปหน่อย แต่รวบรวมมาจากความคิดเห็นเหล่า Blink (จริงๆ นะ)

เพจดัง ชี้ ‘Soft Power’ ของประเทศไทย มีมานาน หลายสิบปีแล้ว ยก ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ’ เป็นผู้นำความเป็นไทย โดดเด่นในเวทีโลก

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ‘เอ ภักดี’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่อง ‘Soft Power’ โดยได้ระบุว่า

#ซอฟต์พาวเวอร์คนแรกของไทย ก่อนที่เรามักจะได้ยินคำว่า #SoftPower ที่เป็นคำฮิตฮอตและกระแสในไทยตอนนี้ โดยเฉพาะน้องลิซ่า (LISA) ที่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็กลายเป็นกระแสที่โด่งดังไปทั่ว และที่สำคัญน้องลิซ่าจะให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมไทยและสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับประเทศไทยอยู่เสมอ (มันคือความน่ารักของน้องลิซ่า) 

แต่หากเราย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อนบุคคลสำคัญที่พยายามนำความเป็นไทยสู่สายตาคนทั่วโลกคงหนีไม่พ้น #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไทย ชุดไทย เครื่องประดับที่พระพันปีหลวงทรงฉลองพระองค์อยู่เสมอเมื่อคราวเสด็จประพาสต่างประเทศ รวมถึงต้อนรับประมุขหรือแขกสำคัญจากประเทศต่างๆ หรือแม้แต่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในหลากหลายด้าน เช่น โขนและศิลปหัตถกรรมไทย เป็นต้น อีกทั้งยังนำศิลปะและหัตถกรรมเหล่านี้มาแสดงและต้อนแขกสำคัญของประเทศอีกด้วย นำมาซึ่งอาชีพของประชาชนที่ยากไร้หรือในถิ่นทุรกันดาร ในมุมมองของแอดพระองค์คือ ‘Soft Power’ ในยุคที่ไม่มีใครรู้จักคำว่า ‘Soft Power’

บทความนี้เรียบเรียงโดยเพจ Love Thai Culture และเพจ Thai Culture and Thai Travel

‘อ.สันติ’ ยกเคส ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ กับความดังระดับโลก เป็นกรณีศึกษา นี่คือ!! Soft Power ที่มาจาก ‘ความพากเพียร-อุตสาหะ-มุมานะ-มีวินัย’

(29 มิ.ย. 67) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สันติ กีระนันทน์ เลขานุการคณะที่ปรึกษาว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ โดยได้ยกเป็นกรณีศึกษา ซึ่งได้ระบุว่า

กรณีศึกษาของ Lisa สอนอะไรผมบ้าง

ถ้าจะไม่เขียนถึง Lisa หรือคุณลลิษา มโนบาล ก็ดูจะตก trend ไป เมื่อไปเปิดดู YT เพลง ROCKSTAR ก็จะเห็นยอดพุ่งไป 32 ล้านวิวแล้ว

ผมไม่ได้ติดตามคุณลลิษามาตั้งแต่ต้น ก็คงเป็นเพราะวัยของผมและความชอบส่วนตัวของผม ไม่ได้ชอบดนตรีแนว K-Pop และแม้คุณลลิษาจะไม่ได้อยู่ค่าย YG แล้ว คงเปลี่ยนแนวดนตรีไป ก็คงจะยังไม่ใช่จริตของผมอีกเช่นกัน แต่คุณลลิษาเป็นระดับ world superstar ก็คงจะมีผลงานดีเลิศระดับ world class อย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่รสนิยมชมชอบดนตรีของแต่ละบุคคลก็ย่อมแตกต่างกันไป

ผมนิยมชมชอบคุณลลิษา ไม่ใช่เพราะความดังของเธอ แต่เป็นเพราะความน่ารัก และในหลาย ๆ ความเคลื่อนไหวของเธอ แม้จะเต็มไปด้วยพลังอำนาจดึงดูดผู้คน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน มีมารยาทที่ผมไม่อยากจะเรียกว่ามารยาทแบบไทย ๆ แต่เธอมีมารยาทที่เป็นที่ยอมรับและน่ารักในระดับสากล ... ไม่น่าแปลกใจว่าไม่เพียงชาวไทยเท่านั้น แต่ชาวโลกก็ล้วนแต่รักเธอ เพราะเธอมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม

ความเพียบพร้อมนั้น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ไม่ได้มาเพราะชาติตระกูล ไม่ได้มาเพราะความร่ำรวยในระดับมหาเศรษฐี แต่เป็นเพราะความอุตสาหะ ความพากเพียร ความมุมานะ ความมีวินัย คุณลลิษาได้สะสมทักษะ สะสมความงาม สะสมความน่ารัก ด้วยความอุตสาหะมาตลอดชีวิตของเธอ ดังนั้น ความสำเร็จที่เธอได้รับในขณะนี้ ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามาจากความเพียรพยายามอย่างไม่ย่อท้อของเธอ

คนจำนวนมากพูดถึง soft power แต่เธอแสดงให้เห็นว่า soft power ของเธอนั้นไม่ได้เกิดจากการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแบบผิวเผิน แต่มันเต็มไปด้วยความสามารถ 'ดึงดูด' ให้คน 'สมัครใจ'

เกิดความ 'รัก' ในตัวเธอและผลงานรวมไปถึงทุกอย่างที่เป็นเธอ

ผมอยากจะเขียนอะไรมากกว่านี้ แต่ไม่อยากพาดพิงถึงคนที่มีแต่ 'เปลือก' และพยายามจะสร้าง soft power แบบไม่เข้าใจ คิดว่าการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแบบผิวเผิน ก็จะสามารถนำสิ่งดี ๆ ของประเทศไทยไปเป็น soft power ได้ ... ความคิดที่เป็นระบบ การส่งเสริมที่ทำอย่างเป็นธรรมชาติแบบคำนึงถึงองค์รวม การดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หวังให้เกิดผลแบบปัจจุบันทันด่วน ฯลฯ จึงจะทำให้ Thai attribute กลายเป็น soft power ได้ ซึ่งอันที่จริงหลายอย่างก็เป็นอยู่แล้ว เพียงแต่ความไร้สติปัญญาทำให้ไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น

หยุดอ้างทุกเรื่องเพื่อเศรษฐกิจ หยุดคิดแบบเช้าชามเย็นชาม หยุดทำแบบหาเช้ากินค่ำ แต่ต้องมี 'สติปัญญา' เป็นฐานเบื้องต้นในการพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่าง

ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี บนฐานความรู้และคุณธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานไว้ให้พลเมืองของโลกนี้ เป็นหลักในการทำงานทุกเรื่องที่จะทำให้เกิดผลที่ดีทั้งในระยะสั้น กลาง ยาว ... ย้ำว่า "ฐานความรู้และคุณธรรม" เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่ผลสำเร็จ ซึ่งหมายถึงประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ประโยชน์ของคนเพียงบางคนบางกลุ่มเท่านั้น

‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ ขอบคุณแฟนเพลง  ลั่น!! มีให้กรี๊ดอีกเพียบ รอติดตามชมกันได้เลย

(30 มิ.ย.67) หลังจากปล่อยซิงเกิลแรกในฐานะแยกตัวออกมาทำบริษัทของตนเอง ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BlackPink’ ก็เคลื่อนไหวแล้ว โดยขอบคุณแฟนๆที่ต้อนรับ ROCKSTAR หลังซุ่มทำมานาน

ลิซ่า ได้อัปเดตอินสตาแกรม พร้อมเขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษซึ่งระบุว่า

ฉันดีใจมากที่ในที่สุดก็ได้แชร์ ROCKSTAR ซิงเกิลใหม่ของฉัน กับพวกคุณทุกคน

ฉันซุ่มทำโปรเจกต์นี้มาสักพักแล้ว ซึ่งมันสนุกมากๆตอนที่เตรียมตัวทำผลงานนี้ ขอบคุณนะคะที่อดทนรอ และฉันมีความสุขมากๆที่ได้เฉลิมฉลองสิ่งนี้ด้วยกันกับทุกๆคน ขอบคุณทีมงานจาก RCA Records และ We Are LLOUD ที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น

ขอบคุณ Lilies ลิลลี่ ( ชื่อแฟนคลับของ ลิซ่า ) สำหรับความรักและการสนับสนุน เป็นเวลา 3 ปีแล้วนับตั้งแต่เพลงหลังสุด ดังนั้นฉันหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับยุคของ ROCKSTAR ให้มากเท่ากับที่ฉันสนุกนะคะ

ปล. นี่แค่เริ่มต้นค่ะ! ยังมีอะไรตามมาอีกเยอะ เพราะฉะนั้นรอติดตามชมกันได้เลย

จุ๊บๆ

ลิซ่า

งานนี้แฟนๆได้แต่ส่งเสียงกรี๊ด รอชมความปังของ ลิซ่า กันแล้วเพราะแค่เริ่มยังเลิศขนาดนี้ เชื่อว่าผลงานต่อๆไปของเจ้าตัวในการโซโล่เดี่ยวต้อง ‘ฉ่ำมาก’ แน่นอน

‘เศรษฐา’ ขอบคุณ ‘ลิซ่า’ ที่มาถ่ายเอ็มวี ที่เยาวราช ช่วยโปรโมตท่องเที่ยว สั่งเข้ม!! มาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัย คนมาเที่ยวต้องไม่ผิดหวัง 

(30 มิ.ย.67) ที่โรงเรียนรัตนบุรี จ.สุรินทร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมิวสิควิดีโอ หรือเอ็มวี เพลง ‘ROCKSTAR’ ของ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ที่มาถ่ายทำที่เยาวราช ทำให้นักท่องเที่ยวแห่ไปเที่ยวเยาวราช รัฐบาลจะต่อยอดอย่างไร ว่า เมื่อคืน (29 มิ.ย.) ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของลิซ่า ที่มาถ่ายทำเอ็มวีที่เยาวราช ต้องขอขอบคุณที่คำนึงถึงประเทศที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน

ทั้งนี้ เยาวราชมีศักยภาพสูงมาก คนจีนเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ไม่อยากพูดถึงแค่เยาวราชอย่างเดียว เพราะถนนทรงวาดหรือที่อื่นๆ บริเวณใกล้เคียง ทางวัดภูเขาทอง ก็มีศักยภาพในการท่องเที่ยว และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างดีมาก

แต่เหนือสิ่งอื่นใดคิดว่าความปลอดภัยและระบบสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องขอบคุณนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ทำงานร่วมกับนายเสริมศักดิ์พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่ลงพื้นที่ไปดูแลเรื่องความสะอาดสุขอนามัยทั้งหมด

การที่ลิซ่ามาโปรโมตเพลงได้ยอดวิวคนดูไปหลายสิบล้านวิว ตนเชื่อว่านักท่องเที่ยวต้องเดินทางมาอย่างแน่นอน ซึ่งมาแล้วก็จะต้องไม่ผิดหวัง คือเรื่องของมาตรฐานและความสะอาด รวมถึงความปลอดภัย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่ทัวร์ชื่อดังหลายแห่งล้มละลาย จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่เราตั้งเป้าไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จากช่วงที่เกิดโควิด-19 เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว คนที่มีความแข็งแกร่งน้อยก็ไม่สามารถอยู่ได้ คนที่แข็งแรงก็ไปต่อ แต่เมื่อมีล้มก็ต้องมีลุกขึ้นมาใหม่ ปัจจุบันก็มีรายใหม่ๆ เกิดขึ้นมา

ตอนนี้ตัวเลขผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยก็เป็นที่น่าพอใจ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เรามีการส่งเสริมตลาดใหม่ๆ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็มีการไปเปิดตลาดใหม่ๆ สำหรับประเทศที่มีชื่อลงท้ายด้วยสถาน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อนของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อย่างประเทศอินเดียก็ฟรีวีซ่าให้กับคนไทยแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป

โดยตนก็จะไปเยือนอินเดีย ระหว่างวันที่ 15 – 16 ส.ค.นี้ ซึ่งจะมีการหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรก หนึ่งในเรื่องใหญ่ที่จะหารือ คือ เรื่องของการบิน ที่เราจะเชิญสายการบินของอินเดียมาลงที่ประเทศไทยมากขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ของการท่องเที่ยววันนี้ คือ จำนวนไฟลต์บินที่บินเข้ามาไม่เพียงพอ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top