Tuesday, 2 July 2024
รวมไทยยูไนเต็ด

'หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด' แนะ สิ่งที่เราต้องทำ คือ 'พลิกโฉมประเทศไทย'

นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง "นี่คือ พลิกโฉมประเทศไทย" มีเนื้อหาดังนี้…

อนาคตของชาติไม่ควรแขวนอยู่กับนโยบายกะปริดกะปรอย ยุทธศาสตร์เลื่อนลอย การบริหารบนผลประโยชน์ธุรกิจการเมือง การเมืองแบบเก่าที่ไม่เข้าใจความต้องการของโลกสมัยใหม่

ความใหม่ คือสิ่งที่ประชาชนต้องการ ไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ ย้อมขายเพื่อหวังกระแสและคะแนนเสียง ความใหม่ต้องขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ แรงบันดาลใจ และอุดมการณ์อันแข็งแกร่งของนักการเมืองรุ่นใหม่ เพื่อที่จะมาเป็นรัฐบาลที่พลิกโฉมประเทศไทย ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงหรือปฏิรูป แต่ต้อง “พลิกโฉม”

แต่ความเป็นจริงคือ นักการเมืองรุ่นใหม่และรุ่นเก่า (ที่ต้องการทางเลือกใหม่) ต้องจับมือกัน รุ่นใหม่ต้องการรุ่นเก่าเพราะการสู้รบกับ เสือ สิง กระทิง แรด ในสภาและแต่ละหน่วยงาน ต้องอาศัยชั้นเชิงและความช่ำชองที่มาจากประสบการณ์ รุ่นเก่าต้องการรุ่นใหม่ มิฉะนั้นก็จะตกอยู่ในวังวนของความเหมือนเดิม

รุ่นใหม่คือตัวยิง รุ่นเก่าคือตัวส่งลูก รวมกันเราพลิกโฉม หากแยกกันการเมืองอุปถัมภ์คงเอาไปรับประทานอย่างแน่นอน

นี่คือ 5 นโยบายที่ไม่ใหม่ เพราะประเทศอื่นทำมาหมดแล้ว บางนโยบายพรรคอื่นได้พูดถึงบ้างแล้ว และเป็นนโยบายฉบับย่อ เพราะรายละเอียดมีอีกเยอะ

แต่สิ่งที่ใหม่คือ เหตุผลและจุดประสงค์ของนโยบาย เพราะถ้าเหตุผลคลุมเครือ จุดประสงค์บิดเบี้ยว ผลลัพธ์ก็เข้าแต่กระเป๋าการเมืองเก่า และเมื่อทำสำเร็จแล้ว ความใหม่คือโฉมหน้าประเทศไทย

>> คาสิโนเสรี ไม่ใช่เพราะบ้าการพนัน แต่มันคือยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ในพื้นที่ของธุรกิจการเมือง แต่ทำในพื้นที่ยากจนที่สุด อยู่ท้ายแถวของความเหลื่อมล้ำ แต่ก่อนทำจะต้องมีประชามติ คนในพื้นที่ต้องเห็นด้วย ซึ่งการทำอุตสาหกรรมคาสิโนนั้น มีจุดประสงค์เพื่อต่อยอดในธุรกิจอื่น ยกระดับคุณภาพชีวิต ยกระดับคมนาคม ภาษีรายได้เอาไปลงกับการศึกษาและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างมีอยู่แล้ว Indian Reservations เคยเป็นพื้นที่ยากจนที่สุดในอเมริกา แต่ในพื้นที่ที่ได้ทำคาสิโนถูกกฎหมาย ผลต่อยอดมหาศาลและทั่วถึง นี่คือการกระจายศูนย์กลางทางเศรษฐกิจเข้าไปในแต่ละภูมิภาค และพัฒนาทั้งประเทศ ไม่ใช่กระจุกอยู่แต่ในกรุงเทพ รถในกรุงเทพก็จะติดน้อยลงโดยปริยาย เพราะประชากรระบายออกไปหาโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า นี่คือการกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจที่กระจุก นี่คือการพลิกโฉมประเทศไทย

‘รวมไทยฯ’ ฉะ!! สายสีเขียว 20 บาท แค่ขายฝัน! ยัน!! ต้องกล้า ‘ทวงอำนาจ-รื้อระบบ’ ที่เละเทะก่อน

25 เม.ย. 65 นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “รถไฟฟ้าสายสีเขียว: ขายฝันในราคา 20 บาท กันอยู่หรือเปล่า?” โดยระบุว่า แคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม.ก็หาเสียงกันไป: BTS สายสีเขียวต้องอย่างนี้ ราคาต้องอย่างนั้น ประชาชนต้องได้ประโยชน์ แต่ความเป็นจริง คือ ประชาชนเดือดร้อน

ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด ได้ลงพื้นที่หาเสียงกับแคนดิเดต ส.ก.ของพรรค ซึ่งหลายพื้นที่อยู่ในเขตของรถไฟฟ้าสายสีเขียว นอกจากเรื่องปากท้องที่เรารู้กันอยู่ อีกเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องคือ : จะเอายังไงกับรถไฟฟ้า ทำไมปัญหาแก้ไม่จบ ขายฝันในราคา 20 บาท กันอยู่หรือเปล่า?

ความเป็นจริงคือ ปัญหาอยู่ที่นายกฯ ไม่กล้าตัดสินใจ กระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงคมนาคมขัดแย้งกัน BTS ซึ่งเป็นเอกชน ถูกตราหน้าให้เป็นผู้ร้าย และประชาชน ถูกจับเป็นตัวประกันบนข้อขัดแย้ง

11 เมษายน 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจ มาตรา 44 ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ปัจจุบันทุกอย่างชะงัก เพราะกระทรวงคมนาคมค้าน

ทุกวันนี้ รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นบริการฟรี BTS ซึ่งรับจ้างเดินรถ รับภาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ถ้าไม่ต่อสัมปทาน กทม. ก็ต้องจ่ายหนี้ BTS มูลค่าประมาณ 30,370 ล้านบาท บวกกับ 69,000 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายให้กับ รฟม. ซึ่งเป็นค่าก่อสร้างงานโยธาส่วนต่อขยายช่วงที่ 2

หน.รวมไทยยูไนเต็ด ยก ‘ชัชชาติ’ คนของประชาชน วอนหยุดสร้างวาทกรรม สร้างความเกลียดกลัว

หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด มั่นใจ ‘ชัชชาติ’ เป็น “คนของประชาชน” จะพากรุงเทพ ก้าวข้ามความแตกแยก ขอหยุดปลุกระดมความเกลียด กลัวโยงขั้วการเมืองระดับชาติ ที่ทำลายความหวัง กทม.

วันที่ 20 พ.ค. 2565 นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Voranai Vanijaka-วรนัยน์ วาณิชกะ เรื่อง “ก้าวข้ามความแตกแยก : Man of the People” โดยระบุว่า ตนรู้จักคน Gen X ยัน Baby Boomer เยอะมาก ที่ทั้งชีวิตลงคะเเนนเสียงให้ขั้วอนุรักษ์นิยม ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าและทั้งชีวิตของพวกเขา ก็คงลงคะแนนเสียงให้ขั้วอนุรักษ์นิยม แต่การเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้ พวกเขาจะลงคะแนนเสียงให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

เหตุผลคือ พวกเขาไม่ไหวแล้วที่เมืองหลวงของเราจะต้องหยุดชะงักและพังอย่างต่อเนื่อง เพราะการบริหารไม่เอาไหน ซึ่งสืบทอดมาจากการที่กรุงเทพตกเป็นเหยื่อในสนามรบของขั้วการเมืองระดับชาติ ที่ต่อสู้กันบนความเกลียดและความกลัว กรุงเทพจะเดินไปข้างหน้าได้ ผู้ว่ากรุงเทพต้องเป็นคนที่ก้าวข้ามความแตกแยก ก้าวข้ามขั้วการเมือง

ตนพักอาศัยอยู่แถวบ่อนไก่ ข้างหน้าคือถนนวิทยุ ตรงข้ามคือสวนลุมพินี นายชัชชาติมักจะมาวิ่งตอนเช้าในสวนลุมพินี และแวะเข้ามาที่สโมสรกีฬาในบ่อนไก่ ตนได้พูดคุยกับชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบนายชัชชาติมาก อัธยาศัยดี เป็นกันเอง ใส่ใจ ถามทุกข์สุขตลอด ตนพูดว่า “ก็เขาหาเสียงอยู่นิ” ชาวบ้านก็บอกผมว่า เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลายปีแล้ว

นั่นหมายความว่า ในบรรดานักการเมืองในประเทศนี้ มีไม่กี่คนหรอก ที่จะพูดได้ว่าเป็น Man of the People (คนของประชาชน) ที่แท้จริง หนึ่งในนั้นคือ นายชัชชาติ และสิ่งที่กรุงเทพต้องการ ไม่ใช่ขั้วการเมือง แต่เป็น Man of the People


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top