Wednesday, 3 July 2024
รถกระบะ

สื่อญี่ปุ่น เผย ‘Isuzu’ เตรียมเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรก เล็งใช้ ‘ไทย’ เป็นฐานการผลิตใหญ่ เพื่อส่งออกสู่ตลาดโลก

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 66 สำนักข่าว ‘nikkei’ ของญี่ปุ่น รายงานว่า ‘อีซูซุมอเตอร์’ วางแผนที่จะเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยและที่อื่นๆ ในช่วงต้นปี 2025 โดยตั้งเป้าที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขณะนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนเป็นผู้นำการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแล้ว

สำนักข่าว nikkei  ระบุว่า กระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์จากมาจากพื้นฐานของ ISUZU D-MAX ของบริษัท จะผลิตในประเทศไทยสำหรับการเปิดตัวในปี 2025 สำหรับอีซูซุ ครองตลาดรถกระบะในประเทศไทยประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากกว่า 40% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศ

ด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นมาก ในเดือนกรกฎาคม มียอดขายถึง 5,014 คัน คิดเป็นประมาณ 8% ของยอดขายรถยนต์ใหม่

ทั้งนี้ ISUZU วางแผนใช้ประเทศไทย เป็นฐานในการผลิต กระบะไฟฟ้าอย่าง ISUZU D-MAX เพื่อส่งขายในยุโรปด้วย เบื้องต้น prototype หรือต้นแบบ กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา นอกจากนี้คู่แข่งอย่าง TOYOTA HILUX REVO ที่จะเปิดตัวไฮบริดปีหน้า อาจเห็น ISUZU D-MAX HYBRID ในเวลาไล่เลี่ยกัน

นาย ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เปิดเผยถึงแผนพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าว่า…

“แม้ว่าอีซูซุได้เปิดตัว Elf EV ที่ญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่การเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอื่นๆ ต้องคำนึงถึงความต้องการลูกค้าเป็นหลัก สำหรับการเปิดตัว Elf EV รถบรรทุกไฟฟ้าในไทยอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา

สำหรับ ISUZU D-MAX EV อยู่ในขั้นตอนการพัฒนารถต้นแบบจะประกอบที่ไทย และส่งออกไปขายที่ทวีปยุโรป เนื่องจากเราได้ย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยทำให้การที่จะประกอบในประเทศญี่ปุ่นเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งเราไม่สามารถระบุระยะเวลาที่ชัดเจนได้ว่า จะดำเนินการเมื่อไร เพราะยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนการพัฒนา

การใช้ประเทศไทย เป็นฐานการผลิต ถามว่าต้องลงทุนเพิ่มหรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด หากความต้องการเพิ่ม เราจำเป็นต้องขยายโรงงาน ส่งผลให้ต้องเพิ่มการลงทุนเพิ่มขึ้น หากชิ้นส่วนกระบะไฟฟ้าคล้ายกับ D-MAX ปัจจุบันก็สามารถใช้สายการผลิตเดิมได้ มีเพียงชิ้นส่วนแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่แตกต่าง และต้องเพิ่มสายการผลิตใหม่”

เตรียมดำเนินคดี เจ้าของหมา ‘โกลเดินรีทรีฟเวอร์’ หลังนำมาปล่อยทิ้ง ล่าสุด!! ขอรับ ‘น้องจิว’ คืนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ฯ ยังไม่ไว้ใจ กลัวนำไปปล่อยที่อื่น

(18 พ.ค. 67) ความคืบหน้าของกรณีที่มีผู้นำสุนัขเพศผู้สายพันธุ์โกลเดินรีทรีฟเวอร์ มาปล่อยทิ้งไว้กลางชุมชน ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุดนั้น 

นายภาวิต บุญชละ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามจากภาพของกล้องวงจรปิดของเทศบาล และหาหลักฐานจากกล้องหน้ารถ จนได้ภาพจากกล้องหน้ารถที่สวนทางกับรถกระบะที่นำหมามาปล่อย ซึ่งพบว่าน้องหมานั่งอยู่ท้ายกระบะโผล่หน้าออกมาทางด้านซ้ายฝั่งคนขับ รถคันดังกล่าวขับเข้ามาในซอยถนนสันผีเสื้อ บริเวณที่รกร้างด้านหน้าของเทศบาลสันผีเสื้อ และเลี้ยวเข้าไปในซอยประมาณ 100 เมตร และหลังจากนั้นก็ได้รับการยืนยันจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ว่ามี พบเห็นชายสูงวัยลงมาเปิดกระบะท้ายและปล่อยหมาลงมาจากรถทิ้งไว้ในบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะขึ้นรถขับหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไป

หนึ่งในผู้พบเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนนั้นขายอาหารอยู่บริเวณปากซอยพบเห็นรถกระบะคันดังกล่าวท่าทางมีพิรุธพยายามจอดรถและเลี้ยวเข้าซอย ซึ่งมีการขับรถวนเวียนอยู่แถวบริเวณจุดที่จะนำน้องหมามาปล่อยอยู่หลายครั้ง หลังจากนั้นก็เลี้ยวเข้าซอยก่อนนำน้องหมาลงจากรถแล้วก็ขับรถออกไปโดยไม่มีการจอดรับน้องหมาแต่อย่างใดซึ่งตามปกติ บริเวณซอยนี้จะไม่มีคนเข้าเพราะมีบ้านคนข้างในเพียงหลังเดียวเท่านั้น หลังจากขับรถออกไปน้องหมาก็วิ่งตามและรถก็ไม่จอดแต่อย่างใดจนทำให้น้องหมานั้นวิ่งหลบเข้าไปที่อยู่ข้างสวนและพนักงานของเทศบาลก็เข้ามาพบแล้วก็แจ้งเทศบาลต่อไป

นายภาวิต บุญชละ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ เปิดเผยว่า หมาตัวนี้น้องกู้ชีพของเทศบาลตำบลสันผีเสื้อได้ไปพบเห็นกำลังวิ่งตามรถกระบะอยู่หน้าเทศบาลซึ่งดูจากภาพแล้วเจ้าของนั้นไม่หยุดรถให้น้องหมาขึ้นรถซึ่งสันนิษฐานได้ว่าเป็นการนำหมามาปล่อย ทางเทศบาลจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดกล้องรถต่าง ๆ จากผู้หวังดีเพื่อเช็กทะเบียนรถแล้วก็ติดต่อไปยังเจ้าของแล้วก็เช็กรูปพรรณสัณฐานว่ามีการเลี้ยงหมาลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่

ซึ่งต่อมาได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าของหมาซึ่งถือว่ากรณีนำหมามาปล่อยนั้นมีความผิดตามกฎหมายซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีส่วนตัวน้องหมานั้นอยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลสันผีเสื้อในช่วงบ่ายทางปศุสัตว์อำเภอก็จะมาดูแลเรื่องสุขภาพของน้องแต่จากการประเมินเบื้องต้นสุขภาพแข็งแรงดีซึ่งจากการสอบถามและทราบชื่อน้อง ‘จิว’ และมีการเรียกชื่อก็ทำให้มีปฏิกิริยาที่ดีขึ้นรับประทานอาหารได้สุขภาพร่าเริงแจ่มใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ล่าสุดได้มีเจ้าของ น้องหมาเข้ามาติดต่อกับเทศบาลยืนยันที่จะรับตัวน้องกลับไปเลี้ยงและยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้มีการนำมาปล่อยแต่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานแวดล้อมซึ่งประเมินได้ว่าเป็นการนำมาปล่อยอย่างชัดเจน ทางเทศบาลจึงไม่มั่นใจว่าจะคืนน้องหมาให้เจ้าของหรือไม่ เพราะเกรงว่าหากปล่อยคืนให้กับเจ้าของก็จะนำมีการไปปล่อยยังพื้นที่อื่นอีก โดยหลังจากนี้ก็จะมีการประสานมูลนิธิเกี่ยวกับการดูแลสัตว์ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top