Tuesday, 2 July 2024
ผู้ปิดทองหลังพระ

‘อ.ยักษ์’ เผยการทรงงานเพื่อคนไทยของ ‘ในหลวง ร.10’ ทุ่มทรัพย์ส่วนพระองค์มหาศาล แต่น้อยคนนักที่จะรู้ 

เป็นอีกหนึ่งคลิปที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ โดยช่อง YouTube KU Radio Thailand ได้เผยแพร่คลิปการบรรยายของ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อาจารย์ยักษ์ ผู้น้อมนำแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่สู่ความพอเพียง ในหัวข้อ ‘การบูรณาการศาสตร์พระราชาศาสตร์กลและศาสตร์ชุมชน’ ไว้เมื่อ 9 ก.พ.ปีที่แล้ว โดยจากบรรยายดังกล่าวได้มีการสรุปไว้ว่า…

การ #ทรงงานในปัจจุบัน ของในหลวง ร.10 ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน

จากคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ การทำโคกหนองนา มาเรื่อยๆ จนมีโอกาสได้มาดูคลิปนี้ของ อ.ยักษ์ วิวัฒน์ ศัลยกำธร

คลิปนี้ อ.ยักษ์ บรรยายเรื่อง ‘การบูรณาการศาสตร์พระราชา ศาสตร์สากล และศาสตร์ชุมชน’ บรรยายไว้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ความยาวเกือบ 3 ชม. 

อ.ยักษ์ เล่าถึงการทรงงานของในหลวง และการถวายงานต่อในหลวง ร.10 คร่าวๆ ดังนี้

>> อ.ยักษ์ ท่านเริ่มด้วยการพูดถึงในหลวง ร.10 ว่าวัยรุ่นในยุคนี้ไม่ค่อยชอบท่านเท่าไหร่ แม้กระทั่งคนในรุ่น อ.ยักษ์ เองก็ได้ยินเรื่องข่าวลือต่างๆ นานา มาด้วยเหมือนกัน แต่พอได้มาเห็นการทรงงานของท่านมาเป็น 10 กว่าโครงการ หมด ‘เงินส่วนพระองค์’ มา #หลายหมื่นล้านจนอาจจะถึงแสนล้านด้วยซ้ำ ซึ่งเงินตรงนี้คนละส่วนกับงบประมาณแผ่นดินของทางราชการนะครับ และทุกโครงการล้วนทำเพื่อประชาชน

>> ในทุกๆ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินจะทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษบางส่วน ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งมีนักโทษที่จะได้รับอภัยโทษมีประมาณ 3 หมื่นกว่าคน แล้ว ร.10 ท่านยังไม่ลงพระปรมาภิไธย (วีโต้) และท้วงติงไปว่าถ้าปล่อยออกไปตอนนี้จะดีหรือ เพราะตอนนี้คนตกงานกันเยอะ บริษัทก็ปิด วิศวกร หมอ และทุกๆ คนลำบากกันหมด แล้วคนที่ออกจากเรือนจำ เป็นคนคุก ออกไปแล้วจะไปหากินได้อย่างไร ท่านจึงพระราชทานแนวทางมาให้ว่าให้ฝึกอบรมเกษตรทฤษฎีใหม่ในเรือนจำดู (แบบที่ท่านทำที่ราบ 11)

>> อ.ยักษ์และทีมงานเป็นผู้เขียนแบบถวาย ดำเนินงานฝึกอบรม ตรงนี้อาจารย์เล่าว่าในระหว่างที่ทำงานถวายท่านเนี่ย ท่านจะให้ทำรายงานถวายทุกวัน เช้า-เย็น ต้องมีภาพและวิดีโอ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้มาเบิกกับท่าน ท่านรู้ว่ากรมราชทัณฑ์ไม่มีงบประมาณตรงนี้ ท่านไม่อยากให้ไปกระทบกับงบประมาณของรัฐบาล ท่านให้มาเบิกกับท่านทุกอย่าง 

>> ท่านให้เปิดพร้อมกันทั้งหมดทั่วประเทศ 137 ศูนย์ฝึก ใช้เวลาแค่ 1 สัปดาห์ ซึ่งทำสำเร็จ และยังมีการฝึกอบรมต่อเนื่องอยู่ในปัจจุบัน (อ.ยักษ์ บอกแกทำศูนย์ฝึกมา 20 ปี ได้แค่ 40 ศูนย์)

>> #จุดน่าสังเกตคือ ในทุกๆ ภาพวาดฝีพระหัตถ์พระราชทาน ล้วนออกมาในช่วงเวลาที่งานมีความคืบหน้าไปในแต่ละขั้นตอน ซึ่ง อ.ยักษ์ ได้อธิบายในคลิปอย่างละเอียดในแต่ละรูป

>> ร.10 ท่านไม่ประสงค์จะให้ประชาสัมพันธ์ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา ใครจะว่าร้ายอย่างไรก็ปล่อยเขา อ.ยักษ์ บอกตรงนี้คงเป็นวิบากของท่าน เพราะทำดีแต่คนก็ยังด่า ยังเข้าใจแบบผิดๆ

>> ร.10 ท่านบอกว่าต้องทำโมเดลให้ออกมาทำตามง่าย เข้าใจไม่ยาก ให้ทำแบบ Kiss คือ keep it simple, stupid (ตรงนี้ผมไปค้นหาที่มา พบว่าทฤษฎีนี้มาจาก U.S. Navy ครับ) ท่านบอกว่าท่านตามเสด็จพ่อกับแม่ท่านมา (ร.9, พระพันปี) ท่านไม่เห็นเคยได้ยินแบบที่ข้าราชการหรือนักวิชาการเอาไปเขียนเลย ท่านบอก ร.9 เนี่ยท่านให้ทำแบบง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ชาวบ้านสามารถทำตามได้ (บางทีข้าราชการนำหลักการของท่านไปตีความและถ่ายทอดมาจนผิดเพี้ยนและเข้าใจยาก)

>> นอกจากนี้ อ.ยักษ์ ยังได้สรุปคร่าวๆ เกี่ยวกับโครงการที่ ร.10 ท่านทำ #บางโครงการ ดังนี้…

1.) ตั้งโรงเรียนจิตอาสาฝึกอบรม (เข้าใจว่าในวัง) เพราะท่านเห็นว่าระบบราชการในปัจจุบันนี้สู้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ได้ 

2.) ระดมคนที่ผ่านการฝึกอบรมจิตอาสามาตั้งศูนย์ฝึกที่ราบ 11 ในพื้นที่ 200 กว่าไร่

3.) จัดโครงการ 8 วิธีแบบง่ายๆ ส่งจิตอาสาไปช่วยภาครัฐสู้กับภัยแล้ง

4.) นำนักเรียนจิตอาสารุ่นที่ 2 ไปร่วมมือกับเครือข่ายชาวบ้าน ไปทดลองทำป่าต้นน้ำที่ต้นน้ำน่าน ทำไว้เป็นต้นแบบ และให้ไปช่วยเหลือกันทั่วประเทศเพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำ

5.) คนตกงานกันมากหลังจาก COVID-19 โดยให้นำฟาร์มตัวอย่างของพระพันปีหลวงไปรองรับคน พันกว่าคนใน 30 ฟาร์ม โดยภายใน 1 เดือนแรกต้องให้มีกินให้ได้ จะปลูกถั่วงอก ผักบุ้ง หรืออะไรก็ได้ และต้องมีเหลือไปฝากพ่อกับแม่ หรือว่าว่าเอาไปแจกจ่ายให้กับคนที่ตกงานและไม่มีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในฟาร์ม ยังไม่ให้ขาย ค่อยขายตอนรอต่อยอดไปเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม เอาไปแปรรูป ท่านอยากให้มีบริษัทในชุมชน ประมาณนี้

6.) 137 ศูนย์ฝึกในเรือนจำ

7.) ไปพัฒนาโรงเรียนแบบ PBL - Project-Based learning (แนวคิดของ John Dewey) เป็นการเรียนรู้จากปัญหาจริง โดยเริ่มจากโรงเรียนมัธยมในจังหวัดน่านก่อน โดยเน้นจาก (1.) เปิดห้องเรียนเอาปัญหาจากภายในมาศึกษา (ครอบครัว,ชุมชน) ไม่ใช่ศึกษาแต่ปัญหาของต่างประเทศ (2.) ใช้การเรียนแบบ active learning แก้ปัญหาร่วมกันทั้ง ครู พ่อแม่ และนักเรียน (3.) เปลี่ยนวิธีการประเมิน จากที่เคยใช้ KPI มาใช้ OKR, Competency Assessment (การประเมินสมรรถนะ) 

8.) พระราชทานที่ดินในพระตำหนักอาคารทรงไทย (ที่ๆ ร.5 นั่งทอดปลาทู) ทำโครงการกตัญญูต่อ ร.5 และต่อพระราชบิดา (ร.9) - พระราชมารดา โดยจะนำเอาองค์ความรู้ที่ ร.9 ทำมาตลอดกว่า 70 ปี มาย่อให้เข้าใจง่ายๆ แบบ Kiss - keep it simple, stupid


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top