Thursday, 4 July 2024
บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

'ทายาทอภัยวงศ์' เผย 'แม่พิธา' โทรมาเคลียร์ สรุปลูกชายอาจเข้าใจผิดเรื่อง 'บ้านคุณยาย'

(9 ก.พ.67) จากกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในอินสตาแกรม ชี้แจงกรณีที่เคยโพสต์ภาพบ้าน เจ้าพระยาอภัยบูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา พร้อมข้อความว่า เป็นบ้านของคุณยายที่เคยอาศัยอยู่เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กลับมาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450

ล่าสุด อาจารย์ตรีดาว อภัยวงศ์ ทายาทตระกูลอภัยวงศ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Threedow Aphaiwongs ระบุว่า 

ขออนุญาตเรียนแจ้งข้อมูล กรณีที่เกี่ยวข้องกับ ‘บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ ที่พระตะบอง และโพสต์ของคุณพิธาที่เกี่ยวข้องกับ สกุล อภัยวงศ์ นะคะ

สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นประเด็นและข้อสงสัยว่าคุณยายของ คุณพิธา เป็นใคร เหตุใดจึงเคยอาศัยอยู่ในบ้านของ เจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้ทั้งๆ ที่บ้านหลังนั้น ตกเป็นของรัฐบาลกัมพูชาไปตั้งแต่ ปี 2450 แล้ว วันนี้ขออนุญาตสื่อสารข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ประเด็นส่วนตัวไม่กระทบกับคนส่วนมาก ดังนี้ นะคะ

คุณแม่ของคุณพิธา ท่านได้โทรศัพท์มาปรับความเข้าใจและพูดคุยกับผู้ใหญ่ในสกุล อภัยวงศ์ แล้วเมื่อวานนี้

ทางครอบครัวอภัยวงศ์เข้าใจได้ว่า การที่คุณพิธาฟังคำบอกของญาติที่เล่าต่อกันมา อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ ทั้งนี้ คุณอนุศรี ซึ่งเป็นคุณยายของคุณพิธาเองก็เคยเป็นสะใภ้ของสกุล อภัยวงศ์ ในช่วงหนึ่ง

เราขอเรียนว่าเราเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของคุณพิธา ที่ไปเยือนพระตะบองและจะระลึกถึงคุณยายและสถานที่ ที่เคยได้ทราบมาในสมัยยังเด็ก ซึ่งสถานที่นั้นมีส่วนเชื่อมโยงกับสกุล อภัยวงศ์ ทางสายตระกูลเราขอขอบคุณที่ระลึกถึงเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นสายเลือดเดียวกัน แต่เราก็เป็นคนร่วมชาติเดียว#กัน

ขอบคุณค่ะ

ทั้งนี้ มีนรายงานจากท็อปนิวส์ ระบุว่า ยายของนายพิธามีชื่อว่า ‘อนุศรี อนุรัฐนฤผดุง’ เคยสมรสกับ นายเกษม อภัยวงศ์ จริง ซึ่งนายเกษมเป็นบุตรชายคนโตของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) กับหม่อมละม้าย 1 ในภรรยา 24 คนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน แต่ภายหลัง อนุศรี และนายเกษม ได้หย่าร้างกันไป ต่างฝ่ายต่างไปมีครอบครัวใหม่

ทั้งนี้ นายเกษม ย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เมื่อครั้งตามเจ้าพระยาอภัยภูเบศรกลับมาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450 และใช้ชีวิตในเมืองไทย เสียชีวิตเมื่ออายุ 63 ปี หรือ เมื่อ 49 ปีที่แล้ว และพบว่าอนุศรี อนุรัฐนฤผดุง ได้สมรสใหม่และมีบุตรสาว ซึ่งเป็นมารดาของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (นางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์)

‘บริษัททัวร์หัวใส’ จัดทริปเที่ยวพระตะบอง พาชม ‘บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ เปิดให้ลงทะเบียน 14 ก.พ.นี้ แถมรับจำนวนจำกัดเพียง 8 คนเท่านั้น!!

จากกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เคยโพสต์รูปภาพบนอินสตาแกรมส่วนตัว เมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นรูปบ้านของ ‘เจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ ต้นตระกูลอภัยวงศ์ ในเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชาพร้อมข้อความระบุว่า “My grandmother used to live in this house almost 1 century ago บ้านเก่าคุณยาย” ซึ่งแปลได้ว่า ยายของตนเคยอาศัยที่บ้านหลังนี้มานาน 1 ศตวรรษที่แล้ว

ทำให้กลายเป็นประเด็นที่เกิดการถกเถียงกันในโซเชียลมีเดียอยู่หลายวัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา นายพิธา ได้ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ‘คุณยายอนุศรี’ ซึ่งเป็นคุณยายของตนนั้น เคยแต่งงานกับคุณเกษม อภัยวงศ์มีบุตรด้วยกัน 2 คน ซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณป้าของตน ณ ปัจจุบัน คุณยายเกิดที่พระนคร เคยย้ายไปอยู่พระตะบองพักนึงจริงและตนไม่ได้มีเชื้อสายเขมร ไม่ได้เป็นลูกครึ่ง ตามที่สื่อบางสำนักตั้งคำถาม พร้อมย้ำว่าตนไม่เคยแอบอ้างว่าเป็นลูกหลาน อภัยวงศ์

หลังจากเป็นประเด็นร้อนทำเอาโซเชียลไฟลุกอยู่หลายวัน ล่าสุด บริษัทท่องเที่ยว ‘พิพิธเพลินใจ แทรเวล’ ผุดไอเดียพาลูกทัวร์เยี่ยมชม ‘บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ ณ เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา พร้อมสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ระหว่างไทยและกัมพูชาในอดีตเมื่อนานมาแล้ว

โดยทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘พิพิธเพลินใจ แทรเวล’ ได้โพสต์ข้อความ เปิดรับลงทะเบียนทัวร์บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศรโดยระบุว่า…

“เปิดรับลงทะเบียนพร้อมรายละเอียด โปรแกรมราคา วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

15-17 มีนาคม 2567 ไปเยี่ยมไปเยือน ‘บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ เมืองพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชากัน

บ้านที่สร้างเกือบจะแล้วเสร็จแต่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรยังมิทันได้เข้าพำนัก ก็มีเหตุการณ์เสียดินแดนให้กับฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคมเสียก่อน

ย่ำไปในรอยไทย เมืองพระตะบอง-ศรีโสภณ ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 พร้อมเปิดรับลงทะเบียนวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ รับ 8 ท่านเท่านั้น”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top