Thursday, 4 July 2024
WeekendNews

EEC ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ก้าวไปด้วยกัน..กับการเติบโตที่ดีในทุกมิติ.. เดินหน้าต่อเนื่องสร้างการมีส่วนร่วมขับเคลื่อน อีอีซี ผ่านคนทุกช่วงวัย

เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มค. 65 ที่ผ่านมา ณ.เรือนคุณปู่ บ้านพูล @ พานทอง ต.เกาะลอย อ.พานทอง จ.ชลบุรี

นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ ที่ปรึกษาพิเศษด้านพื้นที่และชุมชน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) "สกพอ.เดินหน้าต่อเนื่องสร้างการมีส่วนร่วมขับเคลื่อน อีอีซี ผ่านคนทุกช่วงวัย" ลงพื้นที่และชุมชน จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ชลบุรี เพื่อส่งมอบของที่ระลึกจากอีอีซี ให้กับ ผู้นำชุมชน พลังสตรี อีอีซี และคณะทำงานพื้นที่และชุมชนที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาและยังรับฟัง พูดคุยหารือแนวทางการขับเคลื่อนด้านพื้นที่และชุมชน EEC กับการเติบโตที่ดีในทุกมิติ ในปี 2565 

ทั้งนี้ สกพอ.ได้เน้นย้ำถึงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ อีอีซี ให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญคือ พี่น้องประชาชน และทุกภาคส่วนใน อีอีซี จะต้องมีความเข้าใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน อีอีซี ไปด้วยกันโดย สกพอ.ยังคงเดินหน้าสร้างการมีส่วนร่วมการขับเคลื่อน อีอีซี ผ่านกลุ่มคนทุกช่วงวัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา สกพอ.ได้ดำเนินกิจกรรมสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี ผ่านกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย ตั้งแต่ระดับเยาวชน ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา มหาวิทยาลัย ผู้นำชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

โดยระดับประถมศึกษา จัดค่ายเยาวชนอาสาเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวด้านพฤกษศาสตร์ในอีอีซี ร่วมกับโครงการป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และทัศนศึกษาด้านนวัตกรรมใน อีอีซี เพื่อให้เยาวชนตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนา มีเยาวชนระดับประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 400 คน

ระดับมัธยมศึกษา จัดทำโครงการอีอีซี สแควร์ ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 เพื่อส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเยาวชนระดับมัธยมศึกษา สู่การเป็นเยาวชนแกนนำ (EEC2 Young Leaders) สร้างทักษะการทำงาน เพิ่มองค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ อีอีซี ควบคู่ไปกับการจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมามีเยาวชนจังหวัดระยอง และชลบุรี เข้าร่วมโครงการ จำนวน 26 โรงเรียน 104 คน

'เฉลิมชัย'​ มอบ​ 'อลงกรณ์'​ ล่องใต้หนุนชุมพรเป็นฮับผลไม้ภาคใต้ มั่นใจรถไฟจีน-ลาวช่วยเพิ่มการส่งออกปีนี้

(23 ม.ค.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ เป็นประธานในพิธีปล่อยกุ้งก้ามกรามและสัตว์น้ำ คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 1ล้าน 5แสนตัว  ณ คลองนาคราช  ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จัดโดยกรมประมง เพื่อเพิ่มแหล่งอาหาร สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่ชาวประมง และ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19รวมทั้ง เป็นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำและ คืนความหลากหลายของชนิดสัตว์น้ำ ทำให้เกิดความสมดุลตามธรรมชาติของระบบนิเวศน์โดยมีนายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง นำเยี่ยมชมบูธพร้อมทั้งบรรยายสรุปสถานการณ์การทำประมงในพื้นที่​

​​​​​​พร้อมทั้ง​ นายสราวุธ อ่อนละมัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชุมพร เขต​ 2, นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ, นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชุมพร เขต​ 1, นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมือง สมาชิกสภาอบจ. นายกอบต.​ และกำนันตำบลตากแดด ร่วมด้วยส่วนราชการ, ภาคประชาชน, ภาคเอกชน,  อสม., ครู, นักเรียนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

พร้อมกันนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ​ ยังได้ติดตามความคืบหน้าของการพัฒนาระบบชลประทานเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค​ รวมทั้งโครงการป้องกันอุทกภัยของจังหวัดชุมพร​ ซึ่งดำเนินการโดยกรมชลประทานและหน่วยงานอื่นๆ​ ใช้งบประมาณกว่า​ 3​ พันล้านบาท​ จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี​ 2567 เพื่อแกัปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากหลายปีติดต่อกันสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับชุมพรตลอดมา​ ซึ่งส.ส.มีส่วนสำคัญในการประสานงานอย่างต่อเนื่องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ​ ​เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว

นายอลงกรณ์​ กล่าวในระหว่างพิธีเปิดว่า ชุมพรเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมากมีรายได้ต่อหัวของประชากรกว่า​ 2​ แสนบาทต่อปีอยู่ในกลุ่มท็อป​ 20​ ของประเทศ โดย​ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2565 เป็นกว่า 1 แสนล้านบาทโดยมีภาคเกษตรเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญซึ่งมีพืชเศรษฐกิจหลักทำรายได้ให้จังหวัด​ เช่น​ ทุเรียน, ปาล์มน้ำมัน, ยางพารา, มะพร้าว​ และกาแฟโรบัสต้า​ รวมทั้งเศรษฐกิจภาคบริการด้านการท่องเที่ยว​ จึงได้วางนโยบายที่จะพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชุมพรให้ก้าวสู่เป้าหมายใหม่ของการพัฒนาอย่างน้อยใน​ 3​ ด้าน... 

1.​ นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นมหานครผลไม้ภาคใต้เช่นเดียวกับจันทบุรีในภาคตะวันออก ซึ่งการส่งออกผลไม้ของไทยกำลังเติบโดยอย่างรวดเร็วในปี​ 2564​ เพียง​ 11​ เดือนเราส่งออกผลไม้คิดเป็นมูลค่า​ 1.5​ แสนล้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นปีแรกที่ทุเรียนส่งออกได้เกิน​ 1​ แสนล้านบาท​ ซึ่งชุมพรเป็นจังหวัดที่ผลิตทุเรียนได้มากที่สุดเป็นอันดับ​ 2​ ของประเทศ​ โดยเฉพาะการเปิดเส้นทางขนส่งผลไม้ทางรถไฟสายจีน-ลาว​ จะเพิ่มการส่งออกผลไม้ได้มากขึ้นในปีนี้ จึงต้องเร่งยกระดับการพัฒนาชุมพรเป็นฮับผลไม้ภาคใต้

2.​ นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นฮับกาแฟโรบัสต้าของประเทศโดยสร้างแบรนด์สร้างมูลค่ากาแฟโรบัสต้าที่ชุมพรผลิตได้มากเป็นอันดับ​ 1​ สู่กาแฟมูลค่าสูงทั้งตลาดในและต่างประเทศ เพราะตลาดกาแฟกำลังขยายตัวเติบโตทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จะพัฒนาคู่ขนานกับกาแฟอะราบิก้าของภาคเหนือ

3.​ นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นประตูท่องเที่ยวเกตเวย์ทะเลใต้ เพราะนอกจากชุมพรเป็นประตูสู่ภาคใต้แล้วยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางทะเลมีท่าเรือบริการเชื่อมเกาะและหมู่เกาะในอ่าวไทยเช่นเกาะสมุยและหมู่เกาะอ่างทองโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติชุมพรมีเกาะกว่า​ 4​0​ เกาะ เช่นเกาะทะลุ, เกาะงามใหญ่, เกาะง่ามน้อย, เกาะลังกาจิว ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เราต้องเตรียมความพร้อมรองรับโอกาสทันทีที่วิกฤติโควิดคลี่คลายและนักท่องเที่ยวกลับมา

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุมพรทุกคนพร้อมสนับสนุนจังหวัดชุมพรในทุกด้านเพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชน

‘อลงกรณ์’ หนุนประมงพื้นบ้านเพชรบุรีพัฒนาท่าเทียบเรือ ตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น รวมกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่ม

(29 ม.ค.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้าน คลองบางอินทร์ ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายสมบุญ ธัญญาผล ประมงจังหวัดเพชรบุรี, นายสมพงษ์ เพชรนาค ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเพชรบุรี, นางสาวศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เพื่อรับฟังปัญหาของชาวประมงในพื้นที่และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขการพัฒนาท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้านคลองบางอินทร์ พื้นที่หมู่ที่ 8

สมุทรปราการ - สุดปัง!! ‘ดร.ยงยุทธ’ สส.พลังประชารัฐ ประธานตัดริบบิ้น เปิด ตรอ.สาขา 8 ร่วมแสดงความยินดีกับครอบครัวจิตต์สงวน

ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานตัดริบบิ้นร่วมแสดงความยินดีกับทางด้าน พ.ต.อ.สาโรช จิตต์สงวน ร.ต.ต.หญิงพวงผกา จิตต์สงวน และครอบครัวจิตต์สงวน เนื่องในโอกาสทำบุญเปิดร้านตรวจสภาพรถ มังกร-หนามแดง (สาขา 8) ตั้งอยู่ติดริมถนนเทพารักษ์ เยื้องกับ รพ.สินแพทย์  อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยพิธีเปิดในครั้งนี้มีเพื่อนข้าราชการ รวมทั้งผู้ประกอบการร่วมในพิธีและร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก แบบ New Normal

โดย พิธีในช่วงเช้าวันนี้ทางครอบครัว พ.ต.อ.สาโรช จิตต์สงวน พร้อมด้วย ร.ต.ต.หญิงพวงผกา จิตต์สงวน ถือฤกษ์ดีประกอบพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป จากวัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม. โดยมี ดร.ยงยุทธสุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทั้ง แขกผู้มีเกียรติร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ พระสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับทางร้านและทางครอบครัวจิตต์สงวน อีกด้วย

‘คุณสมบัติ - ดร.ชลิดา’ ขอบคุณลูกค้าคนพิเศษ!! จัดงาน "INTERLINK THANK YOU VIP 2022 ตอบแทนทุกการสนับสนุน!!

คุณสมบัติ - ดร.ชลิดา อนันตรัมพร ประธานกลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ และประธานมูลนิธิ อินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ ต้อนรับกลุ่มลูกค้าคนพิเศษในงาน "INTERLINK THANK YOU VIP 2022" เพื่อตอบแทนที่ให้การสนับสนุน เชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและผลิตภัณฑ์ LINK ในบรรยากาศริมทะเลหัวหิน ฟังดนตรีสบาย ๆ ริมชายหาด และพูดคุยเทรนด์เทคโนโลยียอดฮิต  

พร้อมกิจกรรมแจกของรางวัลมากมาย โดยเฉพาะยังได้นิมนต์พระมาให้ทุกท่านร่วมทำบุญใส่บาตรริมหาดหัวหิน


🔴 ณ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน

‘สวนนงนุชพัทยา’ จัดน้องช้างเชิดสิงโต ต้อนรับ ‘เทศกาลตรุษจีน’ พร้อมขยายเวลา ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม เที่ยวชมสวนฟรี!! ตลอดเดือน ก.พ.นี้

วันที่ 30 ม.ค. สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดขบวนแห่ช้างเชิดสิงโต ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2565 ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวชมสวนนงนุชพัทยา โดยจะมีการจัดขบวนเชิดสิงโต นำช้างแสนรู้ทั้งหมด 8 เชือก และยังเหล่าบรรดานางฟ้า นางสวรรค์ที่มาร่ายรำอำนวยอวยพร มีอาม่า แปะยิ้ม ร่วมเฉลิมฉลองกับนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน โดยกิจกรรมดังกล่าว จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-  2 ก.พ. 65 ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่มีขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน

สวนนงนุชพัทยา ยังได้ขยายเวลาต่อโปรโมชั่น ให้กับ ผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 3 เข็ม ชมสวนนงนุชพัทยา  ฟรี!! บัตรผ่านประตู ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมหมดอายุโปรโมชั่นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ขยายเวลาเพิ่มจนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 

สำหรับโปรโมชั่น ซื้อบัตรผ่านประตู 1 ท่านฟรี 1 ท่าน ยังคงใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เช่นกัน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนและมอบความสุขให้กับพี่น้องชาวไทย และยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทยให้มากยิ่งขึ้นไป  

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม โปรโมชั่นนี้ เพียงท่านแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ที่จุดบริการก่อนผ่านประตูเข้าชมสวนนงนุชพัทยา 

สำหรับเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย  สวนนงนุชพัทยาได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน SHA Plus  พนักงานของสวนนงนุชพัทยา  และพนักงานหน้าด่าน (Frontline) ที่ต้องพบเจอแขกทุกวัน ได้รับการฉีดกระตุ้น เข็ม 3 ครบ 100 %

ถ้าอะไร เราไม่ได้ทำไว้ อยากได้...มันก็ไม่มา ถ้าอะไรทำไว้แล้ว สร้างไว้แล้ว ไม่อยากได้...มันก็ได้ นี่แหละ...‘บารมี’

ถ้าอะไร เราไม่ได้ทำไว้
อยากได้...มันก็ไม่มา
ถ้าอะไรทำไว้แล้ว สร้างไว้แล้ว
ไม่อยากได้...มันก็ได้
นี่แหละ...‘บารมี’

- หลวงปู่ฝั้น อาจาโร -

เริ่มแล้ว มหกรรมสินค้า โปรดี โปรแรง ลดราคายิ่งใหญ่แห่งปี INTERLINK EXPO 2022

#INTERLINK (04 ก.พ. 2565)
เริ่มแล้ว มหกรรมสินค้า โปรดี โปรแรง ลดราคายิ่งใหญ่แห่งปี

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ กล่าวเปิดงานมหกรรมสินค้า “INTERLINK EXPO 2022” ที่จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริดจ์ ประเดิมต้นปีกับพื้นที่กรุงเทพฯ พบกับสินค้าลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ นำกองทัพผลิตภัณฑ์ LINK มาจัดหนักกับโปรโมชั่นดี ๆ และดีลราคาพิเศษ ลดให้ถึง 70% โดยมีผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งภายในงานมีกิจกรรมให้ร่วมสนุก ลุ้นสร้อยคอทองคำ และของรางวัลอีกมากมาย มอบให้แก่ผู้ร่วมงานได้ติดมือกลับบ้านไปพร้อมกับสินค้าคุณภาพ ราคาดีอีกด้วย

ผู้โดยสารชอบเมล์ไฟฟ้า “ไทยสมายล์บัส” ทันสมัย-ปลอดภัย

“ไทยสมายล์บัส” เผยผู้โดยสารชอบรถเมล์ไฟฟ้า 120 คัน 8 เส้นทางพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เพิ่มความสะดวกจ่ายค่าโดยสารผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดการสัมผัส พ่วงพัฒนาแอพพลิเคชั่น TSB GO เชื่อมต่อการเดินทาง “รถ-เรือ-ราง” ครบวงจร

รายงานข่าวจากบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด หรือ “TSB” แจ้งว่า ปัจจุบันได้นำรถโดยสาร (รถเมล์) ไฟฟ้าไทยสมายล์บัสจำนวน 120 คัน ให้บริการเดินรถเส้นทางรถโดยสารประจำทางพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 เส้นทาง ประกอบด้วยหมายเลขรถ ดังนี้

1.) สาย 6 ท่าเรือพระประแดง-บางลำพู

2.) สาย 7 โรงเรียนศึกษานารีวิทยา-หัวลำโพง

3.) สาย 35 เคหะธนบุรี-บางลำพู

4.) สาย 39 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

5.) สาย 56 วงกลมสะพานกรุงธน-บางลำพู

6.) สาย 80 วัดศรีนวลฯ (รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ) - สนามหลวง

7.) สาย 120 สมุทรสาคร-แยกบ้านแขก

และ 8.) สาย 133 เคหะบางพลี-สถานีรถไฟฟ้าเอกมัย  

ทั้ง 8 เส้นทางเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 15-20-25 บาทตามระยะทาง

ผลตอบรับจากให้บริการมีทั้งคำติชมและให้กำลังใจจากผู้โดยสารที่อยากเห็นระบบขนส่งมวลชนในเมืองไทยดีขึ้น ด้วยพลังงานทางเลือกใหม่ ที่สอดคล้องกับการจัดทำแผนพลังงานชาติของภาครัฐ ที่มีเป้าหมายสนับสนุนขับเคลื่อนภาคพลังงานของประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำด้วยพลังงานสะอาด เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้า ที่เป็นพลังงานทางเลือกใหม่ที่มีสัดส่วนของพลังงานสะอาดไม่น้อยกว่า 50% และกำลังจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมขณะเดียวกันไทยสมายล์บัสยังเป็นรถเมล์แบบชานต่ำ มีทางลาดสำหรับผู้พิการที่นั่งรถเข็นขึ้น-ลงรถสะดวก

#INTERLINK ขอบคุณลูกค้าคนพิเศษภาคใต้ ณ โรงแรมเชอราตัน สมุย

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ ต้อนรับกลุ่มลูกค้าคนพิเศษในงาน "INTERLINK THANK YOU VIP 2022" สำหรับลูกค้ากลุ่มภาคใต้ เพื่อตอบแทนที่ให้การสนับสนุน เชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและผลิตภัณฑ์ LINK ในบรรยากาศริมทะเล ฟังดนตรีสบาย ๆ ริมชายหาด และพูดคุยเทรนด์เทคโนโลยี พร้อมกิจกรรมแจกของรางวัลมากมาย อีกทั้งตอนเช้ายังได้นิมนต์พระมาให้ทุกท่านร่วมทำบุญใส่บาตรริมหาดเฉวง ทั้งอิ่มบุญ และอิ่มใจไปพร้อม ๆ กัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top