Tuesday, 2 July 2024
Wagner

‘สายลับสหรัฐฯ’ โว รู้แผนก่อกบฏของ ‘วากเนอร์’ ก่อนปูติน ชี้!! สืบพบสัญญาณความผิดปกติได้ตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.

เมื่อไม่นานนี้ สื่อสหรัฐฯ ทั้ง Washington Post และ New York Times รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ รับทราบข้อมูลล่วงหน้าที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่กองกำลัง วากเนอร์จะก่อกบฏภายในรัสเซีย และได้สรุปรายงานนี้ให้กับทั้งทางทำเนียบขาว สภาคองเกรซ และฝ่ายกลาโหมก่อนหน้าจะเกิดเหตุจริงเพียงไม่กี่วัน

สายสืบสหรัฐฯ อ้างว่า สามารถจับสัญญาณการเคลื่อนไหวบางอย่างของเยฟเกนี พริโกซิน และกองกำลังวากเนอร์ในการต่อต้าน นายพลเซอร์เก ชอยกู ผู้นำฝ่ายกลาโหมรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ถึงแม้จะไม่รู้แน่ชัดว่า พริโกซิน ริเริ่มวางแผนการตั้งแต่เมื่อใด แต่การเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของเขาทำให้ทีมข่าวกรองของสหรัฐฯ รับรู้ถึงความไม่ปกติภายใน ว่าน่าจะมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ที่อาจนำไปสู่สถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุด คือ ‘สงครามกลางเมือง’ ได้

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่า จุดแตกหักของเรื่องนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีคำสั่งจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ให้กองกำลังอาสาสมัครทั้งหมด ต้องมาขึ้นทะเบียน และลงนามข้อตกลงกับกองทัพรัฐบาล ถึงแม้ว่าจะไม่ระบุเจาะจงว่าเป็นกลุ่มกองกำลังวากเนอร์ แต่หลักปฏิบัตินั้นชัดเจนว่า ทหารกองอาสาสมัครทั้งหมด ทุกกลุ่ม ครอบคลุมถึงหน่วยของกองทหารรับจ้างวากเนอร์ ต้องอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงกลาโหม

นั่นหมายความว่า ฝ่ายกระทรวงกลาโหมรัสเซีย มีเป้าหมายที่จะควบรวมกองกำลังวากเนอร์ เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ จากที่เคยเป็นกองกำลังอิสระ บริหารในรูปแบบบริษัทเอกชน ที่มีเยฟเกนี พริโกซิน เป็นผู้นำ และยังสร้างผลงานโดดเด่นในการสู้รบในยูเครน โดยเฉพาะสมรภูมิในเมืองบัคมุท

เจ้าหน้าที่ฝ่ายการทหารของยูเครนก็ได้จับตา พริโกซิน หลังวันประกาศเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เช่นกัน และเชื่อว่าผู้นำกองกำลังวากเนอร์ เริ่มเคลื่อนพลเพื่อต่อต้านรัฐบาลมอสโกแล้วตั้งแต่วันนั้น และยังแสดงออกชัดเจนว่า ‘ไม่ลงรอย’ กับผู้นำสุงสุดของฝ่ายกลาโหมรัสเซียหลายครั้ง และมั่นใจว่า พริโกซินไม่รู้ตัวว่า ทั้งรัฐบาลยูเครน และหน่วยข่าวกรองสหรัฐกำลังจับตาดูอยู่ อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลลับระหว่างกันอีกด้วย

หน่วยสอดแนมลับของสหรัฐฯ เชื่อว่า แม้กระทั่งปูตินเอง น่าจะเพิ่งรับรายงานแผนการก่อกบฏของพริโกซิน ผู้ซึ่งเคยเป็นสหายคนสนิทของเขา ล่วงหน้าเพียงวันเดียวเท่านั้น ซึ่งพริโกซินก็ดำเนินตามแผนการที่วางไว้อย่างรวดเร็วจนน่าแปลกใจ

และทันทีที่กลุ่มวากเนอร์ ข้ามชายแดนยูเครนเข้ามาในรัสเซียในช่วงวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย. ก็บุกยึดกองบัญชาการกองทัพรัสเซียในเมืองรอสตอฟได้ทันทีในวันเสาร์ และประกาศบุกมอสโกต่อในวันอาทิตย์ สร้างความปั่นป่วนโกลาหลไปทั่วกรุงมอสโก ก่อนที่จะเยฟเกนี พริโกซิน จะยอมรับเงื่อนไขของทางรัฐบาลรัสเซีย ลี้ภัยไปเบลารุส และให้กลุ่มวากเนอร์ ถอยกลับไปประจำในฐานที่มั่นของตน

แม้ว่าเหตุการณ์จะสงบแล้ว แต่กองทัพรัสเซียคงไม่อาจไว้วางใจกองกำลังวากเนอร์ได้อีกต่อไป แม้ปูตินจะยอมรับว่า ทหารวากเนอร์ส่วนใหญ่ถือเป็นนักรบผู้กล้าที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติ แต่หลังเหตุการณ์ความไม่สงบที่ผ่านมา จำเป็นที่จะต้องสลายกลุ่มวากเนอร์ โดยปูตินยื่นข้อเสนอว่า กองกำลังวากเนอร์มีทางเลือก 3 ทาง คือ เข้าประจำการในกองทัพรัสเซีย, กลับบ้าน หรือลี้ภัยไปเบลารุสเท่านั้น

จากคำกล่าวอ้างของเยฟเกนี พริโกซิน มีกองกำลังวากเนอร์ ที่ประจำการพร้อมรบอยู่ราว 25,000 คน และมีกองหนุนสำรองอีกนับหมื่นคน

‘ผู้นำกบฏวากเนอร์’ เข้าพบ ‘ประธานาธิบปูติน’ หลังก่อกบฏ พร้อมกล่าวสาบาน จะขอจงรักภักดีต่อรัฐบาลรัสเซีย

(11 ก.ค. 66) นายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำผู้นำกลุ่มกบฏวากเนอร์ได้เข้าพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เพียง 5 วันหลังจากก่อเหตุกบฏที่กินเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยนายพริโกซินได้ประกาศความจงรักภักดีต่อรัฐบาลรัสเซียในขณะเข้าพบปูตินอีกด้วย

นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า การพบกันของปูตินและพริโกซินเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง และไม่ได้มีเพียงแค่ตัวของนายพริโกซินเท่านั้น แต่ยังมีผู้บัญชาการจากกลุ่มวากเนอร์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพริโกซินด้วย

เปสคอฟกล่าวว่า ผู้บัญชาการของวากเนอร์ได้พูดถึงมุมมองของพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเน้นย้ำว่าพวกเขาถือเป็นผู้สนับสนุนอย่างแข็งขัน และเป็นทหารของประมุขแห่งรัฐและผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยพวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อมาตุภูมิต่อไป

ทั้งนี้ การยืนยันว่าปูตินได้พบกับนายพริโกซินซึ่งเป็นผู้นำทัพวากเนอร์ บุกไปยังกรุงมอสโกเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีกลาโหมถือเป็นเรื่องไม่ธรรมดา

พริโกซินไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการหารือที่เกิดขึ้น และขณะนี้ชะตากรรมของเขาก็ยังไม่ชัดเจน โดยการประกาศดังกล่าวทำให้เห็นว่า มีการเจรจาเบื้องหลังอยู่มากมายในที่ลับ และพริโกซินยังคงถูกดำเนินคดีในความผิดทางการเงินหรือข้อหาอื่น ๆ ต่อไป

‘วากเนอร์’ ยอมจำนน ส่งมอบอาวุธให้กองทัพรัสเซียแล้ว ด้าน ‘ปูติน’ เสนอเงื่อนไข เพื่อชี้ชะตา ‘ผู้นำเยฟเกนี’

(13 ก.ค. 66) กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมว่า กลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ได้ทำการส่งมอบอาวุธให้กับกองทัพรัสเซีย หลังเกิดการก่อกบฏช่วงสั้น ๆ เพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ในการให้ข่าวของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยังได้มีการเผยแพร่ภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่วากเนอร์ส่งมอบให้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นภาพสะท้อนถึงความพยายามในการคลี่คลายภัยคุกคาม และดูเหมือนจะเป็นการประกาศยุติปฎิบัติการของกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้ ในสนามรบภายในดินแดนยูเครน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า อาวุธที่มีการส่งมอบการมีมากกว่า 2,000 ชิ้น ตั้งแต่รถถัง เครื่องยิงจรวด ปืนใหญ่ และระบบป้องกันภัยทางอากาศ พร้อมด้วยยุทโธปกรณ์อีกมากกว่า 2,500 ตัน และอาวุธปืนมากกว่า 20,000 กระบอก

แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลรัสเซียออกมายอมรับเมื่อต้นสัปดาห์ว่า นายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกลุ่มวากเนอร์และผู้บัญชาการระดับสูง 34 นายของเขา ได้พบกับ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน เพียง 5 วันหลังจากการก่อกบฏ โดยผู้บัญชาการวากเนอร์ให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อปูติน และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อมาตุภูมิต่อไป

ขณะที่ปูตินกล่าวว่า กองทหารของวากเนอร์ต้องเลือกว่าจะเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหม ย้ายไปอยู่เบลารุส หรือเกษียณจากการทำงาน

ภาพการส่งมอบอาวุธดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางความให้ชัดเจนเกี่ยวกับชะตากรรมของพริโกซิน และเงื่อนไขข้อตกลงที่มีการนิรโทษกรรมให้กับเขาพร้อมกับทหารรับจ้างในสังกัด

‘พริโกซิน’ ผู้นำวากเนอร์ โพสต์วิดีโอครั้งแรกในรอบ 2 เดือน โว!! กำลังต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธ เพื่อทำให้ ‘แอฟริกา’ มีอิสระขึ้น

นายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ปรากฏตัวครั้งแรกในวิดีโอที่โพสต์บนเทเลแกรม หลังจากหายไปจากโลกโซเชียล นับตั้งแต่ความพยายามก่อกบฎในรัสเซียเมื่อเดือนมิถุนายนล้มเหลว โดยพริโกซินซึ่งสวมชุดนักรบระบุว่าเขาอยู่ในแอฟริกา และวากเนอร์กำลังทำให้แอฟริกามีอิสระมากขึ้น

พริโกซินกล่าวในวิดีโอว่า วากเนอร์กำลังสำรวจแร่ และต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอิสลามและกลุ่มอาชญากรอื่นๆ

“เรากำลังทำงานอยู่ท่ามกลางอุณหภูมิมากกว่า 50 องศา วากเนอร์กำลังปฏิบัติการลาดตระเวนและค้นหา ทำให้รัสเซียยิ่งใหญ่ขึ้นในทุกทวีป และทำให้แอฟริกาเป็นอิสระมากขึ้น” พริโกซิน กล่าว

พริโกซินกล่าวด้วยว่า ความยุติธรรมและความสุขสำหรับชาวแอฟริกัน เรากำลังทำให้ชีวิตเป็นฝันร้ายสำหรับกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) อัลเคด้า และกลุ่มโจรผู้ร้ายอื่นๆ

พริโกซินกล่าวว่า วากเนอร์กำลังเปิดรับสมัคร และเราจะดำเนินการตามภารกิจที่กำหนดไว้ต่อไป เราสัญญาว่าเราจะประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ เชื่อว่าวากเนอร์มีนักรบหลายพันคนอยู่ในทวีปแอฟริกา ซึ่งวากเนอร์มีผลประโยชน์ทางธุรกิจมากมายอยู่ในภูมิภาคนี้

โดยมีรายงานว่า ทหารของพริโกซินฝังตัวอยู่ในประเทศต่างๆ ในแอฟริกา รวมถึงมาลีและสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนและสหประชาชาติกล่าวหาพวกเขาว่า ก่ออาชญากรรมสงคราม

นักรบวากเนอร์ยังถูกสหรัฐฯ กล่าวหาว่าได้สร้างรายได้ให้กับตัวเองด้วยการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการค้าทองคำเถื่อนในแอฟริกาอีกด้วย

ด่วน!! เกิดเหตุเครื่องบินตก คร่าชีวิต ‘พริโกซิน’ ผู้นำวากเนอร์ ขณะเดินทางกลับกรุงมอสโก ทางการรัสเซียเร่งสืบหาสาเหตุ

‘เยฟเกนี พริโกซิน’ หัวหน้าทหารรับจ้างวากเนอร์ ผู้ก่อกบฎรัฐบาลปูติน เสียชีวิตแล้วจากเหตุเครื่องบินตกระหว่างเดินทางไปมอสโก กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน แถลง 10 ผู้โดยสารเสียชีวิตทุกคน ขณะเทเลแกรมอ้างเครื่องบินถูกยิงตก

(24 ส.ค. 66 ) สำนักข่าวอิศรา รายงานข่าวสถานการณ์ในประเทศรัสเซียว่า มีรายงานจากสื่อในประเทศรัสเซียว่า นายเยฟกินี พริโกซิน หัวหน้าทหารรับจ้างวากเนอร์ ที่ก่อเหตุกบฏต่อรัฐบาลรัสเซียของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตแล้วจากเหตุเครื่องบินตก ในระหว่างเที่ยวบินจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไปกรุงมอสโก

โดยเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสาร 10 คน ลูกเรือสามคน ซึ่งกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียได้รายงานว่า จากเหตุเครื่องบินตกพบว่าลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด

“บนเครื่องบินมีผู้โดยสาร 10 คน รวมทั้งลูกเรือ 3 คน ตามข้อมูลเบื้องต้นทั้งหมดบนเครื่องบินเสียชีวิต” กระทรวงระบุ โดยเครื่องบินตกในภูมิภาคตเวียร์ ตอนเหนือของมอสโก

ขณะที่สํานักงานขนส่งทางอากาศแห่งสหพันธรัฐของรัสเซียกล่าวว่า ได้เริ่มการสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินตก และกล่าวต่อไปว่ามีชื่อของนายพริโกชินรวมอยู่ด้วย

“การสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินรุ่นเอ็มบราเออร์ Embraer ในภูมิภาคตเวียร์เมื่อเย็นวานนี้ได้เริ่มต้นขึ้น ตามรายชื่อผู้โดยสารชื่อและนามสกุลของนายเยฟกินี พริโกซิน รวมอยู่ในรายชื่อนี้” สำนักข่าวในรัสเซียระบุ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานจากโซเชียลมีเดียเทเลแกรมช่อง Grey Zone ซึ่งเป็นช่องของกลุ่มวากเนอร์ระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวถูกยิงตก

‘ไบเดน’ โหนกระแส ฟันธง!! ‘ปูติน’ อยู่เบื้องหลัง  ‘เยฟเกนี พริโกซิน’ หัวหน้า Wagner เสียชีวิต

(24 ส.ค. 66) จับกระแสไว ยิ่งกว่าเจ้าของรายการโหนกระแสเสียอีก สำหรับ ‘โจ ไบเดน’ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หลังจากทราบข่าวเรื่องอุบัติเหตุเครื่องบินของ ‘เยฟเกนี พริโกซิน’ ผู้ก่อตั้งกองกำลัง Wagner ตกในรัสเซีย ที่ทำให้ผู้โดยสาร จำนวน 10 คน รวมทั้งเยฟเกนี พริโกซิน เสียชีวิตยกลำ ก็ได้ออกมาฟันธงทันทีว่า ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ผู้นำรัสเซีย เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างแน่นอน

สื่อรัสเซียรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินเจ็ทเหมาลำโดย ‘เยฟเกนี พริโกซิน’ และผู้บริหารระดับสูงของกองกำลัง Wagner ตกที่ ‘เมืองตเวียร์’ ทางภาคตะวันตกของรัสเซีย เมื่อช่วงเย็นของวันพุธที่ 23 สิงหาคม 2566 และไม่มีผู้ใดรอดชีวิต ตอนนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเคลียร์พื้นแล้ว ล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ ส่วนทางรัฐบาลมอสโก ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้

ถึงแม้ทางเครมลินยังเงียบ แต่ทำเนียบขาวมาแล้ว โดย ‘โจ ไบเดน’ ออกมาแสดงความเห็นอย่างหนักแน่นว่า ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ผู้นำรัสเซีย เกี่ยวข้องกับการตกของเครื่องบินเหมาลำของหัวหน้าหน่วย Wagner อย่างไม่ต้องสงสัย

ไบเดนกล่าวว่า “ผมยังไม่รู้รายละเอียดแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ผมไม่ประหลาดใจเลย เพราะไม่ค่อยมีอะไรที่เกิดขึ้นในรัสเซีย แล้วจะไม่เกี่ยวข้องกับปูติน”

ไบเดนยังบอกนักข่าว CNN ที่ตามไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับข่าวของพริโกซินว่า เขาเคยพูดไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้วว่า พริโกซินต้องระวังความปลอดภัยของตัวเองให้มาก หลังเหตุก่อกบฏที่ล้มเหลวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ซึ่ง โจ ไบเดน เคยพูดเช่นนั้นจริงๆ ตอนที่เขาไปเยือนกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ในครั้งนั้น ไบเดนพูดติดตลกในห้องประชุมผู้สื่อข่าวว่า “ถ้าผมเป็นพริโกซินตอนนี้ ผมจะระวังอาหารทุกจานที่ผมกิน จับตามองเมนูทุกอย่างที่จะเสิร์ฟให้ผมนับจากนี้”

ไม่ใช่เฉพาะ ‘โจ ไบเดน’ ที่เชื่อว่า ‘เยฟเกนี พริโกซิน’ อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ‘มิไคโล โปโดลแยค’ ผู้ช่วยประธานาธิบดียูเครน ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเช่นกันว่า อุบัติเหตุของเครื่องบินโดยสารของเยฟเกนี พริโกซิน เกิดขึ้นตรงวันที่กองกำลัง Wagner ลุกฮือในรัสเซีย ครบรอบ 2 เดือนพอดี (23 มิถุนายน 2566) ซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณของรัฐบาลปูติน ถึงกลุ่มนายทุนชั้นสูงของรัสเซียว่า การไม่จงรักภักดีต่อระบอบปูติน มีราคาที่ต้องจ่าย และยังเป็นการปูทางสู่การเลือกตั้งใหญ่ในรัสเซียในปี 2024 อีกด้วย

ด้าน ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ที่ถูกพาดพิงจากสื่อทุกสำนักในวันนี้ ก็ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับอุบัติเหตุของเยฟเกนี พริโกซิน นอกจากกำหนดการที่ต้องออกมากล่าวคำปราศรัยในวันฉลองชัย วันครบรอบ 80 ปี ยุทธการที่เมืองคูสค์ ซึ่งกองกำลังโซเวียตมีชัยชนะอย่างเด็ดขาดต่อกองทัพนาซีเยอรมัน ในแนวรบที่เมืองคูสค์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้ถือโอกาสนี้กล่าวปลุกใจ สร้างขวัญทหารรัสเซียที่ไปรบในยูเครนตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

โดยนักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงสถานะของปูตินที่ยังแข็งแกร่งเพียงพอ ที่จะรอโอกาสแก้แค้นฝ่ายที่ต่อต้านเขาได้อย่างใจเย็น

สำหรับในวันนี้ ที่หน้าสำนักงานกองกำลัง Wagner ในเมือง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จะมีการจุดเทียน และวางดอกไม้ไว้อาลัยให้กับ เยฟเกนี พริโกซิน เนื่องจากพริโกซิน เป็นหนึ่งในนายทุนระดับสูงที่มีฐานความนิยมในรัสเซียอยู่พอสมควร ทว่าการจากไปของพริโกซิน ทำให้ไม่อาจคาดเดาอนาคตของกองกำลัง Wagner ที่ปักหลักในยูเครน และ ทวีปแอฟริกา ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปหลังจากนี้…

‘ปูติน’ เคลื่อนไหวครั้งแรก หลังเครื่องบินวากเนอร์ดิ่งตก เผย ‘พริโกซิน’ เป็นคนเก่ง-มีพรสวรรค์ แต่ทำผิดพลาดร้ายแรง

ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุเครื่องบินส่วนตัวของ ‘นายเยฟเกนี พริโกซิน’ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ กองกำลังทหารรับจ้างสัญชาติรัสเซีย ดิ่งตกใกล้หมู่บ้านคูเซนกิโนในแคว้นตเวียร์ ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นการกำจัดผู้คิดคดก่อกบฏต่อรัฐบาลรัสเซีย

ภายหลังนายพริโกซินนำกำลังวากเนอร์บุกยึดเมืองรัสเซีย รวมถึงมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงมอสโก เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อดีตมิตรรักของนายพริโกซิน กล่าวเป็นครั้งแรกราว 24 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุเครื่องบินตกว่า “หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างผู้มีความสามารถคนนี้ ทำผิดพลาดร้ายแรงในชีวิต” แต่ไม่ได้มีการยืนยันอย่างชัดเจน ว่านายพริโกซินเสียชีวิต

โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (เพนตากอน) ระบุว่าสหรัฐเชื่อว่านายพริโกซินเสียชีวิตในเหตุเครื่องบินตก เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยกับซีบีเอสนิวส์ว่า สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดที่เครื่องตก น่าจะเป็นการลักลอบนำวัตถุระเบิดซุกซ่อนขึ้นไปไว้บนเครื่องบิน

ส่วนกลุ่มวากเนอร์ระบุผ่านบัญชีเกรย์โซนบนเทเลแกรม ว่าเครื่องบินถูกระบบต่อต้านอากาศยานของรัสเซียยิงตกอย่างไรก็ตาม ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้ยังไม่มีการยืนยัน

ด้านหน่วยงานสืบสวนรัสเซียกำลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว ซึ่งเป็นต้นทางที่เครื่องบินของนายพริโกซินขึ้นบิน เพื่อมุ่งหน้าไปนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด

วันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่ากองทัพสกัดกั้นโดรนของยูเครน 42 ลำที่พุ่งเป้าโจมตีในพื้นที่ไครเมีย ทางตอนใต้ของยูเครน และในจำนวนนี้ 33 ลำถูกกำจัดโดยการสงครามอิเล็กทรอนิกส์

ขณะที่สื่อนอร์เวย์รายงานว่า รัฐบาลนอร์เวย์จะสนับสนุนเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 แก่ยูเครนเพื่อยกระดับการปกป้องอธิปไตยจากการรุกรานของรัสเซีย แต่ยังไม่มีแถลงอย่างเป็นทางการ โดยความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายกรัฐมนตรีโยนาส การ์ สเตอร์ ผู้นำนอร์เวย์ เดินทางเยือนกรุงเคียฟกะทันหันในวันวันประกาศอิสรภาพยูเครน เมื่อวันที่24 ส.ค.ที่ผ่านมา

‘อังกฤษ’ จ่อขึ้นบัญชีดำ ‘Wagner’ กลุ่มทหารรับจ้างของรัสเซีย ชี้!! เป็นองค์กรก่อการร้ายที่มีความอันตรายเทียบเท่า ‘ISIS’

‘รัฐบาลอังกฤษ’ เตรียมที่จะขึ้นทะเบียน ‘Wagner PMC’ บริษัททหารรับจ้างเอกชนของรัสเซีย เป็นองค์กรก่อการร้าย นั่นหมายความว่าใครก็ตามที่เป็นสมาชิกขององค์กร Wagner หรือให้การสนับสนุน ถือว่าผิดกฎหมายก่อการร้ายของอังกฤษ

ซึ่งรัฐบาลอังกฤษเตรียมผ่านชงเรื่องการขึ้นบัญชีดำกลุ่ม Wagner ผ่านสภาฯ ในวันพุธนี้แล้ว และหากประเด็นนี้ผ่านการพิจารณาในสภาฯ สำเร็จ รัฐบาลอังกฤษจะมีอำนาจในการยึดทรัพย์ อาญัติบัญชีทรัพย์สินของกลุ่ม Wagner และเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องในอังกฤษได้ทันที

‘ซูเอลลา บราเวอร์แมน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ กล่าวว่า “Wagner ถือเป็น กลุ่มที่ก่อความรุนแรง สร้างความหายนะทั้งในยูเครนและแอฟริกา เป็นเครื่องมือการทหารของ ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ผู้นำรัสเซีย ที่ใช้ในการวางเป้าหมายทางการเมืองเท่านั้น ซึ่งบ่อนทำลายความมั่นคงของโลก ดังนั้น ตามกฎหมายก่อการร้ายของอังกฤษ (Terrorism Act 2000)  Wagner เข้าข่ายองค์กรก่อการร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย”

และด้วยกฎหมายก่อการร้ายฉบับปัจจุบันของอังกฤษ ได้มอบอำนาจให้กระทรวงมหาดไทยของอังกฤษสามารถขึ้นบัญชีดำองค์กรใดๆ ก็ตามในโลกที่เข้าข่ายก่อการร้าย จากเดิมที่ครอบคลุมเพียงกลุ่มก่อการร้ายในไอร์แลนด์เหนือเท่านั้น และอังกฤษก็ได้ขึ้นทะเบียนผู้ก่อการร้ายมาแล้วหลายกลุ่มทั้ง อัลกออิดะห์, ISIS, ฮามาส, โบโก, ฮาลาม และล่าสุดคือ กลุ่ม Wagner

และหลังจากขึ้นทะเบียนกลุ่มก่อการร้ายเรียบร้อยแล้ว บุคคลที่เป็นสมาชิก ผู้ที่สนับสนุนกลุ่ม Wagner หรือแม้แต่การแสดงความเห็นในที่สาธารณะในเชิงสนับสนุน จัดกิจกรรมรวมกลุ่ม หรือแม้แต่ใช้โลโก้ ธง สัญลักษณ์ของ Wagner ในอังกฤษ จะถือเป็นความผิดในคดีอาญา มีโทษจำคุกถึง 14 ปี หรือปรับเงิน 5,000 ปอนด์

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษได้รับแรงกดดันจากพรรคฝ่ายค้าน ให้เร่งขึ้นทะเบียนผู้ก่อการร้ายกับกลุ่ม Wagner มานานหลายเดือนแล้ว จากเหตุรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซีย ซึ่งกลุ่ม Wagner มีบทบาทสำคัญในการยึดครองพื้นที่ในยูเครน อีกทั้งยังมีหลักฐานการใช้ความรุนแรง การทำร้ายร่างกาย และสังหารประชาชนชาวยูเครน

แต่รัฐบาลอังกฤษเพิ่งเตรียมพิจารณาผ่านญัตติการขึ้นบัญชีดำกลุ่ม Wagner ในวันนี้ หลังจากที่กลุ่มได้สลายตัวไปหลังเหตุการณ์ Wagner ลุกฮือในรัสเซียเมื่อ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามด้วยการเสียชีวิตของ ‘เยฟเกนี พริโกซิน’ หัวหน้าผู้ก่อตั้งองค์กร จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ยังเป็นปริศนาในอีก 2 เดือนต่อมาก็ตาม

ถึงจะทำช้า แต่ก็ทำนะ สำหรับการตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าเครือข่าย Wagner ยังคงอยู่ แม้ผู้นำจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่บทบาทจะยังคงเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนชื่อเป็นองค์กร หรือ รูปแบบอื่นๆ ไปแล้ว ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าขอบเขตกฎหมายของอังกฤษจะตามทันหรือไม่

เรื่อง : ยีนส์ อรุณรัตน์


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top