Tuesday, 2 July 2024
ลิซ่า

‘พิธา’ ปลื้ม ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ ยกเป็นผู้ทำคุณูปการให้ชาติ  ชี้!! เป็นการแสดงออกให้ชาติอื่น ได้รู้ถึงความสามารถของคนไทย

(30 มิ.ย.67) ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง MV ของ ‘ลิซ่า’ ที่โด่งดังจนทำเยาวราชแตก ว่า ตนได้ฟังแล้ว ทุกอย่างเป็นระดับโลกทั้งหมด ทั้งคำร้องที่เป็นภาษาอังกฤษและคำแร๊ป รวมไปถึงเทคนิคการถ่ายทำ ถือเป็นผลงานระดับโลกที่ตนในฐานะคนไทยก็ภูมิใจ ขณะเดียวกัน ก็มี ‘Local Content’ จำนวนมาก และแม้เป็นผลงานระดับโลก แต่การประสานงาน การเต้นหรือคนที่อยู่ในภาพประกอบ ของ Music Video ก็เป็นคนไทยทั้งนั้น ต้องขอชื่นชมไปยังคุณลิซ่าและบริษัทด้วย ที่ทำให้ประเทศไทยได้รับความสนใจ อย่างน่าเหลือเชื่อ และที่ผ่านมาไม่มีบุคคลใดทำได้เท่านี้ ซึ่งน่าจะทำให้เกิดการรับรู้ เพราะการที่คุณลิซ่า ร้องว่า Can you teach me Japanese? I said, ไฮ ไฮ

“มันก็เป็นการแสดงให้คนภูมิภาคอื่น รู้ว่าในเอเชียมีหลายเชื้อชาติ มีความเป็นคนไทยอยู่ด้วย เป็นการเอาคนไทย เอาความสามารถไทย เอานักเต้นไทย ได้ข่าวว่า ช่างทำเล็บหรือช่างแต่งหน้าก็เป็นคนไทยด้วย” นายพิธา กล่าว

เมื่อถามว่ารัฐบาลสามารถนำโมเดลของลิซ่ามาผลักดันเป็น Soft Power ได้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การที่ Power จะเป็น Power ที่ Soft ได้มันยัดเยียดหรือประดิษฐ์ประดอยไม่ได้ และอย่างที่ 2 ถ้าอยากถอดบทเรียน คือคุณลิซ่ารู้ว่าโลกต้องการอะไร แล้วย้อนกลับมา เขาเป็น Outside in ไม่ได้เป็น Inside out แบบที่เรานิยามความเป็นไทยกัน บังคับให้ทุกคนเสพความเป็นไทยตามที่เราต้องการ แต่เขาดูว่าความต้องการของโลกและเทรนโลกเป็นอย่างไร แล้วเขาค่อยกลับมาทำในมุมมองของเขา แล้วค่อยนำเสนอ เลยกลายเป็นอำนาจที่อ่อนจริงๆ

เมื่อถามว่า ในมุมของพรรคก้าวไกล จะเอาปรากฏการณ์นี้ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ในระยะสั้น เมื่อลิซ่าทำคุณูปการให้กับประเทศไทย ขนาดนี้แล้ว ดังนั้นต้องไปเตรียมเรื่องการท่องเที่ยวให้ดี เพราะในส่วนของ Demand ไม่มีปัญหาคนอยากมาท่องเที่ยวอยู่แล้ว คนนิยมชมชอบกรุงเทพฯอยู่แล้ว อย่างสมุยก็เป็นเกาะระดับต้นๆของโลก อาหารก็เป็นระดับต้นๆ แต่สิ่งที่ต้องเตรียมคือ Supply ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และการให้ข้อมูลหลายภาษา ทำให้ไกด์ไทย มีโอกาสเข้าไปอยู่ในโซ่มูลค่า เราว่าต้องมานั่งคิดแล้วในเมื่อคุณลิซ่าทำคุณูปการ รัฐบาลจะรับลูกอย่างไร อย่าทำให้สาธารณูปโภค หรือการท่องเที่ยวเข้มแข็ง และทำให้เม็ดเงินการท่องเที่ยวกระจายออกไม่ใช่กระจุกตัว

การวางเส้นทาง ถ้าคุณจะมา Rock Star Tour ต้องมาเริ่มต้นที่เยาวราช เสร็จแล้วจะเอาสตอรี่อะไรต่อ ให้เขาสามารถไปที่อื่น ที่เขาจะไม่ไปตั้งแต่ตอนแรก ทำให้เขาอยู่ได้นานขึ้น ไม่ใช่อยู่แค่ 3-4 วันแล้วกลับ รวมถึงมีสินค้าท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวซื้อกลับ ไม่เช่นนั้นเวลากินเบียร์ก็กินเบียร์ฝรั่ง โซ่มูลค่าไม่ตกถึงคนไทย ตนเชื่อว่า กทม. รัฐบาล ก็รับลูกทำอยู่

นายพิธา ยังกล่าวว่า สิ่งที่ลิซ่าทำถือเป็นพรสวรรค์ และพรแสวง เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ได้เขาต้องต่อสู้มาอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นภาษาทักษะการร้องเต้น เวลามองตัวไม่ได้มองแค่ปลายทางที่เขาประสบความสำเร็จ แต่ขอชื่นชมเขาในสิ่งที่ต่อสู้และผลักดันมาตลอด จนกระทั่งมาเป็นแบบนี้ ยืนยันว่า ตนไม่ได้โหน แต่คิดว่าทั้งหมดทั้งมวล ควรจะสร้างระบบนิเวศให้พรสวรรค์ไทย ที่มาจากบุรีรัมย์ มาจากสตูล มาจากเชียงใหม่ สามารถอยู่ในประเทศแล้วประสบความสำเร็จได้ นักการเมืองควรจะคิดเช่นนั้นมากกว่า

เมื่อถามว่า ‘เขาว่าทำถึง’ นายพิธา ยิ้มแล้วกล่าวว่า ‘ทำเกิน’

เปิดใจนักแสดงเอ็มวี ROCKSTAR เล่านาทีเจอ ‘ลิซ่า’  กรี๊ด!! ปรอทแตก ตื่นเต้นสุดชีวิต พูดไปคงไม่มีใครเชื่อ

(30 มิ.ย.67) เกิดเป็นปรากฏการณ์เยาวราชแตก! หลังสาว ลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า Blackpink ปล่อยเอ็มวีเพลง ROCKSTAR ซึ่งขณะนี้มียอดผู้เข้าชมบนแพลตฟอร์มยูทูบไปแล้วกว่า 34 ล้านวิว ที่ยกกองมาถ่ายทำที่ประเทศไทย ซึ่งครั้งนี้ใช้องค์ประกอบที่สะท้อนความเป็นไทย ตั้งแต่สถานที่ไปยันทีมนักเต้นนักแสดงสมทบ เกิดเป็นกระแสคนบันเทิง คนการเมือง รวมถึงร้านค้าแบรนด์ดังต่างพากันเข้ามาร่วมแจมกับกระแสนี้กันอย่างคับคั่ง

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘ภานุ ตั้งใจ’ หนุ่มรอยสักมาดเข้ม ที่ปรากฎตัวบนมิวสิกวิดีโอตัวดังกล่าว โพสต์รูปภาพเผยความประทับใจ ที่ได้ร่วมงานกับลิซ่าศิลปินหญิงชาวไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก พร้อมระบุข้อความว่า

พอมีแต้มบุญกับเค้านิดหน่อยนะเนี่ยเรา เดินทางจากจังหวัดพิษณุโลกเข้ากทม 5-6 ชม. ไปแบบอึน ๆ มึน ๆ ไม่รู้อะไรมากเลย รู้แค่ว่างาน MV

ถึงกองทีมงานเบื้องหลังเยอะคนเยอะมาก เซ็ทใหญ่อลังการใหญ่โตมาก เริ่มเอะใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตลอดเวลาที่นั่งรอ เห็นว่ามีความเคลื่อนไหวตลอดเวลาดูทุกคนขันแข็งเร่งรีบ คนเบื้องหน้าก็ทยอยมาเรื่อย ๆ จนเป็นหลักร้อยได้ เอาล่ะเริ่มตื่นเต้นมากขึ้นมานิดหน่อยละ ตื่นคนเยอะ คิดในใจศิลปินตปท.แน่ใครกันนะ ทีมงานก็ไม่ได้บอกอะไร แค่บอกให้ถ่ายรูปลงชื่อและไปกินข้าว

พอเริ่มลงชื่อกินข้าวเสร็จ เริ่มทยอยเก็บมือถือกันแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่คิดอะไรมาก เพราะกองตปท.ก็เก็บกันปกติ ต่อไปก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าเซ็ต ถ่ายได้ซีนสองซีนเล็กๆก็ยังประหม่า แต่ก็ผ่านไปด้วยดีอาจจะมีช้าบ้างนิดหน่อย

พอน้องลิซเดินออกมาเท่านั้นแหละ เรานี่ เอ๊ะ ! ในใจก่อนเลย ในใจคิด ใช่มั้ยนะ ถอดแว่น ตั้งตาเพ่งดี ๆ  ชัดเลย เฮ้ยยย !! นี่น้องลิซ นี่หว่า ในใจเรานี่กรี๊ดปรอทแตกมากกกก เกินไปมากกกกกก ใกล้ ๆ เลยยย มีอะไรในใจเยอะมาก ตื่นเต้นสุด มันฟุ้งอยู่ในหัวมากมายกูพูดกับใครไปจะมีใครเชื่อกูมั้ยเนี่ย ที่ยืนตรงหน้าเรา นี่คือ ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกเบอร์ต้น ๆ เลย ทำไรไม่ถูกจ้าาาา สั่นไปหมด

เป็นคุณ คุณจะรู้สึกยังไงงงงงงง เขร้ ชีวิตเหมือนประสบความสำเร็จอะไรบางอย่างที่มันใหญ่โตมาก ๆ อ่า OMG !!!???? ขอขอบพระคุณทีมงานทุกคนทุกท่านทุกแผนกทุกหน้าที่ทุกตำแหน่ง และขอบคุณตัวเองด้วย ที่มีส่วนร่วมในมิวสิควีดีโอตัวนี้ให้ออกมาสมบูรณ์แบบสู่สายตาทุกคนทั่วโลก 

'สื่อเกาหลี' ตีข่าวแซะ 'ลิซ่า' ออกจาก K-pop ก็แค่ที่ 1 ในไทย  แฟนคลับฉุน!! สวนคืนสงสัยคงโกรธเพลงใหม่ที่ไม่มีภาษาเกาหลี

เรียกได้ว่าเพลง Rockstar ที่เป็นซิงเกิลใหม่ล่าสุดของสาวลิซ่า ลลิษา มโนบาล สร้างความกระหึ่มและสร้างเสียงฮือฮาจนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก ตอกย้ำความเป็นร็อกสตาร์ด้วยยอดรับชมล้านแตกภายใน 27 นาทีนับตั้งแต่ปล่อยเพลง แถมยังติดเพลงมาแรงอันดับ 1 ในยูทูบ

แถมภายในมิวสิกวิดีโอลิซ่าไม่เพียงออกจากกรอบเดิม ๆ จัดเต็มลุกส์ร็อกเกอร์สาวเปรี้ยวไฟลุกแบบลักชัวรี แต่ยังนำเสนอซอฟต์พาวเวอร์ความเป็นไทยและโปรโมตประเทศไทยอยู่เสมอทั้งทางตรงและทางอ้อม สมมง BKK so pretty

รวมถึงลิซ่ายังเลือกใช้ทีมแดนเซอร์และนักแสดงตัวประกอบเป็นคนไทยโดยให้ซีนปัง ๆ จึ้ง ๆ กับชาวไบเกอร์และชาว LGBTQ+ แบบที่ไม่มีวันได้เห็นจาก K-pop เรียกได้ว่าเป็นการนำเสนอความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลกได้เป็นอย่างดี

งานนี้ ดูเหมือนจะมีคนบางประเทศถึงกับโกรธจัด เพราะเพลง Rockstar นี้ไม่มีภาษาเกาหลีเลยสักคำ ทำเอาคอมเมนต์ชาวเน็ตเกาหลีบางคนผิดหวังที่ลิซ่าเลือกที่จะทิ้งภาพ K-Pop ของตัวเองแบบไม่เหลือ

ล่าสุด สำนักข่าวเกาหลีชื่อดังออกมาพาดหัวข่าวว่า ‘ลิซ่าออกจาก k-pop มาเป็นอันดับ 1 แค่ประเทศไทย ลั่นเป็นโซโลเดี่ยวที่น่าผิดหวัง’ ทำเอาลิลลี่ (ชื่อแฟนคลับลิซ่า) ทั้งไทยและอินเตอร์ถึงกับโกรธจัดออกมาคอมเมนต์ในทวิตเตอร์กันเพียบ เช่น 

“รอดูก่อน นี่แค่เพิ่งเริ่ม” 

“เอาจริง ถ้าตลาดไทยไม่มี power เข้ามาโปรโมต จัดแฟนมีท ทำไมก่อน?? หรือประเด็นคือกอบโกย แล้วก็เหยียบหัวขึ้นไป”

“ถ้าเกาหลีไม่มีประเทศอื่นแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซัพพอร์ต มันจะลืมตาอ้าปากได้ปะเอาดี ๆ 555”

“QQ music ของจีนก็เดบิ๊วที่ 1 ของเมื่อวานมีเคป็อปคนไหนทำได้บ้าง ลิซ่าชาร์จสูงกว่าคนในประเทศเค้าอีก เกาแหกตาดูโลกบ้าง”

“ทำ media play หลอกคนในประเทศ ว่าลิซไปไม่รอด แต่ fact ยอด stats ทำได้ดีที่สุดในบรรดา kpop หญิงของประเทศมันทั้งหมด ทั้ง spotify, youtube, tiktok, IG แบบทุบไม่เหลือ 555 ถ้าลิซ่าไปไม่รอด แล้วทั้งวงการมันคือ”

พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า อย่ากดเข้าไปให้ยอดเอนเกจเมนต์แก่ข่าวดังกล่าวและให้ทุกคนไปสตรีมเพลงร็อกสตาร์กันดีกว่า อย่าเสียเวลา

'พี่เอ้' แนะ!! 4 แนวทาง น่าเรียนรู้จาก 'สูตรเกาหลี'  สร้าง 'ลิซ่า' คนที่ 2 ได้ ด้วยคำว่า 'สูงกว่า-หนักกว่า' 

(1 ก.ค.67) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ 'ดร.เอ้' ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ 'ไทยจะสร้าง 'ลิซ่า' คนที่ 2 ได้ไหม? แล้วจะต้องทำอย่างไร?' ว่า...

ผมตอบ "ได้แน่นอน" เพราะ ผมเชื่อ #คนไทยเก่งไม่แพ้ใครในโลก แต่ว่า ‘มีปัจจัยอื่น’ ที่เราต้องสร้าง ก่อนจะไปถึงจุดนั้น

และก็มีหลายคน ตั้งคำถาม "หากน้องลิซ่า ไม่ไปฝึกฝนที่เกาหลี จะมีวันนี้ไหม" ตอบยากครับ อาจเป็นได้ หรือ ไม่ได้ คงไม่มีใครฟันธง

แต่คำถาม ควรจะเป็นว่า จะทำอย่างไร ให้เด็กไทย ได้ ‘โอกาสการพัฒนา’ ไปได้เต็มศักยภาพ หรือ ทะลุเพดานศักยภาพ เหมือนน้องลิซ่า น่าจะดีกว่า

ผมจึงชวนทุกท่าน ไปสังเกตการทำงานของ ‘เกาหลี’ บ้านอีกแห่งของน้องลิซ่า บอกเลย น่าเรียนรู้ยิ่ง

ผมสังเกตโค้ชกอล์ฟเกาหลี พาเยาวชนมาฝึกกอล์ฟแถวบ้าน โค้ชชี้สั่งเด็ก ๆ ให้พัตต์กอล์ฟ เป็นร้อย ๆ พัน ๆ ลูก กลางแดด พัตต์แล้วพัตต์อีก เด็กเกาหลีก็ก้มหน้าก้มตาซ้อม ไม่มีใครบ่น ไม่มีใครเบื่อ ไม่แปลกที่ทีมกอล์ฟเยาวชนเกาหลี จึงไม่แพ้ใครในโลก เพราะ ‘เด็กเกาหลีมีวินัยสูง’

ตอนผมเรียนที่ MIT สังเกตเห็นเพื่อนเกาหลี ที่เรียนปริญญาเอกด้วยกัน ทำงานจนดึกทุกวัน นั่งเขียนบทความวิชาการ ทั้งที่ MIT ไม่บังคับ แต่การจะกลับไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยชั้นนำในเกาหลี เขาต้องมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับโลก จึงไม่แปลกงานวิจัยเกาหลีล้ำหน้าใครในเอเชีย เพราะ ‘คนเกาหลีต้องทุ่มเท มากกว่าคนอื่น’

ตอนที่ผมทำงานให้สมาคมอุโมงค์โลก สังเกตเห็นวิศวกรและนักวิชาการเกาหลี ขึ้นบรรยายบนเวที ยอมรับว่า ใช้เวลาในการเตรียมตัวมากกว่าชาติอื่น เพราะ Powerpoint ต้องสวย รูปต้องเด่นมาก ทำสุดจริง น่าชื่นชม เพราะ ‘มาตรฐานเกาหลี ต้องสูงกว่าคนอื่น’

และ ชุมชนเกาหลีในอเมริกา ‘เหนียวแน่นมาก’ ทุกครอบครัว นอกจากขยันทำมาหากิน ยังขยันแข่งกัน ‘เลี้ยงลูกให้ดี ให้เก่ง’ จึงไม่แปลกที่ เด็กเกาหลีเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้มากกว่าชาติอื่น และจบมาเป็นหมอ เป็นผู้นำธุรกิจ หรือแม้แต่ผู้นำองค์กรระดับโลก 

ความเป็นเกาหลี สะท้อนถึง เรื่องการสร้าง ‘ภาพยนต์ ดนตรี และกีฬา’ เกาหลีจึงพัฒนามาได้ไกลขนาดนี้ และ เราคงเดาได้ว่า น้องลิซ่าก็ได้รับสิ่งดี ๆ จากการไปอยู่เกาหลี ด้วยเช่นกัน

ทั้งหมด จึงจบอยู่ที่ การสร้าง ‘คุณภาพคน’ เพราะ Soft Power ก็มาจากคนในชนชาตินั้น ‘สร้างขึ้นมา’ และ ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ก็ไม่ได้หล่นมาจากฟ้า แต่มีรากฐานมาจาก ‘ความขยัน อดทน ไม่ยอมแพ้’ ลองผิดลองถูก จนเห็นผล ของคนในชาติ

ดังนั้นหาก ไทยจะสร้าง น้องลิซ่า คนที่ 2 และคนต่อๆ ไป น่าเรียนรู้จาก ‘สูตรเกาหลี’ มาปรับใช้บ้าง คือ

1. ต้อง ‘อดทน มีวินัยสูงกว่า’
เราก็รู้ว่า ระบบเกาหลี ให้น้องลิซ่าต้องเตรียมพร้อม มาหลายปี กว่าจะได้เริ่มต้น ร่วมวง Blackpink และเขาดูแลวินัย ตีกรอบในการทำงาน และในการใช้ชีวิต มากสุด ๆ แค่ไหน 

ถึงแม้วันนี้ มีเงินและมีชื่อเสียงระดับโลก ยิ่งต้องอดทนและมีวินัย มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ จริงไหม

2. ต้อง ‘ทุ่มเท ทำงานหนักกว่า’
เราชอบว่า ‘เด็กเกาหลีเครียด’ ต้องเรียนหนัก ต้องสอบยาก แต่ถามเถอะ เกิดมาจะไม่ให้ลูกเข้าใจว่า ‘ชีวิตต้องทุ่มเท ต้องทำงานหนัก’ ไม่ให้เข้าใจความเครียดเลยหรือ แล้วจะอยู่ในชีวิตจริง ได้อย่างไร?

แม่ชาวเกาหลี ถูกเรียกว่า ‘Tiger Mom แม่เสือ’ เพราะเคี่ยวเข็ญ ให้ลูกทุกคนทำงานหนัก ช่วยเหลือตนเอง ลูกเลยแข็งแกร่ง อยู่รอด

3. ต้อง ‘แข่งขัน ทำให้ดีกว่า’
คนเกาหลีรู้ว่า ชีวิต คือ การแข่งขัน จึงสอนลูกให้รู้จักแข่งขัน ทำให้ดีกว่า เด็กเกาหลี เล่นกีฬา ร้องเพลง เรียนหนังสือ ก็ทำจริง ไม่ทำเล่น ไม่ยอมแพ้ ดูบอลเกาหลี ก็ดูสนุก เพราะเล่นไม่ยอมแพ้ แม้นาทีสุดท้าย

4. ต้อง ‘มีมาตรฐานสูงกว่า’
วงการดนตรี และภาพยนตร์ของเกาหลี มีมาตรฐานและคุณภาพงาน ไม่แพ้อเมริกา ลองดูเพลง คอนเสิร์ตและมิวสิควิดิโอของน้องลิซ่า ยอมรับเลยว่า เบื้องหลังมาจาก ‘มาตรฐานการทำงาน’ ระดับโลกของแทร่

เพราะมาตรฐานสูง ย่อมสร้างความน่าเชื่อถือ และการยอมรับที่สูงตามไปด้วย

ดังนั้น หากประเทศไทย จะสร้าง ‘คนเก่ง คนดี’ ระดับโลกแบบน้องลิซ่า ให้เกิดขึ้นในบ้านเรา ต้องมุ่งมั่น ‘สร้างคน’ เพราะ การหวังเพียงการโปรโมทประชาสัมพันธ์ อาจเป็นเพียง ‘ฉาบฉวย’ ไม่ใช่แก่นแท้ ประเดี๋ยวก็จางไป 

>> ย้ำ ‘Soft Power’ มาจาก ‘คน’
การพัฒนาคน คือ รากฐานของ Soft Power ที่มั่นคง และไม่มีใครจะแย่งจากเราไปได้ ไม่ใช่เพียง ‘กางเกงช้าง’ ที่ของถูกจากจีน มาแย่งตลาดได้ง่ายดาย แต่คือ ความสามารถ ‘คนไทย ยุคใหม่’ ที่เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก

เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ อ่านแล้วคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง คอมเมนต์บอกเล่าให้พี่เอ้รู้หน่อยนะครับ ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือเห็นต่างเราแลกเปลี่ยนกันได้เสมอ จะได้ร่วมกันหาทางผลักดันประเทศไทยไปด้วยกันครับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top