Thursday, 4 July 2024
พรรคไทยสร้างไทย

‘ศิธา’ แง้ม ‘ไทยสร้างไทย’ พร้อมรับ ‘รองอ๋อง’ เข้าพรรค หาก ‘ก้าวไกล’ มีมติขับพ้นพรรค เพื่อเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

(28 ก.ย. 66) ที่รัฐสภา น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เตรียมประชุมหาความชัดเจนเรื่องตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ที่มีกระแสข่าวว่าจะขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ออกจากพรรค พรรค ทสท.พร้อมจะเปิดประตูต้อนรับหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องกระบวนการภายในของพรรค ก.ก.และเป็นสิทธิ์ของนายปดิพัทธ์ ว่านายปดิพัทธ์จะออกหรือไม่ออก ซึ่งพรรค ก.ก.ก็มีมติได้ว่า จะให้นายปดิพัทธ์ลาออกหรือไม่ แต่หากนายปดิพัทธ์ไม่ลาออก พรรค ก.ก.ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ทำได้อย่างเดียวคือต้องขับออก หากต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

น.ต.ศิธา กล่าวต่อว่า หากพรรค ก.ก.ขับนายปดิพัทธ์ออกมา ซึ่งนายปดิพัทธ์ยังไม่พ้นสภาพ สส. สามารถเป็นต่อได้อีก 30 วัน ส่วนนายปดิพัทธ์จะไปอยู่พรรคไหนก็ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ การที่ไปบอกว่าให้นายปดิพัทธ์มาอยู่กับพรรค ทสท. หากไม่เข้าใจกัน แต่พูดไปแล้วก็อาจจะเป็นการล้ำเส้น และอาจจะเกิดความคลางแคลงใจกัน ซึ่งทุกวันนี้ตนเชื่อฝ่ายค้านก็ร่วมมือกันในการตรวจสอบรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์จริง ๆ ไม่ได้ค้านทุกเรื่อง ถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอยู่แล้ว แต่หากนายปดิพัทธ์จะอยู่กับพรรค ทสท.ก็ยินดีต้อนรับ แต่คงไม่แสดงความคิดเห็นว่าอยากให้เข้ามา

‘คุณหญิงสุดารัตน์’ แนะรัฐบาลเร่งแก้ รธน. สานต่อจากร่างที่เคยเสนอไว้ ชี้!! วิธินี้จริงใจ-ทำได้ทันที-ประหยัดงบทำประชามติ ช่วยชาติเดินหน้าต่อ

‘สุดารัตน์’ ขอรัฐบาลจริงใจ เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ แนะทำต่อจากร่างที่เคยเสนอไว้ ขออย่ามองเป็นของไทยสร้างไทย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าและอำนาจกลับมาเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ชี้ ตั้งคณะกรรมการศึกษา ยิ่งเสียเวลา เสียเงิน และสร้างความขัดแย้ง

(1 ต.ค. 66) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ว่าไม่มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้นและใช้เวลานานมาก ทั้งๆ ที่เมื่อตอนเป็นฝ่ายค้านต้องการแก้ไขตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป รวมถึงการแก้รายประเด็นเพื่อตัดอำนาจ สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งทางพรรคไทยสร้างไทยเอง ได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ใจความสำคัญคือ ให้มีเลือกตั้ง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ‘สสร.’ เป็นผู้มาเขียน รัฐธรรมนูญ โดยไม่แก้หมวด 1 และ 2 เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง โดยมุ่งแก้ไขในส่วนที่กระทบถึงประชาชนและขจัดการสืบทอดอำนาจ

“พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอร่างแก้ไขไปแล้ว ตรงนี้เราชัดเจน โดยวิธีการของเราคือไม่ต้องไปทำประชามติ ถามประชาชนก่อน เพราะไม่ใช่เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ประชาชนเสียโอกาสมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้ถ้าร่วมมือกันก็จะแก้ไขได้เสร็จภายในปี 2567 ดร.โภคิน พลกุล ซึ่งถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ท่านได้ร่างเอาไว้สามารถทำได้ทันที” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ แนะนำรัฐบาลว่าถ้าจริงใจให้ใช้วิธีนี้ ไม่ต้องเสียเงินไปทำประชามติก่อน และไม่เกิดความขัดแย้ง เพราะไม่ได้แก้หมวด 1 และ 2 อยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจ อย่าไปซื้อเวลาด้วยการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่จะทำให้เสียเงิน และยิ่งสร้างความขัดแย้ง

“ขอเชิญชวนภาคประชาชน รัฐบาล สมาชิกรัฐสภา ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันสร้าง สสร. ไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป เพื่อปากท้อง สิทธิเสรีภาพที่ดีกว่าของประชาชน และเพื่อสถาปนาประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ซึ่งตามร่างของพรรคไทยสร้างไทย จะมีการทำประชามติเพียงครั้งเดียวที่รัฐธรรมนูญบังคับ และขอยืนยันว่าแล้วเสร็จภายในปี 2567 ถ้าเริ่มทำกันวันนี้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

‘หญิงหน่อย’ ฟัน!! 3 สส.ไทยสร้างไทย โหวตสวนมติฝ่ายค้าน สั่งตั้งกรรมการสอบสวนทันที พร้อมขอโทษประชาชน

(6 ม.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีภายหลัง พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท และมีการเปิดลงให้ลงมติว่า จะรับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2567 หรือไม่ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น มีผู้เห็นด้วยจำนวน 311 คน, ไม่เห็นด้วย 177 คน, งดออกเสียง 4 คน ไม่ลงคะแนนไม่มี

ซึ่งในส่วนของพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ที่เป็นฝ่ายค้าน มีเสียง 6 เสียงกลับพบว่า เสียงแตก โดย สส. 3 คน คือ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร, นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี ลงมติ ‘เห็นด้วย’ ซึ่งถือว่า ‘สวนมติฝ่ายค้าน’ นั้น

โดยล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ได้โพสต์ข้อความ ใน x ระบุว่า…

“ดิฉันต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชน ต่อผล Vote ร่างงบประมาณรายจ่าย ที่มี สส.ของพรรค 3 คน ลงคะแนนสวนมติพรรค และมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อพรรค โดยพรรคจะเร่งส่งเรื่องให้กรรมการจริยธรรมของพรรคดำเนินการไต่สวน เพื่อเสนอกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเป็นการด่วน

ขณะนี้ ดิฉันยังอยู่ต่างประเทศ แต่ได้เฝ้าติดตามการอภิปรายงบประมาณมาโดยตลอด และไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อกรณีที่เกิดขึ้นนี้

ดิฉันต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชน และสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยอีกครั้ง”

‘นรุตม์ชัย’ ฟาดใส่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ที่ภาคภูมิใจกับ ‘รัฐบาลตระบัดสัตย์’ ชี้!! ‘ต้องฟังเสียงปชช.-รับผิดชอบต่อคำพูด-ทำประโยชน์สูงสุดให้ประเทศ’ 

(6 พ.ค.67) นายนรุตม์ชัย บุนนาค รองเลขาธิการ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึง กรณีที่ นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ประกาศ ว่า เมื่อ 10 เดือนที่แล้วตัดสินใจถูกต้องแล้ว ที่จัดตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ว่าตนขอแสดงความจริง ว่าคนไทยจะได้อะไร ถ้าไม่มีรัฐบาลตระบัดสัตย์ 10 เดือนคนไทยจะได้อะไรบ้าง

1) เด็กจะไม่ถูกปลูกฝังค่านิยม ว่าการโกหก บหรือการตระบัดสัตย์ เป็นสิ่งที่ถูกต้องในสังคมไทย
2) คนไทยได้ธรรมนูญใหม่ ได้ประชาธิปไตยเต็มใบ
3) คนที่ครอบครองยาบ้า 5 เม็ด ยังผิดกฏหมายต้องถูกลงโทษ ไม่ถือเป็นผู้เสพ
4) ประเทศไทยจะไม่มีกัญชาเสรี จะได้กัญชาเพื่อการแพทย์
5) เศรษฐกิจจะดีขึ้นกว่านี้เพราะ ได้ใช้งบประมาณปี 67 ตั้งแต่เดือนตุลาปีที่แล้ว ไม่ถูกกั๊กไว้ทำDigital Wallet
6) คนไทยทั้งประเทศ ไม่ต้องเป็นหนี้ เงินกู้ 500,000 ล้าน เพื่อมาแจกดิจิทัล วอลแล็ท ที่ต้องใช้หนี้ชั่วลูกชั่วหลาน โดยผลได้ทางเศรษฐกิจไม่คุ้ม และ ใครกันแน่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้
7) สถาบันหลักของชาติ ที่ทุกคนเคารพเทิดทูน จะไม่ถูกแอบอ้าง ทำให้เสียหายเช่นทุกวันนี้
8) คนไทยจะได้นายก และรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมากับมือ ไม่ใช่นายกที่มาจากส.ว.
9) ขบวนการยุติธรรมไทย จะไม่ถูกทำลายจนย่อยยับ เพียงเพื่อต้องการ ช่วยให้ใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้สิทธิพิเศษแบบเทวดา
10) ประชาชน จะได้รับการดูแลเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง การลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน จะไม่ได้รัฐบาลที่อุ้มแต่พรรคพวกตนเอง ให้มาสูบเลือดจากคนจน

นายนรุตม์ชัย ระบุด้วยว่า หลายเรื่องรัฐบาล ที่รัฐบาลตระบัดสัตย์ แล้ว กล่าวอ้างว่าจะเข้ามาทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนนั้น กลับไม่ตรงกับที่ประกาศไว้และให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชน ขณะที่หลายนโยบาย ที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา กลับไม่ปฏิบัติตาม 10 เดือนที่ผ่านมา จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมเตือนสติรัฐบาล เพื่อสื่อสารไปถึงผู้มีอำนาจ เพราะการบริหารราชการแผ่นดินต้องรับฟังเสียงพี่น้องประชาชน รับฟังความต้องการ และรับผิดชอบ ต่อคำพูดคำสัญญาที่ให้ไว้ โดยเฉพาะ ความคิดเห็นที่แตกต่าง แม้จะไม่ถูกใจรัฐบาล แต่เป็นสิ่งที่ถูกต้องเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ผู้มีอำนาจจำเป็นต้องรับฟัง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top