รู้จัก 'เจียง ผิง' สาวน้อยมหัศจรรย์แห่งเจียงซู จากเด็กสายอาชีพสู่ตัวท็อปงานแข่งคณิตศาสตร์โลก

(28 มิ.ย.67) วิชาคณิตศาสตร์ อาจเป็นยาขมของใครหลาย ๆ คน ไม่ต่างจากภาษาต่างดาว ที่คุยกันให้ตายก็ไม่เข้าใจ และมักจะคิดว่าคนที่เก่งคณิตศาสตร์ มักเป็นเรื่องของเด็กอัจฉริยะที่เรียนอยู่ในสถาบันชื่อดัง ที่อยู่คนละโลกกับเราแน่ ๆ

แต่ความเชื่อเช่นนี้อาจไม่จริงเสมอไป เพราะยังมีเด็กอัจฉริยะหลังเขาอีกมากมาย ที่สปอร์ตไลท์ส่องไม่ถึง 

แต่ล่าสุดวันนี้ แสงไฟแห่งแวดวงคณิตศาสตร์ต้องจับตามอง เจียง ผิง สาวน้อยวัยเพียง 17 ปี จากมณฑลเจียงซู ผู้สามารถทะลุเข้าสู่รอบไฟนอลการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับโลก The Alibaba Global Mathematics Competition 2024 

และสามารถจบที่อันดับท็อป 12 จากในบรรดาผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลกที่คัดมาแล้วอย่างเข้มข้นถึง 800 คน ที่ล้วนมาจากสถาบันดัง ๆ ทั้งนั้น อาทิ MIT, Cambridge, ปักกิ่ง. ชิงหวา ไม่เว้นแม้แต่ทีม AI 

ซึ่งในจำนวนผู้เข้าแข่งขันโปรไฟล์ระดับพระกาฬ มี เจียง ผิง คนเดียว ที่ไม่ได้เรียนในระดับมหาวิทยาลัยชื่อเสียงใหญ่โต และที่สำคัญคือ เธอเป็นคนเดียวที่เรียนสายอาชีพด้านการออกแบบแฟชัน ในโรงเรียนมัธยมโนเนมเล็ก ๆ แทบไม่มีใครรู้จัก ในมณฑลเจียงซูเท่านั้น 

Alibaba Global Math Competition จัดโดยบริษัท Alibaba ตั้งแต่ปี 2018 เพื่อเฟ้นหาหัวกะทิด้านคณิตศาสตร์สมัยใหม่ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 6 แล้ว เป็นงานแข่งขันทางคณิตศาสตร์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นงานแข่งขันระดับโลก ที่มีเงินรางวัลสูง และไม่ได้ให้รางวัลสูงสุดแค่ที่ 1 คนเดียว แต่แบ่งเป็นหลายระดับ ได้แก่...

- Gold Award: มีผู้ชนะ 5 คน รับรางวัลเงินสดคนละ $30,000 

- Silver Award: ผู้ชนะ 10 คน รับรางวัลเงินสดคนละ $15,000

- Bronze Award: ผู้ชนะ 20 คน รับรางวัลเงินสดคนละ $8,000

- Honorable Mention: ผู้ชนะ 50 คน รับรางวัลเงินสดคนละ $2,000 

และยังเปิดโอกาสให้ทีม AI ลงแข่งขันได้ด้วย โดยจะแบ่งการแข่งขันเป็นรอบคัดเลือก ที่จะคัดผู้เข้าแข่งขันเพียง 800 คน เข้าสู่รอบไฟนอล โดยในปีนี้รองไฟนอลแข่งกันเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา

หลังจบการแข่งขัน ทางผู้จัดได้ประกาศผลผู้ชนะอย่างเป็นทางการ ก็ปรากฏชื่อ เจียง ผิง เด็กสาววัย 17 ปี จากโรงเรียนอาชีวะ เหลียนชุย เมืองเล็ก ๆ ในมณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของจีน เข้ามาติดในอันดับ Top 12 ของกลุ่มผู้ชนะในรายการปีนี้ 

โดย เจียง ผิง เป็นผู้เข้าแข่งขันคนเดียวในรายการปีนี้ ที่ไม่ได้เรียนสายสามัญ ไม่เคยไปเรียนเมืองนอก ไม่เคยเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่ไหนมาก่อน เธอเป็นเด็กสาวจากโรงเรียนอาชีวะธรรมดา ๆ ที่รักในวิชาคณิตศาสตร์ และศึกษามันเป็นงานอดิเรกเท่านั้น แต่สามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันที่มาจากสถาบันระดับโลกเป็นร้อย เป็นพัน จนติดอันดับ 12 เป็นหนึ่งในผู้ชนะของรายการปีนี้ได้สำเร็จ 

จากความสำเร็จของเจียง ผิง ในรายการนี้ นอกจากที่เธอจะได้รับเงินรางวัล อย่างน้อย 15,000 ดอลลาร์ (มากกว่า 5.4 แสนบาท) แล้ว ยังส่งให้เธอกลายเป็นคนดังในแวดวงวิชาการจีนในทันที และยังได้รับเสียงชื่นชมจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากในสังคมจีนมักมีค่านิยมว่าเด็กเก่ง ต้องเรียนสายสามัญ ต้องได้เรียนในสถาบันที่มีชื่อเสียง ส่วนเด็กที่เรียนไม่เก่ง หรือสอบเข้าที่ไหนไม่ได้ มักต้องไปเรียนในโรงเรียนอาชีวะ ดังนั้นเรื่องการแข่งขันด้านคณิตศาสตร์รายการใหญ่ระดับนี้ กับเด็กสายอาชีวะ อาจเป็นแค่เรื่องเหมือนฝัน ตัวอยู่ประจวบคีรีขันธ์ แต่ฝันไกลถึงแม่สาย 

แต่กับเจียง ผิง เธอเลือกเรียนสายอาชีวะ ด้านการออกแบบแฟชั่นในโรงเรียนแถวบ้าน เพราะพี่สาว และเพื่อน ๆ ที่สนิทเรียนอยู่ที่นั่น และไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิดอะไร จนกระทั่ง หวาง หลันฉิว อาจารย์สอนคณิตศาสตร์ประจำโรงเรียนค้นพบพรสวรรค์ของเธอ เมื่อเขาให้นักเรียนในชั้นทำข้อสอบเลข จำนวน 150 ข้อ ซึ่งนักเรียนในชั้นทำคะแนนได้แค่ค่าเฉลี่ย 50-60 คะแนนเท่านั้น มีเพียง เจียง ผิง คนเดียว ที่สามารถทำได้เกิน 140 คะแนน 

ความสามารถของเจียง ผิง จุดประกายครูผู้สอนให้เขาฝึกฝน เจียง ผิง ด้วยโจทย์คณิตศาสตร์ขั้นสูงที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ นานถึง 2 ปี และยอมรับว่าเธอเป็นคนมีวินัยสูงมาก ในขณะที่เพื่อน ๆ ของเธอได้พัก ได้เล่นเมื่อเรียนจบคาบ แต่เจียง ผิง ต้องมาเรียนเสริมคณิตศาสตร์ ต้องมานั่งแก้โจทย์ยาก ๆ อย่างไม่ย่อท้อ และไม่เคยบ่นสักคำ

เจียง ผิง บอกว่า เธอชอบคณิตศาสตร์ ถึงบางครั้งมันจะยาก แต่ยิ่งยาก ก็ยิ่งมันส์ และอยากเรียนวิชานี้เรื่อย ๆ ไม่เลิกล้มความตั้งใจแน่นอน ส่วนอนาคตเธอจะไปทำงานอะไรหลังเรียนจบนั้นเธอยังไม่ได้คิด แค่ตั้งใจทำเรื่องนี้ให้เต็มที่

แต่ก็ไม่วาย มีหลายคนกังขาถึงความสามารถที่แท้จริงของเจียง ผิง และจับผิดว่า เธอยังใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ไม่ถูกต้อง คลิปการแก้โจทย์คณิตศาสตร์บนกระดานของเธอไม่น่าเชื่อถือ และคนที่อยู่เบื้องหลังอาจเป็น หวัง หลันฉิว อาจารย์เลขของเธอต่างหาก พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบความสามารถที่แท้จริงของเจียง ผิง ให้เป็นที่กระจ่าง 

แต่ก็มีชาวเน็ตจีนจำนวนไม่น้อยออกมาแสดงความคิดเห็นว่า เป็นเพราะคนจีนมีอคติว่าเด็กอาชีวะ ไม่เก่งเลข และในบางครั้งการตีโจทย์คณิตศาสตร์การใช้ สัญชาตญาณ อาจสำคัญกว่าทฤษฎี ซึ่งเจียง ผิง ก็เพิ่งมาฝึกแก้โจทย์คณิตศาสตร์ขั้นสูงกับครูเลขแค่ 2 ปี ดังนั้นก็ไม่ควรคาดหวังว่าเธอจะต้องเขียนสมการตามกฎ ทฤษฎี ออกมาได้อย่างเป๊ะปัง สมบูรณ์ เหมือนคนที่เรียนตรงด้านคณิตศาสตร์ชั้นสูงในสถาบันอุดมศึกษา

ที่สำคัญ ไม่อยากให้เจียง ผิง รู้สึกท้อจากคำวิจารณ์ในโลกออนไลน์ แต่อยากให้ส่งเสริมพรสวรรค์ของเธอให้เติบโต ประดับแวดวงคณิตศาสตร์ในอนาคต 

และยังเชื่อด้วยว่า น่าจะมีอัจฉริยะหลังเขาอย่างเจียง ผิง ตกหล่นอยู่ในเมืองชนบทจีนอีกมากมาย หากรัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ เราจะพบเจอ 'เจียง ผิง' คนต่อ ๆ ไป มากมายขนาดไหน

เช่นเดียวกับ รามานุจัน เด็กทมิฬในครอบครัวยากจนของอินเดีย ที่เริ่มเรียนวิชาเลขในโรงเรียนประถมเล็ก ๆ ห่างไกลความเจริญเมื่อตอน 10 ขวบ จากหนังสือตรีโกณมิติพื้นฐาน ที่จุดประกายความอัจฉริยะจนกลายเป็นนักคณิตศาสตร์ระดับโลกในเวลาต่อมานั่นเอง