ร.อ.ศิรส ฉายโอภาส (ซูม) นายทหารหนุ่มเลือดใหม่แห่งกองทัพอากาศ

​“ความมานะพยายามไม่เคยทำให้ใครต้องผิดหวัง” เหมือนนายทหารอากาศหนุ่มผู้นี้ “น้องซูม-ร.อ.ศิรส ฉายโอภาส” วัย 32 ปี ผู้มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น “รั้วของชาติ” มาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะมีแรงบันดาลใจจากการศึกษาที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย (รุ่นที่ 81) ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนและเป็นสถาบันที่ปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยและความเป็นสุภาพบุรุษ อีกทั้งรุ่นพี่และคุณพ่อรุ่นพี่เป็นทหารกันหลายคนด้วย จึงมองว่าการเป็นทหารน่าจะตอบโจทย์กับการที่ผมถูกฝึกแบบสไตล์ทหารแต่ทว่าโอกาสยังมาไม่ถึง หลังจากที่พลาดการสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว 

เขาจึงตัดสินใจเบนเข็มสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยสอบติดที่คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา (การวิจัยทางสังคม) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

​น้องซูม เปิดเผยว่า ระหว่างนั้นได้หาประสบการณ์จากการทำงานที่หลากหลาย อาทิ บริษัทเอเยนซี่ และ ธนาคาร จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่คณะบริหารธุรกิจ (การตลาด) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ช่วงนั้นทางผมและครอบครัวได้ช่วยกันหาข้อมูลว่า มีสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการที่ไหนบ้าง ซึ่งเป้าหมายไม่เน้นที่ทหาร แต่เป็นอะไรก็ได้ ขอให้เป็นข้าราชการ เนื่องจากทุกคนมีความคิดเห็นตรงกันว่า เป็นอาชีพมั่นคงและมีสวัสดิการดี สามารถดูแลพ่อแม่และครอบครัวได้ แต่ด้วยความบังเอิญที่การสอบคัดเลือกราชการที่เราเจอคือ กองทัพบก เขาประกาศรับและสอบเลย จึงไม่ทันได้เตรียมตัวดีเท่าที่ควร ก็อกหักตามระเบียบ แต่ก็ทำให้ปลุกจิตวิญญาณการอยากเป็นทหารขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ต่อมากองทัพอากาศเปิดรับสมัคร คราวนี้มีเวลามากขึ้นจึงไปสมัครเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่ง สุดท้ายสมหวังดั่งตั้งใจได้เข้าไปทำงานเป็นทหารรับใช้ชาติในสังกัดกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ และ กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในตำแหน่งนายทหารสื่อสารมวลชน แผนกสื่อสารมวลชน กองประชาสัมพันธ์ สำนักกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์ตามลำดับโดยได้ทำงานที่ใจรักเรื่อยมาถึงปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 7  

​น้องซูม กล่าวว่า จากการทำงานเป็นทหารอากาศนั้น ได้ใช้ความรู้ความวสามารถที่มีอยู่ โดยมีหน้าที่คือ การรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับกองทัพอากาศ บุคคลในกองทัพอากาศ หรือที่เห็นควร จัดทำข่าวสาร บทความ คำชี้แจง ดำเนินการประสานงาน ชี้แจงข้อเท็จจริง ให้คำแนะนำ อำนวยความสะดวกสื่อมวลชนร่วมทำข่าวกิจการของกองทัพอากาศ กำกับและดูแล ในกรณีรับส่งบุคคลสำคัญ ณ ท่าอากาศยานทหาร รวมทั้งการจัดอีเว้นท์ออกไปช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ซึ่งเราเข้าใจความรู้สึกของเขานะ เพราะตัวเราคิดอยู่เสมอว่า เราเป็นทั้งทหารที่ต้องให้ความช่วยเหลือประชาชน และเป็นทั้งประชาชนที่รู้ว่า มีความคาดหวังอยากให้ทหารช่วยเหลือเรื่องอะไรบ้าง ทำให้การสื่อสารออกไปได้ง่าย เขาเข้าใจทหาร

​“สำหรับความประทับใจในอาชีพทหารคือ เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีเกียรติ ประชาชนให้การยอมรับ เพราะทุกครั้งที่มีเรื่องเดือดร้อนอะไร ทหารจะเป็นหน่วยงานและที่พึ่งแรก ๆ ที่เข้าไปถึงและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ส่วนในหลักการทำงานนั้น คุณพ่อสุนทร ฉายโอภาส จะสอนลูกอยู่เสมอว่า เวลาได้รับผิดชอบให้ทำงานอะไรไม่มีคำว่าเดี๋ยว ต้องลงมือทำทันที อย่าทำตัวเป็นดินพอกหางหมู ทั้งนี้เราจะได้มีเวลาทำงานมากขึ้นและรู้ว่าปัญหาอุปสรรคมีอะไรบ้าง ข้อดีข้อเสียเป็นอย่างไร แล้วรีบนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นก่อนที่จะส่งหรือนำเสนอผลงาน”

น้องซูมได้พูดถึงเป้าหมายในชีวิตว่า จะมีการวางแผนชีวิตการทำงาน หากเราอายุในช่วงนี้ควรจะทำอะไรเพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มในตำแหน่งและหน้าที่การงานให้กับตนเอง โดยเฉพาะความรู้ทางด้านกองทัพอากาศ เคยผ่านหลักสูตรการอบรม อาทิ หลักสูตรนายทหารชั้นผู้บังคับหมวด รุ่นที่ 78, หลักสูตรนายทหารประชาสัมพันธ์ รุ่น 37 โรงเรียนกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก, หลักสูตรพัฒนาการสื่อสารยุคดิจิทัล รุ่นที่ 7 สถาบันการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ และ หลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์ รุ่นที่ 7 กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ทั้งนี้เราต้องเตรียมความตัวและตื่นตัวอยู่ตัวเวลา พร้อมที่จะรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายอย่างสุดความสามารถ ตอนนี้ผมสมัครเข้าเรียนโรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง (ระดับนายพัน) และเรียนต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงโรงเรียนเสนาธิการทหาร

​“สิ่งอยากจะฝากกับน้อง ๆ ที่สนใจอยากจะเป็นทหารคือ ให้วางแผนและเตรียมความพร้อมไว้เนิ่น ๆ เอาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เวลาไม่เคยรอใคร  ให้เลือกโรงเรียนทหารที่อยากจะสอบเข้าซึ่งมีหลายแห่ง อาจมีที่สำรองไว้เผื่อกันพลาด สำหรับมุมมองต่อคนรุ่นใหม่นั้นเก่งกว่าคนรุ่นก่อน ๆเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีและความคิดความอ่านแบบก้าวกระโดด ปรับตัวได้ดี อยากเรียนอยากรู้อะไรในอินเทอร์เน็ตมีให้ค้นหาหมด ผมอยากให้รุ่นใหม่ได้นำความรู้มาใช้อย่างสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าครับ”

จากมุมมองและวิสัยทัศน์ของนายทหารหนุ่มผู้นี้สะท้อนให้เห็น่วา อนาคตไกลเป็นดาวประดับวงการทหารอากาศอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน!!