'ปิยบุตร' มอง!! อำนาจการยุบสภาของ 'มาครง' แบบไม่ต้องรับผิดชอบ อาจทำให้เห็น 'ระบอบกษัตริย์แบบสาธารณรัฐ' ในฝรั่งเศสอีกไม่นาน

(11 มิ.ย.67) รศ. ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) มีเนื้อหา ระบุว่า...

[การยุบสภาของ Macron ทำให้มีโอกาสมากที่นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสคนถัดไปจะมาจากพรรคขวาจัด]

รัฐธรรมนูญ 1958 ของสาธารณรัฐที่ 5 + การแก้รัฐธรรมนูญให้ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งโดยตรงในปี 1962 ของเดอโกลล์ (ซึ่งแก้รัฐธรรมนูญโดยวิธีที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ใช้ช่องมาตรา 11 นำไปออกเสียงประชามติโดยไม่ผ่านรัฐสภาก่อน) + แนวปฏิบัติทางรัฐธรรมนูญของประธานาธิบดีแต่ละคนที่บงการนายกรัฐมนตรีได้ 

= ทำให้ระบอบที่เรียกกันว่า 'กึ่งรัฐสภากึ่งประธานาธิบดี' มีแนวโน้มขยับไปเป็น 'กษัตริย์แบบสาธารณรัฐ' หรือ Monarchie républicaine มากยิ่งขึ้น 

กล่าวคือ ประธานาธิบดีมีอำนาจเด็ดขาด โดยไม่ต้องรับผิดชอบ สั่งฝ่ายบริหารได้ สั่งนายกรัฐมนตรีได้แต่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภา แถมมีอำนาจพิเศษแบบ มาตรา 16 อำนาจกดปุ่มนิวเคลียร์ และอำนาจยุบสภาได้ตามอำเภอใจด้วย 

ในระบบรัฐสภา ประธานาธิบดีหรือกษัตริย์ มีอำนาจยุบสภา แต่ไม่สามารถยุบสภาได้ตามอำเภอใจ ต้องมาจากการริเริ่มของนายกรัฐมนตรี และเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนด (ให้นึกถึงกรณี เยอรมนี และ UK) 

ในระบบประธานาธิบดี ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจยุบสภา (ให้นึกถึงกรณี USA) 

เมื่อค่ำวานนี้ Macron ยุบสภา เป็นการใช้อำนาจเด็ดขาดของตนเอง โดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ในทางการเมือง ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะตนเอง ก็ยังอยู่ตำแหน่งต่อถึงปี 2027 

ส่วนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และสภา (ซึ่งเสียงของพรรคฝ่ายค้านก้ำกึ่งกับพรรครัฐบาลพอสมควร) ต้องพ้นจากตำแหน่งหมด ไล่ให้คนอื่น ๆ ไปเลือกตั้งกันใหม่ ส่วนตนเองอยู่ในตำแหน่งต่อ สบายใจ อีก 3 ปี

ฟังสุนทรพจน์แถลงเมื่อวานแล้ว ทำทีว่านี่คือความรับผิดชอบจากผลการเลือกตั้งสภายุโรป นับว่าน่าขยะแขยงทีเดียว รับผิดชอบประสาอะไร ตนเองอยู่ต่อ แต่ให้คนอื่นพ้นจากตำแหน่งหมด และทำให้สภาที่มีเสียงฝ่ายซ้ายก้ำกึ่งกับรัฐบาล หายไปด้วย

(ลองเปรียบเทียบดู ถ้าลองให้ประธานาธิบดีเยอรมนี หรือกษัตริย์อังกฤษ ยุบสภา ได้ตามอำเภอใจ อะไรจะเกิดขึ้น) 

นี่คือ จุดอ่อนของรัฐธรรมนูญ 1958 นับวัน ประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะกลายสภาพเป็นกษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิ เพียงแต่ว่ามาจากการเลือกตั้งทุก 5 ปี เท่านั้น 

การยุบสภาของ Macron จะยิ่งทำให้พรรคขวาจัดได้ที่นั่งในสภามากขึ้น อารมณ์ผู้คนต้องการคนมาถ่วงดุลกับ Macron และคนที่มีกระแสสูง (ดูจากผลการเลือกตั้งล่าสุด 9 มิ.ย.) ก็คือ Jordan Bardella นักการเมืองหนุ่ม ผู้เชี่ยวชาญการใช้สื่อโซเชียล โดยเฉพาะ TikTok วัย 28 ปี จากพรรคขวาจัด Rassemblement national (RN) นั่นเอง 

พรรค RN เตรียมประกาศแคมเปญ เลือกตั้ง สส.30 มิ.ย. นี้ คือ การเลือกให้ Bardella เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นไปได้ว่า ก่อนฤดูร้อนนี้ เราจะเห็นประเทศฝรั่งเศส มีนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคขวาจัด และเสียงข้างมากในสภา มาจากพรรคขวาจัด 

ส่วน Macron ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ เอารัฐธรรมนูญมาใช้เป็นเครื่องมือ ให้ประโยชน์แก่ตนเองสูงสุด ลอยตัวอยู่เหนือความรับผิดใดๆ เป็นประธานาธิบดีหล่อๆ เท่ๆ พูดจาคำใหญ่โตสวยๆ ทิ้งทวน 3 ปีสุดท้าย สบายใจเฉิบ (ครบสองวาระ ลงเลือกตั้ง 2027 ไม่ได้แล้ว) 

พอถึงปี 2027 อาจเห็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสมาจากพรรคขวาจัด