ธงสีรุ้งโบกสะบัด! ‘จิราพร’ ร่วมฉลอง ‘ภูเก็ต ไพรด์ 2024’ ชวนนับถอยหลังรอ ‘กฎหมายสมรสเท่าเทียม’ ฉลุยด่าน สว.

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2567 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรม ‘ภูเก็ต ไพรด์ 2024 (Phuket Pride 2024)’ ณ เทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ภายใต้บรรยากาศการเฉลิมฉลองที่ดำเนินไปอย่างคึกคัก 

เวลาประมาณ 19.50 น. นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับการจัดกิจกรรม ‘ภูเก็ต ไพรด์ 2024’ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน และได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นเดินหน้ายกระดับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศให้เป็นรูปธรรมของรัฐบาล อันสืบเนื่องมาจากคำมั่นของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศไว้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ว่า ‘จะผลักดันให้มีกฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของกลุ่มหลากหลายทางเพศ’  เพื่อไม่ให้มีใครต้องถูกกีดกันจากเงื่อนไขทางเพศสภาพและเพศวิถี 

ในตอนหนึ่ง นางสาวจิราพร ยังย้อนให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นแนวคิดเรื่องการผลักดันสิทธิทางกฎหมายให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถสมรสกันได้ตามกฎหมาย ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2544 ใต้รัฐบาลไทยรักไทย แม้ว่าในเวลานั้นแนวคิดดังกล่าวไม่อาจฝ่าแรงเสียดทานทางสังคมไปได้ กระนั้นต่อมายังคงมีความพยายามผลักดันประเด็นนี้ต่ออีกครั้งในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทว่าน่าเสียดายที่กระบวนการผลักดันข้างต้นไปไม่ถึงฝั่งฝันอีกครั้งเพราะการรัฐประหาร 

นางสาวจิราพร ระบุว่า การเดินทางอันยาวนานกว่า 23 ปี วันนี้ที่ประเทศไทยเดินเข้าใกล้ความสำเร็จในการผลักดัน พรบ. สมรสเท่าเทียม ได้นั้น นอกจากความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการผลักดันกฎหมายฉบับนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การทำงานหนักของภาคประชาชนในการสร้างความตระหนักรู้และสร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคม ก่อนย้ำว่า Pride Month ปี 2567 เป็นหนึ่งในปีที่พิเศษมาก เนื่องจาก ทราบข่าวว่าในวันที่ 18 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ‘พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม’ กำลังจะผ่านเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา

“อีกเพียงไม่กี่วัน ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่มีกฎหมายรับรองการแต่งงานของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ชัยชนะนี้เป็นของทุกคน ขอขอบคุณภาคประชาชน พรรคการเมืองฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทุกพรรค ส่วนราชการทุกภาคส่วน  พี่น้องชาวไทยทุกท่าน ทีร่วมกันเดินหน้าปักธงสีรุ้งในประเทศไทย ทุกท่านคือผู้ที่จะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยร่วมกัน ทําให้ทั้งโลกได้รู้ว่า ประเทศไทยคือประเทศที่ เปิดรับ โอบรับ และยอมรับ ความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย” นางสาวจิราพร กล่าว