‘พิธา’ ชี้ ควรตรวจสอบ ‘ข้าว 10 ปี’ ด้วยห้องแล็บ ย้ำ!! น่าเชื่อถือกว่าการกินโชว์ พร้อมตั้งข้อสงสัย ทำไมไม่พูดถึงการส่งออกข้าวในภาพใหญ่ แต่มาเจาะในภาพย่อย

เมื่อวานนี้ (10 พ.ค.67) ที่ร้าน Sol Bar Chaingmai อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ร่วมเวทีเสวนา เปิดรายงานก้าวไกล สถานการณ์ไฟป่า-ฝุ่นพิษ 67 และข้อเสนอต่อรัฐบาล

โดย นายพิธา ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีการพยายามนำข้าวในโครงการการจำนำข้าว ที่ค้างอยู่ในโกดัง 10 ปี ออกมาขายและมีการให้สื่อมวลชนร่วมรับประทาน โดยนายพิธา บอกว่า ตนเข้าใจในภาพย่อย แต่สงสัยในภาพใหญ่ ภาพย่อยคือข้าวที่ค้างมา 10 ปี เริ่มต้นมาก็น่าจะกินได้ แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบทางด้านวิทยาศาสตร์ มีการจะเริ่มเปิดประมูล มีการส่งออกไปแอฟริกา นี่เป็นภาพย่อยที่ฟังมาเรื่อย ๆ ถ้าข้าวที่เก็บไว้ในโกดัง หรือในไซโล มีมอดหรือไม่มีมอด เป็นเรื่องรายละเอียดที่เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน แต่สงสัยในภาพใหญ่ว่า 

ในปีนี้ข้าวมีรอส่งออก เดาว่าน่าจะหลายสิบตัน แต่ภาพใหญ่อยู่ดี ๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่พูดถึงเรื่องการส่งออกข้าว ในภาพใหญ่ แต่มาเจาะจงในมูลค่า 270 ล้านบาท ในภาพย่อย คือตนไม่เข้าใจภาพใหญ่ว่า ต้องการจะอธิบายว่าไม่มีปัญหา หรือว่าต้องการจะปิดบัญชี หรือจะบอกว่าโครงการจำนำข้าวไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด เพราะไม่มีเสียหายเลย สามารถส่งออกได้ ต้องถามจุดประสงค์ในการพูด ถ้าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พูดถึงเรื่องอุตสาหกรรมข้าวไทยในปีนี้เป็นภาพใหญ่ ตนพอจะเห็นภาพอยู่ ซึ่งถ้าพูดมาทั้งหมดแล้ว มาพูดเรื่องนี้ตนพอจะเข้าใจอยู่ แต่ตนไม่เข้าใจว่าอยู่ดีๆ เรื่องนี้ถึงโผล่ขึ้นมา ตนเลยอยากฝากสื่อมวลชน ไปถามคณะรัฐมนตรี ที่ก็ยังถูกถามว่ากล้ากินไม่กล้ากิน แล้วทำไมต้องมาทดลองกินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็เป็นกำลังใจให้รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการแก้ไขปัญหานี้ 

นายพิธา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการตรวจสอบข้าว เราตรวจสอบด้วยวิทยาศาสตร์ได้ ว่ามีสารทางเคมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าพิสูจน์ทางกายภาพได้ ของแบบนี้มีห้องแล็บที่พิสูจน์ได้ หลายๆ มหาวิทยาลัยในประเทศพิสูจน์ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาลองกินข้าว ว่าอร่อยหรือไม่อร่อย เพราะเรื่องรสชาติเป็นเรื่องของแต่ละคน เรื่องข้าวพิสูจน์ผ่านวิทยาศาสตร์ได้ ไม่ต้องมาเถียงกันผ่านสื่อ