‘วิชัย ทองแตง’ เดินหน้าขจัดฝุ่นพิษ เล็งสร้างโรงงานชีวมวลอัดเม็ดทั่วภาคเหนือ  หวังสกัดการเผา - เปลี่ยนเศษซากการเกษตรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.66) จากเฟซบุ๊ก ’Akom Suwanganta‘ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

‘วิชัย ทองแตง’ Godfather of Startup - SMEs และบทบาทแก้ปัญหา PM 2.5 ด้วยโมเดลหยุดเผาเรารับซื้อ ลุยสร้างโรงงานชีวมวลอัดเม็ด 3,500 ล้านบาททั่วภาคเหนือ 

“ผมต้องมาเชียงใหม่บ่อยขึ้น เพราะวางภารกิจสำคัญในสิ่งที่ตัวเองทำได้ คือการเป็นส่วนหนึ่งในกลไกแก้ไขปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือ เพราะเป็นกับดักสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจที่เนิ่นนาน และเป็นอุปสรรคสำคัญของสุขภาพ และการเติบโตของเมืองสู่ Wellness” เป็นการเปิดบทสนทนาของชายวัย 77 ที่มีพลังและความมุ่งมั่นด้วยแก่นแกนความคิดว่า การทำงานมี 2 เรื่อง คือเรื่องที่ตัวเองทำได้ I can do และสิ่งที่ทำไม่ได้ I cant do เรื่องไหนที่ทำได้ก็ต้องทำเลย 

พร้อมยกตัวอย่างการทำงานเชิงปฏิบัติการในพื้นที่ภาคเหนือ 2 เรื่อง ที่ได้ทำไปแล้วคือ โครงการหยุดเผาเรารับซื้อ ด้วยการรับซื้อซังข้าวโพดจากเกษตรกร สกัดการเผาทำลายซังข้าวโพด สาเหตุสำคัญที่เกิด PM 2.5 เน้นที่การบริหารจัดการเศษวัสดุการเกษตร นำมาแปรเป็นชีวมวลอัดแท่งหรือปุ๋ยอินทรีย์ รวมถึงสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการป้องกันไฟป่า ปรับระบบการทำการเกษตรอย่างครบวงจรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยนำมาแปรรูปเป็นชีวมวลอัดแท่งส่งไปสู่ระบบคาร์บอนเครดิต 

โดยนำร่องลงทุน 350 ล้านบาท สร้างโรงงานบริษัท ชีวมวลอัดเม็ด จอมทอง จำกัด ด้วยมาตรฐานระดับโลก พร้อมจะรับซื้อซังข้าวโพดตันละ 800-1,000 บาท มาอัดเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดสีดำ หรือ Black Pellet ที่ตลาดในญี่ปุ่น และในประเทศมีความต้องการสูง และมีแผนที่จะสร้างอีก 10 โรงงานชีวมวลที่ เชียงราย แพร่ อุทัยธานี กระจายตัวทั่วภาคเหนือ

เรื่องที่สอง คือ ได้เล่าถึงคุณปุ่น (Naruemon Taksaudom) ในการสนับสนุนกาแฟฮิลล์คอฟให้เข้าสู่กระบวนการ #NeutralCarbon #Coffee ผลิตภัณฑ์กาแฟคาร์บอนต่ำแห่งแรกในประเทศไทย เกิดได้ในระบบ T-ver โดยทีม Green Standard payoff

คุณวิชัยเล่าแลกเปลี่ยนในวงกาแฟว่าแรงบันดาลใจหลังจากนี้คือจะเน้น 3 เรื่องคือ การศึกษาจะเดินสายบรรยายฟรีทั่วประเทศด้วยทุนของตนเอง สองการเกษตรจะเดินสายบรรยายองค์กรการเกษตร และโชห่วย การเตรียมออกแบบ Platform เพื่อช่วย SME คนตัวเลขในการคงวิถีค้าปลีกไทยที่นับวันจะลดลงตามอัตราเร่งของร้านสะดวกซื้อ

ส่วนงานด้านการลงทุน จะเน้นเรื่อง Digital Tranformation ที่ได้ทำบทบาทเป็นพ่อทูนหัวของ Start up-SME ในทำนอง Angle Fund ร่วมทุน ไม่ใช่เป็น VC แต่จะลงลึกไปในด้านการเสริมประสบการณ์ไปพร้อมกัน มีแผนที่จะผลักดันบริษัทสตาร์ตอัปเข้าตลาดหุ้นได้ ประมาณ 2 บริษัท โดยจะไม่ถือหุ้นใหญ่เกิน 50% อาจจะถือหุ้นแค่ 20-30% และไม่เข้าไปบริหาร แต่ต้องยึดหลักการ 3 ด้านคือ จะไม่ใช้เทคโนโลยีเพื่อโกงหรือหลอกลวงผู้อื่น สองเราจะเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดี และเราจะแบ่งปันความรู้ และโอกาสแก่ผู้ที่ด้อยกว่า

สูตรการเลือกสตาร์ตอัป คือ ขอให้มี 2G ก่อน G แรกคือ Growth ต้องมีการเติบโต รายได้มากน้อยไม่ว่ากัน และ G ที่สอง คือ Gain ต้องมีกำไร เพราะนั่นแปลว่าเข้าใจวิธีการบริหารและต้นทุนธุรกิจดีถ้ามี 2G แล้ว ผมก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก จากนั้นก็จะหาช่องทางระดมทุน หรือแนะนำกลุ่มเวนเจอร์แคปปิตอล (VC) พร้อมทั้งช่วยวางแผนทางการเงินให้

พร้อมยกตัวอย่างสตาร์ตอัปที่ได้ไปร่วมสนับสนุนทุน Platform หลายตัว ที่ต้องตั้งเป้าให้เกิด Unicorn ของไทยเพิ่มอีก 1 ตัว ยกตัวอย่างมีหลาย Start up ที่ทยอยมา Pitch การเกษตร Smart Farmer เช่น Farmbook เป็น ‘กระดานเทรดข้าว’, Invitrace, รวมถึงด้าน Smart City ที่จะลงทุนที่นิมมานเหมินท์แห่งแรกที่จะตอบโจทย์แก้ไขปัญหาหลายด้านผ่านดิจิทัล Platform ด้วยการร่วมมือกับ NT นอกจากนั้นก็จะมีธุรกิจที่ใช้ AI ก็มีสตาร์ตอัปที่บริหารโหลดสำหรับการชาร์จไฟฟ้าของรถอีวี เพราะรถอีวีเวลาชาร์จไฟครั้งหนึ่งเท่ากับติดแอร์พร้อมกัน 10 ตัว ทำให้โหลดกระชากมาก

‘วิชัย ทองแตง’ ได้ประกาศ New Chapter ตอนอายุ 70 คือ สร้างคนเป็นหลัก ไม่เน้นสร้างเวลท์ (ความมั่งคั่ง) โดยเคลื่อนตัวผ่าน ‘วิชัยกรุ๊ป’ และในฐานะที่ปรึกษาโรงพยาบาลพญาไท ยืนยืนว่าไม่ได้ทิ้งธุรกิจด้านสุขภาพ (healthcare) เพราะเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงสูงมากประเภทธุรกิจที่ให้ความสำคัญ อีกทั้งยังกล่าวว่า จะเป็น ’เมกะเทรนด์‘

นอกจากเรื่องเทคโนโลยีบล็อกเชนแล้ว ก็ยังมีธุรกิจคาร์บอนเครดิต ซึ่งเตรียมจะเปิดตัวแถลงข่าวใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยบริษัทนี้จะมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบการเคลมคาร์บอนเครดิตได้สูงขึ้น และมีตลาดรองรับ ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี