‘ก้าวไกล’ เผย ‘รถเมล์อนาคต’ วาระแรก ผ่านสภา กทม.แล้ว ดันกฎหมายรถเมล์ไฟฟ้าทั้งกรุงเทพฯ ภายใน 7 ปี

(11 เม.ย. 66) เฟซบุ๊กแฟนเพจหลักของ ‘พรรคก้าวไกล - Move Forward Party’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ถึงประเด็นร่างกฎหมายรถเมล์อนาคต โดยมีเนื้อหาระบุว่า…

[ร่างกฎหมายรถเมล์อนาคต ผ่านสภา กทม. วาระ 1 ด้วยคะแนนเสียง 33-3 เป็นความสำเร็จของ ส.ก.ก้าวไกล ที่ผลักดันกฎหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคน กทม. ลดฝุ่น ลดโลกร้อน ได้รถเมล์ดีมีคุณภาพ]

ส.ก.พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล ในฐานะ ส.ก.คนสำคัญที่ผลักดันข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต เปิดเผยว่าเนื้อหาสำคัญของกฎหมาย ‘รถเมล์อนาคต’ คือการเปลี่ยนรถเมล์สันดาป เป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) ภายใน 7 ปี

นายพุทธิพัชร์ กล่าวว่า กลไกของข้อบัญญัตินี้ ไม่ได้บังคับผู้ประกอบการเดินรถโดยตรง แต่เป็นการบอกว่า “เฉพาะรถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่สามารถเดินทางได้ภายในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร”

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภา กทม. จะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 1 ปี ถ้าพ้นจาก 1 ปีไปแล้ว นอกจากรถเมล์ที่ยังมีสัมปทานเดินรถ รถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่จะสามารถเดินทางสัญจรได้ในพื้นที่ กทม.

ส่วนรถเมล์ที่มีสัมปทานเดินรถเดิม ก็จะทยอยหมดอายุสัมปทาน ซึ่งอายุสัมปทานนานที่สุดที่มีการต่อคือ 7 ปี นั่นหมายความว่าภายใน 7 ปี รถเมล์ทั้งหมดที่วิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเป็นรถเมล์ EV ทั้งหมด

นายพุทธิพัชร์ ยืนยันว่า ข้อบัญญัติที่สภา กทม. ทำไม่ใช่การจำกัดสิทธิเสรีภาพของเอกชน แต่เป็นการใช้อำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยืนยันว่าเราไม่อนุญาตให้รถที่ไม่ผ่านมาตรฐานเดินทางเข้ามาในพื้นที่ กทม.

“เรื่องนี้เป็นการใช้อำนาจของท้องถิ่นปกป้องชีวิตคนในเมือง ในอดีตก็เคยมีการใช้อำนาจแบบเดียวกันมาแล้วในสมัย อดีตผู้ว่าฯ กทม. พิจิตร รัตกุล ที่เคยสั่งห้ามรถเมล์ที่ก่อมลพิษเกินค่ามาตรฐานเข้ามาวิ่งในกรุงเทพฯ” นายพุทธิพัชร์ กล่าว

ข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต หลังจากที่ผ่านวาระ 1 รับหลักการในวันนี้แล้ว คาดว่าจะผ่านวาระ 3 ได้ในสมัยประชุมหน้า ต้นเดือนกรกฎาคม 2566 ที่จะถึงนี้ หลังจากที่ข้อบัญญัติ ‘รถเมล์อนาคต’ ผ่าน นายพุทธิพัชร์ เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลเราจะเดินหน้าต่อในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นร่างแก้ไขข้อบัญญัติควบคุมอาคาร ที่จะมีข้อกำหนดเรื่องการควบคุมการปล่อยความร้อนและพื้นที่สีเขียว หลังจากนั้นเราจะเดินหน้าต่อเรื่องการลดการปล่อยฝุ่นควัน PM2.5 จากแหล่งอื่น ๆ

“ปัญหาสิ่งแวดล้อมของคนกรุงเทพฯ เป็นปัญหาที่เรารอไม่ได้ ทุกวันนี้คนกรุงเทพฯ แม้แต่คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ก็กำลังสูดมลพิษทางอากาศเข้าไป เท่ากับสูบบุหรี่วันละ 3.2 มวน อากาศในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ทุกคนใช้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ข้อบัญญัติแบบนี้จึงสมควรมีตั้งนานแล้ว” นายพุทธิพัชร์ กล่าว

นอกจากนี้ ‘Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานคณะก้าวหน้า ได้แสดงความเห็นต่อความสำเร็จของพรรคก้าวไกลในสภากรุงเทพฯ ว่า กฎหมายรถเมล์อนาคตผ่านสภากรุงเทพฯ เป็นการเปิดมิติใหม่ในการพัฒนาเมือง

รถเมล์ไฟฟ้าจะช่วยเรื่องการลดมลพิษทางอากาศ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนกรุงเทพฯ ตนภูมิใจมากที่พรรคก้าวไกลเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ และผลักดันจนเป็นกฎหมายเมืองออกมาได้สำเร็จ และมากไปกว่านั้น กฎหมายเมืองฉบับนี้คือมิติใหม่ของการเมืองท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ที่ผ่านมา เราแทบไม่เคยเห็นกรุงเทพ, อบจ. จังหวัดต่าง ๆ, เทศบาล หรือ อบต. เสนอกฎหมายเพื่อการพัฒนาบ้านเมืองตัวเองเลย การพัฒนาล้วนแต่ถูกกำหนดกฎเกณฑ์และรูปแบบผ่านส่วนกลาง

นายธนาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์ของการพัฒนาท้องถิ่น เป็นการเปิดประตูบานใหม่ เป็นการเพิ่มเครื่องมือในการพัฒนาเมืองให้กับท้องถิ่น

“ผมหวังว่าในอนาคต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ จะนำเครื่องมือนี้มาใช้พัฒนาบ้านเมืองตัวเองมากขึ้น และผมหวังว่าคนกรุงเทพจะเห็นถึงความตั้งใจของพรรคก้าวไกล ทั้งในการดูแลประชาชน ดูแลสิ่งแวดล้อม และมลพิษทางอากาศ และในทางความพยายามที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่คนมักคิดว่าเป็นไปไม่ได้

นี่คือการพิสูจน์แนวทางการทำงานของพรรคก้าวไกล ว่าเป็นไปได้ และสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง” นายธนาธร กล่าวทิ้งท้าย

#พรรคก้าวไกล #รถเมล์ไฟฟ้า


ที่มา : https://www.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/posts/pfbid0irLfqUd7TL4oyeh6qah1AKzbe6ccihwxm4wjTdug4meoLfYro86fFz25pqkJ7edl