‘ชลน่าน’ เผยไม่ใส่ใจวันยุบสภา เคาะปาร์ตี้ลิสก่อน 1 เม.ย. เมิน ‘ก้าวไกล’ เหน็บ ชี้!! พูดยกตัวเองข่มคู่แข่ง คือเรื่องปกติ

‘ชลน่าน’ เย้ยไม่ใส่ใจแล้วยุบสภาวันไหน เผย เตรียมเคาะลำดับปาร์ตี้ลิสต์ให้เสร็จ 1 เม.ย. ส่วน แคนดิเดตนายกฯ5 เม.ย. เห็นควรนายกฯ ควรเป็นส.ส. เมิน ก้าวไกลปราศรัยเหน็บ มอง เป็นสีสันทางการเมือง

(19 มี.ค.66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวยุบสภาในวันที่ 21 มี.ค. หรือ 22 มี.ค.ว่า เราไม่ได้ใส่ใจอะไรแล้ว เพราะยังไงวันสุดท้ายก็วันที่ 23 มี.ค. ซึ่งหากจะยุบวันสุดท้ายก็คือวันที่ 22 มี.ค. แต่เราก็เตรียมความพร้อมการเพื่อการเลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เรายึดวันที่ 20 มี.ค. เป็นเกณฑ์ ซึ่งหากมีการยุบสภาวันที่ 20 มี.ค. วันที่ 3-7 เม.ย. จะมีการเปิดรับสมัครส.ส.แบบเขต วันที่ 4-7 เม.ย. มีการเปิดรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ ฉะนั้น เราต้องจัดไทม์ไลน์ให้สอดรับกับเรื่องนี้

ถามว่า นายกฯ เคยบอกว่าจะไม่มีการยุบสภาในวันเกิด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แล้วแต่ว่าจะเป็นวันที่เท่าไหร่ เพราะเราก็ไม่ได้ใส่ใจแล้ว แต่ไทม์ไลน์ของเราก็คาดการณ์ว่านายกฯจะยุบสภา เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า หากมีการยุบสภาและมีการเปิดรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อในวันที่ 4 เม.ย. พรรคเพื่อไทยจะประกาศส.ส.บัญชีรายชื่อให้ครบก่อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เนื่องจากมีข้อกฎหมายกำหนดว่าต้องไปรับฟังความเห็นหรือทำไพรมารี่โหวตในพื้นที่เลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้จังหวัดหนึ่งสามารถทำไพรมารี่โหวตได้ 1 จุด ก็สามารถส่งผู้สมัครเขตได้ทุกเขต ขณะเดียวกันระบบบัญชีรายชื่อ คณะกรรมการสรรหาต้องส่งระบบบัญชีรายชื่อไปให้แต่ละเขตเพื่อทำไพรมารี่โหวตด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่ามีการทำการโหวตภายในวันที่ 26-28 มี.ค. ทั้งนี้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยส่งไปโดยเรียงตามลำดับอักษร วิธีที่เห็นชอบอาจเห็นชอบรายบุคคลหรือทั้งหมดเลยก็ได้

ถามต่อว่า ระบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด จะเสร็จภายในวันที่ 28 มี.ค. แต่การเรียงลำดับจะเสร็จเมื่อไหร่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารจะมีหน้าที่ตัดสินเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งหากคณะกรรมการสรรหารับมติการทำไพรมารี่มาแล้วเขาก็จะนำเข้ามาสู่กระบวนการจัดลำดับ และส่งให้กรรมการบริหารให้ความเห็นชอบ และเราตั้งใจว่าจะประชุมกรรมการบริหารไม่เกินวันที่ 1 เม.ย. และเราต้องทำเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนการรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ

เมื่อถามว่าคนที่เป็นแคนดิเดตนายกฯจำเป็นต้องอยู่ในส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับต้นๆหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคว่ามีความเห็นอย่างไร ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยกำหนดไว้ว่าวันที่ 5 เม.ย. จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรค ตัวแทนสาขาพรรคการเมืองสาขาประจำจังหวัด ประธานสาขาพรรคและเราจะตัดสินวันนั้น

“คนที่เป็นแคนดิเดตนายกฯจำเป็นที่จะต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น เรื่องนี้พรรคยังไม่ได้คุยกัน แต่ส่วนตัวตนเห็นว่าควร เพราะเราเคยยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้มาแล้ว อย่างไรก็ตามคนที่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนนายกฯต้องได้รับความยินยอม”

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงกรณีหากพรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯ จำเป็นต้องเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ เขาน่าจะแยกกันว่านี่คือผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ จริง ๆ ร้องขอหากพล.อ.ประยุทธ์ เปิดช่องว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ก็ควรให้ความสำคัญกับสภาด้วย หากจะมาเป็นผู้แทน คุณจะรู้เห็นว่าสภามีความเห็นอย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคเพื่อไทยไม่เลือกเขาลงส.ส. นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เขาเคยเสนอเจตจำนงว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย เขตสายไหม กทม. ซึ่งเป็นแค่การเริ่มต้นและเราได้มีการพิจารณากันซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วเห็นว่าเขาไม่มีความชัดเจน ว่าจะมาจริงหรือไม่เพราะคณะกรรมการมีข้อมูลเรื่องความสัมพันธ์กับอดีตส.ส. รวมถึงเรื่องคุณสมบัติ ที่อาจจะสุ่มเสี่ยงหากรับเขาเข้ามาจึงปฏิเสธไป

ถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลกล่าวบนเวทีปราศรัยว่าพรรคก้าวไกลคือพรรคเดียวที่เป็นประชาธิปไตย นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นสีสันทางการเมือง ในมุมของตนถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาเวทีปราศรัยเป็นเวทีรณรงค์หาเสียงกับพี่น้องประชาชน อะไรที่สามารถยกตัวเองเด่นให้ได้ และสามารถที่จะกดคู่แข่งทางการเมืองได้ ในเวทีปราศรัยมักจะใช้ค่อนข้างแพร่หลาย ยกเว้นแต่บางคนที่เค้าคิดว่าวิธีการเหล่านี้มันไม่ควรนำมาใช้ ถ้าจะพูดถึงข้อด้อยของคู่แข่งก็พูดตรง ๆ ไปว่าเขามีข้อด้อยอะไร ไม่ควรเลือกเขาเพราะอะไร อันนี้เรารับกันได้ และตนก็ไม่ได้ติดใจในประเด็นนี้ จะพิสูจน์ว่าใครเป็นประชาธิปไตยหรือไม่เป็นประชาธิปไตยอยู่ที่การกระทำและการยอมรับจากพี่น้องประชาชน


ที่มา : https://www.thaipost.net/politics-news/344566/