ตามที่นโยบายอธิบดีกรมป่าไม้ปลัดทส.และรมวทส.ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เข้มงวดกวดขันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่านั้น

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 ผู้อำนวยการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่1เชียงใหม่ได้สั่งการให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.13 (สันป่าตอง) ร่วมกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่วาง เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่วาง ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบสถานที่ที่สืบทราบว่าเป็นผู้มีอิทธิพลลักลอบทำไม้ในเขตพื้นที่ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้เข้าตรวจสอบร่วมกัน จากการตรวจสอบพบเพิงพักที่ทำขึ้นชั่วคราวจำนวน 2 หลัง พบไม้แปรรูปกองอยู่ข้างเพิงพักเป็นจำนวนมาก และพบปีกไม้ ปลายไม้กองกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ ใกล้ๆ กับกองไม้แปรรูปพบมีเลื่อยวงเดือนและอุปกรณ์การแปรรูปไม้หลายรายการ ซึ่งลักษณะพื้นที่โดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุมีสภาพเป็นป่าจึงเชื่อได้ว่าไม้แปรรูปดังกล่าวลักลอบตัดมาจากป่าบริเวณใกล้ๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบด้านในเพิงพักพบ กระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 100 นัด กระสุนปืนไรเฟิล ขนาด 7.62 X 63 มม. จำนวน 16 นัด ซองกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 2 ซอง และกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มม. จำนวน 1 ลูก วางอยู่ที่พื้นบ้าน นอกจากนี้ยังพบกล้องวงจรปิดพร้อมอุปกรณ์ (จอมอนิเตอร์, ฮาร์ดดิส) โดยต่อพ่วงไฟฟ้ามาจากหม้อแบตเตอร์รี่ ซึ่งกล้องวงจรปิดดังกล่าวเปิดอยู่และสามารถใช้การได้ สามารถมองเห็นพื้นที่โดยรอบ จึงเชื่อได้ว่าขณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบผู้กระทำผิดได้มองเห็นเจ้าหน้าทึ่ผ่านกล้องวงจรปิดจึงได้ทำการหลบหนีไป 

เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขานและป่าแม่วาง ซึ่งทางราชการกรมป่ไม้ได้ประกาศให้ป่าแม่ขาน และป่าแม่วางในท้องที่ตำบลแม่วิน ตำบลบ้านกาด ตำบลดอนเปา ตำบลทุ่งปี้ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขานและป่าแม่วาง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 368 (พ.ศ. 2511) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2511 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 85 ตอนที่ 111 บ้านหลังดังกล่าวปลูกสร้างขึ้นมาใหม่อันเป็นผลพวงมาจากการบุกรุกพื้นที่ป่าโดยพลการ ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้เข้ามาอยู่อาศัยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และทำการลักลอบตัดไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ ชักลากและนำไม้ออกมาจากป่าแล้วทำการแปรรูปไม้อยู่บริเวณบ้านที่กำลังก่อสร้างใหม่ โดยมีเจตนาที่จะยึดถือครอบครองที่ป่าเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โดยจะอ้างอิงสิ่งปลูกสร้างเป็นหลักฐานการครอบครองที่ดินพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของกรมป่าไม้ จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางประกอบด้วย

1. ไม้สักแปรรูป จำนวน 4 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.085 ลบ.ม.
2. ไม้หวงห้าม (ประดู่) แปรรูป จำนวน 3 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.123 ลบ.ม. 
3. ไม้หวงห้าม (ซ้อ) แปรรูป จำนวน 6 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.336 ลบ.ม. 
4. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 100 นัด
5. เครื่องกระสุนปืนไรเฟิล ขนาด 7.62 X 63 มม. จำนวน 16 นัด
6. ซองกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 2 อัน
7. เครื่องกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มม. จำนวน 1 ลูก
8. อุปกรณ์การแปรรูปไม้ โต๊ะแท่นวงเดือนติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและใบเลื่อยวงเดือนขนาด 14 นิ้ว จำนวน 1 ชุด

9. สว่านไฟฟ้า ยี่ห้อ BLACK DECKER สีส้ม จำนวน 1 เครื่อง
10. เครื่องฉลุไม้ไฟฟ้า ยี่ห้อ BOSCH สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง
11. เลื่อยมือ จำนวน 2 ปึ้น
12. ขวาน จำนวน 1 เล่ม
13. เหล็กฉาก จำนวน 1 อัน
14. เครื่องขัดไม้ไฟฟ้า (ลูกหมู ยี่ห้อ ฮิตาชิ จำนวน 1 เครื่อง

ดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่วาง โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 
- มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 ฐาน "ทำไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ "
- มาตรา 48 ประกอบ มาตรา 73 ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ทำไม้, มีไม้หวงห้ามชนิดอื่นแปรรูปมีปริมาตรเกิน 0.2 ลบ.ม. ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559
- มาตรา มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 (มาตรา 13) ฐาน "ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่"
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธ พ.ศ. 2490 ฐาน
- มีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย