จับตา 'บิ๊กแป๊ะ' ป.ที่ 4 เคลื่อนตัวสู่การเมืองระดับชาติ อาจถึงขั้นแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ

'บิ๊กแป๊ะ' คัมแบ็ค จากนายตำรวจขาลุย ได้เวลาการเมืองสนามใหญ่ เตรียมจับสัญญาณหลัง 30 กันยา ลือหนัก ว่าที่แคนดิเดตนายกฯจากพรรคพลังประชารัฐ!? หลังแอบซุ่มทำงานเบื้องหลัง กว่า 2 ปี

ถึงแม้จะห่างหายจากทางการเมืองไปนาน เนื่องจากกฎหมายที่ต้องให้ ส.ว. เว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี จนหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า นอกเหนือจาก 3 ป. แล้ว ยังมีอีกหนึ่ง ป. นั่นคือ บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่จะสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อีกครั้ง ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ครบรอบ 2 ปี หลังเกษียณอายุราชการ ซึ่งลือกันอย่างหนาหูว่า บิ๊กแป๊ะ จะหวนคืนสู่สนามการเมืองอีกครั้ง หลังจากศึกการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่ยอมถอยให้ พี่วิน พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งในต้นปีที่ผ่านมา

ไม่นานมานี้ เฟซบุ๊กเพจ 'การเมือง Kanmuang' ได้เปิดเผยถึง ประวัติของบิ๊กแป๊ะที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา ไว้ว่า...

บิ๊กแป๊ะ เป็นลูกชายของ นายประณีต ชัยจินดา นักธุรกิจค้าอาหารทะเล และนายหน้าค้าที่ดินแห่งเมืองอ่างศิลา กับนางสมศรี ชัยจินดา ทางด้านชีวิตรักสมรสกับ ดร.บุษบา ชัยจินดา ทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยศรีปทุม มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ พ.ต.ต ชานันท์ ชัยจินดา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผบ.ร้อย กองกำกับการที่ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และ ชัยธัช ชัยจินดา นักเรียนดรีกรีนอก สาขาโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกา

>> นายตำรวจดาวรุ่งพุงแรงอนาคตไกล 'เกือบ' ไม่ได้เป็น 'ผบ.ตร.' เพราะพิษการเมือง
ชีวิตการทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นตั้งแต่เด็ก ภายหลังจากจบการศึกษาที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย จากนั้นเข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 เริ่มต้นรับราชการจากตำแหน่ง นายเวรผู้บังคับการประจำกรมตำรวจ สำนักงานกำลังพล ด้วยนิสัยที่สุขุมรุ่มลึก พูดน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน แต่ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย และเป็นขาลุยพร้อมที่จะลงพื้นที่กับลูกน้องเสมอๆ จึงเป็นที่ถูกใจของทั้งพี่ๆ และน้องๆ ทั้งในฝั่งทหารและตำรวจ โดยเฉพาะ 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ จนสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในหน้าที่การงาน และได้รับตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รอที่จะเป็น ผบ.ตร ในขณะที่ยังเป็นเพียงแค่ พล.ต.ท. และเหลืออายุราชการอีกมากกว่า 10 ปี

"ไม่เคยวางแผน ไม่เคยคาดหวัง จะต้องเป็น ผบ.ตร. และเชื่อว่า นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ทุกคนที่เพิ่งจบมาใหม่ๆ ไม่มีใครคิดถึงยศและตำแหน่งหรอก มีนายตำรวจสัญญาบัตร 7-8 หมื่นคน เชื่อว่ายากที่ใครจะวางแผน เป็นผบ.ตร.ไว้ล่วงหน้า" บิ๊กแป๊ะ กล่าวและว่า "ชีวิตราชการช่วงแรก ร.ต.ต. ถึง พ.ต.ท. ทุกคนขอแค่อยู่โรงพักดีๆ ที่มีชื่อเสียงก็พอแล้ว"

ชีวิตการทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผ่านมรสุมหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถูกโยกย้ายให้เป็นผู้กำกับกองวิชาการ ผู้กำกับกองงบประมาณ เป็นจเรตำรวจ ซึ่งไม่ใช่อยู่ในสายงานด้านปราบปรามที่ตนเองถนัด ก่อนที่จะได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ครั้งที่ร้ายแรงที่สุด คือ ในสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ถูกบีบและถูกโยกย้ายไปเป็น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภาค 9) หลุดจากโผ ผบ.ตร. โดยให้ พล.ต.อ. วินัย ทองสอง หลายเขยของ พล.ต.อ.ทักษิณฯ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแทน

>> สถิติ 5 ปี เจ้าสำนักปทุมวัน
เมื่อขั้วอำนาจเปลี่ยนมือ บิ๊กๆ ทั้งหลายในวงการเครื่องแบบ ก็ยังไม่เคยลืมน้องคนนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ได้ถูกเรียกกลับมาในเส้นทาง ผบ.ตร อีกครั้ง โดยให้เป็นรักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558 คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก พล.ตร.อ. จักรทิพย์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 11 สืบต่อจากพลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง มีผลในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ครองสถิติเจ้าสำนักปทุมวันที่ยาวที่สุดถึง 5 ปี ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2563

>> 5 ปีสุดท้าย กับผลงานแบบ 'บิ๊กๆ' ของการดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. 'ขาลุย'
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เรียกได้ว่าเป็นนายตำรวจมากผลงานคนหนึ่ง นอกจากภาพของ” สุภาพบุรุษแก๊สน้ำตา” ในเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อครั้งในปี 2551 แล้ว ย้อนกลับไปในปี 2548 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังได้เป็นผู้ลงพื้นที่ไปสืบสวนปราบปราม ภายใต้ชื่อ ‘ทีมตำรวจใต้’ ติดตามจับกุม สมคิด พุ่มพ่วง ฆาตกรต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเวลาหลายปี

หลังจากได้รับตำแหน่ง ผบ.ตร พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ยังคงทำงานแบบ 'ลุยๆ' กับลูกน้องเหมือนเดิม

ในปี 2560 เกิดคดีสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ ‘คดีบังฟัต’ คนร้าย ได้ฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้าน 8 ศพ ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้นำ ‘ดรีมทีม’ ลงพื้นที่สืบสวนด้วยตนเองจนสามารถจับตัวคนร้ายมาได้

ในปี 2561 ในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ลงพื้นที่พร้อมสั่งการหาโพรงสำหรับโรยตัวเพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำ

ในปี 2563 คดีกราดยิงร้านทองที่ จ.ลพบุรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ลงไปควบคุมการทำงานสืบสวนด้วยตนเอง ใช้เทคนิคการให้ข่าวเบี่ยงประเด็นจนคนร้ายชะล่าใจ จนสามารถรวบตัว ผอ. กอล์ฟ คนร้าย พร้อมของกลางที่ชิงไปได้อยู่หมัด

และในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ไม่กี่วันถัดมากับคดีที่คนไทยไม่อาจลืม เหตุการณ์กราดยิงในห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา หลังจากทราบข่าว ภายในเย็นวันนั้น บิ๊กแป๊ะ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางมาถึงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมปฏิบัติภารกิจทันที หลังจากทำภารกิจกว่า 10 ช.ม. จบลงด้วยการวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย และช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เดินทางกลับทันที เป็นนายตำรวจแนวพูดน้อย ต่อยหนัก เน้นปฏิบัติ เป็นรูปธรรม

>> 30 กันยายนนี้ เดินออกจากหลังม่าน
หากจะเดินสู่เส้นทางการเมือง พล.ต.อ.จักรทิพย์ เรียกได้ว่าครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นแรงสนับสนุนจากพี่ใหญ่ผู้กว้างขวางทางการเมืองอย่าง พล.อ.ประวิตร อีกทั้งยังสนิทสนมกับพรรคการเมืองสีน้ำเงิน ประกอบกับภาพลักษณ์ที่เข้มแข็ง มีความเป็นผู้นำ และผลงานที่จับต้องได้ จึงไม่แปลกนักที่ 'บิ๊กแป๊ะ' จะออกจาก 'หลังบ้าน' กลายมาเป็น 'ตัวจริง' หรือ อาจจะกลายเป็น 'ตัวเต็ง' ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้


ที่มา: https://www.kanmuang.com/politicians/chakthip