สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 40 (40th ASEANAPOL Conference) ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ คณะ เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมในฐานะผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าร่วมการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 40  (40th ASEANAPOL Conference) ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 1 – 5 มี.ค.65 

พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผบก.ตท./รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า  การประชุมดังกล่าว เป็นการประชุมระดับพหุภาคีระหว่างหน่วยงานตำรวจในภูมิภาคอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ประเทศคู่เจรจาและผู้สังเกตการณ์ขององค์การตำรวจอาเซียน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้หัวหน้าหน่วยงานตำรวจของอาเซียนหรือผู้แทนระดับสูง พร้อมด้วยหัวหน้าตำรวจประเทศคู่เจรจาของอาเซียน เสริมสร้างความร่วมมือ แสวงหาแนวร่วม แลกเปลี่ยนข้อมูลและขั้นตอนการปฏิบัติที่ดีที่สุดระหว่างกันในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ  การก่อการร้าย การค้ายาเสพติด  การค้ามนุษย์  การลักลอบเข้าเมือง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ  การฉ้อโกงข้ามชาติ  การลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืชใกล้สูญพันธุ์ และอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางทะเล รวมไปถึงความร่วมมือต่าง ๆ  

โดยเฉพาะในช่วงที่ทุกประเทศทั่วโลกได้เผชิญกับความท้าทายในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) อาชญากรได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบในการกระทำความผิดและแสวงหาผลประโยชน์จากวิกฤตครั้งนี้  ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในภูมิภาคอาเซียน

รองโฆษก ตร.  กล่าวต่ออีกว่า นอกเหนือจากการหารือร่วมกับหัวหน้าหน่วยงานตำรวจของอาเซียนทั้ง 10 ประเทศแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังมีการประชุมทวิภาคีร่วมกับผู้แทนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศคู่เจรจาและผู้สังเกตการณ์ที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ อาทิ สหราชอาณาจักร ประเทศญี่ปุ่น และสหพันธรัฐออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการหารือแนวทางเพื่อพัฒนาบุคลากรและเสริมสร้างเครือข่ายในการปฏิบัติงานร่วมกันในอนาคต

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการให้ความร่วมมือและประสานข้อมูลข่าวสารกับหน่วยงานตำรวจของอาเซียนทุกประเทศและประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง  เพื่อร่วมกันป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ภูมิภาคและประชาคมโลกต่อไป