จับกุม! ขบวนการ ‘ขนแรงงานต่างด้าว’ หลบหนีเข้าเมือง พบผู้ต้องหาคนไทย 2 คน - ต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 32 คน โดยกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัย เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หรือลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์  ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน  ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม 5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5  และ พ.ต.อ.วีรวัฒน์ นิลวัตร ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ แถลงข่าวจับกุม ดังนี้

เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.5  , ตม.จว.เชียงใหม่ , กก.3 บก.สส.ภ.5  และ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายสาธิตฯ และนายพะลือแควฯ  “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง พ้นจากการจับกุม” และจับกุมตัวนายจ่อฯ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมากับพวกรวม 32 คน “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต , ฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด (คำสั่งจังหวัดตาก ที่ 684/2563) ตามมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558” บริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดน อ.แม่สอด จว.ตาก ต่อเนื่อง บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 108 หลักกิโลเมตรที่ 104 ต.หางดง อ.ฮอด จว.เชียงใหม่

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการขนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจากพื้นที่ จว.ตาก เลี่ยงเข้ามาใช้เส้นทางที่เกิดเหตุเพื่อจะเดินทางไปกรุงเทพฯ จึงได้ออกตรวจสอบเมื่อถึงเวลาเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนเชียงใหม่ (รถคันที่ 1) และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนเชียงใหม่ (รถคันที่ 2)  ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งจึงได้เรียกให้หยุดและตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบนายสาธิตฯ เป็นคนขับรถคันที่ 1 และนายพะลือแควฯ เป็นคนขับรถคันที่ 2 จึงได้ทำการตรวจค้นรถ ผลการตรวจค้นรถยนต์คันที่ 1 (รถนำ) ไม่พบคนต่างด้าว ส่วนรถยนต์คันที่ 2 พบนายจ่อฯ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองพร้อมพวก รวม 16 คน นั่งโดยสารภายในรถและหลบซ่อนอยู่ในท้ายกระบะโดยมีตาข่าย(แสลม) พลาสติกสีดำคลุมไว้ และในขณะที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้นได้มีรถยนต์คันที่ 3 คือรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนตาก ขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถยนต์ของทางราชการ คนขับได้เร่งความเร็วของรถและขับฝ่าหลบหนีไป จากนั้นคนขับทราบภายหลังว่าเป็นชายได้หยุดรถแล้ววิ่งหลบหนีไป

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจค้นและตรวจสอบภายในรถพบนายตา เฉ่ยฯ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองกับพวก จำนวนรวม 16 คน (นั่งโดยสารภายในรถและหลบซ่อนอยู่ในท้ายกระบะโดยมีผ้าปูพื้นพลาสติกสีฟ้าคลุมไว้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งดำเนินคดี

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด  กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178  หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง