'อัษฎางค์’ แนะ 'ทูตนอกแถว' ทูต = ตัวแทนแห่งรัฐ ไม่ใช่กระบอกเสียงนักโทษหนีคดี

(1ต.ค. 64) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

“ทูตคือผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนแห่งรัฐและพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่เป็นกระบอกเสียงให้กับนักโทษหนีคดีหรือม็อบล้มล้างการปกครอง”

ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านหนึ่ง กล่าวถึงผู้ที่เรียกตัวเองว่า ทูตนอกแถว ว่า…

“...เจ้านี่เคยเป็นทูตได้อย่างไร ประเด็นมิใช่อยู่ที่ว่าได้มีการใช้กระบวนยุติธรรมกลั่นแกล้งทักษิณ รึเปล่า

แต่ประเด็นจะอยู่ที่ว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองที่ตัดสินว่า ทักษิณผิดในหลายคดี นั้น มีการบันทึกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นหลักฐานที่สามารถนำมาตรวจสอบ+ย้อนหลังได้ตลอดเวลาว่า ที่มาของคำพิพากษาเหล่านั้นประกอบด้วยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพียงใด

ข้ออ้างอีกอย่างที่นักวิชาการชาวอเมริกันคนหนึ่งที่อยู่เมืองไทยร่วม 50 ปีและรู้ภาษาไทยเป็นอย่างดี ได้อ่านคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ทักษิณเจ็ดหมื่นกว่าล้านบาท พร้อมสรุปว่า เป็นคำพิพากษาที่สมบูรณ์แบบเป็นอย่างยิ่ง โดยไม่มีข้อสงสัยอย่างที่นักกฎหมายชอบพูดกันเสมอว่า beyond any reasonable doubts หรือปราศจากข้อสงสัยที่พึงมี

แต่นักวิชาการคนนั้นระบุว่า beyond all possible doubts altogether หรือปราศจากข้อสงสัยอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว (ว่าคำพิพากษานั้นถูกต้องและสมเหตุผลอย่างที่สุด)

ดังนั้น ถ้าจะมีผู้ใดสงสัยว่า ทักษิณจะถูกกระบวนยุติธรรมกลั่นแกล้งอย่างที่อดีตทูตคนนี้อ้าง จึงพึงต้องค้นหาจุดอ่อนในคำพิพากษาออกมาตีแผ่ให้เห็นว่า คำพิพากษาทั้งหลายเหล่านั้น บิดเบือนข้อเท็จจริงไปอย่างไร จึงไม่สมควรให้การยอมรับหรือเชื่อถือ

แต่ถ้าไม่สามารถทำได้และออกมาอ้างลอยๆ ดังที่อดีตทูตคนนี้ทำ ว่าทักษิณถูกกระบวนยุติธรรมกลั่นแกล้ง ก็คงจะหลีกเลี่ยงความจริงไปไม่พ้นว่า เป็นการแก้ตัวให้ทักษิณแบบโง่เขลาและไร้เหตุผลที่ไม่ควรออกมาจากปากคนเคยเป็นถึงตัวแทนชาติในฐานะทูตเลย นอกเสียจากเป็นคนที่เคยได้รับประโยชน์จาก รัฐบาลยุคทักษิณหรือน้องสาวเป็นนาย…”

เวลาที่คนทั่วไปเรียกใครว่า “ทูต” ปกติจะหมายถึง “เอกอัครราชทูต”

แต่ความจริง “นักการทูต” มีหลายระดับ เริ่มตั้งแต่นักการทูตปฏิบัติการ นักการทูตชำนาญการ

นักการทูตชำนาญการพิเศษ (อัครราชทูตที่ปรึกษา)

นักบริหารการทูตระดับต้น (อัครราชทูต) ไปจนถึงตำแหน่งสูงสุดอย่างนักบริหารการทูตระดับสูง (เอกอัครราชทูต)

นักการทูต มีบทบาทเป็นตัวแทนที่ดูแลส่งเสริมผลประโยชน์ให้กับประเทศไทยในสนามต่างประเทศ ตั้งแต่ภาพลักษณ์สังคมความเป็นอยู่ของประเทศ ไปจนถึงเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

นักการทูตมีหน้าที่รวบรวมและรายงานข้อมูลซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติ และนำมารายงานให้กับรัฐบาลไทย เพื่อเสนอแนะแนวทางให้รัฐบาลเพื่อรับมือและแก้ไขปัญหาต่างๆ

นักการทูตมีหน้าที่การถ่ายทอด นำเสนอ ชักจูง นโยบายของรัฐบาลประเทศต้นสังกัดให้แก่รัฐบาลประเทศที่ประจำอยู่ โดยจะต้องมีวิธีโน้มน้าวที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งกับประเทศของเราและประเทศที่เราไปประจำการ

นักการทูตเป็นตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประเทศ เป็นผู้เจรจาประสานงานนโยบายและเศรษฐกิจ เป็นผู้รับสาร นำเสนอสารต่อรัฐบาลในประเทศและใช้วาทศิลป์และความสามารถในการคิด วางแผน ชักจูงและโน้มน้าวให้อีกประเทศเห็นด้วยตามข้อเสนอของรัฐบาลเรา

นักการทูตทั้งเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของวงจรในกระบวนการนโยบายต่างประเทศ

>> สรุปได้ว่า….
นักการทูต คือผู้แทนเจรจาและปกป้องผลประโยชน์ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ

นักการทูต คือผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนแห่งรัฐ และ

นักการทูต คือผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนพระมหากษัตริย์

มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองในวงการทูตเสนอว่า…

ผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ทูตนอกแถว” อย่าใช้ชื่อคำว่า “ทูต” นำหน้าเลย

เพราะคำว่า ทูต คือตำแหน่งเกียรติยศที่หมายถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนพระเจ้าแผ่นดิน หรือ กษัตริย์ ที่ทรงเป็นพระประมุขของชาติในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ

แต่พฤติกรรมของเขานั้นกลายเป็นตัวแทนให้กับนักโทษที่มีคดีอย่างนายทักษิณ และมีพฤติกรรมราวกับม๊อบ 3 กีบที่กำลังบ่อนทำลายประเทศอยู่ในขณะนี้

ขอเรียกร้องให้เขาให้ชื่อ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ในการแสดงออกหรือเขียนบทความต่างๆ อย่าใช้คำว่า “ทูตนอกแถว” อีกต่อไปเลย

อัษฎางค์ ยมนาค
รวบรวม

คอมเมนต์ด้วยสติและความสุภาพนะครับ 


ที่มา: https://www.facebook.com/100566188950275/posts/147275594279334/