กรมสรรพสามิต เล็งชะลอขึ้นภาษีน้ำหวาน จากเดิมกำหนดขึ้น 1 ตุลาคม 64 หวังช่วยผู้ประกอบการในยุคโควิด-19

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมชะลอการปรับขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีความหวาน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากในวันที่ 1 ต.ค. 2564 จะครบกำหนดเวลาที่ต้องมีการปรับขึ้นภาษีความหวานรอบใหม่ จากระยะที่ 2 ไปสู่ระยะที่ 3 ซึ่งจะมีอัตราภาษีที่เพิ่มแบบก้าวกระโดด จนอาจกลายเป็นภาระให้กับผู้ประกอบการ และผู้บริโภค โดยที่ผ่านมาการเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีสารความหวาน ได้กำหนดอัตราภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 4 ระยะ ซึ่งปัจจุบันกำลังเก็บภาษีระยะที่ 2 ถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้

สำหรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มที่มีความหวาน ที่มีกำหนดเพิ่มขึ้นวันที่ 1 ต.ค.64 เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลไม่เกิน 6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะยังได้รับยกเว้นเก็บภาษีเหมือนเดิม ส่วนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 6 - 8 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร จะเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นจาก 0.10 บาทต่อลิตร เป็น 0.30 บาทต่อลิตร เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 8 - 10 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร จะเสียภาษีเพิ่มขึ้นจาก 0.30บาทต่อลิตร เป็น 1 บาทต่อลิตร

เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 10-14 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร จะเสียภาษีเพิ่มขึ้นจาก 1 บาทต่อลิตร เป็น 3 บาทต่อลิตร เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 14 - 18 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร จะเสียภาษีเพิ่มขึ้นจาก 3 บาทต่อลิตร เป็น 5 บาทต่อลิตร ขณะที่เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเกิน18 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร จะเสียภาษีเท่าเดิมที่ 5 บาทต่อลิตร

“กรมจะทบทวนดูว่าจะมีการชะลอขึ้นภาษีออกไปหรือไม่ โดยจะนำข้อมูลนำมาพิจารณารายละเอียดดูความเหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งยังไม่ได้ยืนยันว่าจะมีการเลื่อนออกไป หรือเลื่อนออกไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา”