กลายเป็นอีกประเด็นที่น่าจะทำเอาทีมโฆษก ศบค.ต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ หลังจาก 'ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์' เจ้าของแนวคิด "การแก้ปัญหาของประเทศไทยอาจไม่ต้องอยู่กันเป็นรัฐเดี่ยวหรือรวมศูนย์ก็ได้ การแก้รัฐธรรมนูญอาจแก้มาตรา 1 ด้วยก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร"

กลายเป็นอีกประเด็นที่น่าจะทำเอาทีมโฆษก​ ศบค.ต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่​ หลังจาก​ 'ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์'​ รองหัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าของแนวคิด​ "การแก้ปัญหาของประเทศไทยอาจไม่ต้องอยู่กันเป็นรัฐเดี่ยวหรือรวมศูนย์ก็ได้ การแก้รัฐธรรมนูญอาจแก้มาตรา 1 ด้วยก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร"

พูดง่ายๆ​ ก็คือ​ เธอผู้นี้เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ซึ่งเท่ากับ ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองจาก 'ราชอาณาจักร'  เป็น 'สหพันธรัฐ'​

โดยล่าสุด​ ดร.ชลิตา​ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก​ Chalita Bundhuwong เกี่ยวกับการนำสถานการณ์โควิด-19 ในมาเลเซีย​ของ​ ศบค. มาสร้างความชอบธรรมในการมอบอำนาจแก่ทหารไทยตามชายแดน​ว่า

#ขอให้ทวีศิลป์อีกสักสเตตัสนะคะ

...ศบค. หมอทวีศิลป์ และผู้ช่วยโฆษกหมอนางงามทั้งหลาย พยายามปั่นเรื่องความรุนแรงของการติดโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียมา 2-3 ครั้งแล้ว

โดยเอามาโยงกับเรื่องการรักษาความมั่นคงชายแดนของไทย เราสงสัยว่าทีมโฆษกไม่รู้สึกย้อนแย้งเวลาพูดบ้างเหรอ เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2563 มามันน้อยๆ มาก เป็นสีเหลืองกันทั้งนั้น และส่วนใหญ่ติดจากสาเหตุหรือมาจากคลัสเตอร์อื่นไม่ใช่การข้ามแดนมา

ไม่มีใครปฏิเสธว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในมาเลเซียสูงมากในแต่วัน และเราก็ไม่อยากให้มีคนข้ามแดนมาโดยไม่ผ่านการกักตัว แต่ทีมหมอโฆษกช่วย​ 'ลดความโอหัง'​ แล้วหันมาทำความเข้าใจเหตุปัจจัยตัวเลขนี้ของมาเลเซียสักหน่อยดีไหม?

รู้บ้างไหมว่ามาเลเซียทำการตรวจเชิงรุกประชาชนไปแล้วกี่ล้านคน (เยอะมากนะคะ) การแพร่เชื้อในแต่ละภูมิภาคในมาเลเซียสาเหตุที่แตกต่างกันอย่างไร และเคยตระหนักไหมว่ามาเลเซียกำลังสั่งซื้อวัคซีนอยู่กี่สิบล้านโดส (เรื่องวัคซีนนี่น่าอายมากๆ จนเราอยากเอาปี๊บคลุมหัวเมื่อคิดถึงของประเทศไทย)

...ตอนนี้รัฐไทยกำลังเอาเรื่องโควิดในมาเลเซียมาให้ทหารสร้างอำนาจเบ็ดเสร็จในการจัดการชายแดน โดยขาดการตรวจสอบการและมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่อย่างรุนแรง

(ปล. ขอบคุณ อ.รุสนันท์  Rose Rosenun ที่ช่วยอัพเดทสถานการณ์ในมาเลเซียให้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ ศบค.พูดเกี่ยวกับสถานการณ์ในมาเลเซียนั้นมันตื้นเขินเพียงใด)


ที่มา: เฟซบุ๊ก​ Chalita Bundhuwong