ทีม “ก้าวไกล-ก้าวหน้า-ส้มจี๊ด” ระดมกำลังแจกถุงยังชีพ เยียวยาน้ำท่วมใต้ - ชี้ น้ำท่วมครั้งนี้ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากความล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำ - เตรียมทำหนังสือผ่าน “ลุงชวน” ถึงความรับผิดชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เกิดเหตุอุทกภัยน้ำท่วมฉับพลันจากเขื่องบางลาง นอกจากนี้นายประเสริฐพงษ์ เป็นยังผู้ประสานทั้ง 3 หน่วยงาน คือ พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และบริษัทส้มจี๊ดเอ็นเตอร์ไพรส์ ในการช่วยเหลือผู้สบภัยโดยการแจกถุงยังชีพ ช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชนผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ไปให้ได้

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันทั้งสิ้น 4 จังหวัด คือ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 32 อำเภอ 193 ตำบล 1,047 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 70,000 ครัวเรือน ซึ่งวันนี้ตนอยู่ในพื้นที่ ต.ปะกาฮะรัง จ.ปัตตานี แม้ระดับน้ำจะลดลงแต่ยังคงต้องใช้เรือในการสัญจรและเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ซึ่งประชาชนยังคงอยู่ในพื้นที่สูงอย่างเช่นบนสะพาน ส่วนความเสียหายของชาวบ้านคือกระชังปลา และวัวที่ล้มตายจากเหตุน้ำท่วม ส่วนวานนี้ตนได้ลงพื้นที่ ต.ยุโป อ.เมือง ยะลา โดยมีผู้นำชุมชนเป็นผู้ประสานในการแจกถุงยังชีพ จากสิ่งที่ตนเห็นนั้นสังเกตได้ว่า ประชาชนที่อาศัยเป็นบ้านชั้นเดียวนั้นขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ทัน ส่วนคนที่อยู่บ้านสองชั้นขนย้ายสิ่งของทันเป็นบางส่วน

“การลงพื้นที่ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของ 3 หน่วยงาน คือ พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และบริษัทส้มจี๊ดเอ็นเตอร์ไพรส์ โดยเป็นการเข้าไปรับฟังปัญหาและแจกถุงยังชีพ ซึ่งประกอบด้วย ชุดข้าวสารอาหารแห้ง และนมแพะ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ส่งเสริมเศรษฐกิจระดับรากหญ้าของบริษัทส้มจี๊ด และจากการรับฟังปัญหามานั้น ชาวบ้านได้ตั้งคำถามกับเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ เนื่องจากน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากการบริหารจัดการน้ำผิดพลาดจากเขื่อนบางลาง ซึ่งปัญหาทั้งหมดผมจะนำเข้าสู่การประชุมสภาในวาระต่อไป”

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์น้ำท่วมลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วก็เกิดเหตุการน้ำท่วมในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น น้ำท่วมในครั้งนี้คือความล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนบางลาง ตนเชื่อว่าในเมื่อเรามีเทคโนโลยีที่ดีที่ทันสมัย เราสามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมในลักษณะแบบนี้ได้ ทั้งนี้ตนจะใช้ช่องทางการประชุมสภาในช่วงปรึกษาหารือในวาระต่อไป ผ่านท่านประธานสภาให้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้บริหารเขื่อนบางลางที่อยู่ในการดูแลของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แสดงความรับผิดชอบ และให้ความชัดเจน เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ยังคงมีความกังวล ว่าเขื่อนบางลางจะปล่อยน้ำเป็นระลอกที่ 2 หรือไม่ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ยังไม่กล้าขนย้ายสิ่งของกลับเข้าบ้านของตนเอง

ทั้งนี้ หากสถานการณ์ดีขึ้น ระดับน้ำลดลง เครือข่ายของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลจะระดมกำลังเข้ามาช่วยเหลือประชาชน ในการซ่อมแซม เยียวยาและฟื้นฟูบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้