แผนรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินส่อเค้าวุ่น หลังลือสะพัด ย้าย ‘สถานีพัทยา’ ตามใจนายทุนใหญ่ ด้าน 'ก้าวไกล' เกาะติด หวั่นประชาชนเดือดร้อนโดนเวนคืนฟรี 

แผนรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินส่อเค้าวุ่น หลังมีข่าวสะพัด เตรียมหาทางย้าย ‘สถานีพัทยา’ ตามใจนายทุนใหญ่ ห่างออกไปอีก 15 กม. ด้านส.ส.ก้าวไกล ‘สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ’ เกาะติด หวั่นประชาชนเดือดร้อนโดนเวนคืนฟรี 
.
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นหลังจากมีกระแสว่า ‘นายทุนใหญ่’ ที่สนับสนุนการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจซึ่งได้สัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ต้องการจะย้ายสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาตามใจตัวเอง จากตำแหน่งเดิมคือทับกับสถานีรถไฟพัทยาในปัจจุบัน ไปเป็นตำแหน่งใหม่ใกล้ตลาดนํ้าสี่ภาคและสวนนงนุชซึ่งห่างออกไปนอกเมืองอีกถึง 15 กิโลเมตร 
.
“ได้เช็คข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบเรื่องอย่างเป็นทางการ เห็นแต่ในข่าว เรื่องนี้เคยทำหนังสือไปทวงถามแล้ว แต่นายทุนใหญ่ก็ไม่ยอมตอบ ทำให้การดำเนินงานในโครงการเกิดปัญหาคาราคาซัง ส่อแววล่าช้าและอาจเกิด ‘ค่าโง่’ ขึ้นได้หากเวนคืนและส่งมอบพื้นที่ตามแผนเดิมไม่ทัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าเร่งรัดตามแผนเดิมเต็มที่เพราะหากเปลี่ยนตำแหน่งสถานีจริง ประชาชนที่จะโดนเวนคืนก็เดือดร้อนฟรีและฟ้องร้องเอาได้”
.
รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุอีกว่า ล่าสุด นายกเมืองพัทยาได้ออกมารับลูกจากนายทุนใหญ่ โดยจะมีการตั้งงบประมาณเพื่อศึกษาเพิ่มให้อีก 60 ล้านบาท หรือก็คือการใช้ภาษีประชาชนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนในการปรับแผนโมโนเรลให้สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่ใหม่ของนายทุน ประเด็นคือนายทุนใหญ่ต้องสนิทสนมกับผู้มีอำนาจมากขนาดไหน ถึงได้ ‘กล้า’ สั่งเปลี่ยนตำแหน่งสถานีตามใจตัวเอง และผู้มีอำนาจทำไมถึงต้องยอมนายทุนใหญ่ขนาดนี้ 
.
นายสุรเชษฐ์ ชี้ว่า ตำแหน่งสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาและโครงข่ายระบบโมโนเรลต้องถูกวางแผนเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก เมื่อวางแผนแล้ว ให้สัมปทานแล้ว ไม่ควรยอมให้เปลี่ยนตามใจนายทุนใหญ่ในลักษณะนี้ และพรรคก้าวไกลจะเกาะติดประเด็นนี้ต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม ไม่ใช่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่  ผลประโยชน์ของโครงการควรต้องตกอยู่กับประชาชนโดยตรง และอย่าไปเชื่ออย่างที่เขาชอบหลอกลวงว่า “เมื่อทุนใหญ่ร่ำรวย รายเล็กรายน้อยก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย”