Wednesday, 3 July 2024
ECONBIZ NEWS

“จับกัง 1” ลุยตลาดดินแดง รณรงค์แม่ค้า-พ่อค้า-ผู้ประกันตน ใช้สิทธิ ม33เรารักกันให้ถูกต้อง

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่สำรวจการดำเนินโครงการ ม33เรารักกัน ณ ตลาดดินแดง ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ กำชับพ่อค้าแม่ขาย ร้านค้า อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการฯ อย่างเคร่งครัด พร้อมเตือน ผู้ประกันตนอย่าหลงเชื่อขบวนการทุจริต แลกเงินสด

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลเปิดโครงการ ม33เรารักกัน เปิดให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ลงทะเบียนรับสิทธิจำนวน 4,000 บาท โดยเริ่มโอนเงินให้ผู้ประกันตนเข้า G-Wallet ในแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง กว่า 5 ล้านคน หรือ 70%  ที่กดยืนยันสิทธิในงวดแรก 1,000 บาท เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา และงวดต่อไปในวันที่ 29 มีนาคม ,5 เมษายน และ12 เมษายน จนครบ 4,000 บาท ทั้งนี้ 

ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิ และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ในวันนี้ตนได้ถือโอกาสลงพื้นที่ตลาดดินแดง เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการ ม33เรารักกัน เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรค จากพ่อค้าแม่ขาย และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกันตนว่ามีการใช้จ่ายแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ซึ่งจากการสำรวจไม่พบปัญหาและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

อย่างไรก็ดีตนได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมแต่งตั้งคณะทำงานออกตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ/สถานประกอบการในพื้นที่ และดำเนินการเกี่ยวกับข้อร้องเรียน รวบรวมข้อเท็จจริง กรณีมีเรื่องร้องเรียน/มีการแจ้งเบาะแสว่ามีการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการฯ เช่น ขึ้นราคาสินค้า พร้อมเฝ้าระวังการเบิกจ่ายเงินของร้านค้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการ   กระทำผิดเงื่อนไขอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม สิทธิในโครงการ ม33เรารักกัน ตนขอเตือนไปยังผู้ประกันตน ร้านค้า โปรดอย่าหลงเชื่อโฆษณาเชิญชวนที่ทำผิดเงื่อนไขโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้า หรือแลกเป็นเงินสด เพราะนอกจากจะถูกพ่อค้าหัวใสหักเปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และถือว่าเข้าข่ายทุจริต ซึ่งอาจจะถูกตัดสิทธิและถูกดำเนินคดีอีกด้วย

“บิ๊กตู่” เคาะงบกองทุนดีอี 500 ล้าน ดันเทคโนโลยี 5จี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกองทุนดีอี สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5จี ของประเทศไทยเพื่อการต่อยอดการใช้ประโยชน์ วงเงิน 500 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 พร้อมทั้งเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของกองทุนดีอี สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5จีด้วย 

“นายกรัฐมนตรียังสั่งให้ทุกส่วนราชการผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือคลาวด์กลางภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ นำไปสู่การพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง รวมทั้งบริการประชาชนให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกระดับ ทุกช่วงวัย ทุกสาขาอาชีพ ส่งเสริมประชาชนใช้ดิจิทัลให้เกิดประโยชน์เพื่อเดินหน้าไปสู่รัฐบาลดิจิทัล หรือ อี - กัฟเวอร์เม้นท์  โดยการใช้จ่ายงบประมาณต้องไปเป็นอย่างเหมาะสม คุ้มค่า โปรงใส และเกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนโดยรวม”

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ย้ำในที่ประชุมว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมสร้างความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้การวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีความคืบหน้าอย่างมากเพื่อใช้ประโยชน์และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5 จี ของประเทศไทย เช่น โครงข่ายเน็ตประชารัฐ  รวมทั้งการเตรียมพร้อมเรื่องของปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ต่าง ๆ การนำเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานของทุกภาคส่วน นำไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์และดิจิทัลอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและผู้นำเข้าและค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ ภายใต้แบรนด์ LINK จัดงานสัมมนาใหญ่อัปเดตเทคโนโลยี Fiber Optic & FTTx Design and Install Solut

นอกจากนี้ ยังได้เจาะลึกวิธีการใช้สายสัญญาณและอุปกรณ์ Network ของ PON, OUTDOOR CCTV, SOLAR CABLE ให้แก่ลูกค้ากลุ่ม System Integrator (SI) และและผู้ที่สนใจ ในรูปแบบของ HYBRID ซึ่งงานนี้มี คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการของบริษัท เป็นประธานกล่าวเปิดงาน

ขณะเดียวกันภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้เชี่ยวอย่าง ดร. วิรินทร์ เมฆประดิษฐสิน ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และ Networking ของประเทศไทย และ คุณภาคภูมิ พลธร Technical & Products Training Manager เป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้แบบเจาะลึก รู้ลึก รู้จริง ในเทคโนโลยี Fiber Optic & FTTx (PON) ที่จะสามารถตอบโจทย์ทุกการเชื่อมต่อ พร้อมถ่ายทอดเทคนิคการขายอย่างมืออาชีพ

สำหรับงานดังกล่าวได้มีการจัดกิจกรรมออกบูทแสดงโซลูชั่นใหม่ของผลิตภัณฑ์แบรนด์ LINK ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก อาทิ บูทการติดตั้งระบบกล้องวงปิดภายนอกอาคารอย่างมืออาชีพ, LINK Solar Cable Solution, Live Demo FTTx (PON) สำหรับ Building / Condominium / Hotel เป็นต้น โดยงานนี้จัดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2564 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก

สำหรับ ไอลิงค์ มี 3 ธุรกิจหลักประกอบไปด้วย

1.) ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ เป็นธุรกิจหลักและสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง

2.) ธุรกิจโทรคมนาคม ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและได้ Spin Off เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไปเรียบร้อยแล้ว

และ 3.) ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ เป็นการรับงานจากภาครัฐเป็นหลัก

กนง.มีมติเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง พร้อมลดเป้าจีดีพี ปี 64 เหลือ 3%

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ว่า กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่เผชิญกับความเสี่ยงในระยะข้างหน้า จึงยังต้องการแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งนี้ และรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

ทั้งนี้ ยังประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3% ในปี 2564 และ 4.7% ในปี 2565 โดยขยายตัวต่ำกว่าประมาณการเดิมบ้างจากการปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยว จากเดิมคาดว่าจะมี 5.5 ล้านคน เหลือเพียง 3 ล้านคน และผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 แต่ได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวเร็วตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของแต่ละภาคเศรษฐกิจยังมีความแตกต่างกัน โดยมีความเสี่ยงสำคัญจากประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงความต่อเนื่องของแรงสนับสนุนจากภาครัฐ ด้านระบบการเงินมีเสถียรภาพ แต่ยังมีความเปราะบางในบางจุดจากผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและธุรกิจเอสเอ็มอี

นายกฯ นำประชุมดิจิทัลฯ นัดแรกปี 64 พร้อมแต่งตั้งคณะที่ปรึกษารับรัฐมนตรีใหม่ และทบทวนยกเลิกขอรับเงินสนับสนุนเยียวยาโควิด 19 ‘ยอมรับ’การบริหารราชการแผ่นดินไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป 

วันที่ 24 มี.ค. 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 1 /2564 โดยกล่าวก่อนการประชุมว่านายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการประชุมว่าจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา ตนให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาประเทศและการแก้ปัญหาความยากจน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และสร้างความเข้มแข็ง ในการแก้ปัญหาต่างๆของประเทศ โครงสร้างดิจิทัลพื้นฐานเป็นส่วนสำคัญ 

 

ซึ่งวันนี้เดินหน้า ไปสู่ 5G ที่ผ่านมารัฐบาลวางโครงการอินเตอร์เน็ตประชารัฐทั่วประเทศ บางพื้นที่ต้องปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะบางพื้นที่ใช้ไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ และวันนี้ได้ออกกฎหมายกิจการอวกาศ  เป็นเรื่องของการใช้ดาวเทียมให้มีประสิทธิภาพ จะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจด้านนี้และเตรียมความพร้อมปัญญาประดิษฐ์หุ่นยนต์ 

 

เพื่อสนับสนุนนโยบายเทคโนโลยีนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานทุกภาคส่วน นำมาสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์และดิจิทัลอาเซียนเต็มรูปแบบตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมกันนี้ ย้ำขอให้ทุกส่วนราชการร่วมกันผลักดันให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ วันนี้รัฐบาลออกหลายมาตรการจำเป็นต้องมีข้อมูลขนาดใหญ่ที่ทันสมัย ครอบคลุมทุกมิติ แก้ปัญหาได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ให้เกิดการพัฒนาประเทศในทุกมิติทั้ง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง สุขภาพและการศึกษา มุ่งหวังให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดินไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป 

 

สำหรับการประชุมวันนี้ จะมีการพิจารณาร่างแนวทางการจัดทำยุทธศาสตร์ ข้อมูลประเทศไทย และแผนปฎิบัติการด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี ดิจิทัล ระยะที่ 1 ปี2564-2570 และร่างแผนปฎิบัติการด้านการสื่อสารแห่งชาติ สนับสนุนกิจการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงทบทวนหลักการเพื่อขอยกเลิกการเปิดรับข้อเสนอโครงการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูโควิด 19  วงเงิน 400 ล้านบาท และแต่งตั้งที่ปรึกษาในคณะกรรมการเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ต้องจับตาดูรัฐมนตรีใหม่ นายชัยวุฒิ  ธนาคมานุสรณ์  ว่าที่ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มีดีกรีจบวิศวะ จุฬาลงกรณ์ จะมาผลักดันนโยบายด้านดิจิทัลอย่างไร

เปิดม่าน!! งานแสดงรถยนต์ Motor Show ครั้งที่ 42 ค่ายรถชั้นนำพาเหรดยานยนต์รุ่นใหม่แบบจัดเต็ม ด้าน ‘มาสด้า’ ปาดหน้า!! จัดหนักอัดยาแรงกระตุ้นกำลังซื้อ ‘ฟรีดอกเบี้ย - ฟรีประกัน - ฟรีค่าแรง – ฟรีน้ำมัน’

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงจากมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เผย ปีนี้มาสด้าได้นำรถยนต์รุ่นใหม่ที่ตอบสนองการใช้งานและความต้องการลูกค้าได้อย่างลงตัว อาทิ ALL-NEW MAZDA BT-50 ปิกอัพใหม่สไตล์เอสยูวีที่ผนวกคุณสมบัติที่ดีที่สุดของรถปิกอัพรวมเป็นหนึ่งเดียว กับราคาเริ่มต้น 553,000 บาท เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นกับดอกเบี้ย 1.99% ฟรีประกันชั้นหนึ่ง และฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี 100,000 กม. พร้อมเปิดแพ็คเกจพิเศษให้ลูกค้าเพื่อเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม. ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 10,000 บาท

โดย มาสด้า2 2021 COLLECTION ราคาเริ่มต้น 546,000 บาท มาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี รวมทั้งรุ่นพิเศษ 100th Anniversary Edition และมาสด้า3 ที่มาพร้อมเงื่อนไขสุดพิเศษดอกเบี้ย 0% พ่วงฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance ฟรีบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บาท ขณะที่รุ่นพิเศษ 100th Anniversary Edition ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.

ด้าน มาสด้า CX-30 ผู้พิชิตรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมปีล่าสุดจากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย และติด Top 3 World Car of the Year 2020 มาพร้อมดอกเบี้ย 0.99% ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี ฟรีบัตรเติมน้ำมัน 5,000 บาท และรุ่นพิเศษ 100th Anniversary Edition ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี และมาสด้า CX-3 2021 Collection ครอสโอเวอร์เอสยูวีราคาเริ่มต้น 769,000 บาท มาพร้อมดอกเบี้ย 0.99% ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี

มาสด้า CX-5 เอสยูวีสายหรูที่มีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์ ก็มาพร้อมดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี และมาสด้า CX-8 พรีเมียม 3-Row Crossover SUV ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี

งานนี้ลูกค้าที่สนใจในมาสด้าอยู่แล้ว คงเป็นโอกาสที่ดีกับออพชั่นที่จัดเต็มในงานครั้งนี้ ซึ่งใครสนใจสามารถเข้าชมยนตรกรรมสกายแอคทีฟทุกรุ่นได้ที่บูธมาสด้า ในงานมอเตอร์โชว์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564

“บิ๊กตู่” เร่งเดินหน้าพัฒนาประเทศ สู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์และดิจิทัลอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ พร้อม บอร์ดดีอี อนุมัติงบ 500 ล้านบาท ขับเคลื่อนโครงการนำร่อง 5G

วันที่ 24 มี.ค. 2564 ณ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 1/2564 โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย

 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาความยากจน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมสร้างความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้การวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีความคืบหน้าอย่างมาก เพื่อใช้ประโยชน์และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย เช่น โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วถึงทั้งประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ (เน็ตประชารัฐ)  

 

รวมทั้งการเตรียมพร้อมเรื่องของปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ต่าง ๆ ด้วยการนำเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานของทุกภาคส่วน นำไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์และดิจิทัลอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้บรรลุผลตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำทุกส่วนราชการผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่หรือคลาวด์กลางภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ นำไปสู่การพัฒนาประเทศในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง รวมทั้งบริการประชาชนให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม  ทุกระดับ ทุกช่วงวัย ทุกสาขาอาชีพ ส่งเสริมประชาชนใช้ดิจิทัลให้เกิดประโยชน์เพื่อเดินหน้าไปสู่รัฐบาลดิจิทัล หรือ e-Government โดยการใช้จ่ายงบประมาณต้องไปเป็นอย่างเหมาะสม คุ้มค่า โปรงใส่ เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนโดยรวมอย่างแท้จริง

 

ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย เพื่อการต่อยอดการใช้ประโยชน์ ตามมาตรา 26 (6) วงเงินงบประมาณ 500 ล้านบาท

 

พร้อมเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 26 (6) แห่ง พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย โดยโครงการที่เข้าเกณฑ์ได้รับการพิจารณาสนับสนุน ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขหลัก ได้แก่ เป็นโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ เป็นโครงการนำร่องที่มีความสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ของประเทศไทย ระยะที่ 1 โดยเป็นโครงการที่มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนต่อยุคดิจิทัล หรือจะส่งผลกระทบในวงกว้าง และโครงการที่ขอรับการสนับสนุน ต้องมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี)

 

ในส่วนของความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ที่มีรายงานจัดอันดับช่วงต้นปีนี้โดย Ookla Speedtest ผู้ให้บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตระดับโลก ระบุว่า อินเทอร์เน็ตบ้าน (Fixed Broadband) ของไทย มีความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดสูงถึง 308.35 เมกะบิท/วินาที (Mbps) ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า เทคโนโลยี 5G พลิกโฉมการใช้ประโยชน์ในมิติทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โทรคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค ภาคการขนส่ง ภาคการเกษตร ด้านสาธารณสุข เนื่องจาก อย่างก้าวกระโดดช่วยยกระดับด้านเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

คนหางาน เตรียมตัวให้พร้อม “Bangkok Job Fair 2021”  เสิร์ฟตำแหน่งงานกว่า 5 พันอัตรา

กระทรวงแรงงาน เตรียมตำแหน่งงานกว่า 5 พันอัตรา รองรับคนหางาน กิจกรรมสาธิต 20 อาชีพอิสระติดเทรนด์คนรุ่นใหม่ หาไอเดียธุรกิจ Food Truck รวมทั้งรับบริการและคำปรึกษาด้านแรงงานจากเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงแรงงาน ในงาน BANGKOK JOB FAIR 2021 ณ ฟอร์จูนสตรีท ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ กรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 26 และ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2564 

 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เชิญชวน ผู้สนใจสมัครงาน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานได้ในวันที่ 26 – 27 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.30 น. ที่บริเวณลานฟอร์จูนสตรีท (หน้าอาคาร) ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ กรุงเทพมหานคร โดยภายในงานมีนายจ้าง/สถานประกอบการชั้นนำ เข้าร่วมรับสมัครงาน จำนวน 40 บริษัท อาทิ  บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) บ.ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด  บ. เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด  บ.ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด  บ.เอกชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (มหาชน)  บ.สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  บ. ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) บ. ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บ.บางจากกรีนเนท จำกัด  และ บริษัท ซีพี แลนด์ จำกัด (มหาชน)  เป็นต้น ซึ่งมีตำแหน่งงานว่าง จำนวนกว่า 5,000 อัตรา เช่น วิศวกรโยธา สถาปนิก เขียนแบบ ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน พนักงานบัญชี เจ้าหน้าที่ธุรการ พนักงานบริการ และพนักงานทั่วไป (ฝ่ายผลิต)

 

“สำหรับงาน “Bangkok Job Fair 2021” เป็นงานที่กระทรวงแรงงานตั้งใจจัดขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการสมัครงาน คนหางานได้คัดเลือกตำแหน่งงานว่างที่ตรงกับความรู้ความสามารถ และได้สมัครงานกับนายจ้าง/สถานประกอบการจำนวนมากในคราวเดียว ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้นายจ้าง/สถานประกอบการและผู้สมัครงานได้พบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง 

 

“ซึ่งการส่งเสริมการจ้างงาน และแก้ปัญหาการว่างงานเป็น 1 ในภารกิจหลักของกระทรวงแรงงาน ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นปัญหาที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนถึงเศรษฐกิจในระดับประเทศ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

 

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับผู้ที่กำลังมองหางาน สามารถสมัครงานโดยตรงกับนายจ้าง/สถานประกอบภายในงานได้ทันที เพื่อความสะดวกรวดเร็วผู้สมัครงานอาจเตรียมเอกสารสมัครงาน ได้แก่ เรซูเม่ รูปถ่าย ใบรับรองผลการศึกษา และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของนายจ้าง/สถานประกอบการ นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ กิจกรรมการสาธิตประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของตลาดงาน วันละ 10 อาชีพ อาทิ การทำกระเป๋าบุผ้าปักริบบิ้น สายคล้องหน้ากากอนามัย สบู่สมุนไพร ตระกร้าผ้าย้อมคราม การทำเค้กกล้วยหอม บราวนี่ ขิงอ่อนดอง เป็นต้น  

 

รวมไปถึง ธุรกิจแฟรนไชน์ในรูปแบบ Food Truck  เช่น ซดเตี๋ยว (ก๋วยเตี๋ยวเป็ด) กรอบอยู่ได้ (ลูกชิ้นปลาระเบิด)  Supper Sip (เครื่องดื่มโกโก้) และ Takoyaki by Jenny (ขนมครกญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น) รวมทั้งการให้คำปรึกษาปัญหาด้านแรงงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ การให้บริการจัดหางานสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ โดยกรมการจัดหางาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ ตามพรบ.คุ้มครองคนหางาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ การฝึกทักษะฝีมือแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ การขึ้นทะเบียนประกันตน ม.33, ม.39, ม.40 และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามพรบ.ประกันสังคม โดยสำนักงานประกันสังคม การให้บริการตรวจสุขภาพ โดยโรงพยาบาล วิภาราม พัฒนาการ และกิจกรรมบนเวที เสวนาหัวข้อ “ ใช้ชีวิตให้มีความสุขในยุคโควิด ” โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตโต  และพระอาจารย์ ดร.สมชาย รตนวํโส ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม เวลา 15.00 น.

 

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาร่วมงาน “Bangkok Job Fair 2021” สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกพระราม 9 ติดกับโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน และเทสโก้ โลตัส ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 3 จุด ได้แก่ จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 9 ขั้นที่ 2  จุดขึ้นลงทางด่วนรัชดาภิเษก –อโศกดินแดง จุดขึ้นลงทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา  หรือเดินทางอย่างสะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้า ใต้ดิน (MRT) สถานีพระราม 9 ทางออกที่ 1 

 

รถไฟฟ้า BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อรถเมล์ หรือรถตู้ปรับอากาศ มีนบุรี-อนุสาวรีย์ (ลงหน้า อสมท.) หรือสถานีอโศก ต่อรถไฟใต้ดินลงสถานีพระราม 9 ทางออกที่ 1 หรือเดินทางด้วย รถตู้ปรับอากาศ  สะพานใหม่-อสมท., งามวงศ์วาน-อสมท., มีนบุรี-อนุสาวรีย์ (ลงหน้า อสมท.) เดินทางด้วย รถโดยสารประจำทางสาย  172 ,98 ,171  ,36 ,73  ,73ก ,137 ,168 ,204 ,206 ,514 ,517 ,528 และ 529

 

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694

ลุ้น! “คนละครึ่ง” เฟส 3 คนเคยลงทะเบียนแล้วลุ้นเงินเข้าเลย

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงการจัดทำโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการคนละครึ่ง รอบใหม่ เบื้องต้นผู้ได้รับสิทธิรายเดิมอาจจะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง เนื่องจากมีข้อมูลในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังแล้ว แต่โครงการรอบใหม่จะไม่ได้ต่อโครงการทันทีในสิ้นเดือนมี.ค.นี้ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการที่ระยะที่ 2 เพราะอาจต้องรอให้โครงการโครงการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน สิ้นสุดในช่วงเดือน พ.ค.64 ก่อน

.

“กระทรวงการคลัง จะมีการพิจารณารายละเอียดของโครงการก่อน เพราะตอนนี้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจยังมีอยู่ถึงในช่วงเดือนพ.ค.นี้ แต่จะพยายามผลักดันให้มีเงินออกมาดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง”  

.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังขอจัดการเรื่องร้านค้าทุจริตให้เรียบร้อยก่อนจะดำเนินโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โดยตอนนี้มีร้านค้าที่ถูกดำเนินคดีและถูกจับตาจากภาครัฐที่ส่อเกิดการทุจริตอยู่จำนวนหลายร้อยแห่ง ซึ่งในเรื่องนี้จะต้องหาวิธีทำให้รัดกุม ก่อนจะเปิดโครงการระยะต่อไป 

รอเลย “เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์เที่ยวไทย” เริ่ม พ.ค. นี้

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 2 โครงการ โดยโครงการแรกคือ ทัวร์เที่ยวไทย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนวงเงินแบบร่วมจ่าย 40% ไม่เกินคนละ 5,000 บาท กำหนดวิธีการ คือจะต้องซื้อแพ็คเกจทัวร์กับบริษัททัวร์ในประเทศ 3 วัน 2 คืน ราคาขั้นต่ำ 1.25 หมื่นบาท โดยจะต้องไปเที่ยวในวันธรรมดา คือ วันอาทิตย์-พฤหัส ซึ่งผู้มีสิทธิต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปถึงสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ เริ่มต้นโครงการตั้งแต่เดือนพ.ค.-ส.ค.64 กำหนดเป้าหมายไว้ 1 ล้านคน

“คนที่ต้องการร่วมโครงการจะต้องเข้าไปดูในเวปไซต์ของ ททท. และการจ่ายเงินจะต้องทำผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น ไม่มีการจ่ายเงินลักษณะอื่น และต้องสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด และสแกนใบหน้าของคนใช้บริการในระหว่างที่เข้าไปใช้บริการทั้งที่พักและร้านอาหารกับผู้ให้บริการ ซึ่งผู้ให้บริการต้องมีแอปฯ ถุงเงินเพื่อรับชำระด้วย ถือเป็นระบบตรวจสอบที่จะเอามาใช้ตรวจสอบการทำโครงการเพื่อป้องกันทุจริต”

ส่วนอีกมาตรการคือ เราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 มีเพิ่มสิทธิการเข้ามาใช้ห้องพักอีก 2 ล้านสิทธิ โดยต้องเข้ามาจองห้องพักล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน เริ่มต้นในเดือนพ.ค. - ส.ค.64 เป็นต้นไป ขณะที่บัตรกำนันอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เวาท์เชอร์) ที่เคยให้วันธรรมดาคนละ 900 บาทต่อวัน และวันศุกร์-อาทิตย์ คนละ 600 บาทต่อวัน นั้นจะปรับเหลือราคาเดียวคือคนละ 600 บาทต่อวัน และกำหนดให้ใช้บริการแบบข้ามจังหวัดเท่านั้น ไม่สามารถพักในจังหวัดตามภูมิลำเนาของตัวเองได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top