Friday, 26 April 2024
NEWSFEED

‘ลิซ่า’ สุดปัง!! ยอดติดตามไอจีทะลุ 100 ล้าน ขึ้นแท่นศิลปิน K-POP คนแรกที่สามารถทำได้

(25 ธ.ค.66) ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรกี่ครั้ง ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ซุปเปอร์สตาร์สาวฮอตระดับโลกก็สร้างตำนานบทใหม่ สะเทือนวงการแฟชั่นที่ขึ้นเทรนด์ทั่วโลก ล่าสุด โดยเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา อินสตาแกรมของสาวลิซ่ามีผู้ติดตามพุ่งทะลุ 100 ล้านคนแล้ว

กลายเป็นศิลปินเคป็อปคนแรกในประวัติศาสตร์และคนไทยเพียงคนเดียวที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุด ซึ่งสาวลิซ่ามีผู้ติดตามครบ 100 ล้านคน ทำสถิติ 5 ปี และ 6 เดือน เรียกได้ว่า เหล่าบลิ๊งก์และลิลลี่ได้มอบของขวัญวันคริสมาสต์อีฟให้แก่สาวลิซ่าจริง ๆ

นอกจากนี้สาวลิซ่ายังมอบของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ให้บลิ๊งก์และลิลลี่ด้วยการเซอร์ไพรส์โคฟเวอร์เพลง My Only Wish ของ Britney Spears ลงในช่องยูทูบ Lilifilm Official ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงมาแรง #5 ในยูทูบ

ทำเอาแฮซแท็ก #MyOnlyWishByLISA และ #MerryXmasWithLALISA ขึ้นเทรนด์ทั่วโลก งานนี้ เพลงก็ไพเราะ คนก็สวย เสียงก็ดี มองรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เป็นตัวแม่ตัวมัมจริง ๆ

‘ลิซ่า’ กอดลา ‘พี่เตอร์’ แมวสุดที่รักครั้งสุดท้าย พร้อมขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 18 ปี

เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.66) หลายคนจะรู้ว่า ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ สาวไทยสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK เป็น ‘ทาสแมว’ โดยแฟนคลับทั่วโลกจะเห็นว่าเธอนั้นเลี้ยงน้องแมว 5 ตัว ซึ่งประกอบไปด้วย LEO, LUCA, LILY, LOUIS และ LEGO นอกจากนี้ได้เลี้ยงน้องหมาอีก 1 ตัวชื่อ LOVE อีกด้วย

โดยเธอได้เปิดไอจี ‘lalala_lfamily’ เพื่ออัปเดตเหล่าสัตว์เลี้ยงให้แฟนคลับได้ชมความน่ารักของน้องๆ

แต่ล่าสุด ‘ลิซ่า’ ได้แจ้งข่าวเศร้า หลังจากที่เธอกลับไทย และมาพบน้องแมวที่เธอเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็ก ถือเป็นแมวแสนรักเพื่อนซี้ที่อยู่ด้วยกันมานานอย่าง ‘ฮันเตอร์’ หรือที่เจ้าตัวเรียกติดปากว่า ‘พี่เตอร์’ ได้กลับดาวแมวแล้ว

โดยเธอระบุว่า “โชคดีมากที่ได้กลับมากอดลาเพื่อนซี้ที่โตมาด้วยกันทัน ขอบคุณที่รอ พี่เตอร์เป็นผู้ฟังที่ดี และไม่เคยทำให้วัยเด็กของเราเหงาเลย ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 18 ปี ไม่ต้องรออยู่อีกฝั่งนะ กลับดาวแมวไปเลยจ้า”

หลังจากที่โพสต์ไปไม่นานมีแฟนๆ เข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก

‘หนึ่ง จักรวาล’ ส่งต่อโอกาสดีๆ ให้เด็กๆ จากใจคนผ่านมาก่อน มอบ 'เปียโน' เพื่อสนับสนุนความพยายาม ในวันคริสต์มาส

(24 ธ.ค.66) เป็นอีกหนึ่งคนที่คอยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของตัวเองฝ่าฟันอุปสรรคความยากไร้ รวมถึงได้รับโอกาสดีๆ จนกลายเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ สำหรับ ‘หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม’ ที่ล่าสุดก็ขอส่งต่อโอกาสให้เด็กๆ เป็นการสนับสนุนในความพยายาม พร้อมบอกเล่าไว้ว่า

“Merry Christmas ‘โอกาส มีให้สำหรับคนที่พร้อมเท่านั้น’ ของขวัญจากลุงนะลูก…

ครั้งหนึ่งลุงก็เคยได้รับโอกาสจากบ้านหลังนี้ บ้านหลังที่ 2 ของนักดนตรีหลายคน

โอกาสถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ…

ครั้งหนึ่งลุงเป็นแค่ไอ้เด็กดำ เด็กนักเรียนตัวดำ ยืนเกาะกระจกดูเขาเล่นเปียโนกัน เพราะไม่มีปัญญาซื้อเลยได้แต่เดินผ่านไปมาตามร้านขายเปียโน ป๊าธีระ ใครก็เรียก ‘อาเจ็ก’ เจ้าของร้านขายเครื่องดนตรีในตรอกเวิ้งนครเกษม ‘เวิ้งนาครเขษม หรือ นครเขษม’ ณ ตอนนั้น กวักมือเรียกให้เข้าไปในร้าน

เด็กดำคนนั้นยืนเงอะงะไม่กล้าเข้าไป ป๊าบอกไม่ซื้อไม่เป็นไร มานั่งเล่นก่อนมาๆ…มาทีไรป๊าก็กวักมือเรียกทุกที รู้แหละไอ้เด็กคนนี้มันไม่ซื้อหรอก มันอยากมาเล่น เล่นทีเป็นชั่วโมงนะ เพราะไม่มีเงินซื้อจริงๆ ได้ใช้เปียโนจริงๆ นั่งในแอร์เย็นๆ เพราะป๊าเลย

วันนี้ผมเป็นฝ่ายมอบโอกาสนั้นบ้าง โดยการพาลูกๆ มาพบของขวัญชิ้นใหญ่ 

เปียโนตัวใหม่ พร้อมขาตั้งให้ลูกทั้ง 2 เอาไปใช้งานและพัฒนาฝีมือตัวเองเพิ่มขึ้น ‘ไม่มีความพยายามใดที่ไร้ค่า ทุกความพยายามมีโอกาสรออยู่เสมอ’

ขอบคุณธีระมิวสิคที่ช่วยสนับสนุนตู้แอมป์และอุปกรณ์เอฟเฟกต์ เพื่อเพิ่มคุณภาพของเสียงให้ดีขึ้นอีกด้วยครับ

หวังว่าในชีวิตของลูกทั้ง 2 จะมีโอกาสเข้ามาอีกมากมาย ไม่ว่าโอกาสนั้นจะเล็กหรือใหญ่ ก็จงเตรียมพร้อม ไขว่คว้า เก็บเกี่ยวทุกโอกาสไว้นะ และรับโอกาสนั้นไว้ด้วยความยินดีเสมอนะลูก

วันนี้ลุงเป็นแค่สะพานเล็กๆ ให้ลูกได้ก้าวข้ามไป อนาคตข้างหน้าลูกอาจมีอาชีพใหม่ แต่ก็ขอให้ ความรู้ในดนตรีนี้ หาเลี้ยงชีพครอบครัวลูกให้ได้มากที่สุด ลุงก็ชื่นใจแล้ว

ต่อจากนี้ลูกต้องเดินด้วยตัวเองอย่างมั่นคงและอดทนต่อสู้กับอุปสรรคทุกสิ่ง แม้จะยากลำบากแค่ไหนขอให้หัวใจของลูกเข้มแข็งนะ…ขอให้ลูกโชคดี

#ก้าวข้ามอุปสรรค #โอกาสมีไว้สำหรับคนที่พร้อม #หนึ่งจักรวาล #1jakkawal #ธีระมิวสิค”

‘รอมแพง’ ขอโทษ ‘แดง ศัลยา-ทีมงาน’ หลังพรหมลิขิตตอนจบถูกสับเละ ลั่น!! “ตำหนิดิฉันได้เลย เขียนนิยายได้ไม่ดีพอจะเอามาทำเป็นละคร”

เปิดตัวสวย เรตติงน่าพอใจ สำหรับละคร ‘พรหมลิขิต’ ทางช่อง 3 ภาคต่อของละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ แต่เพราะตอนจบ เหมือนรีบตัดจบ จนทำแฟนละครพากันงงและผิดหวัง วิจารณ์กันสนั่น ทำนองว่า ทำไมต้องยัดทุกเรื่องราวไว้ในตอนสุดท้าย จนทำให้ทัวร์ลงอยู่ไม่น้อย…

ล่าสุด (22 ธ.ค. 66) ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ เฟซบุ๊ก ‘อาจารย์แดง ศัลยา สุขะนิวัตติ์’ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้ ยันบทละครเหมือนนิยายทุกประการ บางข้อความคล้ายพาดพิงไปถึงคนเขียนนิยาย โดยระบุว่า…

“พรหมลิขิต 2566

ยกที่หนึ่ง

พรหมลิขิตตอนจบรวบรัดเกินไป นิยายเขียนคำว่า “จบบริบูรณ์” หลังจากฉากแต่งงานของพ่อริดเและพุดตาน ต่อจากนั้น นิยายเขียนว่า “ตอนพิเศษ” ความยาว 4 หน้าหนังสือ ในเมื่อเป็นตอนพิเศษ จึงไม่เพิ่มไม่ลดไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ

บทละครจึงเหมือนนิยายทุกประการ คำว่ารวบรัดเกินไปจึงขอมอบให้ตอนพิเศษของนิยายเรื่องนี้
ยังมียกต่อๆ ไป

1. ) คาแรคเตอร์ของพ่อริด เรื่องนี้ต้องพูดกันยาว
2.) คาแรคเตอร์คนอื่นๆ : ไม่เหมือนนิยายแน่หรือ?
3.) ตัวละครหาย : คนเขียนบทหรือนิยายกันแน่ที่ทิ้งตัวละคร
4.) เหตุการณ์พุดตานถวายตัวที่ไม่มีในนิยาย : ทำไม?
5.) บทอาฆาตแค้นของจันทราวดีต่ออทิตยาที่หายไป : เพราะอะไร?
6.) ศรีปราชญ์ : ตัวละครเจ้ากรรมตั้งแต่บุพเพสันนิวาส : มีและไม่มีเพราะอะไร?
7.) การเคารพบทประพันธ์และการเคารพวิถีการเขียนบทละคร : ศาสตร์ที่แตกต่างกัน
8.) บทละครเหมือนนิยาย หรือต่อยอดจากนิยาย เป็นสัดส่วนเท่าไหร่? : ต้องคำนวณ
9) การวิพากษ์วิจารณ์รวบยอดที่รุนแรงและไม่เป็นวัตถุวิสัย

ต่อมา ‘รอมแพง’ หรือ ‘จันทร์ยวีร์ สมปรีดา’ ก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า…

ตำหนิดิฉันได้เลย บอกน่าจะเป็นนิยายที่ไม่ดีพอจะทำเป็นละคร

“ขอน้อมรับความผิดพลาดของนิยายพรหมลิขิต ที่ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ และน่าจะไม่ดีพอที่จะทำเป็นละคร จึงทำให้ทีมละครโดนวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เป็นความผิดของดิฉันเองค่ะ

หลายท่านอาจจะไม่พอใจที่ทีมทำละครโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยที่ดิฉันเหมือนลอยตัวจากการวิพากษ์นั้น จากการที่ดิฉันพิมพ์และพูดอยู่เสมอว่า หลังขายเป็นละครแล้วแทบจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของทีมละครเลย นอกจากจะมีการขอคำปรึกษาจากทีมงาน และต้องให้เกียรติคนทำงาน เพราะศิลปะการนำเสนอของละครกับนิยายแตกต่างกัน…

ซึ่งประโยคเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดิฉันพูดมาเป็น 10 ปี ในการไปเป็นวิทยากรทุกแห่ง จากการที่นิยายได้ทำเป็นละครมาหลายเรื่อง แน่นอนว่า ดิฉันไม่มีปัญหากับการดัดแปลงเพราะเข้าใจเป็นอย่างดีในศาสตร์ที่ต่างกัน แต่อาจจะมีความเสียดายในเนื้อหาหรือคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไปบ้างแต่ก็ไม่ใช่ความเสียใจที่ขายเป็นละครอย่างแน่นอน

ดังนั้น แบ่งความคิดเห็นที่ตำหนิจากความผิดหวังในสิ่งที่คาดหวังจากละครมาทางดิฉันได้เลยค่ะ เพราะถ้าไม่โดนตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์เสียบ้าง ก็จะไม่ทำให้เกิดการพัฒนาขอบคุณมากนะคะ รอมแพง”

ต่อมา รอมแพงก็ได้เข้าไปคอมเมนต์ใต้เฟซบุ๊กของแดง ศัลยา ระบุว่า “อุ้ยต้องกราบขอโทษป้าแดงด้วยนะคะ ที่นิยายของอุ้ยมีความผิดพลาดขาดพร่อง จนทำให้ป้าแดงทำงานยาก และต้องดัดแปลงจนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากขนาดนี้ รวมไปถึงความอ่อนด้อยในการตอบคำถามของพิธีกรและนักข่าว ก็ยิ่งสร้างความลำบากใจให้กับทีมละคร เป็นความผิดของอุ้ยเองค่ะ กราบขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ อุ้ย รอมแพง”

‘หนุ่ม กรรชัย’ ฝากความในใจถึง ‘ครูตี๋สอนจีบสาว’ หลังทัวร์ลงยับ ขอให้หยุดความคิดนี้ ซ้ำ!! เป็นการเหยียดผญ.-คนเจ๋งจริงเขาไม่อวด

(19 ธ.ค.66) หลังจากเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลถึง ‘ครูตี๋สอนจีบสาว’ ไลฟ์โค้ชคนล่าสุดที่ออกมาสอนหนุ่มถึงเรื่องผู้หญิง จนถูกกระแสสังคมตีกลับ โดยล่าสุดวันนี้ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ก็ได้มีการเล่าข่าวเรื่องนี้เช่นกัน โดย ‘หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย’ หนึ่งในพิธีกรรายการก็ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ไว้ว่า

“คือในมุมของพี่นะ เป็นผู้ชายเหมือนกัน พี่มองว่าเป็นการเหยียดผู้หญิง คือเหมือนพยายามจะบอกตัวเองว่าเป็นเจ้าโลกอย่างนี้หรอ มันไม่ใช่อะ ทำแบบนี้มันได้หรอ”

คือเอาตรง ๆ นะตี๋ หนุ่มเนี่ยก็กระฉ่อนมาก่อน วิธีของตี๋นี่เลอะเทอะ บอกเลยตี๋นี่ครูกะปิเอง เชื่อครูกะปิอย่ามีความคิดแบบนี้ นี่ฝากบอกผู้ชายด้วยอย่ามีความคิดแบบนี้นะ มันไม่ถูกต้อง จะไปบอกว่าต้องดูมูลค่าผู้หญิงที่เขาต้องต่ำกว่าเรา แล้วเราก็ต้องเสนอเขาอย่างนี้ ทั้งที่เรามีเมียอยู่แล้ว แล้วเดี๋ยวผู้หญิงเขาจะเข้ามาหาเรา มันไม่ใช่

จะไปบอกว่านี่ไม่ได้เหยียดนะ แต่สิ่งที่คุณพูดมันคือการเหยียด และเอาตรง ๆ นะ คนที่เจ๋งจริง ๆ เขาไม่พูดหรอก เขาอมภูมิ เขาไม่อวดภูมิเรื่องพวกนี้ แหม่…จะไปสอนคนให้ไปจีบหญิงให้มีเมียน้อยได้

มันเป็นกติกาที่ใช้ไม่ได้เลยนะ ฝากบอกครูตี๋นะ จากครูกะปินะ คนจริงเขาต้องอมภูมิเขาไม่อวดภูมิหรอกลูก เชื่อพ่อ…อยู่ดี ๆ อยู่ในที่ของตัวเอง ไม่ต้องออกมาสาระกับคนอื่นแล้วเรื่องแบบนี้มันเป็นการชักจูง ทำให้คนที่ไปทำเลียนแบบคุณ หรือคิดว่าใช้ได้ แล้วไปทำเรื่องแบบนี้ขึ้นคุณรับประกันได้ยังไง ถ้าเกิดฝ่ายหญิงเขารู้ว่าคุณไปหลอกเขาแล้วเขาเอาปืนมายิงคุณตาย หรือเหตุฆ่ากันมันก็มาจากเรื่องชู้สาวเยอะ เพราะฉะนั้นสอนก็สอนให้มันอยู่ในวิถี มุมมองที่มันถูกต้อง

และทิ้งท้ายว่า “ก่อนจะหยุดพ่อเคยสุดมาก่อนลูก”

‘โซเชียล’ ยก!! ฉากปรากฏตัว ‘คุณยายบรรเจิดศรี’ ในวัย 98 ปี แม่ผู้เขียนบท-ย่าแท้ๆ ของอึ่ง เป็นซีนที่ดีที่สุดของตอนจบ ‘พรหมลิขิต’

โซเชียลยกซีนที่ดีที่สุด #พรหมลิขิตตอนจบ การปรากฏตัวของ ‘คุณยายบรรเจิดศรี’ ในวัย 98 ปี ในบทยายของเกศสุรางค์ ชีวิตจริงเป็นย่าแท้ๆ ของอึ่ง เป็นแม่ของผู้เขียนบท

(19 ธ.ค. 66) ปิดฉากจบบริบูรณ์ ‘พรหมลิขิต’ เป็นที่อิ่มอกอิ่มใจของแฟนละคร มีการพูดถึงแต่ละฉากสุดประทับใจ โดยเพจดังอย่าง ‘หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ’ ได้โพสต์ถึงซีนที่ตราตรึงใน #พรหมลิขิตตอนจบ กับฉาก ‘คุณยายนวล’ ยายของเกศสุรางค์ ปรากฏในความฝันของทั้ง เกศสุรางค์ที่อยู่ในร่างการะเกด และออกญาวิสูตรสาคร

โดยทางเพจเผยด้วยว่า “ซีนที่ดีที่สุดของพรหมลิขิตในตอนจบคืนนี้ คือการปรากฏตัวของ ‘คุณยายบรรเจิดศรี ยมาภัย’ นักแสดงอาวุโสในวัย 98 ปี ในบทของคุณยายนวล (ยายของเกศสุรางค์)

ซึ่งในชีวิตจริงคุณยายบรรเจิดศรีเป็นย่าแท้ๆ ของ ‘อึ่ง’ และเป็นแม่ของคุณศัลยา (ผู้เขียนบท) #จากแฟนละครขอให้คุณยายสุขภาพแข็งแรงนะคะ”

‘นุ่น รมิดา’ ก็เข้ามาส่งหัวใจ ขณะที่ แฟนละคร ต่างคอมเมนต์ประทับใจฉากดังกล่าวของคุณยายบรรเจิดศรี ยกให้เป็นซีนพิเศษ ซีนที่สุดอีกหนึ่งซีนด้วย อาทิ

“เป็นแฟนละครของคุณยายตั้งแต่เล็ก จำความได้ ก็เห็นคุณยายรับบท ยาย ย่า จนตอนนี้แม้อายุมากแต่เห็นท่านมีสุขภาพแข็งแรงตามอัตถภาพ เป็นเรื่องดีต่อใจมากเหลือเกินค่ะ”

“คุณยายถือเป็น MVP ของเรื่องเลยตั้งแต่ตามมา ว้าวมากๆ”

“ซีนนี้ประทับใจที่สุด ขอให้คุณยายสุขภาพแข็งแรงนะคะ”

“เป็นอีกฉากที่ร้องไห้หนักเลยค่ะแอด” เป็นต้น

ตอนสุดท้าย ‘พรหมลิขิต EP.26’ ดูสดพร้อมกันคืนนี้ ลุ้น!! ความรัก ‘พ่อริด-แม่พุดตาน’ จะลงเอยเช่นไร

(18 ธ.ค.66) เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับ ‘พรหมลิขิต’ แฟนละครทุกท่านสามารถติดตามชม EP.26 ตอนจบ พร้อมกันได้ที่ทางช่อง 3HD กด 33 และช่องทางรับชมบนโทรศัพท์มือถือ กด 3Plus ตั้งแต่เวลา 20.30 น. เป็นต้นไป และอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับใครที่กลัวดูสดไม่ทัน สามารถรับชมสตรีมมิ่งบน Netflix ได้เช่นกัน (คาดว่าลงหลังออนแอร์เหมือนกับหนังและซีรีส์ทั่วไป)

>> เรื่องย่อ พรหมลิขิต ตอนที่ 26 (ตอนจบ) 

พ่อริดเห็นความไม่โปร่งใสของพระยาโกษาธิบดีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อริดจึงตัดสินใจครั้งใหญ่ พูดกับพระยาโกษาธิบดีตรง ๆ ว่ารู้เรื่องทุจริตทั้งหมดแล้วและขอไม่ทำงานด้วยอีก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพระยาโกษาธิบดีเป็นอย่างมาก จนทำให้แม่หญิงแพรจีนตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว

ในขณะที่คุณหญิงจำปาเริ่มป่วยและอาการทรุดหนัก ก็ได้หลาน ๆ ผลัดกันมาดูแลอย่างใกล้ชิด แม้จะมีอุปสรรคความรักมากเพียงใด แต่พุดตานกับพ่อริดก็จับมือสู้กันมาทุกครั้ง ซึ่งการใช้ชีวิตของพุดตานก็ยังไม่เคยหยุดทำมาหากิน เธอยังขยันหาเมนูใหม่ ๆ มาทำขายที่ตลาด จนเป็นที่ติดใจทั้งขุนหลวงและหนุ่ม ๆ ที่ผ่านไปผ่านมา และระหว่างนั้นเกศสุรางค์เดินทางไปเยี่ยมตองกีมาร์เพื่อแสดงความยินดีที่เธอได้อวยยศเป็นท้าวทองกีบม้า

แล้วเมื่อเวลาผ่านไป จู่ ๆ วันหนึ่งเกศสุรางค์ได้ฝันเห็นยายนวลที่มาหาหลาน ๆ ซึ่งยายมาเพื่อบอกให้ทุกคนเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านพ้นไป เกศสุรางค์บันทึกเรื่องราวเหล่านี้ลงสมุดบันทึกและปิดสมุดลงพร้อมยิ้มอย่างมีความสุข

‘ลิซ่า’ เยือนร้านเจ๊ไฝ ทานข้าวอย่างอบอุ่น พร้อมร่วมยินดีคว้าดาวมิชลิน 7 ปีซ้อน

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 ผู้ใช้อินสตาแกรม sooin_koco ได้โพสต์คลิปวิดีโอของ ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ จากวง BLACKPINK เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับ ‘เจ๊ไฝ’ โดยไปพร้อมกับคณะผู้บริหารของบะหมี่เกาหลีชื่อดัง ‘Nongshim’ ด้วย

ทั้งนี้ ลิซ่า ทีมงาน และผู้บริหารต่างๆ ยังได้ร่วมรับประทานอาหารในร้านเจ๊ไฝ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น และสนุกสนาน ทั้งยังมีเหล่าๆ แฟนๆ คนไทยที่มารอต้อนรับลิซ่าอยู่บริเวณหน้าร้านด้วย

สำหรับร้านเจ๊ไฝนั้น กลายเป็นร้านอาหารสตรีตฟู้ดที่ดังสุดๆ ไปไกลถึงระดับโลก เนื่องจากร้านของเจ๊ไฝนั้น ได้รับการการันตรีโดยรางวัลมิชลิน 7 ปีซ้อน หลังล่าสุดในปี 2567 ก็สามารถรักษาระดับมาตรฐานไว้ได้อย่างเหนียวแน่น กอดดาวมิชลินไปครองอีกปี

‘กระแต อาร์สยาม’ ทุ่มเงิน 2 ล้าน ถอย ‘รถดับเพลิง-รถกู้ภัย’ ปลื้มใจ!! ได้ทำดีเพื่อสังคม สร้างกุศลช่วยชีวิตผู้ที่เดือดร้อน

(14 ธ.ค.66) อิ่มบุญอิ่มสุขกันยกใหญ่ สำหรับ ‘กระแต อาร์สยาม’ นักร้องลูกทุ่งสุดแซ่บ จัดหนักจัดเต็ม ประกาศดำเนินโปรเจกต์ใหญ่ ‘โครงการบุญ 10 ล้าน 10 ที่’ ร่วมกับแฟนคลับ เพื่อสมทบทุนเงิน มอบให้กับหน่วยงานที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นการสร้างบุญกุศลใหญ่ให้กับทุกคน

โดยเริ่มต้นด้วยที่แรกกับการส่งมอบรถดับเพลิงและรถกู้ภัย เพื่อช่วยบรรเทาสาธารณภัยให้กับประชาชน รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท แถมยังเตรียมสร้างทั้งอาคารเรียน ห้องคลอด ลานเอนกประสงค์อีกหลายที่

พร้อมโพสต์ระบุว่า “นำบุญใหญ่มาฝากทุกท่านนะคะ #อยากให้ดูคลิปนี้จนจบ แล้วคุณจะได้รู้ว่า ‘บุญที่ทำแล้วเห็นผลทันตา’ คืออะไร?

#โครงการบุญ10ล้าน10ที่ วันนี้แตรและทีมงาน KATHY Cosmetics มาส่งมอบรถดับเพลิงและรถกู้ภัย รวมถึงอุปกรณ์ดับเพลิง ถังออกซิเจน ชุดป้องกันไฟ รวมมูลค่ากว่า 2,000,000 บาท ให้กับพี่ ๆ อาสาฐานธนภพ จุดบางกรวย นนทบุรี เป็นที่เรียบร้อยนะค้า

นอกจากนี้จะมีการเตรียมสร้างทั้งอาคารเรียน ห้องคลอด ลานเอนกประสงค์อีกหลายที่เลย แตรจะมาอัปเดตในแต่ละที่เรื่อย ๆ นะคะ

วันนี้ภูมิใจมากๆ ปลื้มปิติและอิ่มในบุญใหญ่ครั้งนี้มาก ๆ เลย ที่ได้เห็นรอยยิ้มของพี่ ๆ เหล่าวีรชนนักผจญเพลิงที่ เสียสละชีวิตมามากมาย ที่ทำด้วยใจบริสุทธิ์ มีจิตอาสาช่วยเหลือจากใจจริง ๆ พี่ ๆ เอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพลิงไหม้ทุกครั้ง โดยไม่เคยมีเซฟตี้จากหน่วยงานใด ทุกคนใช้เงินตัวเองซื้ออุปกรณ์ เพื่อมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกครั้ง

ตอนนี้พี่ ๆ ได้นำไปใช้ออกเหตุในหลาย ๆ ที่ แล้วค่ะ นี่คือบุญที่ทำแล้วเห็นทันตา ทำแล้วเกิดประโยชน์จริง ๆ ขอกราบอนุโมทนาสาธุในทุก ๆ บุญที่ร่วมกันสั่งหนังสือสวดมนต์ สวดพลิกชีวิต @plickcheevit และลูกค้าแบรนด์ @kathycosmetics_th ทุกท่าน ที่ได้มีส่วนร่วมในบุญอันเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ ในการช่วยชีวิตผู้คนครั้งนี้ด้วยกันนะคะ"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top