Friday, 29 March 2024
อภิสิทธิ์

‘อภิสิทธิ์’ โพล / ‘โทนี่’ โพล VS โพลลับ ‘ประยุทธ์-เพื่อไทย’ ใครจะร่วง?

ไม่เหนือความคาดหมายที่...อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะประกาศชัดเจนว่าไม่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค (ประชาธิปัตย์) เหตุผลก็ชัดเจนว่าเพื่อให้คณะผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันนำพาพรรคไปตามแนวทางอย่างเป็นเอกภาพ...แต่ตนก็จะช่วยหาเสียงให้พรรคตามวิธีการของตน

ประเด็นที่น่าสนใจที่อภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ 2-3ครั้งในสองวันนี้ ก็คือ คำพยากรณ์ที่ว่า...บนพื้นฐานของผลการเลือกตั้งโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลับมาเป็นนายกฯ นั้น ‘ยากมาก’ เพราะ…

1) จะจัดตั้งรัฐบาลต้องมีเสียงสนับสนุน (ในสภาผู้แทนราษฎร) 250 เสียงขึ้นไป ซึ่งขณะนี้เชื่อว่าจะมีไม่ถึง 250
2) แม้จะรวบรวมได้เกิน 250 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่น่าจะเป็นแชมป์หรือมีเสียงมากที่สุดในปีกนี้หรือขั้วนี้...

แม้ ‘อภิสิทธิ์’ จะไม่ระบุตัวเลขแชมป์เลือกตั้งอย่างเพื่อไทยว่าจะได้เท่าไหร่..ใแต่ก็พูดชัดว่าจะทิ้งพรรคที่สองเป็นร้อยที่นั่ง และคะแนนรวมของปีกเพื่อไทยจะเกินครึ่ง (250)..แน่นอน และนั่นคือความชอบธรรมของเพื่อไทยที่จะจัดตั้งรัฐบาล..

แน่นอนว่าเมื่อ ‘อภิสิทธิ์โพล’ เป็นเช่นนี้...ก็ต้องสอดคล้องอย่างช่วยไม่ได้กับ ‘โทนี่ โพล’ ที่ประกาศผ่านรายการแคร์ คิดเคลื่อนไทยมาโดยลำดับว่า...แลนด์สไลด์เกิน 250 แน่นอน...และฝ่ายประชาธิปไตยคะแนนรวมกันจะเกิน 375 เสียงอีกต่างหาก..!!

ล่าสุดคืนวันอังคาร 21 มี.ค.ถึงขั้นขานรับแลนด์สไลด์ 310 เสียง..ประกาศความเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยคงเป็นรัฐบาลพรรคเดียวไม่ขายพ่วงกัน เลยทีเดียว…

ถ้าถามว่ากระแสเพื่อไทยแลนด์สไลด์ (เกิน250เสียง) มีไหม...ถ้าดูตามโพล2-3สำนักก็ต้องบอกว่ามี...โดยเฉพาะ ‘นิด้าโพล’ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ ‘อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย’ ทิ้งขาดพรรคอันดับ2-3 เกินเท่าตัว...แต่เมื่อดูรายละเอียดในข้อเท็จจริงบางอย่างมันก็ย้อนแย้งมาก เช่น กรณีภูมิใจไทย หากเอาคะแนนนิยม ส.ส.เขต2.70% จาก 400 เขต มาเทียบบัญญัติไตรยางค์พรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.เขตแค่ 11 คน เท่านั้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แค่ ‘บุรีรัมย์+โคราช’ ก็เกินแล้ว...!!

และส่งท้ายด้วยโพลที่...หน่วยงานกึ่งความมั่นคงแห่งหนึ่งทำขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่ง ‘เลียบการเมือง’ ขอนำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ไม่ได้จุดประสงค์อื่นใดมากไปกว่านี้ ปรากฏดังนี้…

‘มาร์ค’ กลับถิ่นเก่า ควง ‘มาดามเดียร์’ ลุยบางคอแหลม อ้อนชาวบ้าน หนุน ‘อภิมุข’ เข้าสภาฯ รับใช้ประชาชน

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 66 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรค ปชป.ลงพื้นที่ชุมชนบ้านใหม่ ซอยเจริญกรุง 85 เขตบางคอแแหลม ช่วยหาเสียงสนับสนุนให้นายอภิมุข ฉันทวานิช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตยานนาวา-บางคอแหลม พรรค ปชป.

โดยทันที นายภิสิทธิ์เดินทางถึง นางสุไร แก้วทอง สข. คนแรกของประเทศไทยปี 2528 ที่เคย ช่วยอภิสิทธิ์หาเสียงสมัยลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรก พร้อมกับชาวบ้านเก่าแก่ในชุมชน มารอต้อนรับ โดยมี มล.อภิมงคล โสณกุล อดีต ส.ส.เขตนี้ มาช่วยหาเสียงด้วย

ขณะเดียวกัน นายอภิมุข ได้นำโปสเตอร์ หาเสียง รูป นายอภิสิทธิ์ สมัยลงเลือกตั้งครั้งแรก ที่ นายสมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต ส.ส.เขตนี้ ซึ่งเป็นพ่อ นายอภิมุข ฝากมาให้นายอภิสิทธิ์ด้วย

โดยในช่วงหนึ่งระหว่างการเดินพบปะประชาชน นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ทุกคนยังจำได้ว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตนเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่เขตนี้ ได้ทำงานรับใช้ประชาชนในฐานะ ส.ส.แต่ตนก็ไม่เคยทิ้งพื้นที่ เพราะตลอดเวลาในการทำงานการเมืองได้กลับมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ รวมถึงยังได้เฟ้นหาบุคลากรที่มีคุณภาพมาเป็นผู้แทน รับใช้ดูแลประชาชนในเขตพื้นที่ยานนาวา-บางคอแหลมอยู่ตลอด

โดยในอดีต ตนเคยมาเดินหาเสียงหาเสียงกับนายสมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต ส.ส.กทม. คุณพ่อของนายอภิมุข ดังนั้น นายอภิมุขจึงไม่ใช่คนอื่นไกล และได้ทำงานรับใช้พี่น้องในฐานะ ส.ก.มายาวนาน และวันนี้มีความพร้อมที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ตนก็ให้ความมั่นใจเพราะว่าเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก รู้ว่าใจเขาอยู่กับงานการเป็นผู้แทนฯ รับใช้ประชาชนและจะสามารถมาดูแลทุกข์สุขของทุกคนได้

‘องอาจ’ ฉะ ‘บิ๊กป้อม’ อ้าง ปชป.เท ‘มาร์ค’ หวังร่วม รบ. ยัน!! มาร์คออกเพราะสปิริต และร่วมรัฐหลังได้ หน.ใหม่

(21 เม.ย. 66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงบทความของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้ารรคพลังประชารัฐ (พปช.) เรื่องจะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร ที่เขียนลงในเฟซบุ๊กพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า หัวหน้าพรรค คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศไม่ยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ แต่พอถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วม โดยหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่ให้คุณอภิสิทธิ์ลาออกไป โดยมีประโยชน์ของประชาชนมากมายมาอ้างว่า ข้อความที่ พล.อ.ประวิตร เขียนนี้ยังคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะในความเป็นจริงแล้ว นายอภิสิทธิ์ ได้ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคฯ ตั้งแต่กลางคืนวันที่ 24 มี.ค. 2562 หลังจากทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่าเรามีจำนวน ส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้งน้อยกว่าเดิม โดยการลาออกนี้เป็นการแสดงสปิริตความรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น

‘มาร์ค’ ปราศรัย กทม.โซนเหนือ ลั่น นโยบายไม่หวือหวาแต่อยู่มานาน วอนพี่น้องเลือก ปชป. 2 ใบ ยืนยัน!! สามารถเป็นหลักพาบ้านเมืองเดินต่อได้

(29 เม.ย.66) ที่สนามฟุตบอล ศูนย์เยาวชนหลักสี่ (ท่าทราย) เขตหลักสี่ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดปราศรัยกรุงเทพฯโซนเหนือ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคปชป.ดูแลกทม. พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.กทม. โซนเหนือ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

โดยเวลา 18.00 น. นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสมาพบพี่น้องที่นี่ หลายครั้งการทำงานการเมืองตนก็ได้มาพบปะพี่น้องที่นี่ วันนี้ทุกคนคงทราบตนไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง  แต่เป็นสมาชิกของพรรคปชป. และได้เดินทางไปเพื่อสนับสนุนผู้สมัครของพรรค และพรรค ซึ่งเบื้องต้นตนไปไหนทุกที่พอบอกว่าไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขาก็สงสัยว่ามาทำไม เพราะไม่ได้มาหาเสียงให้ตัวเองแน่นอน ตนบอกสิ่งแรกคืออย่างน้อยที่สุดเพื่อมากราบขอบพระคุณพี่น้องทุกคน เพราะนักการเมืองอย่างตน เหมือนกับนักการเมืองหลายคนในพรรคปชป. เรามีโอกาสไปเป็นผู้แทนฯ มีโอกาสไปมีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร หรือตนมีโอกาสเป็นนายกฯ เราไม่ใช่คนมีเงิน เราไม่ใช่คนมีอิทธิพล เราไม่ใช่คนที่จะสามารถไปสถาปนาเอาสิ่งเหล่านี้มาให้ตัวเองได้ เรามีโอกาสไปทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนที่สนับสนุนเรา

“หลายคนสอบถามว่าไม่ลงสมัครเลือกตั้ง ยังอยู่กับพรรคปชป. ใช่หรือไม่ หลังจากผมพูดว่ากรีดเลือดออกมาเป็นสีฟ้า วันนี้ไม่พูดแล้ว เพราะหลังจากพูดไปคนบอกว่าแล้วยังบริจาคเลือดได้หรือเปล่า เพราะปกติผมเป็นคนบริจาคเลือด เขากลัวว่าเดี๋ยวเลือดสีฟ้าแล้วไปบริจาคไม่ได้ แต่ผมมีหรือไม่มีตำแหน่ง หัวใจ อุดมการณ์เหมือนเดิม ไปไหนบางคนบอกว่าใช้ได้ ความหล่อคงที่ ความดีเหมือนเดิม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนมาวันนี้มีเรื่องหลัก 2 เรื่อง เพราะในวันที่ 14 พ.ค.การเลือกตั้งครั้งนี้เขามีบัตรเลือกตั้งสองใบ ใบแรกเลือกส.ส.เขต สีม่วง โดยเฉพาะในพื้นที่นี้ผู้สมัครคือ พล.ต.ต.วิชัย สังขประไพ ผู้สมัครส.ส.เขต หลักสี่ เบอร์ 14 ส่วนเรื่องที่สองคือบัตรอีกใบสีเขียวขอให้เลือกเบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์ เพราะความเป็นสถาบัน และเป็นหลัก และปชป.เป็นของพี่น้องทุกคน และทำให้ทุกคนที่ก้าวเข้ามาสู่ปชป. เป็นคนที่มีอิสระในการทำงาน และสามารถเติบโตทางการเมืองได้ และความเป็นหลักตรงนี้เราสามารถสร้างนัการเมืองจำนวนมากจนกระทั่งหลายครั้งเราก็ส่งออกไปอยู่พรรคอื่น แต่นักการเมืองที่อยู่กับปชป.เป็นหลักได้ และเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในพรรค ทุกคนมีความเป็นอิสระในการแสดงความคิดเห็นเพื่อประกอบการทำงาน

‘สื่ออาวุโส’ เตือน ‘ธนาธร’ นับจากนี้ก่อนการเลือกตั้ง อย่าเลือกขึ้นเวทีดีเบตที่มี ‘คุณอภิสิทธิ์’ อยู่ด้วยอีก

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.66 นายเถกิง สมทรัพย์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า...
.
ในประเด็นเรื่อง มาตรา 112 นั้น จะหาคนมาดีเบตกับชาวคณะก้าวไกลยากมาก…นอกจากอาจมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ไม่แน่นเพียงพอแล้ว
.
คนส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากเผชิญหน้าถกเถียงกับชาวคณะก้าวไกล เพราะมันอ่อนไหว..
.
แต่คุณธนาธร กลับเลือกที่จะมาดีเบตเรื่องนี้กับคุณอภิสิทธิ์…และพลาดท่ากลางอากาศให้คุณอภิสิทธิ์ ‘จับไต๋’ ได้ว่า คุณธนาธรพยายามซ่อนเร้นประเด็นการ ยกเลิกมาตรา 112 ต่อหน้าสื่อมวลชน

คุณธนาธร โกยคะแนนจากการออกสื่อมาโดยตลอด แต่ทำไมคราวนี้พลาดท่า…

ผมลองหาเหตุผลได้ 7 ข้อ…

1.) คุณอภิสิทธิ์ ไม่ได้แม่นเพียงข้อมูลเรื่องมาตรา 112 เท่านั้น แต่ผ่านการทำงานเรื่องแก้ปัญหามาตรา 112 มานาน จึงมีความเข้าใจแทบทุกมิติของปัญหา

2.) คุณธนาธร ไม่แม่นข้อมูลเรื่องกระบวนการเคลื่อนไหวมาตรา 112 ของคนในพรรคก้าวไกล จึงพูดสับสนระหว่าง “แก้ไขมาตรา 112” กับ “ยกเลิกมาตรา 112” ว่า ก้าวไกลจะแก้ไขหรือยกเลิก เพราะ พิธาไปพูดว่ายกเลิก (ช่อ ก็พูดชวนคนมากองเพื่อยกเลิก) แต่คุณธนาธรพยายามจะเน้นแค่ว่า “แก้ไข”

3.) แต่คุณอภิสิทธิ์… ทั้ง ๆ ที่อยู่นอกพรรคก้าวไกล… กลับจดจำข้อมูล ขั้นตอน คำพูด ของคนในพรรคก้าวไกล (รวมไปถึงสมัยเป็นอนาคตใหม่) ได้ละเอียดว่า ใครพูดอะไรเอาไว้อย่างไรในเรื่อง มาตรา 112 จึงสามารถหยิบข้อเท็จจริงต่างๆที่สำคัญ ๆ มายันใส่คุณธนาธรทุกดอก

4.) คุณธนาธรมีความไม่มั่นใจในการนำเสนอเรื่องมาตรา 112 จึงแสดงความสับสนออกมาและออกอาการ ‘แถ’ ว่า เรื่องการยกเลิกมาตรา112 เป็นความเห็นส่วนตัวของคุณพิธาในฐานะหัวหน้าพรรค และคุณธนาธรไปเสียบคุณอภิสิทธิ์นอกเรื่องว่า เลือกตั้งคราวก่อนคุณอภิสิทธิ์พูดอะไรไว้ คุณอภิสิทธิ์ก็เสียบคืนทันทีว่า “ก็ลาออกแล้ว..คุณพิธาจะลาออกไหมถ้าไม่ยกเลิก”…คุณธนาธรก็ออกอาการสะดุด

‘อภิสิทธิ์’ ลุยตลาดพลู ชวนเจ้าของประเทศไปใช้สิทธิ์ 14 พ.ค. นี้ อ้อนขอคะแนนให้ ‘แนน ศิริภา’ การันตีความสามารถ พร้อมรับใช้ปชช.

(8 พ.ค. 66) ที่ตลาดพลู เขตธนบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงให้ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตธนบุรี คลองสาน และราษฎร์บูรณะ หมายเลข 11 พรรคปชป. โดยนายอภิสิทธิ์ ขึ้นรถปราศรัยขนาดเล็กปราศรัย เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. นี้ เพื่อยืนยันสิทธิและยืนยันความเป็นเจ้าของประเทศ เพื่ออนาคตของทุกคน โดยขอให้พี่น้องชาวธนบุรี คลองสาน และราษฎร์บูรณะ เข้าคูหาเลือก น.ส.ศิริภา เบอร์ 11 บัตรสีม่วง มาเป็นผู้แทนของพี่น้องชาวฝั่งธนบุรี ส่วนบัตรสีเขียว เลือกหมายเลข 26 พรรคประชาธิปัตย์

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้ามาให้กำลังใจ ขอถ่ายรูปกับ นายอภิสิทธิ์ และบอกคิดถึงนายอภิสิทธิ์ เป็นจำนวนมาก โดยนายอภิสิทธิ์ พร้อมกับ น.ส.ศิริภา ได้เดินเท้าพบปะพี่น้องประชาชน ที่มาเดินทางมาท่องเที่ยวตลาดพลู รวมถึงประชาชนที่มารอใช้บริการรถไฟที่สถานีรถไฟตลาดพลู เพื่อขอคะแนนเสียงและแสดงความตั้งใจในการเลือกตั้งครั้งนี้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า น.ส.ศิริภา เป็นคนรุ่นใหม่ของปชป. ตนได้มีโอกาสทำงานกับ น.ส.ศิริภา  โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการต่างประเทศ ของพรรคปชป. น.ส.ศิริภาเป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคที่มีบทบาทสำคัญ ในการเป็นตัวแทนของประเทศไทย ในการประชุมในการประชุมตัวแทนของพรรคการเมืองในระดับภูมิภาคมาแล้วหลายครั้ง ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ และยังเป็นเลขาส่วนตัวของ นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ จึงขอยืนยันว่า น.ส.ศิริภา เป็นบุคคลที่มีความพร้อม มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ที่จะรับใช้พี่น้องประชาชน ในนามของพรรคประชาธิปัตย์

‘มาร์ค-ตั๊น’ อ้อนคนพังงา หนุน ‘ปชป.’ สานงานพัฒนาใต้ต่อเนื่อง ชี้ โค้งสุดท้ายซื้อเสียงดุ จี้!! กกต.ทำงานเชิงรุก เรียกความเชื่อมั่น ปชช.

(9 พ.ค. 66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคฯ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่เพื่อรณรงค์หาเสียงให้ นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พังงา เบอร์ 1 ที่เทศบาลเมืองพังงา โรงเรียนบ้านกระโสม โรงเรียนบ้านบางจัน และตลาดโคกกลอย จังหวัดพังงา

โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่าพี่น้องชาวพังงาจะให้การตอบรับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง โดยเฉพาะนางกันตวรรณ ที่ทำงานในพื้นที่มาอย่างยาวนาน และดีใจที่พี่น้องประชาชนยังเข้ามาทักทายแสดงความผูกพันกับพรรค เชื่อว่าประชาชนเห็นการทำงานมาตลอด และพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ขอเน้นย้ำให้เลือกพรรคการเมือง เลือกนักการเมืองที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยึดถืออุดมการณ์นี้มาโดยตลอด

ด้าน น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ประสบการณ์การทำงานของนางกันตวรรณ กว่า 22 ปี เป็น ส.ส. 5 สมัยที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงที่สุดในประเทศ เมื่อปี 54 ล่าสุดยังได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) เกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ที่พูดจริงทำจริง ร่วมคิดร่วมทำ มีผลงานทำงานเพื่อชาวพังงา ทั้งหมดนี้การันตีในตัวเองแล้ว จึงเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวพังงาจะให้โอกาสเลือกนางกันตวรรณอีกครั้ง เพราะเรามีความผูกพันกันอย่างยาวนาน เพื่อพัฒนาจังหวัดพังงาสู่ความยั่งยืน

“ขณะนี้ทราบว่าบางจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงรุนแรงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง จึงขอฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าไปดูแลตรวจสอบในเชิงรุก สร้างความเชื่อมั่น และขอให้ประชาชนช่วยกันรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ไม่ขายสิทธิ์ ไม่ซื้อเสียง ไม่โกง หากอยากได้รัฐบาลดีต้องได้ผู้แทนฯ ที่ดี อยากได้รัฐบาลซื่อสัตย์ ก็ต้องได้ผู้แทนฯ ที่ซื่อสัตย์ ตั๊นจึงมั่นใจว่าพี่น้องชาวพังงาที่มีศักดิ์ศรี จะเข้าคูหากาพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 ใบ” น.ส.จิตภัสร์ กล่าว

“อภิสิทธิ์”ลุยเพชรบุรี ชูประชาธิปไตยสุจริต ขอคนเพชรเลือก”อลงกรณ์-กัมพล-อภิชาติ”ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรีเบอร์7ทั้ง3เขตและพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตรองผู้ว่ากทม. และนายอรรถพร พลบุตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์26ได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอชะอำ อำเภอท่ายาง อำเภอเมืองและอำเภอบ้านแหลมในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีและอดีต ส.ส.หมายเลข 7 เขต 1 นายกัมพล สุภาแพ่ง อดีต ส.ส.เขต 2 หมายเลข 7 และนายอภิชาติ สุภาแพ่ง อดีต ส.ส.เขต 3 หมายเลข 7 มีประชาชนโบกมือต้อนรับและมอบพวงมาลัยดอกไม้ให้กำลังใจตลอดเส้นทางโดยนายอภิสิทธิ ได้กล่าวปราศรัยกับประชาชนที่ตลาดเทศบาลเมืองเพชรบุรีว่า เจอกับอลงกรณ์ พลบุตร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 ในฐานะผู้สมัครหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน เราทำงานมาด้วยกัน เชื่อมั่นว่า อลงกรณ์เป็นคนมีผลงาน มีอุดมการณ์ และฝากฝีมือการทำงานไว้คนเพชรบุรีคงจำกันได้ดี เช่นเดียวกับอดีต ส.ส.อภิชาติ อดีต ส.ส.กัมพลและอดีต ส.ส.อรรถพร คราวนี้ตนลงพื้นที่ทั่วประเทศ หนักมาก ต้องต่อสู้ทุกรูปแบบ เรายึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยสุจริต ขอพี่น้องช่วยกันสนับสนุน อลงกรณ์และผู้สมัครประชาธิปัตย์เพชรบุรีทัึ้งสามเขต หมายเลข 7 และพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 .

‘อภิสิทธิ์’ ลั่น!! ขอให้นึกถึงประเทศเป็นหลัก อย่าเลือกเพราะเกลียด-กลัว ยืนยัน ‘ปชป.’ มีคนทุกรุ่น สามารถช่วยประเทศฟันฝ่าวิกฤตไปได้

เมื่อวันที่ 12 พ.ค.66 ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์จัดการปราศรัยใหญ่นัดสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ภายใต้ชื่องาน “#SAVEประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVEประชาธิปไตยไม่โกง” โดย นายอภิสิทธิ์​ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ปราศรัยว่า ก่อนเข้าสู่การเมืองตนอายุ 27 ปีไม่มีสตางค์ ไม่มีอิทธิพล แต่มาใกล้ถึงจุดสูงสุดได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่ประชาชนให้การสนับสนุน ตนจึงเป็นหนี้บุญคุณประชาชน และพรรคที่สังกัดตลอดไป ตนอยากมายืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนกับพรรคอื่นแน่นอน เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ ขณะที่พรรคอื่น ถ้าเอ่ยชื่อบางพรรค ก็จะร้องอ้อ รู้เลยว่า ตั้งขึ้นมาไว้สนับสนุนลุง อีกพรรคก็มีลุงอีกคน ส่วนอีกพรรคเป็นของเสี่ย และอีกพรรคมีคนแดนไกลกำกับอยู่หรือป่าว แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรอย่างนั้นแน่นอน เพราะ 77-78 ปี พรรคประชาธิปัตย์มีไว้เพื่อสืบสานอุดมการณ์ ไม่ใช่เป็นเรื่องของบุคคล แต่มีประชาชนเป็นเจ้าของพรรค

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้ไปร่วมร่างนโยบายกับพรรค แต่รู้ว่าสิ่งที่กำหนดออกมามีการหารือกับนักการเมืองของพรรคที่ล้วนแต่เป็นตัวแทนของประชาชน แล้วกลั่นออกมาเป็นสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดสำหรับประชาชนและประเทศไทย ดังนั้นนโยบายของพรรคบางทีไม่ตื่นเต้น เร้าใจ และไม่ลดแลกแจกแถมเหมือนคนอื่น การเลือกตั้งเที่ยวนี้พี่ประชาชนอ่านแล้วตาลาย เพราะนโยบายเยอะจริงๆ แต่หลายเรื่องเราต้องดูประวัติความเป็นมา เช่นนโยบายผู้สูงอายุ เดี๋ยวนี้มีทั้งบำนาญ กองทุนสารพัด เพราะคนไทย 100 คนจะมีผู้สูงอายุ 20 คน ก็ไม่แปลกที่มีนโยบายผู้สูงอายุออกมาแข่งขันกันใหญ่ แต่ 30 ปีที่แล้วผู้สูงอายุมีไม่มากนายชวน หลีกภัย ขณะเป็นนายกฯ ก็อนุมัติเบี้ยผู้สูงอายุให้เป็นปีแรก 300 บาท ต่อมาตนเป็นนายก ฯก็ปรับให้เป็น 500 บาท ดังนั้นไม่ว่าประชาชนจะเชื่อนโยบายใครแต่คนที่คิดทำก่อนคือพรรคประชาธิปัตย์

“ดังนั้นอย่าเอาความกลัว ความเกลียดเป็นตัวตั้ง แต่ให้นึกถึงประเทศเป็นตัวตั้ง โดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวเลือกนี้ ตนยืนยันว่าคนที่มาเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์มีทุกรุ่นที่จะช่วยประเทศได้ทั้งสิ้น เราเป็นพรรคที่สร้างคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่เหล่านั้นรู้ว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงต้องทำอย่างมีศิลปะ บางครั้งความพยายามจะเปลี่ยนแปลงโดยไม่เรียนรู้ความละเอียดอ่อน ความรู้สึกนึกคิดของคนต่างวัย ในที่สุดจะนำมาซึ่งความขัดแย้ง” นายอภิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนต้องกาบัตรสองใบ ตนไม่ใช่เซียนการเมือง ได้ดูโพลบ้างแต่ไม่รู้ว่าพรรคไหนจะได้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าใครจะได้จัดรัฐบาล แต่พอจะมองเห็นความวุ่นวายหลายอย่างที่จะเกิดขึ้น เกี่ยวกับกติกาที่ออกแบบมา ตนยืนยันได้เพียงว่าเลือกประชาธิปัตย์เราจะเป็นหลักให้กับบ้านเมืองได้ เลือกประชาธิปัตย์เราจะช่วยฟันฝ่าวิกฤตต่างๆได้ จะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านเราทุ่มเททำงานให้กับประชาชนร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง จะทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและจะสืบทอดอุดมการณ์ของประชาธิปัตย์ตลอดไป

“ผมยืนยันได้ว่าชีวิตผมอยู่กับการเมืองมาตลอดชีวิตเป็นสิ่งที่ผมรัก และชอบใช้ชีวิตที่มีความสุขกับการติดตามเหตุการณ์ของบ้านเมืองด้วยความสุขใจ เมื่อได้โอกาสจากประชาชนและพรรค ผมก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ แต่เมื่อใดจังหวะเวลาไม่ใช่ ผมก็พร้อมจะถอยให้คนอื่นสามารถทำงานได้ นี่คือความเป็นนักประชาธิปไตยที่ประชาธิปัตย์สั่งสอนมา ดังนั้นผมไม่รู้ว่าสภาจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ เลือกตั้งครั้งหน้าอีก4 ปีหรืออาจจะสั้นกว่านั้น ไม่รู้ว่าวันนั้นผมจะอยู่ในสถานะอะไร แต่รู้แน่ว่าผมยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตราบเท่าที่ประชาธิปัตย์รักษาอุดมการณ์ในวันที่ก่อตั้งเมื่อ ปี2489 และตราบเท่าที่ผมเป็นสมาชิกพรรค เลือกตั้งครั้งหน้าหากพรรคสั่งตนก็ต้องมา อายุก็จะมากขึ้นหน่อยแต่ความหล่อก็จะเพิ่มขึ้น และความรักความผูกพันที่มีให้กับประชาชนไม่มีวันลดลงแน่นอน เพราะนี่คือ ประชาธิปัตย์ของพี่น้อง ดังนั้น 14 พฤษภาคม อย่าลังเลเเลือกประชาธิปัตย์ทั้งสองใบ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

‘อภิสิทธิ์’ ดีใจ!! เห็นคนไทยตื่นตัวออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้น พร้อมขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน

(14 พ.ค.66) เวลา 08.45 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 ภายในโรงเรียนสวัสดีวิทยา ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา โดยนายอภิสิทธิ์มีชื่ออยู่ในลำดับที่ 45 จากยอดรวมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดของหน่วยเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 569 คน

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ตนดูจัดการเลือกตั้งในช่วงเช้านี้ ก็เห็นว่ามีความเรียบร้อยดี ทั้งนี้ หลังจากตนไปใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ไม่ได้ไปไหน แต่จะรอติดตามผลการเลือกตั้งอยู่ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ประชาชนออมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของประเทศ สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กำหนดอนาคตของประเทศ โดยหวังว่าทุกอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความสุจริตและเที่ยงธรรมที่สุด ขณะเดียวกันขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้มข้นในเรื่องการจัดการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส และขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน

เมื่อถามว่ามองการตื่นตัวของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มองยาก เนื่องจาก ในอดีตเวลาไปหาเสียงได้เห็นว่าประชาชนตื่นตัว แต่เมื่อวันใช้สิทธิเลือกตั้ง กลับมีประชาชนออกมาน้อย ส่วนครั้งนี้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งมีประชาชนไปใช้สิทธิมากพอสมควร แต่ในวันนี้ (14 พ.ค.) ดูคึกคัก โดยประชาชนคงออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากขึ้นในช่วงบ่าย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top