Friday, 29 March 2024
อพยพ

‘แคนาดา’ อ้าแขน!! เปิดรับต่างชาติ 1.5 ล้านคนเข้าประเทศ ข้อแม้!! ต้องเป็นบุคลากรคุณภาพสูงเท่านั้น | Summary Reporter EP.25

แคนาดาเปิดรับคนเก่งเข้าอยู่อาศัยในประเทศ

.

#THESTATESTIMES
#ReporterJourney
#SummaryReporter
#แคนาดา
#ย้ายประเทศ
#อพยพ

นักวิชาการ ชี้!! PM2.5 ภาคเหนือ ถือเป็นภัยพิบัติ แนะ 4 แนวทางที่ควรทำอย่างเร่งด่วน เพื่อสุขภาพปชช.

นักวิชาการ เสนอวิธีแก้ปัญหา PM2.5 ภาคเหนือ ถือเป็นภัยพิบัติ ต้องสั่งอพยพด่วน เพื่อป้องกันสุขภาพ แนะกำหนดช่วงเวลาวันเผา พร้อมลงโทษไม่รับซื้อผลิตผลทางการเกษตร

เมื่อวันที่ (27 มี.ค.66) เฟซบุ๊ก ‘Sonthi Kotchawat’ หรือ สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์ข้อเสนอแนะป้องกันและแก้ไขฝุ่นPM2.5 โดยระบุข้อความว่า "มุมมองในการป้องกันและแก้ไขฝุ่นPM2.5ในภาคเหนือ

‘โฆษกกระทรวงฯ’ เผย ‘บิ๊กตู่’ ไฟเขียว!! เตรียมใช้เครื่องบินกองทัพฯ อพยพ ‘คนไทย’ ในซูดาน เน้นช่วยเหลือให้รัดกุม-ปลอดภัยที่สุด

(23 เม.ย.66) นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในซูดาน ว่า ทางการไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีรวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและสั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยให้รัดกุมและปลอดภัยที่สุด

นางกาญจนากล่าวว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กองทัพอากาศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาดและสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ กำลังเร่งดำเนินงานอย่างแข็งขันเพื่อเตรียมการช่วยเหลือคนไทยให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งต้องเป็นไปโดยรอบคอบที่สุด เนื่องจากยังคงมีข้อห่วงกังวลด้านความปลอดภัย และสถานการณ์ยังคงมีความอ่อนไหว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติการใช้เครื่องบินกองทัพอากาศเพื่อการอพยพแล้ว ในชั้นนี้ ยังรอการยืนยันเรื่องท่าอากาศยานและวันที่แน่นอนอยู่ ซึ่งจะเป็นในโอกาสแรกที่ทุกปัจจัยเงื่อนไขลงตัว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศขอย้ำช่องทางการสื่อสาร หมายเลขฉุกเฉิน 09-6165-7120 / 09-6352-0513 / 09-6352-9015 สำหรับญาติของนักเรียนและคนไทยในซูดานที่ประสงค์จะสอบถามสถานการณ์ รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ได้เปิดช่องทางการติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือที่หมายเลข +201019401243 หรืออีเมล์ [email protected] รวมทั้งได้ประสานงานกับคนไทยในซูดานผ่าน Chat group 5 กลุ่ม เพื่อความคล่องตัวด้วย


ที่มา : https://www.matichon.co.th/foreign/news_3939500

ถึงไทยแล้ว!! ‘บิ๊กตู่’ ร่วมต้อนรับคนไทยในซูดานชุดแรก ขอบคุณความร่วมมือของทุกฝ่าย พาคนไทยกลับมาได้อย่างปลอดภัย

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.66 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ต้อนรับคณะคนไทยกลุ่มที่ 1 จากซูดานที่มากับเที่ยวบิน A340-500 เที่ยวบินแรก จากท่าอากาศยานนานาชาติ King Abdulaziz เมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย จำนวน 78 คน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มาติดตามสถานการณ์การอพยพคนไทยกลับจากประเทศซูดาน ยินดีและขอขอบคุณด้วยหัวใจ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ในนามรัฐบาลได้สั่งการหน่วยงานทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอบคุณการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องเพื่ออพยพคนไทยกลับสู่ประเทศไทยให้ได้ ทั้งนี้ การดำเนินการไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องประเมินสถานการณ์ตลอด ครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบของรัฐบาลไทยที่สามารถดูแลคนไทยได้ รวมทั้ง ขอบคุณการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง เช่น อียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ประสิทธิภาพของประเทศในทุกด้าน ต้องมีความพร้อมทั้งด้านกำลังคน อุปกรณ์ แผนดำเนินการ ที่วางไว้ล่วงหน้าเพื่อเผชิญเหตุต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา โดยขอให้ทุกคนทำงานตามหน้าที่เตรียมความพร้อมดูแลคนไทยให้ได้มากที่สุด ขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนและผู้ที่ติดตามข่าวสารด้วยความห่วงใยคนไทย ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา คนไทยอยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคีซึ่งขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้กลับบ้าน และยินดีกับทุกครอบครัว นายกรัฐมนตรีได้กำชับรอติดตามสถานการณ์กลับสู่ความสงบเรียบร้อย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทักทายคณะคนไทยด้วยความห่วงใยสอบถามรายละเอียดการเดินทาง สอบถามถึงสถานการณ์การเรียน การเปิดภาคการศึกษา ดีใจที่ทุกคนปลอดภัย ย้ำรัฐบาลส่งความห่วงใยให้ตั้งแต่วันแรกได้สั่งการให้มีการเตรียมการอพยพอย่างรอบคอบเพื่อให้ทุกคนปลอดภัยดีใจที่ทุกคนปลอดภัยกลับมา และขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย 

ทั้งนี้ เครื่องบิน Airbus A340-500 ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ (King Abdulaziz) เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย นำผู้ประสงค์จะเดินทางกลับพร้อมเครื่องบินของกองทัพอากาศในเที่ยวบินแรก จำนวน 78 คน ประกอบด้วย นักเรียนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 71 คน จังหวัดพัทลุง 1 คน นครศรีธรรมราช 1 คน และครอบครัวซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี 5 คน และเบื้องต้นทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีจากกองทัพอากาศ พร้อมได้ตรวจสุขภาพ และผ่านการตรวจคัดกรองจากทีมแพทย์ของกองทัพอากาศ ซึ่งแม้มีอาการอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่ทุกคนปลอดภัยและรู้สึกดีใจที่เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ

โดยคณะคนไทยผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองและการตรวจคัดกรองโรคก่อนเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก และในวันพรุ่งนี้ ( 28 เมษายน 2566) คณะคนไทยที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ภาคใต้จะเดินทางกลับพื้นที่ด้วยเครื่องบิน C – 130 ของกองทัพอากาศ เพื่อกลับสู่ภูมิลำเนาต่อไป
 

นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการของกองทัพอากาศยังคงเตรียมความพร้อมอยู่ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย พร้อมประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือคนไทยชุดต่อไปซึ่งจะขึ้นเรือจาก Port of Sudan มาที่เมืองเจดดาห์ รวมถึงเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยนายกรัฐมนตรีห่วงใย ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนไทย โดยมุ่งหวังที่จะนำพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย

จนท.อพยพประชาชน-นักท่องเที่ยวลงจากหอไอเฟล หลังเจอขู่วางระเบิด ก่อนพบว่าเป็นการเตือนภัยผิดพลาด

(13 ส.ค. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์และซีเอ็นเอ็นรายงานว่า มีการอพยพประชาชนลงจากหอไอเฟลและบริเวณใกล้เคียง ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม เป็นเวลานานหลายชั่วโมงหลังมีการขู่วางระเบิด อย่างไรก็ดี ล่าสุด หอไอเฟลได้เปิดให้นักท่องเที่ยวกลับขึ้นไปบนอาคารได้อีกครั้ง

สถานีโทรทัศน์บีเอฟเอ็มทีวีของฝรั่งเศสระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้อพยพนักท่องเที่ยวที่อยู่บนหอไอเฟลทั้ง 3 ชั้นลงมาจากตัวอาคาร รวมถึงอพยพผู้คนที่อยู่บริเวณลานใกล้กับตัวหอไอเฟล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งตั้งแนวกั้นรักษาความปลอดภัย เปลี่ยนเส้นทางการสัญจรบนท้องถนนโดยรอบ และมีการส่งทีมเก็บกู้ระเบิดมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

โฆษกของเอสอีทีอี บริษัทผู้ให้บริการหอไอเฟลกล่าวว่า “นี่เป็นมาตรการตามปกติในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง” อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น 2 ชั่วโมง แหล่งข่าวจากทางตำรวจฝรั่งเศสเผยว่า นักท่องเที่ยวสามารถกลับขึ้นไปบนหอไอเฟลอีกครั้ง เนื่องจากการขู่วางระเบิดดังกล่าวเป็นเพียงการเตือนภัยผิดพลาด

หอไอเฟลถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังและเป็นดั่งสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส มีนักท่องเที่ยวเกือบ 7 ล้านคนเดินทางไปชมหอไอเฟลทุกปี ทั้งนี้ การอพยพนักท่องเที่ยวลงจากหอไอเฟลเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยในปี 2019 เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนลงจากหอไอเฟล หลังพบเห็นชายคนหนึ่งกำลังปีนขึ้นไปบนหอไอเฟล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top