Thursday, 28 March 2024
สุนทรพจน์

‘เด็กจีน’ ตั้งคำถาม “คนรุ่นใหม่ควรทำอะไรให้แก่โลกบ้าง” ตอบ “อย่าเปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่แบบที่เราเคยรังเกียจในสมัยเด็ก”

(19 มี ค.66) ‘อ.ต่อตระกูล’ รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘คนรุ่นใหม่ทำอะไรให้แก่โลกบ้าง’ ซึ่งได้นำเสนอสุนทรพจน์ของ นักศึกษาหญิง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่เข้าประกวดสุนทรพจน์ในรายการทีวี สั้น ๆ เพียง 3 นาที ที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ ที่น่ายกย่อง

โดย อ.ต่อตระกูล กล่าวว่า สุนทรพจน์นี้ ทาง ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร์ อาจารย์ที่นิติศาสตร์ จุฬาฯ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีน ซึ่งจบปริญญาตรีมาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่เดียวกัน แปลมา บอกว่าอยากให้ คนไทยได้อ่านกัน ความว่า...

ฉันเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ทุกคนของฉันเคยพูดว่า “กฎหมายบัญญัติไว้ว่าอย่างนี้ แต่ในทางปฏิบัติในชีวิตความเป็นจริง…” ชีวิตความเป็นจริง เป็นโลกที่น่าพิศวง ในชีวิตความเป็นจริง คนซื่อ ๆ ที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด มักใช้ชีวิตเงียบ ๆ ไม่มีชื่อเสียงเรียงนาม ส่วนคนที่มากเล่ห์เพทุบาย สุดท้ายกลับมีทั้งชื่อเสียง มีลาภสมบัติ เพราะฉะนั้น เด็กไร้เดียงสาอย่างฉัน จึงมักมีรุ่นพี่ที่มากประสบการณ์มาตบไหล่ฉันเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู และบอกฉันว่า “เด็กน้อย รอจนเธอเข้าใจโลกเสียก่อน”

สิ่งที่ฉันอยากถามก็คือ คนหนุ่มสาวอย่างฉัน สามารถทำอะไรให้กับโลกได้บ้าง วันหนึ่งข้างหน้า ผู้ว่าการแบงก์ชาติ จะเป็นคนที่เกิดหลังปี 1990 นักธุรกิจชั้นนำ จะเป็นคนที่เกิดหลังปี 1990 แม้กระทั่ง ประธานาธิบดี ก็จะเป็นคนที่เกิดหลังปี 1990 ในวันที่สังคมเป็นที่ยืนของคนที่เกิดหลังปี 1990 ฉันอยากถามเพื่อนร่วมรุ่นทุกคนว่า พวกเราอยากให้สังคมเป็นเช่นไร ฉันรู้ดีว่า ไม่ใช่ทุกคนสามารถก้าวขึ้นมาฝ่าฟันพายุและคลื่นลม จนเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของประเทศชาติ ฉันและคุณ ล้วนเป็นคนเล็กๆธรรมดา ๆ ภายในกลไกเครื่องจักรสังคมอันมหึมา พวกเราเป็นเพียงหมุดตะปูตัวเล็ก ๆ

สมัยเรียนหนังสือ พ่อแม่พูดทุกวันว่า ให้ตั้งใจเรียนเป็นอันดับแรก อย่าเพิ่งสนใจอย่างอื่น พอถึงวันจบการศึกษา พวกเราก็เที่ยวเอาจดหมายสมัครงานหว่านไปทั่ว ด้วยความหวังว่าจะมีบริษัทรับเข้าทำงาน ผ่านไปไม่กี่ปี ก็ถูกกดดันให้แต่งงาน ซื้อบ้าน แล้วก็ใช้เวลาอีกประมาณ 20 ปีแรกของชีวิตการทำงาน ช่วงที่มีกำลังเต็มที่ หาเงินมาใช้หนี้ จนทำให้คนหนุ่มสาวยุ่งกับการใช้ชีวิต จนไม่เหลือความฝัน ไม่มีเวลาสนใจการเมือง ไม่มีเวลาสนใจสิ่งแวดล้อม ไม่มีเวลาสนใจชะตากรรมบ้านเมือง แล้วจะยังเหลือกำลังวังชา ทำอะไรให้แก่สังคมส่วนรวมได้อีก

แต่ภายหลังฉันพบว่า มีอยู่อย่างหนึ่งที่ฉันและคุณทำได้ สิ่งนั้นคือ คนรุ่นเรา ไม่ว่าจะเดินไปในเส้นทางใด ขออย่าได้ทำชั่ว ขอแค่ อย่าเปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่แบบที่เราเคยรังเกียจในสมัยเด็ก ถ้าต่อไปเราเป็นคนขายของแผงลอย ก็อย่าเอาน้ำมันทิ้งแล้วมาทอดของขาย ถ้าขายผลไม้ ก็อย่าโกงน้ำหนักตาชั่ง ถ้าเปิดโรงงาน เป็นเจ้านายคน ก็อย่ากดค่าแรงลดคุณภาพวัตถุดิบ ผลิตของด้อยคุณภาพ คนธรรมดาหนึ่งคน ในตำแหน่งหน้าที่การงานที่แสนธรรมดา ถ้าทำหน้าที่ของตนให้ดีได้ ย่อมเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก เพราะเราทุกคน ตั้งแต่วันที่เราเกิดมา ก็มีผลเปลี่ยนแปลงโลกฉันเป็นนักศึกษากฎหมาย ถ้าในภายภาคหน้า ฉันสามารถเป็นผู้พิพากษาที่มีความยุติธรรม สังคมเราก็จะมีผู้พิพากษาที่ดีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน ย่อมเป็นสังคมที่ดีขึ้นอย่างน้อยก็นิดหนึ่ง

พ่อเจ้าสาว กล่าวสุนทรพจน์สุดซึ้ง  ทำคนทั้งงาน น้ำตาไหล จนกลายเป็นไวรัลบน TikTok

วันหนึ่งถ้าเปลี่ยนใจ ไม่รักลูกสาวของพ่อแล้ว ขออย่าทำร้ายเธอเลยนะ แค่พาเธอกลับมาหาพ่อ มาคืนให้พ่อก็พอ 

นี่คือเหตุการณ์จริงที่พึ่งจะเกิดขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ 

คุณพ่อรายหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่น่าประทับใจ จนกลายเป็นไวรัลบน TikTok คำพูดของเขาทำเอาทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าว และแม้แต่แขกที่มาร่วมงานยังน้ำตาซึม

คลิปเผยให้เห็นภาพคุณพ่อพาเธอเดินมาตามทางเดินเพื่อส่งตัวให้กับเจ้าบ่าว เมื่อไปถึงเจ้าบ่าว พ่อของเธอก็เริ่มกล่าวสุนทรพจน์ว่า

"ผมส่งลูกสาวที่มีค่าของผมไปให้คุณแล้ว ผมรู้ว่าคุณรักลูกสาวของผมมาก ผมจึงอยากให้คุณรักเธอ ดูแลเธอ ให้ความสำคัญกับเธอเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในสถานการณ์ใด ขอให้รักลูกสาวผมตลอดไป ขอให้มีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง ขอให้ทุกอย่างสมหวังดั่งที่ต้องการ ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง"

อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ทำเอาคนทั้งงานน้ำตาไหลไปตามๆ กัน เมื่อคุณพ่อของเจ้าสาว กล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า "ถ้าหากวันไหนคุณไม่รักลูกสาวของผมแล้ว ได้โปรดอย่าทำร้ายเธอ แค่พาเธอกลับมาคืนให้ผม"

ซึ่งเจ้าบ่าวตอบรับทั้งน้ำตาว่า "ตกลงครับ มันจะไม่เกิดขึ้น" คุณพ่อจึงตกลงประกาศว่า "โอเค ลูกสาวที่ล้ำค่าของผมเป็นของคุณแล้ว"

เจ้าบ่าวกล่าวว่า "ขอบคุณครับพ่อ" ก่อนที่จะร้องไห้โฮเข้าไปกอดคุณพ่อเจ้าสาวที่จังหวะนั้นก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ขณะที่แขกที่อยู่ในงานต่างพากันร้องไห้น้ำตาไหลตาม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top