Friday, 26 April 2024
สกลธี

"สกลธี" รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เร่งผลักดัน ส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างงาน "คนพิการ" อย่างบูรณาการ

ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร "นายสกลธี ภัททิยกุล" รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดใจกับรายการเปิดฟ้า ช่วง "คนละไม้คนละมือ" ทาง ททบ.5 พูดคุยกับ นายชัยพร ภูผารัตน์ ผู้อำนวยการสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย / นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และผู้ดำเนินรายการ เกี่ยวกับนโยบายและวิสัยทัศน์การสนับสนุนส่งเสริมให้ "คนพิการ" มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ เพื่อเลี้ยงดูแลตนเองและครอบครัว ด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่ง"นายสกลธี ภัททิยกุล" รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการผลักดันให้คนพิการมีงานทำ สืบเนื่องจากได้มีการ พูดคุยหารือ กับ "อาจารย์ชูศักดิ์ จันทยานนท์ " ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย และตำแหน่ง นายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้เข้าถึงโอกาสการจ้างงาน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ในส่วนเกี่ยวข้อง การจ้างงานคนพิการมาตรา 33 / 34 และ 35 อีกครั้ง ยังเล็งเห็นศักยภาพของคนพิการทุกประเภท มีความสามารถทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ ได้ดีเช่นเดียวกับบุคคลอื่นๆ และเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม ในการให้โอกาส การมีงานทำ สำหรับคนพิการบนความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

อีกทั้ง ยังมีนโยบายในการเตรียมความพร้อมสำหรับคนพิการ เพื่อการพัฒนาและฝึกฝนทักษะสายงานอาชีพต่างๆ ให้เป็นไปในความต้องการของหน่วยงานของภาครัฐ และภาคเอกชน ที่อยากจะได้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในสายงานนั้นๆ 

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมในด้านอื่นๆแล้ว "กรุงเทพมหานคร" ยังมอบหมาย ให้หน่วยงานต่างๆอาทิเช่น สำนักงานเขต ของกรุงเทพฯ เริ่มต้นจากการจ้างงานคนพิการ 1 คน เพิ่มเป็น 2 คน ก็จะทำให้มีคนพิการ มีงานทำมากกว่า 100 อัตรา และอนาคตอันใกล้นี้ยังจะให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพฯที่มีมากกว่า 300 แห่ง เปิดรับสมัครคนพิการเข้าทำงานด้วยเช่นกัน ก็จะเป็นการเพิ่มอัตราแรงงานคนพิการ มีอาชีพ มีรายอีก และเป็นการลดภาระแบ่งเบาค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ท้ายนี้ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการเตรียมความพร้อม ในด้านสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก "Universal Design" เพื่อคนทั้งมวล ที่ "สำนักงานเขตราชเทวี" กรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจาก  "ดร.นราทิพย์ ผินประดับ" ผู้อำนวยการสำนักงานเขตราชเทวี และผู้บริหารฝ่ายต่างๆ พาสำรวจอาคารสำหรับต้อนรับคนพิการมาทำงานได้อย่างสะดวก

 

"นายกฯ" เผย "สกลธี" เข้าพบ อวยพรปีใหม่ เป็นคนรู้จักคุ้นเคยกัน  ปัดหารือลงชิงผู้ว่าฯ กทม. ขออย่าโยงการเมืองไปหมด

ที่องค์การทหารผ่านศึก (อผศ.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายสกลธี ภัททิยกุล  รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าพบเพื่อขอคำแนะนำการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ว่า  ไม่เกี่ยว เขาเข้ามาอวยพรเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ ถือว่าเป็นคนรู้จักที่คุ้นเคยกัน ก็เท่านั้นทำไมถึงมองเป็นการเมืองไปเสียหมด

เมื่อถามว่า นายสกลธี ได้ขอให้สนับสนุนในการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วตนสนับสนุนได้หรือไม่ และคงไม่ไปให้คำแนะนำอะไร เป็นเรื่องกลไกทางการเมือง หรือ การคัดเลือกผู้ว่าฯกทม.ก็ว่ากันไป

" แต่ข้อสำคัญของการเป็นผู้ว่าฯ กทม จะมาพูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีผลงานปรากฏมา ประชาชนจะได้เชื่อมั่นว่าทำงานได้จริงหากโดยหลักการทุกคนก็คงจะรู้กันหมดแล้ว จะแก้ปัญหาโน่นนี่แก้ได้หรือไม่ และตามข้อเท็จจริงแก้ได้เท่าไร รัฐบาลชุดปัจจุบันแก้ปัญหามามากน้อยเท่าไหร่ อย่าง ลดพื้นที่น้ำท่วมใน กทม. การทำคันกั้นน้ำ ก็ลดไปเป็นส่วนส่วนเพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด รวมถึงปัญหาด้านจราจร คือสิ่งที่ทำมาตลอด มันไม่ง่าย การทำอะไรจะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ไม่ใช่จะมาเปลี่ยนบุคคลได้ทุกวันเป็นไปไม่ได้ นี่คือประชาธิปไตย"พล.อ.ประยุทธ กล่าว 

'ท่านใหม่' เชียร์สุดตัวหลานชาย 'ธี' ไม่สร้างภาพ ใส่เท้าแตะ ขึ้นรถเมล์ เป็นคนเดินดินทั่วไป

..จุลเจิม ยุคล หรือ ‘ท่านใหม่’ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า “ช่วยบอกธี เลยครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว กทม. หลานชายผมคนนี้ ไม่โอ้อวดตัวว่าเก่ง ไม่สร้างภาพ เดินถือถุงแกง ใส่รองเท้าแตะขึ้นรถเมล์ #เลือกสกลธี ช่วยบอกธี”

ก่อนหน้านี้ท่านใหม่ โพสต์ว่า “ผมขอสนับสนุนหลานชายผม ‘สกลธี ภัททิยกุล’ ที่ลาออก ‘รองผู้ว่าฯ กทม.’ เตรียมเปิดตัวลงสมัครชิง ‘ผู้ว่าฯ กทม.’ คนดีๆ ที่ไม่พูดมาก อวดตัวว่าเก่ง จะได้ทำให้ กรุงเทพ ของเราให้เป็นกรุงเทพมหานคร สักที”

'ดร.เสรี'​ แนะ!! เลือกตั้งพ่อเมืองกรุง​ 'สลิ่มอย่าเสียงแตก'​ หาก​ 'เขา'​ แหวกเส้นชัยมา แล้วสลิ่มจะเสียใจไปอีกนาน

(26 มี..2565) ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดังนี้...

สลิ่มทั้งหลาย ตอนนี้บางคนอาจจะเลือกอัศวิน บางคนอาจจะเลือกสกลธี บางคนอาจจะเลือก ดร.เอ้ จากนี้ไป ควรตั้งใจฟังการหาเสียงของทั้ง 3 คนอย่างพินิจพิเคราะห์

และติดตามดูโพลล์หรือแนวโน้มว่าใน 3 คนนี้ใครมีคะแนนนำ และมีโอกาสจะเอาชนะคนที่เราไม่อยากให้เป็น แล้วยามนั้นต้องตัดใจหันมารวมตัวกันเลือกคนที่มีโอกาสชนะ

อย่ายืนกรานที่จะเลือกคนที่ชอบ เพราะหากเป็นเช่นนั้นเสียงจะแตก ทั้ง 3 คนนี้จะแพ้ การลงคะแนนเสียงแบบนี้เป็นการลงคะแนนแบบมียุทธศาสตร์ (Strategic Vote)

คือ​ ร่วมมือกันลงคะแนนให้แก่คนที่เราคิดว่ามีโอกาสที่จะชนะคนที่เรา "ไม่อยากให้เป็น" ถ้าเรายืนกรานที่จะลงคะแนนตามที่เราชอบ โดยไม่มียุทธศาสตร์ ทั้ง 3 คนจะแพ้ และคนที่ไม่อยากให้เป็นจะชนะนะคะ

เพราะฉะนั้น ตอนนี้อาจจะมีใครในใจตามที่ชอบ อัศวิน สกลธี หรือ ดร เอ้ แต่โค้งสุดท้าย อย่ายืนกรานจนเสียงแตกแล้วแพ้ยับเนินนะคะ

ต้องรวมใจกันเทคะแนนให้คนที่มีโอกาสจะชนะ กำจัดคนที่เราไม่อยากให้เป็นนะคะ บางคนอาจบอกสังกัดชัดเจน บางคนอาจจะบอกว่าอิสระ ดูให้ดีนะว่าอิสระจริงไหม

ดร.เสรี โพสต์ย้ำว่า "วันนี้ใครจะ 'วิน'​ ใครจะ 'ธี'​ ก็จองไว้ก่อน แต่ถึงโค้งสุดท้าย ช่วยกันดูหน่อยนะคะว่าใครมีสิทธิ์ชนะ กันใครบางคนได้ แล้วเรามาช่วยกันเทคะแนนให้คนนั้นนะคะ อย่าให้เสียงแตก แล้วเขาคนนั้นชนะนะคะ

ปริญญ์เอฟเฟค! ‘ซูเปอร์โพล’ เผย ‘ปริญญ์เอฟเฟค’ เขย่าศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ส่งผลเพิ่มคะแนนนิยม ‘สกลธี-วิโรจน์’ ขณะ ‘ชัชชาติ’ ยังนำ

(17 เม.ย. 65) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ปริญญ์ เอฟเฟค เลือกตั้ง กทม. กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,548 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15 – 16 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 48.5 ติดตามข่าว เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. มากถึงมากที่สุด ร้อยละ 32.3 ติดตามปานกลาง และร้อยละ 19.2 ติดตาม น้อยถึงไม่ติดตามเลย

เมื่อถามถึง การรับรู้ข่าว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ของคน กทม. พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 46.3 รับรู้มากถึงมากที่สุด ร้อยละ 31.3 รับรู้ปานกลาง และร้อยละ 22.4 รับรู้น้อย ถึงไม่รู้เลย

ที่น่าพิจารณาคือ ผลกระทบของข่าว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ต่อการตัดสินใจเลือกตั้งผู้ว่า กทม. หลังจากทดสอบค่านัยสำคัญทางสถิติ พบว่าไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ต่อนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แม้มีค่าติดลบ คือ -.029 ก็ตาม นอกจากนี้ ไม่มีนัยสำคัญต่อผู้สมัครคนอื่นด้วย เช่น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แม้ติดค่าลบจากข่าวนายปริญญ์ฯ เช่นกัน คือ -.054 แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีค่าเป็นบวก คือ +.054 แต่ไม่มีนัยสำคัญ

ที่น่าสนใจคือ มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. สองคนที่ผลการทดสอบ ปริญญ์เอฟเฟค พบว่า มีค่าผลกระทบเป็นบวก และมีนัยสำคัญทางสถิติคือนายสกลธี ภัททิยกุล ได้ +.161 และมีนัยสำคัญทางสถิติกว่าร้อยละ 99 รวมถึงนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่ได้รับผลกระทบในทางบวกคือได้ +.091 และมีนัยสำคัญทางสถิติกว่าร้อยละ 90 ตามลำดับ ส่วนผู้สมัครท่านอื่น ทดสอบผลกระทบของ ปริญญ์ เอฟเฟค แล้ว ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ความหมายคือ ไม่มีผลกระทบอะไรต่อการตัดสินใจเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ของคน กทม.

เมื่อถามถึง การตัดสินใจเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ของ คน กทม. เปรียบเทียบระหว่าง ครั้งแรก และ ครั้งที่สอง หลังมีการลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว พบว่าแนวโน้มคนจะเลือก เพิ่มขึ้นทุกคน แต่อันดับสลับกันอยู่บ้าง กล่าวคือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังคงนำเพิ่มจาก ร้อยละ 20.3 ในครั้งที่ 1 มาเป็นร้อยละ 24.5 ในครั้งที่ 2 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.8 ในครั้งที่ 1 มาเป็น ร้อยละ 13.9 ในครั้งที่ 2

'สกลธี' ฟ้อง 2 พิธีกร วิจารณ์หยาบ กระทบหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

‘สกลธี’ ใช้สิทธิ์ทางกฎหมายมอบทนายความ ยื่นฟ้องดำเนินคดี2 พิธีกรรายการ Talking Thailand Voice TV ‘วิโรจน์-ลักขณา’ ฐานวิพากษ์วิจารณ์และอาจทำให้ตนถูกเกลียดชังโดยที่ไม่ทราบเรื่องที่มาที่ไปทั้งหมด ทั้งยังสร้างความเสียหายช่วงหาเสียงลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ระบุสื่อวิจารณ์ได้แต่ควรอยู่บนขอบเขต

วันที่ 20 เม.ย. 65 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้แข่งขันลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 3 ได้โพสต์ข้อความลงบน Facebook ส่วนตัว โดยระบุว่า ‘16 ปีที่อยู่ในการเมือง ผมเข้าใจดีถึงความเป็นบุคคลสาธารณะของผมครับ…ดังนั้นการที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งประชาชนและสื่อมวลชนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และผมก็ยอมรับและรับฟังเสมอมาเพราะในทุกสังคมก็มีทั้งคนที่ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจในหลายสิ่งที่เราทำ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น…การจะวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องเป็นการติชมโดยสุจริตและไม่เป็นการด้อยค่าหรือด่าทอด้วยจิตใจที่มืดบอดและอคติในตัวบุคคลที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งเป็นสื่อมวลชนด้วยแล้ว จรรยาบรรณในการทำหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญครับ หากไร้ซึ่งจรรยาบรรณของสื่อมวลชนรายนั้นๆ คิดอย่างไรพูดอย่างนั้นโดยไม่ผ่านการกลั่นกรองของสมอง ก็ไม่มีค่าพอที่จะเป็นสื่อมวลชนครับ’ นายสกลธี เขียนระบุบน Facebook ส่วนตัว

โดยนายสกลธี ยังเขียนระบุบน Facebook ส่วนตัวอีกว่า สืบเนื่องจากรายการ Talking Thailand ซึ่งออกอากาศทางแฟนเพจของ Voice TV เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และ 11 เม.ย. 2565 ซึ่งดำเนินรายการโดย นายวิโรจน์ อาลี น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ ‘คำผกา’ ได้กล่าวถึงผม อุดมการณ์ทางการเมืองของผม รวมถึงสิ่งที่ผมได้เคยโพสต์ในอดีตด้วยการด้อยค่าและถ้อยคำหยาบคาย เกินกว่าหน้าที่ของสื่อมวลชนจะติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต และเป็นที่เชื่อได้ว่าอาจทำให้ผมถูกเกลียดชังจากบุคคลที่ได้รับชมรายการและไม่ทราบเรื่องที่มาที่ไปทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่ผมอยู่ในช่วงหาเสียงลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผมจึงขอใช้สิทธิ์ทางกฎหมายมอบให้ทนายความไปฟ้องดำเนินคดีบุคคลทั้ง 2 คนรวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป

เปิดใจ ‘สกลธี’ ลงศึกชิงเก้าอี้ ‘ผู้ว่าฯ กทม.' ชู กรุงเทพฯ ที่ดีกว่า!! | Click on Clear THE TOPIC EP.199

🔥Rerun🔥 
📌 ‘กรุงเทพฯ’ จะดีกว่าเดิมได้อย่างไร?! พูดคุยไปกับ ‘สกลธี ภัททิยกุล’ ผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.!
📌ใน Topic : เปิดใจ ‘สกลธี’ ลงศึกชิงเก้าอี้ ‘ผู้ว่าฯ กทม.' ชู กรุงเทพฯ ที่ดีกว่า!!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

‘สกลธี’ เล็งติดสัญญาณเตือนทางม้าลายทั่วกรุง สานต่อกำจัดซากรถเก่ากีดขวางการสัญจร

‘สกลธี’ เล็งติดสัญญาณเตือนทางม้าลายทั่วกรุง เพิ่มความปลอดภัยคนเมือง พร้อมสานต่อกำจัดซากรถเก่ากีดขวางการสัญจร

เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 3 กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงที่เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา ว่าวันนี้ตนยังคงลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่องในหลายๆ เขตของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งนอกจากจะมาแนะนำตัวให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว ยังต้องการสำรวจปัญหาต่างๆ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ยังคงร้องเรียนเรื่องการจราจร ทั้งเรื่องของความหนาแน่นแออัด การจราจรติดขัด และยังขอให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย เช่น เรื่องทางม้าลาย ที่ประชาชนยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ที่จะต้องเดินข้ามทางม้าลายใน กทม. แตกต่างกับเมืองใหญ่ในต่างประเทศที่รถยนต์จะหยุดทันทีเมื่อเห็นคนข้ามทางม้าลาย

นายสกลธีกล่าวว่า ทั้งนี้ เรื่องการขับรถคงต้องสร้างจิตสำนึกให้กับผู้ขับขี่ อาจจะต้องใช้เวลา แต่ในส่วนของกรุงเทพฯ ตนคิดว่าสิ่งสำคัญคือการจัดทำทางม้าลายให้ปลอดภัยที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนข้ามถนน และเป็นจุดสังเกตที่คนขับขี่จะต้องจอดรถ และรูปแบบควรจะทำให้เหมือนกันในทุกพื้นที่ เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าใจได้ว่าเมื่อมาถึงพื้นที่ใกล้เขตทางม้าลาย จำเป็นที่จะต้องชะลอรถหรือหยุดเพื่อความปลอดภัยไม่มีการขับแซง หรือเร่งความเร็ว

‘สกลธี’ รับเพิ่งรู้ ‘นฤมล’ เบี้ยวเวทีปราศรัย เหตุไม่สบาย ลั่น!! ขาดใครไม่สำคัญ วอนอย่าแบ่งแยกทีมเดียวกัน

‘สกลธี’ รับ เพิ่งทราบ ‘นฤมล’ เบี้ยวเวทีปราศรัย ลั่น วันนี้ขาดใครก็ไม่สำคัญ งานเดินต่อไปได้ วอน อย่าแบ่งแยกผู้สมัครว่าเป็นคนของใคร

(24 มี.ค.66) ที่เวทีปราศรัยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ศูนย์เยาวชนหลักสี่ การเคหะท่าทราย นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. ไม่มาร่วมการปราศรัยหาเสียงในวันนี้ ว่าเมื่อวันที่ 23 มีนาคมก็ยังมีการพูดคุยถึงการปราศรัยบนเวทีกันอยู่ แต่เมื่อสักครู่ระหว่างนั่งรถมาที่เวทีปราศรัย นางนฤมลก็ได้ติดต่อเข้ามาแจ้งว่า ไม่สบายมาก ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ ตนก็ให้กำลังใจไป

เมื่อถามถึงการแถลงข่าวสละตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของนางนฤมล นายสกลธี กล่าวว่า จริง ๆ ก็ได้ยินมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และก็ได้ติดตามดูการแถลงข่าวเมื่อเช้านี้อยู่ แต่ในส่วนของพื้นที่ กทม.นั้น ตนเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบในการทำงาน เพราะไม่ว่าตนหรือนางนฤมลจะอยู่ในพรรคหรือไม่ ตนก็เชื่อว่าระบบที่วางไว้สามารถดำเนินต่อไปอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างถูกวางไว้อย่างชัดเจน และจบหมดแล้ว

เมื่อถามถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ที่เป็นบุคคลที่นางนฤมลชักชวนเข้ามาร่วงงานจะมีผลกระทบหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นที่ทำงาน ตนและนางนฤมลได้มีการพูดคุยกับผู้สมัครทั้ง 33 เขต เป็นปกติที่ผู้สมัครจะมีการแตกต่างของที่มา แต่เมื่อรวมทีมกันแล้วก็ขอให้เป็นทีมเดียวกัน วันนี้ไม่ว่าใครจะอยู่หรือไม่ ทีม กทม.ของพรรค พปชร.ก็จะเดินต่อไปได้ เพราะทุกคนก็กำลังใจดีอยู่

‘สกลธี’ เดือด ‘ตะวัน-แบม’ ป่วนเวทีปราศรัย ลั่น!! พปชร. พร้อมฟัง แต่มาให้ถูกกาลเทศะ ครั้งหน้าจ่อเพิ่มการ์ด

(1 เม.ย.66) ที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าทีมกทม. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเหตุการณ์ชุลมุน ‘ตะวัน’ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ ‘แบม’ อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ พร้อมกลุ่มได้มาทำกิจกรรมเคลื่อนไหวที่เวทีปราศรัยย่อยพลังประชารัฐ ว่า พรรคพลังประชารัฐตั้งใจมาปราศรัยพบปะพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้พูดเสมอถึงการก้าวข้ามความขัดแย้งและรับฟังทุกฝ่าย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถูกกาลเทศะ เพราะเป็นการทำกิจกรรมของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย การรับฟังและการพูดคุยน่าจะใช้เวทีอื่น และมาในลักษณะที่สงบและเป็นมิตรมากกว่านี้ หากพูดถึงมารยาทตนคิดว่าเป็นการขาดมารยาทในขณะที่พรรคการเมืองหนึ่งหาเสียงและมีคนมาป่วนเวที ในขณะที่ต้องการเสนอนโยบายให้ประชาชน ถ้ามาเบาๆก็ยังคุยกันได้ แต่นี่มาในลักษณะเหมือนกับการก่อกวนไม่ต้องการพูดคุยกัน และมีลักษณะที่เกิดความรุนแรงขึ้นด้วย ตนได้รับรายงานว่าการ์ดเวทีเจ็บไป 4 คน ซึ่งต้องขอปรึกษากับผู้ใหญ่ก่อนว่าทางพรรคจะดำเนินการอย่างไร และส่วนตัวของการ์ดก็จะไปแจ้งความ

นายสกลธี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเราต้องเอาการจัดงานครั้งนี้เป็นบทเรียน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เพราะเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว การจัดเวทีที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ทางผู้บริหารพรรคก็จะเอาเหตุการณ์นี้ไปเป็นบทเรียนโดยอาจจะมีการจัดการ์ดมากขึ้น และแจ้งตำรวจท้องที่ในเวลาที่มาทำกิจกรรม เพราะไม่อยากให้เกิดภาพการปะทะ ขอให้มาแข่งด้วยการหาเสียงด้วยนโยบายดีกว่าเพื่อให้ประชาชนตัดสินเอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top