Thursday, 28 March 2024
ศรีสุวรรณ

'ศรีสุวรรณ' จ่อร้องนายกฯตั้ง กก.สอบปศุสัตว์-กรมศุลกากรไม่ปฏิบัติตามคำแนะกฤษฎีกา

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวงกำหนดพื้นที่ที่ได้รับการยกเว้นไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการควบคุมการนำเข้า-ส่งออกทั้งใน-นอกราชอาณาจักร การครอบครองหรือการใช้ประโยชน์ซึ่งของในเขตปลอดอากรหลายพื้นที่ เพื่อให้ผู้ประกอบการนำสินค้าใดๆ เข้ามาในพื้นที่ปลอดอากรที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งออกนั้น ไม่ต้องขออนุญาตนำเข้า-ส่งออกจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้พื้นที่ปลอดอากรเป็นฮับ (Hub) ของภูมิภาค ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล

แต่ปรากฏว่ากรมปศุสัตว์ได้ออกมาคัดค้านเรื่องดังกล่าว โดยอ้างว่าสินค้าปศุสัตว์ทุกประเภทจะต้องขอรับใบอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ตาม ม.31 แห่ง พรบ.โรคระบาดสัตว์ 2558 เสียก่อน จนกลายเป็นข้อขัดแย้งและเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อผู้ประกอบการอย่างมาก ที่จะต้องเพิ่มภาระ ค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียม และเวลา ไปกับการตรวจลงตราของกรมปศุสัตว์ ซึ่งกรณีนี้กรมศุลกากรได้มีการหารือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย.64 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ชี้แนะให้กรมปศุสัตว์และกรมศุลกากรให้แก้ไขปัญหาด้วยวิธีการทางบริหารโดยการหารือร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน อันจะนำไปสู่การใช้อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่คำนึงถึงประโยชน์โดยรวมของประเทศ

โดยแนะนำให้พิจารณาผ่อนปรนกฎเกณฑ์ในทางบริหารเพื่อลดขั้นตอนในการดำเนินงาน ตลอดจนกำหนดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมิให้เป็นภาระจนเกินสมควรแก่ผู้ประกอบการที่นำเข้าสินค้าปศุสัตว์เข้าไปในเขตปลอดอากรตาม ม.152 แห่ง พรบ.ศุลกากร 2560 และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยไม่กระทบต่อการคุ้มครองสุขภาพและอนามัยของประชาชนจากความเสี่ยงของการเกิดและแพร่กระจายของโรคระบาดสัตว์ แต่ทว่าจนบัดนี้ การนำเข้าสินค้าปศุสัตว์เพื่อนำมาพักไว้ยังเขตปลอดอากรเพื่อผ่านแดนส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียนก็ยังคงเป็นปัญหาเหมือนเดิม ไม่มีการร่วมกันแก้ไขปัญหาเพื่อเพื่อประโยชน์ในการด้านการค้า การลงทุน และความสามารถในการแข่งขันของประเทศแต่อย่างใด

'ศรีสุวรรณ' ติง 'บิ๊กตู่' ปมแก้จะนะ เป็นผู้นำประเทศใจต้องกว้าง-มีความรับผิดชอบ

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรฯ ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความเป็นห่วงพี่น้องชาวจะนะในเฟซบุ๊กว่าไม่สามารถสานงานต่อเรื่องปัญหาของพี่น้องประชาชนในหลายๆเรื่อง รวมถึงปัญหาของพี่น้องชาวจะนะ ซึ่งคงไม่มีใครรู้และเข้าใจถึงแก่นแท้ของปัญหา ยกเว้นผู้ที่มีส่วนได้เสียกับโครงการนี้ พร้อมกับแจ้งว่าได้รับการประสานจากเพื่อนๆ สส. หลายท่าน ให้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวจะนะเหมือนเดิม แต่ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นไม่สามารถไปก้าวล่วงกับคณะทำงานชุดใหม่ของรัฐบาลได้อีก แต่จะใช้ระบบสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวจะนะต่อไปนั้น
           
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นผลมาจากการเข้าจับกุมแกนนำชาวจะนะเมื่อคืนวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังปักหลักชุมนุมทวงถามข้อสัญญาที่เคยให้ไว้กับชาวบ้านเมื่อปีที่แล้ว แต่ทว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กลับออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สัญญาที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้คำมั่นว่าจะชะลอโครงการดังกล่าวออกไปก่อนนั้น เรื่องนี้ก็ยังไม่มีการพิจารณา หรือมีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด และยังกล่าวตำหนิร้อยเอกธรรมนัสอีกว่า เคยเตือนไปหลายครั้งแล้ว ว่าในการลงพื้นที่เป็นเพียงไปรับฟัง และนำข้อสังเกตรวบรวมเสนอสู่การพิจารณาแก้ไขปัญหา โดยต้องผ่านความเห็นชอบเป็นมติคณะรัฐมนตรี ก่อนจะไปตกลงกับชาวบ้าน
            
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งว่า กรณีที่ร.อ. ธรรมนัส ไปเจรจาลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับชาวจะนะเพื่อขอให้ยุติการชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.63 ข้างทำเนียบรัฐบาลนั้น เอกสารการลงนามดังกล่าว ครม.ได้มีมติรับทราบรายงานผลการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการแก้ไขปัญหาฯเสนอ ครม.เมื่อ 15 ธ.ค.63 แต่ทำไมนายกฯกลับออกมาพูดปัดความรับผิดชอบไปว่า เรื่องนี้ก็ยังไม่มีการพิจารณา หรือมีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อ 17 ม.ค.64 นายกฯยังได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 20/2564 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่กลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นเรียกร้องแล้วด้วย

‘ศรีสุวรรณ’ จ่อร้อง ป.ป.ช.เอาผิด ‘บิ๊กป้อม’ กรณีไร้ธงชาติไทย บนเวทีแบดฯ ชิงแชมป์โลก

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า กรณีที่ ‘บาส-เดชาพล’ และ ‘ปอป้อ-ทรัพย์สิรี’ คว้าแชมป์โลกแบดมินตันคู่ผสม จนสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคู่แรกที่ได้แชมป์โลกแบดมินตันได้สำเร็จ ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลก เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจและเป็นเกียรติภูมิของชาติเป็นอย่างยิ่ง แต่ทว่าในการทำพิธีมอบรางวัลและเชิญธงชาติผู้ชนะ กลับไม่มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาแต่อย่างใด กลับต้องใช้ธงที่เขียนว่า BAT (Badminton Association of Thailand) ของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ขึ้นสู่ยอดเสาแทนนั้น

กรณีดังกล่าว เป็นผลมาจากการทำผิดกฎขององค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก หรือ WADA ที่เคยมีคำเตือนมายังไทยถึงบทลงโทษตั้งแต่ปลายปี 2563 ที่ผ่านมาว่า หากไม่มีการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับกฎหรือ Code ของ WADA ไทยจะถูกแบนห้ามจัดการแข่งขันทุกชนิดกีฬาในระดับนานาชาติ ส่วนนักกีฬาแม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้แข่งขันในระดับภูมิภาค ระดับทวีป และระดับโลกได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถใช้ธงประจำชาติแข่งขันในรายการที่ IOC และ WADA เป็นผู้ดูแลจัดการแข่งขันได้

ทั้งนี้กฎใหม่ของ WADA มีการระบุเรื่อง "นิยามการระบุโทษ" โดยกล่าวว่า โค้ชคนไหนที่มีส่วนกับการโด๊ปในประเทศนั้น ต้องมีบทลงโทษทางกฎหมายด้วย และห้ามทำงานเกี่ยวข้องกับกีฬาโดยสิ้นเชิง แต่กฎหมายของไทยใน พรบ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา 2555 กลับไม่มีในจุดนี้ อีกทั้งองค์การต่อต้านสารกระตุ้นไทย (DCAT) ตามกฎหมายยังขึ้นตรงอยู่กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกท้วงติงด้วย เพราะในมุมของ WADA ต้องการให้ DCAT เป็นองค์กรเอกเทศ ไม่สังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวกับกีฬาของประเทศด้วย

'พี่ศรี' ซ้ำเพื่อไทย! จ่อ ให้ปากคำกกต.รอบ2 ปม ทักษิณ-พร้อม เตรียมยื่นปมพล.อ.พัลลภ

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือเรียกสมาคมฯให้ไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมประกอบคำร้อง กรณีที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ร้องเรียนไปยัง กกต. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดนายทักษิณ ชินวัตร ครองงำหรือชี้นำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ กรณีได้วิดีโอคอลมาในงานเลี้ยงคล้ายวันเกิดของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในหมู่บ้านหรูย่านเหม่งจ๋าย เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ในงานเลี้ยงดังกล่าวมีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้บริหารพรรคการเมือง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ในบริเวณงานเพื่อฟังนายทักษิณวิดีโอคอลเป็นจำนวนมาก ซึ่งมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ร้องขอนายทักษิณ ขออนุญาตให้คุณหญิงพจมาน อดีตภริยามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพื่อนำศึกเลือกตั้ง และมีการคุยโวว่าถ้าเลือกตั้งครั้งใหม่พรรคเพื่อไทยจะชนะแบบแลนด์สไลด์แน่นอน ซึ่งการพูดกันในประเด็นการเมืองดังกล่าว อาจเข้าข่ายการครอบงำหรือชี้นำพรรคการเมืองหรือไม่ หรือมีพฤติการณ์ฝ่าฝืน ม.28 ของพรป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่

กรณีดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ร้องเรียนไปยัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา และประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้เคยมีหนังสือเรียกไปให้ถ้อยคำมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 8 พ.ย.64 แต่บัดนี้ได้มีหนังสือเรียกสมาคมฯไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมประกอบคำร้องอีกครั้ง เป็นรอบที่ 2 ในวันพฤหัสที่ 6 ม.ค.65 นี้ เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.

'ศรีสุวรรณ' จี้ มส. จัดการพระนอกรีต ลงยันต์-นะหน้าทอง ชี้ ขัดพรบ.สงฆ์

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพระชั้นผู้ใหญ่ระดับพระครู หรือเจ้าอาวาสวัดหลายวัด ได้กระทำการเผยแผ่พระศาสนาที่อาจขัดต่อพระธรรมะวินัยเป็นจำนวนมาก โดยอาศัยความโง่เขลา เบาปัญญาของพุทธบริษัท เป็นเครื่องมือในการแสวงหาลาภปัจจัย ซึ่งมหาเถรสมาคมควรที่จะต้องออกมากำหลาบหรือจัดการพระนอกรีตเหล่านี้เสีย เพื่อมิให้ศาสนาแปดเปื้อนและถูกเข้าใจผิดว่า การกระทำดังกล่าวเป็นกิจของสงฆ์

พฤติการณ์ดังกล่าว อาทิ การเขียนยันต์ต่าง ๆ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการเตือนสติผู้คนให้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ดำเนินชีวิตด้วยสติสัมปชัญญะ ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมและรักษาศีล 5 รวมทั้งที่กำลังเป็นกระแสฮิตกันมากคือ การเจิมหน้าผากด้วยแผ่นทองคำเปลว การเขียนยันต์หัวใจมหาเศรษฐีลงบนฝ่ามือ และการลงนะหน้าทองแบบเต็มใบหน้า โดยอ้างว่าจะช่วยเสริมสร้างสิริมงคล หนุนดวง เสริมดวงชะตาในด้านเมตตา มหาเสน่ห์ เสริมบารมี และเพิ่มโชคลาภ ลงแล้วจะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย ซึ่งถ้าทำแล้วทำให้ร่ำรวยจริง คงไม่มีคนยากคนจนเต็มแผ่นดินอยู่ในขณะนี้

การกระทำดังกล่าวไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไม่เคยปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก และหรือไม่อยู่ในคำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้า หากแต่เป็น “โลกวัชชะ” เป็นอวิชชา หรือเดรัจฉานวิชา ที่พวกหมอผี หรือผู้ที่นิยมทางไสยศาสตร์เขาทำกัน ซึ่งขัดต่อความเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา ที่มุ่งสอนให้พุทธบริษัทหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร มุ่งสู่ศีล สมาธิ และปัญญา มากกว่าการเผยแพร่พระศาสนาโดยใช้อวิชชาทางไสยศาสตร์เป็นธงนำ และการกระทำดังกล่าวอาจจะผิดศีลอาบัติขั้นสังฆาทิเสสได้ เนื่องจากเสี่ยงที่จะแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงหรืออุบาสิกาได้ หรือถึงขั้นอาบัติปาราชิกได้ เพราะอาจถือได้ว่าเป็นการอวดอุตตริมนุสสธรรม หรือการอวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีในตน

“ศรีสุวรรณ” แถลงการณ์ จี้ รัฐหยุดเอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการ ใช้กม.เด็ดขาดฟ้องเรียกค่าเสียหายบริษัททำน้ำมันรั่วมาบตาพุด

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ในฐานะนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์ ระบุ กรณีที่เกิดเหตุน้ำมันดิบใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รั่วไหลบริเวณทะเลอ่าวมาบตาพุด อ.เมืองระยอง กว่า 4 แสนลิตร ซึ่งต่อมากรมควบคุมมลพิษคำนวนว่ามี 128 ตันหรือ 1.6 แสนลิตร แต่มีข้อพิรุธ คือ รองผู้ว่าฯระยองกลับอ้างว่ามีเพียง 24,000 ลิตร โดยบริษัทดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์ยอมรับว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.06 น. วันที่ 25 มกราคม 2565 พบน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ของบริษัทจริง ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองนั้น
              
เหตุที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นโศกนาฎกรรมทางทะเลซ้ำในพื้นที่ทะเลระยองอีกครั้ง หลังจากที่เคยเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลระยองไปกว่า 50,000 ลิตรในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วเมื่อปี 2556 ซึ่งครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อาชีพชาวประมงพื้นบ้าน รวมทั้งทำลายสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะหาดเสม็ด หาดแม่รำพึง จนกระทบพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไปทั้งระบบ จนประเมินค่าความเสียหายมิได้
              
ยังไม่ทันข้ามพ้นทศวรรษปัญหาน้ำมันรั่วไหลในทะเลระยองกลับมาเกิดซ้ำอีก ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของผู้ประกอบการที่อาจหละหลวมต่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรการที่ระบุไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) รวมทั้งหน่วยงานอนุญาตและกำกับดูแลทั้งหลาย อาจละเลยหรือไม่เคร่งครัดในการตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยและด้านสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในมาตรการ ซึ่งต้องไล่เบี้ยมาตั้งแต่คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ(คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งหากจะหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว ยังมีอีกมากมายนัก

'ศรีสุวรรณ' จี้ 'ปลัดคลัง' ปลดเลขา คปภ. เหตุบกพร่องทำบริษัทประกันภัยล้ม ขู่ เพิกเฉย ยื่นป.ป.ช.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ทำหนังสือด่วนร้องเรียนไปถึงปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม ม.29(5) แห่ง พรบ.คณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 2550 ในการพิจารณาให้เลขาธิการ คปภ.พ้นจากตำแหน่งเสีย เนื่องจากบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้บริษัทประกันภัยต้องล้มไปแล้วหลายบริษัท กระทบต่อผู้ซื้อประกันและพนักงานเป็นจำนวนมาก ล่าสุดคือ บริษัท อาคเนย์ ประกันภัย จำกัด(มหาชน) ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเลขาธิการ คปภ.อาจใช้ดุลยพินิจไปโดยมิชอบในการออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ในการให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยในบริษัทในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ทั้งๆที่บริษัทประกันภัยเหล่านั้นได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนในการขายประกัน “เจอ จ่าย จบ” ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อคุ้มครองดูแลผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 แต่มีเงื่อนไขว่าบริษัทสามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้ แต่ต้องบอกกล่าวผู้เอาประกันล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วันในทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัย ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวเชื่อว่าทำให้บริษัทประกันภัยต่างๆยอมเสี่ยงที่จะไปขายประกันภัยประเภท เจอ จ่าย จบ ได้ เพราะหากมีปัญหาก็เชื่อว่า คปภ.จะอนุญาตให้แก้ไขสัญญาในกรมธรรม์ได้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แต่เมื่อบริษัทประกันภัยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงเป็นเหตุให้ต้องขาดสภาพคล่อง โดยบริษัทประกันภัยต่างๆพยายามเรียกร้องให้ คปภ.อนุญาตให้บริษัทประกันภัยแก้ไขสัญญาในกรมธรรม์โดยยกเลิก เจอ จ่าย จบ เปลี่ยนมาเป็นการดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ซื้อกรมธรรม์จนหายเป็นปกติ แต่เลขา คปภ.กลับไม่ยินยอมโดยออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ดังกล่าวมาระงับไว้ จนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทประกันภัยหลายบริษัทขาดสภาพคล่องจนต้องล้มไป เช่นนี้จะถือว่าเป็นการ “สร้างภาพบนซากความเสียหาย” ของบริษัทผู้ขายและประชาชนผู้ซื้อประกัน รวมทั้งพนักงานด้วยหรือไม่ และจนบัดนี้ผู้ที่ซื้อประกันไว้ยังมืดแปดด้านไม่สามารถไปเคลมความเสียหายได้ที่ใคร พนักงานลูกจ้างบริษัทประกันนับร้อยนับพันชีวิตต้องตกงานฉับพลัน เลขา คปภ.ออกมารับผิดชอบหรือเปล่า แม้จะอ้างว่ามีกองทุนประกันภัยคอยดูแลนั้น เป็นเพียงการโม้ไปวันๆ ทั้งที่ความจริงกองทุนก็ไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ยังคงมีผู้ที่เสียหายไปประท้วงที่หน้าสำนักงาน คปภ.แทบทุกวัน ไม่สำนึกรู้บ้างเชียวหรือ

'ชาวนครสวรรค์' ร้อง 'ศรีสุวรรณ' ช่วย!  ข้องใจ กกต. รับรองผล ลต.อบต.ทั้งที่มีเรื่องร้อง ทุจริตโจ๋งครึ่ม

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้มีตัวแทนชาวบ้านในเขตอำเภอเมืองนครสวรรค์ มาร้องเรียนถึงการจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ผู้สมัครมีการทำผิดกฏหมาย และระเบียบการเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างโจ๋งครึ่ม แต่เหตุใดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงรับรอง ทั้งๆที่ชาวบ้านได้ยื่นร้องเรียนพร้อมพยานหลักฐานที่ชัดแจ้งแล้วก็ตาม ขอให้สมาคมฯช่วยตรวจสอบด้วย
         
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การแข่งขันรับเลือกตั้งนายกฯและสมาชิก อบต.เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ในเขตเมืองนครสวรรค์นั้น เริ่มจากผู้สมัครบางรายมีคุณสมบัติ หรือลักษณะต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่นได้ แต่ กกต.กลับปล่อยผ่านรับรองให้สมัครได้ รวมทั้งการหาเสียงอาจเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามการหาเสียงตามที่กฎหมายกำหนดหลายประการ เนื่องจากอาจใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการมาใช้เพื่อทำการหาเสียง บางรายเป็นตำแหน่งที่ต้องได้รับการโปรดเกล้าให้ลาออกก่อนมาสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกฯ อบต.เสียก่อน แต่กลับมายื่นใบสมัครได้
           
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ยังมีการหาเสียงก่อนการเปิดรับสมัคร การติดป้ายหาเสียง การหาเสียงทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การจัดเลี้ยงอาหาร แจกเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างโจ๋งครึ่ม มีการนำเครื่องจักรกล หินลูกรัง หินคลุกมาซ่อมแซมถนนในเขตหมู่บ้านต่างๆ ในเขตเลือกตั้ง บางรายใช้คำว่า ดร. ที่แสดงว่าได้จบการศึกษาในระดับปริญญาเอกมาแล้ว ในการหาเสียงล่วงหน้าทั้งๆที่ในขณะนั้นยังไม่จบ อันชี้ให้เห็นว่าเป็นการหลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในสาสะสำคัญจนทำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตนเองได้   

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ยังมีการนำรูปภาพที่ผิดกฎหมายมาประกอบการหาเสียงทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์อีกมากมาย รวมทั้งการใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครด้วยกันอย่างโจ่งแจ้ง แต่ กกต.กลับมองข้ามในเรื่องดังกล่าว ไม่ทักท้วง หรือตัดสิทธิผู้สมัคร แม้ชาวบ้านจะได้ร้องเรียนต่อ กกต.ประจำจังหวัดไปแล้วก็ตาม แต่ไม่เคยถูกเรียกให้ไปสอบสวนแต่อย่างใด จนวันนี้ กกต. กลางกลับให้การรับรองผลการเลือกตั้งให้ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้เป็นนายก อบต.ไปเสียสิ้น อันชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติของกระบวนการรับรองผลการเลือกตั้ง อบต.ของ กกต.โดยชัดแจ้ง

“ศรีสุวรรณ” ยื่นป.ป.ช. วอนเร่งยื่นฟ้องอาญาอดีตนายก อบต.บางพลับ 

ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)สนามบินน้ำ นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และตัวแทนชาวบ้านในจังหวัดนนทบุรี  ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. เพื่อให้เร่งดำเนินคดีอาญา อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี กับพวก ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปตั้งแต่เดือนก.ย.2564 ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีจัดซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 48975 เลขที่ดิน 135 ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เนื้อที่ 2 ไร่ เมื่อปี 2555 โดยมีพฤติการเข้าข่ายทุจริต 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ป.ป.ช.มีหนังสือแจ้งไปถึงผู้ร้อง เมื่อเดือนก.ย.2564 ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้น ดำเนินการไต่สวนและพิจารณาสำนวนการไต่สวนเบื้องต้น มีมติว่าการกระทำของอดีตนายกอบจ.ดังกล่าว มีมูลความผิดทางอาญาและทางวินัย ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 91(1) และ (2) แล้ว

ศรีสุวรรณ เตรียมยื่นสอบ 'คนเพื่อไทย' บินพบทักษิณ หากเข้าข่ายผิด พรป.การเมือง มีโทษยุบพรรค

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 14 มี.ค. 65 เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ณ ศูนย์ราชการ อาคาร B กรณีมีผู้บริหารและ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบินไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร ที่สิงคโปร์ อันอาจถือได้ว่า เป็นการขัดต่อ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่บัญญัติไว้ใน...

มาตรา 28 ความว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top