Saturday, 20 April 2024
วงการบันเทิง

César Awards มาตรฐานใหม่วงการบันเทิง! | NEWS GEN TIMES EP.83

César Awards มาตรฐานใหม่วงการบันเทิง!

ผู้มีความผิดหรือถูกตั้งข้อหาใช้ความรุนแรงด้านต่างๆ

ห้ามเข้าร่วมงานประกาศรางวัล 

 

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

 

 โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม

ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 

 

ติดตามได้ใน NEWS GEN TIMES

และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist...

‘ผู้กำกับชื่อดัง’ ฟาด!! วงการบันเทิงอวย ‘ดารา-อินฟลูฯ’ วอน ‘นายทุน’ ใส่ใจ-ดูแล ‘ทีมงานเบื้องหลัง’ บ้าง

(1 ก.พ. 66) ออกมาแสดงความคิดเห็นแบบจัดเต็ม กรณีประเด็นดรามาเพจโรงหนังโพสต์โปรโมตเรื่องทิดน้อย แล้วนำค่าตัวนักแสดงนำมาโปรโมต โดย ‘มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล’ ผู้กำกับชื่อดัง ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นนี้ พร้อมเผยชีวิตคนในกองถ่าย รวมทั้งสวดยับถึงพฤติกรรมคนดัง อินฟลูเอนเซอร์

“โปรโมตหนังอย่างไรให้ทีมงานน้อยเนื้อต่ำใจ
เบื่อสังคมที่นิยมชมชื่นกับความอู้ฟู่ร่ำรวยของดาราและอินฟลูฯ เวลาเห็นคนทำงานในวงการนี้ดิ้นรนกับค่าตัวที่ยากจะสร้างตัวและน้อยนิดเมื่อเทียบกับความเหนื่อย โดยเฉพาะกับความลำบากที่ต้องดีลกับผู้โด่งดังทั้งหลายเหล่านั้น

ไม่ต้องถึงขั้นเอาค่าตัวมาแจกจ่ายใครหรอกจ้า รู้ว่าบุญวาสนามันแข่งกันบ่ได้ แต่เห็นใจคนทำงานกันหน่อยก็ดี

- มาทำงานให้ตรงเวลา
- ทำการบ้านอ่านบทมาให้เป๊ะ
- ดูแลตัวเองให้ดูดีทั้งสุขภาพกายและจิต
- ทีมงานไม่ใช่คนใช้ ไม่ใช่ลูกจ้างของคุณ บริษัทเขาจ้างมาทำหน้าที่ของเขา ให้เกียรติกันด้วย
- ช่างหน้าช่างผมสไตลิสต์ อยากได้ดังใจจ้างมาเอง อย่าเบียดบังเงินกองจริงอยู่ว่ามีโปรดักชั่นส์ที่จ่ายได้ แต่งบางที่เขาก็ไม่ไหว บางทีต้องตัดจากงบ Set งบ กล้องไฟ งบสวัสดิภาพของคนอื่นๆ เรื่องแบบนี้รู้ไว้บ้างก็ดี

‘ม้า อรนภา’ เปิดใจ เหตุหายหน้าหายตาไปนาน เผย ไม่ได้อยากออกจากวงการเอง แต่ถูกบังคับ!!

(18 มี.ค. 66) หลังจากหายหน้าหายตาออกจากวงการไปนาน ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ ล่าสุดได้มาออกรายการ ‘คนดังนั่งเคลียร์’ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ให้แฟน ๆ หายคิดถึง หลังจากเคยมีประเด็นตบหน้า ณ กรุงโซลมาแล้ว 1 รอบ ก็มิวายโดนชาวเน็ตแซะเรื่อง ‘น้องเมญ่า ซันซัน’ Miss Fabulous Thailand 2023 อีกรอบ แถมโดนด่าแรงว่า “อีแก่” ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่าโกรธมาก แถมในรายการยังมีการเล่าถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าออกจากวงการเอง หรือถูกใครสั่งออกกันแน่อีกด้วย

เมื่อถามว่า วันที่ม้าตัดสินใจหันหลังให้วงการบันเทิง วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?

“จริง ๆ ดิฉันไม่ได้หันหลังให้กับวงการบันเทิง แต่เขาเพียงแต่ว่า ไม่ให้ดิฉันอยู่ในวงการบันเทิงมากกว่า” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามว่า ใครจะกล้ามาสั่งม้าให้ออกจากวงการบันเทิง?

“ก็วันนั้นที่ดิฉันต้องไปออกรายการอ่านข่าว และเขาก็บอกว่าอย่าเพิ่งมาให้หยุดก่อน ตั้งแต่วันนั้นที่หยุด ก็หยุดไปจนถึงวันนี้ กระทั่งรายการที่เป็นรายการวาไรตี้” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำให้หยุดงานคืออะไร ม้า อรนภาไปทำผิด ไปทำคดี หรืออะไรที่เป็นคำสั่งศาลห้ามปรากฎตัวในสื่อหรือ?

“ก็มันไม่มีอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าเขาก็มีคำสั่งมาเอง ด้วยเหตุที่ว่าตอนนั้นกระแสมันออกมารุนแรงมากขึ้นใช่ไหมคะ อย่างบ้านเมืองเราวันนี้ มันเป็น 2 ฝ่ายใช่ไหม มันก็เป็น 2 ฝ่ายตลอดมาถึงทุกวันนี้ นั้นอีกฝ่ายหนึ่งมันก็รุมกระหน่ำ จนกระทั่งมันเป็นกระแสที่ทำให้ดิฉันวินาศสันตะโรได้ จากเรื่องที่ 1 คือในเฟซบุ๊กของน้องคนหนึ่งที่อยู่ในวงการ ซึ่งตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยู่แล้วนะคะ ฉันก็อยู่ในวงการ เสร็จแล้วเขาก็โพสต์เกี่ยวกับเด็กเมื่อก่อนที่เรากำลังมีปัญหาในสังคมกับการยกนิ้ว 3 นิ้วค่ะ และก็มีการแอนตี้ หรือวิธีการก่อม็อบกันในโรงเรียน เสร็จแล้วเขาก็จะมีกฎหมายซึ่งจะไม่ให้เด็ก ๆ มีพฤติกรรมแบบนี้ในโรงเรียนก็จะให้ผู้ปกครองเซนเด็กก็มาฉีกจดหมายแล้วเผา ยกมือ 3 นิ้ว เขาก็เอามาโพสต์แล้วก็บอกว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะมากด่า ๆ กัน คือ ด่าเด็กไม่ควรทำอย่างนั้นอย่างนี้ ดิฉันอ่านแล้วก็มีความรู้สึกว่า โรงเรียนนี้ดิฉันมีความผูกพันเพราะไม่ว่าจะเป็นพี่ น้อง ญาติ หลาน เรียนที่นี่กันหมด และเราก็รู้จักกับเบื้องบนด้วย นึกออกไหมคะ ดังนั้นเนี่ย เราเคยทำงานให้กับโรงเรียนนี้ด้วย ผลปรากฎว่าดิฉันก็ทนไม่ได้ว่า มันไม่ควรทำแบบนี้ เราก็เลยคอมเมนต์บ้าง ลักษณะคอมเมนต์ของดิฉันก็ ชัดเจน รุนแรง ตรงไป ตรงมา ถ้าทำแบบนี้ก็ให้ไปแหกนอนอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องมาเรียนแล้วกัน ง่ายดี นึกออกไหม มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องนึกออกไหมคะ ก็คือจบ” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามว่าม้า อรนภา มีความเห็น ก็เลยคอมเมนต์บ้าง แต่ก็ไม่ใช่คอมเมนต์เพียงแค่ผู้เดียว ทุกคนก็คอมเมนต์?

“ใช่ค่ะ ทุกคนก็คอมเมนต์หมด แล้วเสร็จแล้วเนี่ย ดิฉันก็มีความรู้สึกว่าโอเค ก็ไปแต่งตัวจะไปทำงาน พอแว็บนึงประมาณ 5 นาที ดิฉันก็มีความคิดว่า เอ๊ะ มันคงแรงไปนะ ดิฉันเลยกลับมา แล้วลบออก แค่ 5 นาทีมาลบออก พอลบเสร็จ ทางฝ่ายรายการที่จะไปทำอ่านข่าว เขาก็โทรมาบอกเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันแบบว่า มันกระจายไวมากเลย ไม่ใช่พี่ใช่ไหม ก็บอกอันนี้เหรอพี่เอง อุ้ยทำไมมันไปเร็วขนาดนั้น  ทุกคนก็รุมเข้ามาด่าดิฉันในไอจีกับเฟซบุ๊ก ดิฉันโดนด่าแบบว่าเป็นหมื่น เป็นแสนคือด่าแบบวินาศสันตะโร จนกระทั่งผู้จัดบอกอย่ามาเลยให้หยุดก่อน นั้นก็คือเหตุผลเลย” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามถึงรายการอื่น ๆ ก็เลยแอนตี้ไปด้วยเลย ไม่ต้อนรับ ม้า อรนภาอีกเลยใช่หรือไม่?

“คงจะเป็นเช่นนั้น เพราะเขากลัว พอดิฉันไปออกโทรทัศน์ก็จะทำให้กระแสเนี่ยโดนรุมชาวเน็ตบอกว่าที่ ม้า อรนภาไม่มีงาน ไม่มีอะไรจะทำ เป็นเพราะทำตัวเอง ม้าคิดอย่างไร? อันนี้ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ใช่ก็ได้ เพราะดิฉันเองก็เป็นคนคอมเมนต์ลงไปเอง ก็เหมือนกับที่ดิฉันตบหน้าเด็ก อันนั้นดิฉันก็ยอมรับว่าดิฉันทำ แต่มันมีเหตุที่ต้องทำ เหมือนกับอันนี้มันก็มีเหตุ ที่ทำให้ดิฉันต้องคอมเมนต์ แต่ดิฉันทำทุกอย่างมันไม่ได้นุ่มนวลหรือเป็นแบบว่าผู้ลากมากดี ดิฉันแบบตรงไปตรงมาชัดเจน” ม้า อรนภา ตอบ

สุดอบอุ่น !! ผอ.ฟ้าพร้อมกับคนในวงการบันเทิงร่วมอวยพรวันเกิดครบรอบ 93 ปี อาฉลอง ผู้กำกับระดับตำนานโลก

แม้ปัจจุบัน อาฉลอง ภักดีวิจิตร จะอายุ 93 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรง และยังคงสร้างผลงานออกมาให้ได้ชมกัน โดยผลงานล่าสุดของคุณอาฉลอง คือละครเรื่อง 'แคนสองแผ่นดิน' 'ฉลอง ภักดีวิจิตร' ผู้กำกับระดับตำนานโลก 'Guinness World Records' ต้องจารึก และเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 66 ได้จัดงานวันคล้ายวันเกิด ในวัย 93 ปี โดยมีเหล่าศิลปินดารา ลูก ๆ หลาน ๆ ต่างมาร่วมแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิดครบ 92 ปี กันอย่างคับคั่ง ณ. ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ต.บางคูวัด อ.เมือง ปทุมธานี ในการนี้ ผอ.ฟ้า พรทิพา สุพัฒนุกูล ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ฟ้าให้ ทีวี ช่อง160, Infosat ช่อง151, GMM Zat ช่อง137 ได้นำพระสมเด็จวัดระฆัง กว่า 100 องค์ ไปมอบให้ อาฉลอง ภักดีวิจิตร เพื่อที่จะได้แจก ทุกคนที่มาร่วมงานวันเกิดตน ซึ่งทำให้ทุกคนที่ได้รับพระสมเด็จต่างดีใจและตื่นเต้นที่จะได้นำพระสมเด็จไปไว้บูชา 

ขณะที่บรรยากาศภายในงานมีบรรดานักแสดงคนบันเทิงที่มาร่วมงานและอวยพรวันเกิดอาฉลอง เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสนุกสนาน สำหรับ อาฉลอง ภักดีวิจิตร ก้าวเข้าสู่วงการหนัง เมื่อปี 2493 ได้เริ่มเข้าวงการจากการเป็นช่างภาพให้กับผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ตั้งแต่ยุค 16 ม.ม. จนถึง 35 ม.ม. อีกทั้ง ภาพยนตร์ เรื่อง แสนแสบ ยังเคยได้รับรางวัลเมื่อปี 2493 ในสาขาผู้ถ่ายภาพยอดเยี่ยม

‘เบลล่า’ เปิดใจ!! กรณีโดนนางเอก ‘แก๊งม.ม้า’ พาดพิง ขอไม่พูดถึง เพราะไม่อยากให้กระทบใคร ยืนยันไม่เคยมีปัญหากับใคร ทุกคนคือเพื่อนร่วมวงการ

“เบลล่าเชื่อในหลักโลกธรรม 8 มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสุข มีทุกข์ มีทั้งสรรเสริญ และมีทั้งนินทา เบลล่าก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง หลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว

ขอแค่เราเชื่อว่าเราตั้งมั่นในความดี มีธรรมะนำชีวิต ถ้าเรารู้ว่าเราทำอะไรและเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ เราจะไม่กังขาในการกระทำของตัวเอง อะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา เราต้องปล่อยผ่าน”

เบลล่า ราณี แคมเปน กล่าวยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับใครและมองว่าทุกคนในวงการเป็นเพื่อนกัน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566


ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=-zMQBlHVxZM

‘แมท ภีรนีย์’ รับ ชีวิตเจอดรามาหนักจนความมั่นใจหดหาย ถามตัวเอง “ทำไมต้องทนเป็นถังขยะของคนทั้งประเทศ?”

(17 ส.ค. 66) ดาราสาว ‘แมท ภีรนีย์ คงไทย’ เปิดใจถึงเรื่องราวชีวิตที่โดนดรามาถึงขนาดเคยสูญเสียความมั่นใจจนเหลือแค่ศูนย์ ต้องทนเป็นถังขยะของคนทั้งประเทศ เคยคิดอยากลาออกจากวงการ เพราะในอดีตไม่เห็นคุณค่าของการเป็นนางเอก และนิสัยที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ในรายการ WOODY FM

ชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
แมท : สบายดีค่ะ สนุกกับการทำงาน จากที่แบบว่าไม่เคยได้สนุกขนาดนี้มาก่อน

มีบ้างไหมที่เข้ากองแล้วไม่แฮปปี้?
แมท : อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่ว่าก็จะมีช่วงหนึ่งอย่างที่พวกเราทราบกันดีว่าสูญเสียความมั่นใจ

ครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าชีวิตในวงการไม่ได้สวยงามอย่างที่ฉันคิดไว้ ความมั่นใจลดลงกี่เปอร์เซ็นต์เต็ม 10 ให้เท่าไหร่?
แมท : เหลือศูนย์เลยค่ะ จริงๆ แล้วพื้นฐานแมทรู้สึกว่าเราค่อนข้างดีลกับวงการบันเทิงยากอยู่แล้วโดยส่วนตัว เพราะจะมีนิสัยที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ ไม่ค่อยฉอเลาะ ไม่ได้เป็นคนหยิ่งแต่ว่าเหมือนอาจจะถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าไม่ค่อยเข้าหาคนแปลกหน้า พอเราเจออะไรต่างๆ ก็ยิ่งยากเข้าไปอีกก็เลยรู้สึกเหมือนช็อกน้ำ เราไม่เคยเจออะไรที่หนักหนาสาหัสเลยในชีวิต คือชีวิตแมทราบเรียบมากเลยค่ะพี่วู๊ดดี้ นอกจากเรียนก็คือไปทำงานชีวิตมีแค่นี้ อยากได้อะไรก็โอเคคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้กดดัน ไม่มีอะไรที่หนักใจหรือคิดมาก นี่คือพายุ ระเบิดตู้ม!! ขึ้นมาทีเดียวแบบงงไปเลย

ตอนที่เป็นประเด็นขึ้นมา เสียใจอะไรมากที่สุด?
แมท : ขั้นตอนแรกคือเสียใจที่คนไม่ฟัง คนจะพูดหรือตัดสินไปแล้วว่าที่เราพูดมันไม่จริง ทั้งๆ ที่ตอนนี้มาพูดก็ไม่มีความหมาย แต่ ณ วันนี้ก็พูดได้ก็ยังสนุกอยู่ที่จะพูด กลายเป็นเรื่องสนุกไปแล้ว ถ้ามันไม่เกิดขึ้นก็จะไม่มีแมทใน Mindset นี้ ในวันนี้เลย

ทุกวันนี้เวลามีข่าวอะไรก็ตามในเชิงลบตั้งตัวรับไหว?
แมท : ชิลมาก (หัวเราะ)

ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับสังคมและโลกออนไลน์?
แมท : ได้เรียนรู้การทำใจมั้งคะ ได้เรียนรู้เยอะมากค่ะ พอมาวิเคราะห์ตัวเองรู้และเข้าใจแล้วว่า พอไม่ได้เจอปัญหาหรืออุปสรรค ทุกอย่างได้มาโดยง่ายเราก็เลยไม่เห็นคุณค่าของมัน ไม่เห็นคุณค่าของการเป็นนางเอก หลายๆ คนอยากมาอยู่ตรงนี้เยอะมากแต่ว่าเขาไม่มีโอกาส เราได้โอกาสโดยที่ไม่ได้ออกไปไขว่คว้า แต่ถามว่าเรารับผิดชอบไหม รับผิดชอบอย่างดีนะคะ แต่ว่าเราไม่ได้เห็นคุณค่ามากพอ เมื่อเดินมาเจอกับพายุลูกใหญ่เลยทำให้เราทิ้งมันไปง่ายๆ โดยที่ไม่ได้เดือดร้อน ไม่ได้เป็นความคิดที่ไม่ต้องสนใจใครนะ แต่ทำไมเราต้องมาทนอยู่เหมือนเป็นถังขยะของคนทั้งประเทศเลย ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำด้วยซ้ำ แต่พอเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว ที่เรียนรู้เลยอันนี้จริงมากคือน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือเข้าไปขวาง อันไหนตึงได้หย่อนได้โอเคเราเรียนรู้ จากหน้ามือเป็นหลังมือเลย

ก่อนหน้านี้พื้นฐานแมทเป็นคนค่อนข้างรักษากฎระเบียบจะไม่ทำอะไรที่มันผิดกฎอยู่แล้ว เข้าใจว่าคนอื่นเขาจะไม่ทำ พอคนอื่นเขาทำเราก็จะสู้ทันที มาสิพร้อมชน ถ้าอันไหนไม่ผิดฆ่าแมทให้ตายก็ไม่ยอมรับ แต่ถ้าอันไหนบอกมาผิดจริงเราอยากเปลี่ยนนะ อยากปรับปรุง อยากพัฒนาให้มันดีขึ้น แล้วรู้จักที่จะเรียนรู้กับความทุกข์นี้ ถ้าเรารู้ว่าทุกข์คืออะไรต้องทำความเข้าใจมัน พอเข้าใจแล้วมันจะเป็นเหมือนการดีดนิ้วว่า อ่อ! ก็แค่นี้ หนักก็จริงเราก็ทำได้แค่ยอมรับและเรียนรู้กับมัน ไม่งั้นเราก็จะคือคนที่อยู่ไม่ได้พ่ายแพ้ เครียด ร้องไห้

เคยคิดจะออกจากวงการไหม?
แมท :  คิดทุกปี ตั้งแต่ทำงานแล้วค่ะ เพราะอย่างที่บอกโดยส่วนตัวแมทดิวกับวงการบันเทิงยากมาก คือถามว่าแมทอยู่กองละคร แมทสนุกนะ เล่นละครได้อย่างเดียวอ่ะค่ะอยู่หน้ากล้อง แต่ถ้าจะให้เราต้องมาแบบวางแผนที่จะออกงานยังไง มีข่าวยังงี้ ไม่มีเลยค่ะ

ตอนนี้เป็นโสดไหม?
แมท : โสดค่ะ

แฟนๆ ที่ยังรักและซัพพอร์ตเราให้กำลังใจขนาดไหน?
แมท :  ให้แบบดีมาก ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แมทอยู่รอดได้มาจนถึงทุกวันนี้แฟนๆ ที่ยังรักและเข้าใจเรา ครอบครัวเพื่อนหรือกัลยาณมิตร รุ่นพี่หลายๆท่าน หรือรุ่นน้องหลายๆ คนที่สนิทรอบๆ ข้าง แต่พอเราเจออะไรแบบนี้มา เรารู้สึกเลยว่าเราจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปให้ลำบาก เขาจะต้องมีแมทอยู่ในชีวิตในยามที่พวกเขาลำบากอยู่แน่ๆ จากนี้ต่อไป เพราะว่ามันเป็นน้ำหล่อเลี้ยงแมทสุดๆ และพี่ๆ ในวงการด้วยเยอะมากที่ส่งข้อความเข้ามา แค่นี้ก็ดีใจแล้วที่มีคนเข้าใจและเชื่อใจเราบ้าง และก็เป็นการคัดคนออกเหมือนกันว่าใครอยู่และใครไม่ได้ไปต่อ ตั้งแต่เกิดมาแมทไม่เคยเลิกคบใครเลยค่ะ แต่ครั้งนี้เรารู้แล้วว่าใครที่เราสามารถจริงกับเขาได้มากน้อยแค่ไหน

เป็นคนติดการมีแฟนไหม?
แมท : เมื่อก่อนค่ะ ใช่ ก็ไม่เคยไม่มีแฟนมาโดยตลอดเลยค่ะ สันนิษฐานนะอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเด็กมีปัญหาขาดความรัก เพราะว่าไม่ได้อยู่กับป๊ะป๋าไงคะ เพราะเขาทำงานอยู่ต่างประเทศนานๆ เจอกันที ถามว่าอยู่คนเดียวได้ไหมอยู่ได้ แต่ว่าชอบที่จะมีคนไว้ดูแลกันและกันมากกว่า

แล้วชอบผู้ชายที่นิสัยเหมือนป๊ะป๋าไหม?
แมท : ใช่ค่ะ ชอบแบบนั้น แมทไม่ได้ชอบแบบ Bad Boy เลย แต่ทุกคนชอบบอกว่าแมทชอบ Bad Boy สเป็กจริงๆ ของแมทเลยต้องเป็นคนสุภาพ ต้องเป็นคนที่สะอาด ต้องฉลาด ต้องเก่ง เป็นผู้นำเราได้ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว แค่ขอแบบอยู่ด้วยแล้วเข้าใจกันและกันก็พอ แต่ก่อนหน้านี้เป็นอย่างงั้นเป็นคนจู้จี้จุกจิก เจ้าระเบียบ ต้องอย่างงี้ต้องอย่างงั้น

คนที่คบกับคุณเขาบอกว่าคุณเยอะไหม?
แมท : เขาไม่ได้บอกว่าเยอะ แต่เขาจะบอกว่าขี้บ่น (หัวเราะ)

‘เอ ศุภชัย’ นั่งเก้าอี้ผู้บริหารบริษัท ‘A Entertainment’ มุ่งปั้นนักแสดงหน้าใหม่ - ผลิตงานบันเทิงครบวงจร

(21 ส.ค. 66) เป็นทั้งนักปั้นดารามือทอง เป็นทั้งผู้จัดละคร และล่าสุด ‘เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร’ ก็เปิดตัวอีกครั้งในฐานะซีอีโอ เจ้าของบริษัท เอ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (A Entertainment) ซึ่งตั้งใจจะผลิตงานด้านบันเทิงอย่างครบวงจร โดยเริ่มต้นจากการปั้นนักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ ออกสื่อโซเชียล

โดย เอ ศุภชัย เปิดเผยว่า “ตอนนี้พี่เอ ได้ปั้นเด็ก ๆ 7 คน คือ อู๋ กิตติภณ ทิพยทยารัตน์ ซึ่งมีผลงานละครเรื่องกลเกมรัก ทางช่อง 3 แล้วก็มี องศา ธีธัช คุ้มเมือง, อเล็กซ์ อเล็กซานเดอร์ โบว์แมน สองคนนี้ร้องเพลงเก่ง ต่อด้วย มอส กฤติเดช ภูภัทรธราวุฒิ, ดล นภดล ทิพวัฒน์, ทาฆิ อ่องลออ และ เลโอ เลโอนาร์โด ซุนโด ซึ่งแต่ละคนทั้งเป็นนักแสดงและร้องเพลงได้ดี พี่เอส่งทุกคนไปเรียนเพิ่มเติมให้มีความสามารถหลากหลายด้าน ครบเครื่องทุกอย่าง แล้วตอนนี้ก็ได้ชิมลางให้ร้องโคฟเวอร์เพลง เพื่อเตรียมออกช่องยูทูบ ติ๊กต็อก ไอจี เฟซบุ๊ก อะไรต่าง ๆ ให้โซเชียลนำทาง เพื่อให้เป็นที่รู้จัก ตอนนี้พี่เอตั้งใจลุยงานเต็มที่ เดินทางตลอด ไปคุยกับช่องทีวี SBS ที่เกาหลี ไปดูคอนเสิร์ตเกาหลีที่ญี่ปุ่น อาจจะเป็นโปรโมเตอร์ติดต่อคอนเสิร์ตมาจัดที่เมืองไทย ก็จะคิดและมองการขยายงานในมุมธุรกิจที่หลากหลายขึ้น”

“พี่เอขอฝากบริษัท A Entertainment เป็นบริษัทที่พี่เอตั้งใจทำจริง ๆ ให้เป็นบริษัทบันเทิงที่ครบวงจร กับเวลา 30 กว่าปีที่พี่เอสะสมประสบการณ์ในวงการบันเทิง พี่เอตั้งใจว่าเอ็นเตอร์เทนคืออาชีพหลักของพี่เอที่ผสมผสานกับธุรกิจ เพราะฉะนั้นพี่เอขอฝากช่อง A Entertainment ของพี่เอด้วยนะคะ และท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณ ทางผู้บริหารบริษัทโคริเน็ตเวิร์ค (KORI Network) คุณชาแด คิม และเทอุง พัค (CEO) แหนม รณเดช วงศาโรจน์ (ที่ปรึกษาด้าน Entertainment content ของ KORI Network) ที่สนับสนุนสถานที่ถ่ายทำในครั้งนี้ และจะเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำคอนเทนท์ต่าง ๆ ในช่อง A Entertainment ต่อไปในอนาคตด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” พี่เอ ศุภชัย กล่าวในที่สุด

‘แพรรี่’ ประกาศลาจอสิ้นปีนี้ หลังอยู่หน้ากล้องมากว่า 1 ปี ยืนยัน!! ไม่มีใครไล่ แค่อยากไปทำตามความฝันของตัวเอง

(23 ก.ย.66) ทำเอาแฟนคลับและผู้ติดตามใจหายไปตามๆ ความคืบหน้าล่าสุด ‘แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ ครีเอเตอร์ พิธีกร และนักแสดงชาวไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ประกาศอำลาวงการบันเทิง หลังจากทำงานหน้าจอมากว่า 1 ปีเต็ม

แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า หลังปลายปี 2566 อาจไม่ได้เห็นตนทำงานอยู่หน้ากล้องอีก ขอบคุณแสงสีเสียงและผู้ใหญ่ใจดีที่เมตตา มองเห็นในความสามารถของตน ที่ตัดสินใจอำลาวงการบันเทิง บอกลาบทบาทฐานะนักแสดงและพิธีกร ไม่ใช่เพราะมีใครมาไล่ แต่เป็นเพราะอยากไปทำคาเฟ่ร้านอาหารตามที่เคยคิดไว้เมื่อสึกใหม่ ๆ พร้อมขอบคุณแฟนคลับที่ติดตามและคอยให้กำลังใจมาเสมอ

“ทำงานหน้ากล้องมากว่า 1 ปีเต็ม ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาแล้วนะคะ ที่ดิฉันจะอำลาหน้าที่การงานที่ได้ทำอยู่ตอนนี้ ขอบคุณแสงสีที่สาดส่องเข้ามาตลอดระยะเวลาของการทำงานอยู่ในวงการบันเทิง (คงจะพูดได้แหล่ะ)

ขอบคุณโอกาสและความเมตตาเอ็นดูจากผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน ซึ่งมองเห็นศักยภาพและความสามารถอันเล็กน้อยที่มีอยู่ในตัวของดิฉันนะคะ ถ้าไม่มีท่านเหล่านี้ ต่อให้ดิฉันจะอยากได้แสดงความสามารถแค่ไหน ก็คงไม่มีเวทีให้ได้แสดง

มีดวงเรืองก็ต้องมีดาวโรยอันนี้มันเป็นของคู่กันนะคะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าดิฉันอยากจะรับบทเป็นดาวโรยแล้วหล่ะ ดิฉันคิดว่า ถึงเวลาที่ดิฉันควรจะหยิบหิ้วกระเป๋าสัมภาระและเก็บของนั่งรถกลับบ้านนาที่จากมาได้แล้ว

ต้องบอกนะคะว่า การที่ดิฉันได้มาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ตัวเองกำลังยืนอยู่ มันเป็นเรื่องที่เกินฝันมาก ๆ และถึงตอนนี้ก็ไม่มีความทะเยอทะยานอะไรที่ดิฉันอยากจะได้รับมากไปกว่านี้แล้วค่ะ

คงต้องขออนุญาตขอบคุณและบอกลากันตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่า หลังปลายปีนี้ คงจะไม่ได้เห็นดิฉันในบทบาทฐานะของนักแสดงและพิธีกรตามรายการต่าง ๆ อย่างที่เคยเห็นมาแล้วนะคะ และก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่ามีใครที่ไหนมาขับไล่ไส่ส่งดิฉันให้ไปจากจุดนี้ ไม่มีค่ะ

ทุกเรื่องเป็นเพราะดิฉันได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าดิฉันต้องการให้ชีวิตของตัวเองดำเนินต่อไปแบบไหน ด้วยหน้าที่การงานอย่างไร เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องเลือกและแลกค่ะ

ปีหน้าหลังหมดงานในวงการ คงมีหลายเรื่องที่ดิฉันอยากทำและได้ทำเพื่อตัวเองอย่างจริง ๆ จัง ๆ ทั้งการปลูกผมที่คิดไว้นานแล้ว การได้อยู่ดูแลแม่ด้วยตัวเอง ซึ่งระยะหลังนี้ แม่ก็พูดเปรย ๆ ว่ารู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจมากขึ้นเวลาที่เราอยู่บ้านด้วย อีกเรื่องก็การทำคาเฟ่ร้านอาหาร นี่ก็เป็นความฝันที่เคยสัญญากับตัวเองไว้ตอนสึกใหม่ ๆ ว่าอยากทำ คงถึงเวลาที่ต้องทำตามสัญญาแล้วหล่ะ

ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามและให้กำลังใจกับดิฉันมาโดยตลอดนะคะ ขอบคุณที่รักและเอ็นดูความเป็นแพรรี่ในตัวของดิฉัน ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บทบาทของการทำงานในวงการบันเทิงของดิฉันประสบความสำเร็จในแบบที่ดิฉันพอใจ ขอบคุณค่ะ”

หลังจากแพรรี่โพสต์อำลาวงการบันเทิง แฟนคลับต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งบอกว่า เคารพทุกการตัดสินใจของแพรรี่ และร่วมยินดีกับเส้นทางที่เลือกเดิน รวมถึงบางส่วนบอกว่าจะสนับสนุนแพรรี่ต่อไป หากคาเฟ่ร้านอาหารเปิดเมื่อไรจะเดินทางไปอุดหนุน

แม้เส้นทางในวงการบันเทิงจะสิ้นสุดลง แต่แฟน ๆ ยังสามารถติดตามคุณแพรรี่ ไพรวัลย์ และสนับสนุนเส้นทางที่คุณแพรรี่เลือกต่อไปได้ ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหนก็ขอให้ประสบความสำเร็จสมความตั้งใจทุกประการนะคะ

สเตป!! ธุรกิจเพลงไทย ในจังหวะที่ไม่พ้นเงื้อมมือนักฟอกเงิน ผลงานถี่-มีแต่เพลงไร้คุณภาพ-ไม่ถูกจดจำ-ปิดตัวแยกย้าย

ถ้านับย้อนกลับไปสัก 15-20 ปีก่อน ฉากหลังของ ‘นักธุรกิจสีเทา’ หรือ ‘มาเฟียต่างชาติ’ ที่ซุกตัวทำมาหากินอยู่ในเมืองไทยมานาน มักจะสร้างเงินได้มหาศาลจากการค้ามนุษย์, ยาเสพติด และรถยนต์หรูนำเข้าแบบหนีภาษี โดยมีตำรวจ และนักการเมืองไทยขี้ฉ้อมีเอี่ยวตามเคย และการเปิด “ค่ายเพลงไทย” ในห้วงเวลานั้น ก็หนีไม่พ้นเป็นหนึ่งในวิธีบังหน้าเพื่อจะฟอกเงินให้ขาวใส เพราะด้วยการทำธุรกิจค่ายเพลงไทยในช่วงเวลาขาลง เป็นจังหวะเวลาที่ดูน่าเชื่อถือ และน่ายกย่องในสายตาสังคมที่สุด ประหนึ่งเป็นพ่อพระผู้ใจดี ที่แม้วงการเพลงไทยกำลังถอยหลังลงคลอง ความคึกคักเริ่มจะหดหายไป กลับมีคนรวยที่มีน้ำใจเดินเข้ามาหวังจะปลุกวงการเพลงไม่ให้เงียบสงัด

แต่ ‘ความน่าเชื่อถือขององค์กร’ จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัย ‘คนที่น่าเชื่อถือ’ ในวงการเพลงมาออกหน้านั่งแท่นบริหารงาน คอยดีลทีมงาน ชวนศิลปินนักร้อง ดึงนักดนตรี เข้าสังกัด เพื่อมาช่วยกันสร้างผลงานเพลงที่มาจากการ ‘ถลุงเงินบาป’ แบบไม่อั้นในการผลิต 

เงินหนา ๆ ของผู้ลงทุนในคราบโจร เป็นที่หอมหวานของเหล่านักแต่งเพลงไส้แห้ง และโปรดิวเซอร์ทางดนตรีที่ไม่สนว่าจะได้เงินมาจากคนประเภทไหน รวมศิลปินนักร้องมีชื่อจำนวนหนึ่งที่อยากได้ค่าทำงานแพงลิบเพื่อจะยกระดับตัวเองโดยไม่เคยฉุกคิดว่า ที่เขาจ่ายในราคาสูงเกินจริง มันสมเหตุสมผลหรือไม่? ก็เลยทำให้เกิด ‘ค่ายเพลงจากนักฟอก’ ก่อตัวขึ้นไม่น้อยในสังคมดนตรีไทย เวลาเปิดค่ายจะแถลงข่าวใหญ่โต มีเหล่า ‘คนดังที่คิดน้อย’ แทบจะทุกวงการขึ้นเวทีไปยืนถ่ายรูปช่วยกันฟอกโจรด้วยความชื่นมื่น แต่เมื่อถึงคราวสังคมรู้ถึงกลิ่นที่ผิดปกติ ก็จะแอบปิดตัวไปแบบเงียบ ๆ ในเวลาเพียงปีสองปีเสมอ

ค่ายเพลงจากเงินเทาเหล่านี้ มักจะมีผลงานออกมาถี่ ๆ แต่มักจะเป็นผลงานเพลงที่ไร้คุณภาพ ไม่เป็นที่จดจำ หลังปิดตัวแยกย้ายกันไปไม่นานนักสังคมก็จะลืมทั้งชื่อค่าย และชื่อของศิลปินแต่ละเบอร์ที่เคยออกผลงานมา

แต่ถ้าพูดถึง 5-6 ปีที่ผ่านมาถึงชั่วโมงนี้ ‘กลุ่มทุนเทา’ คือผู้อยู่เบื้องหลัง ‘บ่อนพนันออนไลน์’ เป็นหลัก และแน่นอนยังคงเลี้ยงดูปูเสื่อนายตำรวจใหญ่ ๆ สายโฉด รวมถึงนักการเมืองสายดาร์กบางคน เพื่อการทำมาหารับประทานที่คล่องตัว ส่วนอีกหนึ่งวิธีที่ยังคงใช้ ‘ฟอกตัวตน’ ก็คือการดำเนินธุรกิจเพลงไทยเพื่อใช้เป็นฉากบังหน้าเหมือนเคย เพียงแต่ไม่ใช่วิธีเปิดค่ายเพลงทื่อ ๆ ตรง ๆ เหมือนแต่ก่อน ครั้งนี้หันไปใช้วิธีให้สังคมรู้จักในนาม ‘ผู้ห่วงใยวงการเพลง’ ประกาศจ่ายค่าทำเพลงในอัตราสูง ๆ เพื่อกระตุ้นให้คนทำงานเพลงทุกแขนงตื่นตาตื่นใจ ที่สุดปลาที่ว่ายไปงับเบ็ดธงที่โจรปักหลอกไว้ก็มีแต่คนหน้าตาเดิม ๆ 

ถ้าการเมืองไทยยังไม่ไปถึงไหน วงการเพลงไทยก็..ไม่ต่างกัน

12 คนบันเทิง ติดลิสต์ 100 Finalists of The People Awards 2024

🔎 ส่อง 12 โฉมหน้าคนบันเทิงที่เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรู้จักกันดี จาก 100 Finalists of The People Awards 2024 ใต้แนวคิด ‘People Go Beyond’ ต้นแบบคนผู้ทะยานข้ามขีดจำกัด จะมีใครบ้าง มาดูกัน!!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top