Thursday, 28 March 2024
รัฐประหาร

"หมอวรงค์" แนะวิธีหยุดรัฐประหาร รัฐบาลต้องไม่เลวร้ายจนปชช.เบื่อหน่าย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเพจ Warong Dechgitvigrom มีเนื้อหาระบุว่า..  #วิธีหยุดรัฐประหาร 

ช่วงนี้พวกโกงชาติออกมาคลับเฮาส์บ่อย จนไม่มีจิตสำนึก หรือละอาย เขาอาจคิดว่าคนไทยโง่และลืมง่าย คนพวกนี้ก็จะเคลมตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย พยายามด้อยค่ากองทัพว่า เป็นพวกทำลายประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหาร 

อีกกลุ่มที่ออกมาคล้ายกัน ยังไม่มีประเด็นโกงชาติ แต่อนาคตไม่แน่ เพราะยังไม่เคยเป็นรัฐบาล แต่แน่ ๆ คนพวกนี้ ก็มีพฤติกรรมต้องการล้มเจ้าชัดเจน แต่เลี่ยงภาษาที่พูด แม้จะมีการต่อต้านจากประชาชน แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม อาจเป็นเพราะมีแรงหนุนที่ดีจากต่างชาติ 

ทั้งพวกโกงชาติ พวกล้มเจ้า จะใช้ยุทธศาสตร์หลักคล้ายกันคือ เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ปล่อยเฟคนิวส์ และพยายามแสดงออกเรื่องต้านรัฐประหาร ทั้ง ๆที่ความเป็นจริง ตอนคนกลุ่มนี้มีอำนาจนั้น มีพฤติกรรมเผด็จการสุด ๆ 

‘ไป่ ทาคน’ นายแบบดังเมียนมา ไม่รอด!! ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี ฐานประท้วงรัฐบาล

ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี ‘ไป่ ทาคน’ นายแบบและนักแสดงชื่อดังชาวเมียนมา ฐานอารยะขัดขืนหยุดงานประท้วงรัฐบาล

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายแบบและนักแสดงชื่อดังชาวเมียนมา ไป่ ทาคน วัย 24 ปี หลังจากถูกทหารจับกุม ตามแผนการปราบปรามศิลปินและดาราที่ออกมาแสดงพลังต่อต้านรัฐประหาร ล่าสุด ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปีในเรือนจำอินเส่ง

โดยไป่ ทาคน ถูกฟ้องตามมาตรา 505 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมาตรา 505 (ก) เป็นความผิดในฐานอารยะขัดขืนโดยการหยุดงานประท้วง เข้าร่วม สนับสนุน หรือกดดันให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหยุดงานประท้วง ซึ่งมีโทษสูงสุดคือติดคุก 3 ปี เป็นสาเหตุให้ไป่ ทาคน ถูกพิพากษาจำคุกหลายเดือนต่อมาในเรือนจำอินเส่ง

‘หญิงหน่อย’ วอน หยุดเล่นการเมืองแบบเก่า หวั่นสร้างความขัดแย้ง สุดท้ายเกิดรัฐประหารอีก

‘หญิงหน่อย’ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซัดอย่าเล่นการเมืองแบบเก่าสร้างความขัดแย้ง ประเทศเดินหน้าไม่ได้สุดท้ายเกิดรัฐประหารอีก 

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเดินเกมปลุกคนเสื้อแดงให้กลับพรรคว่า ส่วนตัวมองว่าความเห็นต่างทางการเมืองไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิด ทุกคนเห็นต่างกันได้  แต่ต้องยอมรับการท้วงติง ไม่ใช่สร้างวาทกรรมให้เกิดความเกลียดชัง เกิดความขัดแย้ง ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ เพราะท้ายที่สุดจะต้องถูกรัฐประหารอีก และกลับเข้าสู่วังวนเดิม ซึ่งติดหล่มแบบนี้มา 15 ปีแล้ว ดังนั้นเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก จึงสร้างพรรคไทยสร้างไทยขึ้นมาให้ประชาชนเป็นเจ้าของ และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชน เพราะไม่ได้มองเรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ทำครั้งนี้เพื่อความหวังของคนทั้งประเทศ และจะเป็นภารกิจสุดท้ายของตัวเอง

22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ‘คสช.’ ยึดอำนาจการปกครอง เป็นการทำรัฐประหารครั้งที่ 13 ในไทย

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.30 น. ได้เกิดการรัฐประหารอีกครั้งในประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อันมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ รัฐประหารโค่นรัฐบาลรักษาการ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 13 ในประวัติศาสตร์ไทย รัฐประหารดังกล่าวเกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์การเมืองซึ่งเริ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2556 เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ และอิทธิพลของนายทักษิณ ชินวัตร ในการเมืองไทย

ก่อนหน้านั้นสองวัน คือ วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่เวลา 03.00 น. กองทัพบกตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) และให้ยกเลิกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งขึ้น กอ.รส. ใช้วิธีการปิดควบคุมสื่อ ตรวจพิจารณาเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต และจัดประชุมเพื่อหาทางออกวิกฤตการณ์การเมืองของประเทศ แต่การประชุมไม่เป็นผล จึงเป็นข้ออ้างรัฐประหารครั้งนี้

‘พิธา’ ชี้!! ‘คนกรุงเทพ’ สั่งสอนคณะรปห.ผ่านการเลือกตั้ง ตอกย้ำ 8 ปี รัฐประหาร คือ ความล้มเหลว

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯและสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ว่า วันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นวันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ สมาชิกสภากรุงเทพ ยังเป็นวันครบรอบ 8 ปีการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากประชาชน บดขยี้ประชาธิปไตยของพวกเราทุกคน

“8 ปีผ่านไป ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่าการรัฐประหารคือความล้มเหลว ถึงแม้ว่าคณะรัฐประหารจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฉุดรั้งสังคมไทยไม่ให้เดินหน้า ทั้งการร่างกติกาที่บิดเบี้ยว การทำลายกลไกประชาธิปไตย และบ่อนทำลายกำลังของภาคประชาชน จาก คสช. มาจนถึงรัฐบาลประยุทธ์ที่รวบรวมนักการเมืองที่ไม่ได้เห็นคุณค่าของประชาธิปไตยมาไว้ด้วยกัน

“ความเลวร้ายของการรัฐประหาร ตลอดจนความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลประยุทธ์และคณะ ได้ทำให้ประเทศไทยถดถอยและล้มเหลวอย่างน่าอับอาย จนประชาชนไม่อาจฝืนใจเลือกตัวแทนที่เป็นซากเดนจากมรดกรัฐประหารได้อีกต่อไป จากที่เห็นกันในการเลือกตั้งครั้งนี้”

อดีต จนท.ระดับสูงของสหรัฐฯ ยอมรับเอง!! เคยช่วยวางแผนรัฐประหารในประเทศอื่นๆ

อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เผยผ่านซีเอ็นเอ็น เคยช่วยวางแผนรัฐประหารในประเทศอื่น ๆ แต่ยืนยันไม่เกี่ยวเหตุเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 

(12 ก.ค.65) จอห์น โบลตัน (John Bolton) อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ได้ให้สัมภาษณ์กับ เจค แทปเปอร์ (Jake Tapper) พิธีกรของซีเอ็นเอ็น ว่า เหตุโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อต้นปีก่อน เป็นผลจากแรงสนับสนุนของผู้คนที่นิยมใน โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

โดยความเห็นของ โบลตัน เกี่ยวกับเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2021 มีขึ้นในขณะที่คณะกรรมาธิการรัฐสภาชุดหนึ่งกำลังหาข้อสรุปว่า ทรัมป์ และบรรดาคนใกล้ชิดของเขามีส่วนในการวางแผนปลุกปั่นการก่อขบถรุนแรง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 140 คน พร้อมๆ กับการหลุดคำพูดในการเป็นส่วนหนึ่งของเกมแทรกแซงรัฐประหารในประเทศอื่นออกมาด้วย

“ในฐานะคนคนหนึ่งที่เคยช่วยวางแผนก่อรัฐประหารมาแล้ว แต่ไม่ใช่กับเหตุการณ์นี้ หากแต่เป็นที่อื่น ๆ มันต้องทำงานหนักมาก” โบลตัน กล่าวและว่า “วันที่ 6 มกราคม ไม่ใช่การโจมตีประชาธิปไตยในสหรัฐฯ แต่เป็นการจู่โจมเพื่อโดนัลด์ ทรัมป์ และเขาปล่อยให้กลุ่มก่อการจลาจลที่อาคารรัฐสภาดำเนินการแบบไม่มีข้อสงสัย ซึ่งมันไม่ใช่การโค่นล้มรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการซื้อเวลาเพิ่มให้แก่ทรัมป์ในช่วงเวลานั้น” 

แม้ โบลตัน ซึ่งทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทรัมป์ ระหว่างปี 2018 ถึง 2019 จะไม่ได้เจาะจงว่าเขาช่วยโค่นล้มรัฐบาลประเทศไหนบ้างนั้น แต่อย่างน้อยระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง เขาก็ได้สนับสนุนสหรัฐฯ ให้ใช้กำลังทหารแทรกแซงในเวเนซุเอลา

‘เด็กเพื่อไทย’ ยำ 'บิ๊กตู่' ทำหน้าทะเล้น ประหนึ่งว่าภูมิใจกับการรัฐประหาร

รองโฆษกเพื่อไทยซัดประยุทธ์ภูมิใจที่ทำรัฐประหาร ไม่รู้จักละอาย ไม่แปลกใจทำไมชอบโยงนายเหนือ ทั้งที่เทียบกันไม่ติด แนะเลิกใช้วาทกรรม ควรอยู่ให้คนรักจากไปให้คนคิดถึงดีกว่า

(21 ก.ค. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบกลางสภาผู้แทนราษฎรว่าไม่ได้เป็นคนปฏิวัติ และระบุว่าคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้คือนายกรัฐมนตรีคนเดียว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมก็ยกมือรับในสภา ซ้ำยังทำหน้าทะเล้น ลอยหน้าลอยตา ประหนึ่งว่าภูมิใจกับการรัฐประหารยึดอำนาจมาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ว่าบ่งบอกถึงความไร้ยางอายและไร้วุฒิภาวะ เพราะการรัฐประหารเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั่วโลกไม่ยอมรับ เป็นเรื่องที่น่าอับอายมากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกฯ

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 20 ก.ค. ที่คนในสภาออกมายอมรับว่าเป็นผู้ทำการรัฐประหารและทำการยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว เป็นสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำที่เลวร้ายของประชาชน และเช่นเดียวกับผู้ที่สนับสนุนและออกหน้าแทน พล.องประยุทธ์ คือผู้ที่เห็นดีเห็นงามต่อผู้ที่ทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศนี้”

16 กันยายน พ.ศ. 2500 ‘จอมพลสฤษดิ์’ ก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจ ‘จอมพล ป. พิบูลสงคราม’

วันนี้เมื่อ 65 ปีก่อน วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก่อรัฐประหารยึดอำนาจ จอมพล ป. พิบูลสงคราม อ้างสาเหตุการเลือกตั้ง ที่มีการกล่าวขานว่า เป็นการเลือกตั้งสกปรกที่สุดของประเทศไทย

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจอมพล ป. พิบูลสงคราม สาเหตุการรัฐประหาร เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ปี 2500 ซึ่งมีการกล่าวขานว่าเป็นการเลือกตั้งสกปรกที่สุดของประเทศไทย โดยผลการเลือกตั้งปรากฎว่า พรรคเสรีมนังคศิลา ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้รับเสียงข้างมาก และได้ตั้งรัฐบาล ท่ามกลางความวุ่นวายอย่างหนักจากการเดินประท้วงของประชาชนจำนวนมาก ที่เรียกร้องให้จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง 

เมื่อสถานการณ์ลุกลาม จอมพลสฤษดิ์ เป็นผู้นำประชาชนเข้าพบจอมพล ป. ที่ทำเนียบรัฐบาล ทำให้กลายเป็นขวัญใจของประชาชนทันที จากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อจอมพลสฤษดิ์ เห็นว่ารัฐบาลจอมพล ป. ขาดความชอบธรรมในการปกครองบ้านเมืองแล้ว จอมพลสฤษดิ์ จึงประกาศลาออกจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม ในรัฐบาลของ จอมพล ป. คงเหลือแต่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเพียงอย่างเดียว

วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2500 จอมพลสฤษดิ์ และคณะทหาร ยื่นคำขาดต่อ จอมพล ป. ให้รัฐบาลลาออก แต่ได้รับคำตอบจาก จอมพล ป. ว่า ยินดีจะให้รัฐมนตรีลาออก แต่ตนจะขอเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลเอง ยิ่งสร้างความไม่พอใจแก่ประชาชน ซึ่งจอมพลสฤษดิ์ ได้พูดผ่านวิทยุยานเกราะถึงผู้ชุมนุมในเหตุการณ์นี้ โดยมีประโยค “พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ”

จากนั้นวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2500 ประชาชนพากันลุกฮือเดินขบวนบุกเข้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อไม่พบจอมพล ป. จึงพากันไปบ้านจอมพลสฤษดิ์ ในขณะที่รัฐบาลจอมพล ป. ก็กำลังเตรียมจับกุมจอมพลสฤษดิ์ ในข้อหากบฏ แต่ไม่ทัน 

และในคืนวันที่ 16 กันยายน นั้นเอง จอมพลสฤษดิ์ ได้นำกำลังรัฐประหารรัฐบาลจอมพล ป. ส่วน  จอมพล ป. ได้หลบหนีไปยังประเทศกัมพูชา ก่อนจะขอลี้ภัยไปอยู่ประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งเสียชีวิต

‘เต้น-ณัฐวุฒิ’ โบ้ย ‘พธม.’ ต้นเหตุเกิดรัฐประหารปี 49 หากวันนั้นหยุดชุมนุมหลังยุบสภา บ้านเมืองคงไปอีกทาง

(19 ก.ย. 65) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาว่า รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นจุดเริ่มต้นมหากาพย์ความขัดแย้งของสังคมไทย มาตลอด 16 ปี การชุมนุมของกลุ่ม พธม. ในช่วงปี 2548 - 2549 แม้จะมีขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สามารถเป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์การเมืองได้ ถ้ากลุ่ม พธม. ยุติการชุมนุมไปหลังจากรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ประกาศยุบสภา บ้านเมืองอาจไปอีกทางหนึ่ง และจะไม่มาสู่หนทางนี้ได้ กระทั่งเมื่อกองทัพและเครือข่ายชนชั้นนำทำรัฐประหาร จึงกลายเป็นการเริ่มนับหนึ่งของมหากาพย์ความขัดแย้ง ก่อวิกฤตความแตกแยกของสังคมไทยยาวนานมาจนถึงวันนี้

16 ปีผ่านไป ตัวละครหลักในเหตุการณ์ยังคงอยู่ครบ ทั้งฝ่ายการเมือง กองทัพ และเครือข่ายอำนาจชนชั้น ขณะเดียวกัน 19 กันยา 49 และผลพวงจากเหตุการณ์นั้น ก็ให้กำเนิดตัวละครใหม่ เช่น กลุ่มคนเสื้อแดง กระทั่งขบวนการหนุ่มสาว ที่ออกมาร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปัจจุบัน เกิดการเรียนรู้อุดมการณ์ประชาธิปไตย และมีนักประชาธิปไตยเกิดขึ้นทุกที่ทุกเวลา เครือข่ายชนชั้นนำและกองทัพที่มีอิทธิพลสำคัญในมหากาพย์ความขัดแย้งนี้ ก็ไม่ได้รอดพ้นจากความเสียหายที่ก่อไว้ เพียงยังทรงตัวอยู่บนรอยปริร้าวของตัวเองได้ชั่วคราว แต่วันหนึ่งความเสียหายร้ายแรงจะลุกลามไปถึง

'แรมโบ้' ยก 10 ข้อเลวร้าย หากนายกฯ ชื่อ 'ทักษิณ' ชี้!! การทำรัฐประหารไม่ได้เลวร้าย ดีกว่ามีนายกฯ ขี้โกง

'แรมโบ้' ตอกกลับ 'ทักษิณ' คนไทยส่วนใหญ่ดีใจมากกว่าที่มีการทำรัฐประหาร ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองคงพัง ขออย่ามองการรัฐประหารเลวร้ายเสมอไป ยก 10 ข้อ หากทักษิณเป็นนายกฯ อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศชาติบ้าง

(19 ก.ย. 65) - นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตรโพสต์เฟชบุ๊ก 16 ปีรัฐประหารประเทศไทยขาดโอกาสหลายด้าน และบอกว่าบั้นปลายชีวิตหวังกลับไปเลี้ยงหลาน โดยนายเสกสกลระบุว่านายทักษิณไม่ควรออกมาโพสต์เฟซบุ๊กในทำนองที่ทำให้ประชาชนเห็นว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ และการรัฐประหารทำให้ประเทศเสียโอกาสทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าการที่ต้องทำรัฐประหารมีสาเหตุเกิดจากอะไร ไม่ใช่เพราะการบริหารงานผิดพลาด เห็นแต่ผลประโยชน์ของคนในครอบครัวและพวกพ้องจนทำให้คนทั้งประเทศออกมาขับไล่ แถมยังมีคดีติดตัวมากมาย ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทยและหนีคดีออกไปอยู่ต่างประเทศ

นายเสกสกล กล่าวว่าหากนายทักษิณไม่ถูกรัฐประหาร เป็นนายกฯ อยู่ต่อ อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมืองนี้ 10 ข้อ ดังนี้

1.) ประชาธิปไตย ที่ถูกวางรากฐานมาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 หรือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน จะกลายเผด็จการรัฐสภาสมบูรณ์แบบ ทั้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา จะถูกยึดเบ็ดเสร็จโดยมหาเศรษฐี ที่อ้างมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ระบบเผด็จการเสียงข้างมากลากไปจะเกิดขึ้นในยุคทักษิณ จนถูกขนานนามว่าระบอบทักษิณหรือระบอบเผด็จการรัฐสภา

2.) ประเทศชาติบ้านเมืองจะสูญสิ้นความสง่างามในสายตานานาชาติ เพราะเต็มไปด้วยการโกงกิน ทุจริตคอร์รัปชันไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

3.) ระบบการศึกษา เทคโนโลยี การเกษตร และอุตสาหกรรมของประเทศชาติบ้านเมือง จะไม่มีวันเติบโต เพราะถูกเลี้ยงไข้คล้ายให้เป็นแมวป่วย เชื่องๆ ที่ไม่มีวันจะรู้เท่าทันผู้นำที่คิดโกงกิน

4.) คนยากจนจะมากยิ่งขึ้นจะทบทวีคูณ เพราะที่ผ่ามมาตระกูลชินวัตรเป็นรัฐบาล 4 ชุด เข้าครองอำนาจรวมเกือบ 10 ปี พิสูจน์ชัดแล้วว่าไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ ตรงกันข้ามคนจนกลับเพิ่มมากขึ้น และความเหลื่อมล้ำทางสังคมยิ่งถ่างกว้างมากกว่าเดิมอีก

นายเสกสกล กล่าวต่อไปว่า 5.) คนไทยจะมองไม่เห็นอนาคตตนเอง เพียงแค่หางานทำให้ได้เพื่ออยู่ไปวันๆ ทั้งๆ ที่รายได้ต่ำกว่าประเทศอื่นในระดับการพัฒนาเดียวกัน เพราะประเทศชาติจะเต็มไปด้วยการทจุริตคอร์รัปชันทุกหย่อมหญ้าแรงงานถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบ นักศึกษาตกงานว่างงาน เดินเตะฝุ่นเต็มแผ่นดิน

6.) ศูนย์กลางการบินของสุวรรณภูมิ ที่นายทักษิณบอกเป็นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เราควรจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียนนั้น จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน หากประเทศชาติบ้านเมืองยังมีภาพลักษณ์การทุจริตคอร์รัปชันและปล่อยให้พวกพ้องสมุนในเครือข่ายเข้าไปครอบงำแสวงหาผลประโยชน์เอื้อประโยชน์ ให้พวกตนเองและพวกพ้องจากสนามบินสุวรรณภูมิ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top