Friday, 29 March 2024
พัทลุง

พัทลุง - สุดทึ่ง...เด็ก 10 ขวบ ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอม ทำโรตีขาย ช่วยเหลือครอบครัว

เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับเด็กวัย 10 ขวบ ที่ชื่นชอบในการทำโรตี ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ลูกค้าที่พบเห็นต่างชื่นชมแห่อุดหนุน แม่ค้าวัย 10 ขวบ  มีชื่อเล่นว่าน้องไปร์  ด.ญ.รวิสรา คงเกื้อ  อายุ 10 ขวบ  เรียนอยู่ ชั้นประถมปีที่ 4  โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง  น้องไปร์เล่าให้ฟังว่าตนมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ตัวเองเป็นคนโต หลงใหลการทำโรตีมาตั้งแต่เล็ก เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัว เริ่มหัดทำตั้งแต่อายุ 9 ขวบ

โดยมีอา นางสาวโฉมเฉลา คงเกื้อ เป็นคนถ่ายทอดวิชาให้  เริ่มตั้งแต่คอยเป็นลูกมือหัดห่อ หัดหัน  และ วิ่งเสิร์ฟ โรตี ให้กับลูกค้า จนกระทั้งหมั่นใจว่าหลานสาวชื่นชอบและตั้งใจจริง จึงได้หัดให้หลานสาวทุบแป้งโรตี จนชำนาญ และขั้นตอนสุดท้าย คือการทอดโรตี ซึ่งมีทั้งโรตีกรอบ และโรตี ใส่ไข่ ใส่นม ใส่กล้วย  1 ปี ผ่าน  ไม่น่าเชื่อว่า หลานสาววัย 10 ขวบ จะเรียนรู้จดจำ และพัฒนาสิ่งที่ชอบ จนทำโรตีขายเองได้อย่างน่าทึ่งของผู้พบเห็น  ลูกค้าแห่อุดหนุน กันล้นหลามทุกวัน

เมื่อถามว่าโตขึ้นมา น้องไปร์ อยากจะประกอบอาชีพอะไร น้องไปร์ตอบโดยไม่ต้องคิดว่า อยากเป็นแม่ค้าโรตี เพราะตัวเองเป็นคนชอบทำโรตี เลยอยากให้ลูกค้าได้กินโรตีอร่อย ๆ มือของตน  และ อีกอาชีพหนึ่งที่ชอบคือ ครูสอนภาษาไทย  เพราะอยากให้ลูกศิษย์ได้ซึมซับภาษาไทย

สำหรับลูกค้าที่ต้องความชิมความอร่อยรสชาดฝีมือของน้องไปร์ ได้ที่ร้าน โรตีดีไซน์  บายหญิงโฉม ในตลาดเรื่องเล่ากับข้าวยามเย็น  อ.เมืองพัทลุง  โทร 0936345456

พัทลุง - เหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุง และ YEC พัทลุง มอบชุดอุปโภค บริโภค ให้แก่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 หลังมีผู้ป่วยเพิ่มอีก 14 ราย สะสม 83 ราย

วันนี้ 23 เมษายน 2564 เวลา 13.30 น. ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ เป็นประธานมอบชุดอุปโภค บริโภค โดยมีนางมะลิ วงศ์กระพันธุ์ นายกเหล่ากาชาดได้นำสมาชิกเหล่ากาชาด และ YEC พัทลุง มอบถุงยังชีพและชุดอุปโภค บริโภค ให้แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เพื่อนำไปมอบให้โรงพยาบาลศูนย์น้ำใจคนเมืองลุง(โรงพยาบาลสนาม) ที่จัดตั้งขึ้น ณ สำนักส่งเสริมการบริการวิชาการและภูมิปัญญาชุมชน ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เพื่อแจกให้แก่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ล่าสุดพื้นที่จังหวัดพัทลุงพบผู้ป่วยวันนี้เพิ่มจำนวนอีก 14 ราย และมีผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ประจำเดือน เมษายน 2564 จำนวน 83 ราย และผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม จำนวน 12 ราย

พัทลุง - จยย.แหกโค้งลงคูร่องน้ำ เสียชีวิต ได้รับความเสียหายจากการชนท่อนไม้ขนาดเล็กที่ทอดเป็นสะพานข้ามร่องน้ำสายคลองชลประทาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ประเสริฐ ด้วงเอียด ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เข้าตรวจสอบบริเวณสายคลองชลประทานบ้านตำนาน - ท่าแค ในท้องที่หมู่ที่ 5 ตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ที่เกิดเหตุพบศพ นายชนะพงษ์ ยงหนู อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/4 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าแค อำเมืองพัทลุง ซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ในร่องน้ำสายคลองชลประทาน ตรวจสอบสภาพศพมีข้อมือด้านขวาหักและบริเวณแขนด้านซ้ายบิดเบี้ยวมีแผลแตกบริเวณใต้คางประมาณ 4 ซม. ห่างกันเจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กค 4461 พัทลุง เป็นของผู้เสียชีวิต อยู่ในสภาพด้านหน้าได้รับความเสียหายจากการชนท่อนไม้ขนาดเล็กที่ทอดเป็นสะพานข้ามร่องน้ำสายคลองชลประทาน 

 จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น คาดว่าเกิดเหตุเมื่อตอน ตี1 ของเมื่อคืน มีชาวบ้านได้ยินเสียงสุนัขเห่าและก็เงียบหายไปแต่ไม่ได้ยินเสียงรถชน จนเมื่อช่วงเช้ามีชาวบ้านมาพบเห็นจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ  และจากการสอบถามญาติ ทราบว่า นายชนะพงษ์ ฯ กลับจากทำธุระบ้านเพื่อน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงโค้ง มาด้วยความเร็วจึงทำให้แหกโค้งและร่างก็ไปกระแทกกับท่อนไม้ที่ทอดเป็นสะพานข้ามระหว่างคลองก่อนจะตกหล่นไปในคูน้ำไม่มีใครมาเห็นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพไปชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลพัทลุงเบื้องต้นญาติฯ ไม่ติดใจสาเหตุการณ์ตาย โดยได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

พัทลุง - ทำนาริมทะเล 1 เดียวในประเทศไทย ความภาคภูมิใจของลูกหลานชาวบ้านปากประ

บ้านปากประ หมู่ที่ 8 ตำบลลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง  ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้ชีวิตออกเรือหาปลาเป็นอาชีพหลัก หารายได้มาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่บรรพบุรุษ บ้านเรือนก็ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ ซึ่งแต่ละรายมีที่ดินบนฝั่งเพื่อประกอบอาชีพเพาะปลูกน้อยมาก จึงคิดค้นหาวิธีการเพาะปลูกพืชในทะเลสาบ หรือริมฝั่งริมทะเลสาบเพื่อเป็นผลผลิตเลี้ยงครอบครัว บรรพบุรุษของชาวประมงนับร้อยปี  จึงได้คิดทำนาข้าวในทะเล โดยใช้พื้นที่ริมชายฝั่งทะเลสาบที่ทอดยาวกว่า 9 กิโลเมตร และถ่ายทอดความรู้วิธีการปลูกข้าวในทะเลสาบมาจนถึงยุคปัจจุบัน

นายสายัณ รักดำ กรรมการสถานศึกษาโรงเรียนวัดปากประ ดูแลงานกิจกรรมโรงเรียนและการทำนาเล เผยว่า การทำนาเลของจังหวัดพัทลุงเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย ฤดูกาลในการทำนาเลเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนกรกฎาคมและจะเก็บเกี่ยวในเดือนกันยายน เราจะเริ่มหว่านต้นกล้าจะเป็นช่วงต้นเดือนมิถุนายนเว้นต้นกล้าอายุ 1 เดือน แล้วไปปักในทะเลใช้เวลาไม่เกิน 90 วันก็จะเก็บเกี่ยวได้เลย ทำไมเราต้องอาศัยช่วงนี้เป็นเพราะช่วงนี้ลมตะวันตกพัดมาฝั่งตะวันออกหรือที่บ้านเรียกกันว่าลมพลัด จะทำให้น้ำทะเลลดและหาดโคลนก็จะปรากฏขึ้นเป็นโคลนตมที่เหมาะกับการทำนาริมเล ส่วนพื้นที่ที่เหมาะในการทำนาเลก็คือแนวทะเลสาบสงขลาฝั่งจังหวัดพัทลุง ตั้งแต่หมู่ที่ 7 8 และ 11 ของตำบลลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ทำได้ปีละ 1 ครั้ง โดยไม่ต้องฉีดยาไม่ต้องใส่ปุ๋ย อาศัยแร่ธาตุและซากพืชซากสัตว์จากโคลนตมที่น้ำทะเลพัดขึ้นมา

ในปีนี้พันธุ์ข้าวที่ใช้จะเป็นข้าวพัฒนาสายพันธุ์ได้แก่พันธุ์ กข.55 เพราะปีที่แล้วเราทดลองระหว่างพันธุ์ กข.43 กับ กข.55 ปรากฏว่าข้าวพันธุ์กข.55 ได้ผลผลิตมากกว่า ปีนี้เลยเน้นเป็นพันธุ์ กข.55 เหมาะสำหรับพื้นที่ทำนาเลตรงนี้ การทำนาเลนี้เป็นอาชีพเสริมรายได้ที่ทำก็เพื่อนำข้าวมาเก็บไว้ใช้กินเองในครัวเรือนไม่ได้ทำไว้ทางการพาณิชย์ ซึ่งปกติแล้วคนทะเลสาบสงขลาจะประกอบอาชีพรับจ้างและการทำประมง ส่วนการทำนาริมเลทำมาเป็น 100 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษเป็นการสืบสานวัฒนธรรมทางการเกษตรในด้านการทำนาริมเล อีกอย่างที่นี่ชาวบ้านเขาก็ทำกันมานมนานแล้ว ซึ่งทางสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุงก็จะมาเน้นเป็นการท่องเที่ยวและเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ในแก่นักเรียนในเรื่องการทำนาเล ส่วนโรงเรียนที่มาเป็นประจำก็คือโรงเรียนสตรีพัทลุงและมหาวิทยาลัยทักษิณวิทยาเขตพัทลุงรวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาเยอะพอสมควร ในด้านผลกระทบในการทำนาเลตรงนี้จะเป็นเรื่องดินและฝนฟ้าอากาศมากกว่า สมมติว่าปีไหนที่พายุเข้าเร็วแล้วข้าวยังไม่สุกดีข้าวก็จะล้ม แล้วถ้าน้ำเค็มเข้าข้าวก็จะลีบไม่เป็นเม็ด แต่โชคดีหน่อยปีที่ผ่านมาน้ำท่วมทำให้น้ำจืดดันน้ำเค็มไปในทะเล และผลจากการน้ำท่วมคลื่นในทะเลแรงเลยพัดเอาตมขึ้นมากองริมขอบชายฝั่งเยอะเลยเหมาะที่จะทำนาเป็นอย่างมาก

ส่วนปริมาณข้าวจะได้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ชาวนาริมทะเลสาบสงขลา ไม่ต้องซื้อข้าวกิน และบางรายยังเหลือสามารถขายได้ด้วย “การทำนาริมทะเลแห่งเดียวในประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวหากมีเวลาต้องไปสัมผัส” นี่คือความภาคภูมิใจของลูกหลานชาวบ้านปากประ ที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้

พัทลุง - ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง สุดเจ๋ง !! จัดโครงการอบรมการทำอาหารให้กับชุมชนเพื่อสร้างงานสร้างรายได้สู้ภัยโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ตลาดชุมชนสวนไผ่ขวัญใจ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ของป้าขวัญใจ ทางสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง ได้ใช้เป็นสถานที่จัดฝึกอบรมการทำอาหารให้กับกลุ่มแม่บ้านในชุมชน ใช้ชื่อว่า”หลักสูตรอาหารวิถีถิ่นพัทลุง” มีนายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง เดินทางมาให้กำลังใจ ได้รับเกียรติจากคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยสวนดุสิตและเชฟชื่อดังมาเป็นวิทยากร โดยเน้นวัตถุดิบภายในท้องถิ่นเป็นหลัก แต่ละชุมชนจะมีอาหารเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน เช่นชุมชนท่องเที่ยวโหม๋เหนือเขาปู อ.ศรีบรรพต ก็จะมีเมนู “ปุดจับไม้” “ยำมะเขือยาวไข่เจียว” หรือ “แกงป่าไก่บ้าน”  วิสาหกิจชุมชนท่าช้าง อ.เมือง  มีเมนู “ห่อหมกปลากด” “ห่อหมกใบชะพูลใบทำมัง” “ข้าวห่อใบบัว” และชุมชนสวนไผ่  อ.ควนขนุน ก็จะทำเมนู “ข้าวผัดไทย” ใช้ข้าวสังข์หยดของดีพัทลุงเป็นหลัก “เมี่ยงปลา”และ “หลนกุ้ง” เป็นต้น

ด้านนายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง กล่าวว่าจังหวัดพัทลุงถือเป็นพื้นที่เป้าหมายของกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งแบ่งการท่องเที่ยวไปตามบริบทและลักษณะของภูมิศาสตร์ของพื้นที่อันประกอบไปด้วย “เขา ป่า นา เล” โซนท่องเที่ยว “เขา ป่า” มีรูปแบบการจัดการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในเขตพื้นที่อำเภอป่าบอน อำเภอตะโหมด อำเภอกงหรา อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอศรีบรรพตและอำเภอป่าพะยอม จุดเด่นของโซนเขา ป่าก็คือการเที่ยวชมน้ำตก ภูเขาและล่องแก่ง เนื่องจากพัทลุงมีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีเทือกเขาบรรทัดที่เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญและยังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าหายากอย่างสมเสร็จซึ่งจะพบได้ที่ภูเขาล่อน ส่วนโซนการท่องเที่ยว “นา เล” เป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ศิลปวัฒนธรรมประเพณีนั้นชาวจังหวัดพัทลุง ถือเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สมบูรณ์และเป็นเมืองโนราห์ หนังตะลุง อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอ ควนขนุน อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้วและอำเภอปากพะยูน จุดเด่นของโซนนี้ ก็คือสำนักตักศิลาวัดเขาอ้อซึ่งเป็นสำนักทางพุทธาคมและไสยศาสตร์ที่ขึ้นชื่อมากที่สุดของภาคใต้ รวมทั้งเป็นสำนักที่รวบรวมเอาไสยเวทย์และเวชศาสตร์ไว้มาก โดยเฉพาะวิชาการแพทย์แผนโบราณ พร้อมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายในพื้นที่จังหวัดพัทลุงที่รอให้ผู้คนมาเยี่ยมเยือน

และจากการระบาด COVID-19 ทางท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุงจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรวบรวมและจัดเก็บมรดกทางปัญญาด้านอาหารท้องถิ่นจังหวัดพัทลุง พัฒนาสูตรอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารท้องถิ่นเป็นสินค้าเชิงอัตลักษณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายและเพื่อให้อาหารท้องถิ่นคงอยู่กับสังคมไทยสืบไป

พัทลุง - เปิดศูนย์พักคอยรองรับชาวพัทลุงที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ในขณะที่จังหวัดพัทลุง ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ป่วย เพิ่มจำนวน 17 ราย ทำให้มียอดสะสม 2,377 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลตำบลหนองพ้อ อ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง เปิดศูนย์พักคอยหรือสถานที่ควบคุมกักกันเพื่อสังเกตอาการโรคติดเชื้อไว้รัส โคโรน่า 2019 ตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้หนึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดให้มีศูนย์พักคอยขึ้นจำนวน  1 แห่งรองรับประชาชนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง  เพื่อเฝ้าสังเกตอาการจำนวน  14 วัน  หากไม่มีอาการป่วยก็สามารถเดินทางกลับสู่ครอบครัวได้  แต่หากมีอาการป่วยก็จะส่งเข้ารับการรักษาตามกระบวนการต่อไป

นายไตรศักดิ์ รักใหม่ นายกเทศมนตรีตำบลหนองพ้อ บอกว่า สำหรับศูนย์พักคอยของเทศบาลตำบลหนองพ้อ ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนบ้านโคกวา หมู่ 4  ตำบลควนขนุน อ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ ได้มีการยกเลิกทำการเรียนการสอนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยทางเทศบาลได้จัดซื้อซุ้มไม้ไผ่ วางเป็นหลัง ๆ อาศัยหลังละ 1 คน เพื่อให้สะดวกและป้องกันการติดเชื้อหากบุคคลที่กักตัว บุคคลหนึ่งบุคคลใด มีอาการป่วย โดยที่ศูนย์ดังกล่าว สามารถรองรับผู้กักตัวเบื้องต้นได้จำนวน 4 ราย และล่าสุด มีประชาชนเข้ากักตัวแล้วจำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นบุคคลเสี่ยงในพื้นที่ จำนวน 1 ราย และเดินทางมาจากพื้นที่สีแดง เพื่อกลับบ้านในพัทลุงจำนวน 1 ราย

นายไตรศักดิ์ ฯ ยังบอกด้วยว่า ในการควบคุมดูแลที่ศูนย์ดังกล่าว จะมีการสลับสับเปลี่ยนระหว่างเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเทศบาลตำบลหนองพ้อ และทางอำเภอควนขนุน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นตัวแทนจาก สาธารสุขคอยควบคุมดูแลอยู่ตลอดด้วย อย่างไรก็ดีหากในพื้นที่ มียอดผู้เดินทางเข้ามาเพิ่ม ทางเทศบาลก็พร้อมจะขยายตัวอาคารเพื่อรองรับประชาชนที่ต้องกักตัวเพื่อดูอาการได้อีก

อย่างไรก็ดีในส่วนของจังหวัดพัทลุง วันนี้ทางจังหวัดรายงานตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นจำนวน17 ราย ทำให้จังหวัดพัทลุงมียอดผู้ป่วยสะสม จำนวน  2,377  ราย ในขณะที่ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้ จำนวน  59 ราย  ยอดผู้ป่วยรักษาหายสะสม  2,073 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 19 ราย

‘บิ๊กโจ๊ก’ ลั่น!! ต้องจับกุมคนบงการขโมยรังนกให้ได้ และย้ำ! จะไม่ให้มีการขโมยังนกในจังหวัดพัทลุงอีกต่อไป พร้อมแถลงจับกุมผู้ต้องหาขโมยรังนก 17 ราย

เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันที่ 20 ต.ค. 64 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค9 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.๙,พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.๙., พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง 

ร่วมแถลงข่าวจากกรณี บริษัท สยามเนสท์ 2022 จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานรังนกอีแอ่นบริเวณ หมู่เกาะสี่เกาะห้าอ.ปากพะยูน จว.พัทลุง ร้องเรียนว่าหลังจากเข้ารับมอบพื้นที่สัมปทานเก็บรังนก เชื่อต้นเดือน กันยายน 2564 แล้วพบว่ามีการลักลอบเข้าไปเก็บรังนกบริเวณดังกล่าว ทำให้ลูกนกตายจำนวนมากสร้างความเสียหายต่อบริษัทผู้รับสัมปทานเป็น จำนวนเงินมูลค่าหลายพันล้านบาท และมีการสืบสวนสอบสวนจนทราบข้อมูลเครือข่ายขโมยรังนกทั้งหมด และได้ส่งสำนวนขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมกระบวนการทั้งหมด17 คน 

ซึ่งศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายแล้วทั้งหมด ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มผู้เก็บรังนก 6 รายแรก ได้แก่ นายสมพงศ์ พูลแก้ว / นายวีระ ล่ำไล่ / นายประชนภัย ล่ำไล่ / นายอรุณ (อดีต อส.รุณ) ธรรมศรี  

ในข้อหา "ร่วมกันเก็บรังนกที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนเกาะหรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับสัมปทานจากคณะกรรมการ, ร่วมกันเข้าไปกระทำการใด ๆ บนเกาะ หรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่มีรังนกอยู่ตามธรรมชาติ อันเป็นหรืออาจเป็นอันตรายแก่นกอีแอ่น ไข่ของนกอีแอ่นหรือรังนก หรืออาจเป็นเหตุให้นกอีแอ่นละที่อยู่อาศัยไปจากเกาะหรือที่สาธารณสมบัติแผ่นดินดังกล่าว (ตาม พ.ร.บ.รังนกอีแอ่น พ.ศ.2540 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง , 25 , 28 ) , ร่วมกัน เก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งรังของสัตว์ป่าคุ้มครอง, ล่าสัตว์ป่า หรือเก็บ หรือทำอันตรายแก่รังของสัตว์ป่านั้น ในพื้นที่ที่รัฐมนตรีประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า (ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2562 มาตรา 14 วรรคสอง , 67 (1)" 

ส่วนอีกสองรายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือ นายนุภูล ย้อยแสง และนายสวัสดิ์ เพิ่มเดช ข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ (ตาม ป.อาญา มาตรา 149 และ 157 ) ซึ่งทั้ง 6 รายเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมดแล้ว  

ส่วนอีก 11 คนนั้น เป็นจากการสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวคนร้าย อีกจำนวนทั้งสิ้น 11 ราย จนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีผู้กระทำความผิด โดยขออนุมัติศาลจังหวัดพัทลุง ออกหมายจับผู้ต้องหาในชุดที่สอง  ซึ่งศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายจับแล้ว ได้แก่  

1.นายศราวุธ ชูชื่น อายุ 57 ปี 

2.นายนิคม จาริยะ อาย 54 ปี 

3.นายประวิทย์ ชูเกื้อ อายุ 60 ปี  

4.นายประจวบ หีตฤทธิ์ อายุ 50 ปี 5.นายประจิม หีตฤทธิ์ อายุ 52 ปี  

6.นายหร่อหมาน ไหลหมัด อายุ 51 ปี 

7.นายทัศกร รอดรวยรื่น อายุ 28 ปี 

8.นายสนธยา หีตฤทธิ์ อายุ 28 ปี 

9.นายจินกร อัจฉราทิพย์ อายุ 46 ปี  

10.นายร่อหาม หลับสะ อายุ 46 ปี 

11.นายนายสุธรรม ขุนล่ำ อายุ 48  ปี 

รวมคนร้ายทั้งหมด 17 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ สามารุติดตามจับกุมมาได้แล้ว 16 ราย เหลือเพียง นายสุธรรม ขุนล่ำ ที่ยังหลบหนี   

ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีการสืบสวนสอบคดีขโมยรังนกนั้น สืบเนื่องเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 9 ได้จับกุม น.ส.วรัญศยา หรืออินทร์ จองนุ้ย อายุ 25 ปี / น.ส.อัจฉรา หรือเฟิร์น ทองสม อายุ 21 ปี ในข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งรังนกอันตนรู้ว่าได้มาโดยการฝ่าฝืนการเก็บรังนกที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนเกาะหรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับสัมปทานจากคณะกรรมการ” (ตาม พ.ร.บ.รังนกอีแอ่น พ.ศ.2540 มาตรา (14,26,31) ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนได้มีการโพสขายรังนกในโซเชียว และบริษัทเจ้าของสัมปทานได้มีการเข้าร้องเรียน ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถจับกุมคนร้ายทั้งสองคนได้ และเป็นที่มาของการตรวจสอบรังนกในหมู่เกาะของจังหัวดพัทลุงทั้งหมด 

 

"นายกชาย" พร้อม “คณะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทน” ลงพื้นที่เกาะสี่ เกาะห้า จังหวัดพัทลุง ตรวจสอบการขโมยรังนก และทำลายพันธุ์นกอีแอ่น

นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง ได้มอบหมายคณะกรรมาธิการและคณะทำงาน ลงพื้นที่เกาะสี่ เกาะห้า หมูที่ 3 ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ตรวจสอบกรณีมีการขโมยรังนกและทำลายพันธุ์นกอีแอ่นในพื้นที่จังหวัดพัทลุง 

นำโดย ส.ส.สุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ รองประธานคณะกรรมาธิการ , ส.ส.อารี  ไกรนรา รองประธานคณะกรรมาธิการ,ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง รองประธานคณะกรรมาธิการ , ส.ส.กวินนาถ ตาคีย์ กรรมาธิการ และคณะทำงาน ส.ส.สุรินทร์ปาลาเร่ ,ส.ส.นริศ ขำนุรักษ์, ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

 

พัทลุง-ตำรวจชุดคอนมาโด ปิดล้อม  19 เป้าหมาย  ในจังหวัดพัทลุง และจังหวัดใกล้เคียง กวาดล้างผู้มีอิทธิพล และคดีค้างเก่า  พร้อมจับกำนันตุ้ม กำนันคนดังเมืองพัทลุง

วันที่  17  ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ที่ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พล.ต.อ.รอย   อิงคไพโรจน์  รอง ผบ.ตร  แถลงผลปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจคันจับกุม ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคอนมาโค  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง   ภายหลังการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย ทั้งผู้มีอิทธิพล  มือปืนรับจ้าง  ยาเสพติด และระดมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ  คดีอุกฉกรรจ์  สะเทือนขวัญ คดีสนใจ ในพื้นที่  จังหวัดพัทลุง  สงขลา  ปัตตานี และนราธิวาส   เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา  รวม  19  เป้าหมาย 

โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและสงขลา เจ้าหน้าที่มีการปิดล้อม จำนวน 8 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องในคดีสำคัญจำนวน  9 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ได้มีการ จับกำนันตุ้มหรือนายธีระพงศ์ เพชรตีบ อายุ  52 ปี กำนันชื่อดังของจังหวัดพัทลุง หลังตำรวจเข้าตรวจค้น ที่บ้านเลขที่  401หมู่  1 ต.ป่าบอน  อ.ป่าบอน  จ.พัทลุง ตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ ลงวันที่  13 ก.ค.2558  ฐานความผิด รวมกับพวก รวม  10 คนก่อเหตุ ปล้นทรัพย์ ความผิดต่อชีวิต ช่องโจร และความผิด พรบ อาวุธปืน โดยในคดีดังกล่าว เกิดเหตุเมื่อปี  2548 และศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต  แต่ กำนันตุ้มซึ่งเป็นผู้ต้องหาสำคัญเพียงรายเดียวที่ได้หลบหนีประกัน ไม่ไปฟังคำพิพากษา จนถูกออกหมายจับ และกำนันตุ้ม ถือเป็นผู้กว้างขวางและมีอิทธิพลในพื้นที่  จังหวัดพัทลุงและทางภาคใต้   
 

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมนายเอกภพ พงศ์พิศาล อายุ  39 ปี ในความผิดซึ่งหน้า ตาม พรบ อาวุธปืน   สำหรับของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้จากการปิดล้อมตรวจค้น  8 จุด ในพื้นที่ พัทลุง และสงขลา  ประกอบด้วยอาวุธ  43  กระบอก  ปืนยาว 16 กระบอก ปื้นพกสั้น จำนวน  27 กระบอก กระสุนปืนชนิดต่าง จำนวน   237 นัด  รถยนต์และ รถ จยย จำนวน  42 คัน ไอช์ จำนวน  5กรัม และยังจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ อีก 9 รายแยกเป็นคดีฆ่า พยายามฆ่า และ พรบ อาวุธปืน  2 ราย คดีข่มขืนและรีดเอาทรัพย์จำนวน  1 ราย คดีฉ้อโกงประชาชน และยักยอก 5 ราย คดีหมิ่นประมาท1 ราย

พัทลุง-แถลงข่าวเตรียมจัดงานย้อนรอยต้นกำเนิดมโนราห์อย่างยิ่งใหญ่ หลังมโนราห์ได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมความเชื่อที่จับต้องไม่ได้

จังหวัดพัทลุงเตรียมจัดงาน สุดยิ่งใหญ่แห่งปี กับงาน ย้อนรอยต้นกำเนิดมโนราห์ เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด เชิดชู ศิลปะวัฒนธรรม“ มโนราห์”ที่เป็นภูมิแห่งปัญญาของบรรพชนที่ได้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่วัดพระบรมธาตุเจดีย์ เขียนบางแก้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ที่กำลังจะถึงนี้

อีกทั้งเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางยูเนสโก ได้รับขึ้นทะเบียนและประกาศให้ มโนราห์ เป็นมรดกโลกด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หรือ ความเชื่อที่จับต้องไม่ได้ ทำให้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ต้นกำเนิดมโนราห์ได้พอมีขวัญกำลังใจ ในการสืบสาน อนุรักษ์ ศิลปะแขนงนี้ต่อไป

โดยในการแถลงข่าวในวันนี้ มีศิลปินชื่อดัง อย่าง เอกชัย ศรีวิชัย ดารานักร้อง และมโนราห์อาวุโสอย่าง มโนราห์ อ้อมจิตรก็ได้เข้าร่วมในการแถลงข่าวด้วย

ทางด้านนายเอกชัย ศรีวิชัย ศิลปินใต้ชื่อดังกล่าวว่า วันนี้รุ้สึกยินดีและดีใจที่คนรุ่นหลังได้มีเจตนารมณ์ในการอนรักษ์ หวงแหนประเพณีเกี่ยวกับมโนราห์เอาไว้ และต้องขอบคุณ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่เป็นคนคิดริเริ่ม และผลักดันมโนราห์ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและกลายเป็นมรดกโลก ทำให้คนรุ่นหลังได้เข้ามามีบทบาท รู้จักมโนราห์มากขึ้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top