Friday, 19 April 2024
ปรเมษฐ์ภู่โต

รู้จัก 'ปรเมษฐ์ ภู่โต' คนข่าวสวนกระแส | CONTRIBUTOR EP.24

รู้จัก 'ปรเมษฐ์ ภู่โต' คนข่าวสวนกระแส . ผู้กล้าเปิดฉากตีสวนข่าวปลอม หล่อหลอมข้อมูลจริงมาเล่าสู่สังคมไทย แม้จะถูกฝ่ายไม่เห็นด้วยตามแก๊งรถทัวร์มาไล่จอด ก็หาได้แคร์ . เพราะยึดหลักในวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่ว่า...แก่นแท้ของความจริง ไม่ใช่สิ่งที่คนกล้าต้องกลัว . ร่วมเปิดมุมมองจากคนจริง ที่ไม่ทิ้งลวดลายการเล่าอย่างเมามันกับเขาได้ใน Contributor EP นี้

‘ปรเมษฐ์’ มองภาพ ‘ชัชชาติ’ และ ‘พิธา’ จากคนไร้ผลงาน สู่ความหวังของหมู่บ้าน ที่ประชาชนต่างพากันเทคะแนนให้ .

(23 พ.ค. 66) นายปรเมษฐ์ ภู่โต ผู้ดำเนินรายการ คุยถึงแก่น สถานีโทรทัศน์ NBT โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กวิเคราะห์ความแตกต่าง ระหว่างนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยระบุว่า…

‘ชัชชาติ’ กับ ‘พิธา’ ความเหมือน และ ความต่าง...!!

ทั้งสองคนนี้ล้วนแล้วแต่ผ่านการชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนที่ท่วมท้นทั้งคู่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชัยชนะของทั้งสองคน ล้วนเป็นผลมาจากความสำเร็จ จากการทำการตลาดการเมือง ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งการเมืองคนอื่นๆ ประสิทธิภาพดังกล่าว สามารถสร้างให้คนที่ ‘ไม่เคยมีผลงานระดับชาติ’ เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน กลายมาเป็นคนที่ป๊อปปูล่า เป็น ‘ความหวังของหมู่บ้าน’ ที่ใครก็ตามที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงต้องเลือก

ขณะเดียวกันทั้งสองคน (รวมถึงทีมที่วางกลยุทธเบื้องหลัง) ได้สร้างภาพให้คู่แข่ง กลายเป็น ‘สิ่งเก่า’ ที่ชำรุด ไม่เหมาะที่จะใช้งานอีกต่อไป

สำหรับชัชชาตินั้น แม้จะเคยมีประสบการณ์เมื่อ เป็นรัฐมนตรีคมนาคมในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์  แต่ก็ไม่มีผลงานอะไรที่โดดเด่นชนิดที่หยิบขึ้นมาอวดอ้างได้ มิหนำซ้ำปัญหาบางเรื่อง นอกจากจะอวดไม่ได้แล้ว เขายังต้องออกตัวว่า “ผมไม่เกี่ยว” อย่างเช่น เรื่องที่องค์การบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ติดธงแดงประเทศไทย ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินของประเทศ อย่างมาก และเป็นปัญหาใหญ่ให้ คสช.ต้องเข้ามาสะสาง แต่ด้วยกระบวนการทำการตลาดการเมืองที่เหนือชั้น ทำให้ อดีต รมว.คมนาคม ที่ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกลายมาเป็น ‘บุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี’ ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แบบถล่มทลาย ได้คะแนนจากคนกรุงเทพฯ ไป 1.3 ล้านคะแนน ผ่านมาเกือบ 1 ปี ในตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม. ผลงานประทับใจแค่ไหน ก็เห็นๆ กันอยู่

ส่วนพิธา ผู้ที่สถาปนาตัวเองตั้งแต่ไก่โห่ว่าเขาคือ ‘ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30’ หากดูโปรไฟล์เขาตามเนื้อผ้า นอกเหนือจากดีกรีนักเรียนนอกจบจากสถาบันมีชื่อเสียง ก็มีประสบการณ์แค่เป็นส.ส.สมัยแรก ที่ถูกพูดถึงเพราะการอภิปรายในสภาที่โดดเด่น และก้าวสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพราะพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ และธนาธร หัวหน้าขบวนการตัวจริงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ส่วนประสบการณ์ในการบริหารองค์กรธุรกิจครอบครัว หรือ การทำงานกับภาคเอกชนอื่นๆ พูดแบบกลางๆ ก็ไม่ถึงขนาดเปรี้ยงปร้าง โดดเด่นอะไร แต่ด้วยกระบวนการที่ทรงพลังของพรรคก้าวไกล บวกและหรือ การประสานพลังกับขบวนการ ที่มุ่งหมายในการเปลี่ยนโครงสร้างสังคมไทยแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ที่สามารถยึดครองพื้นที่ในโซเชียลมีเดียได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เหนือกว่าพรรคการเมืองคู่แข่งทุกพรรคหลายช่วงตัว (ขบวนการนี้ใหญ่โตกว่าขบวนการสร้างชัชชาติให้ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาก) ได้สร้างให้พิธาให้กลายมา ‘ตัวชูโรง’ เป็นฮีโร่ของคนรุ่นใหม่ ตลอดจนผู้ที่หวังเห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย บรรดานักอุดมคติ NGO สื่อ อินฟลูเอนเซอร์ ศิลปิน ฯลฯ

ผู้คนในหลายวงการเหล่านี้ ต่างพร้อมใจกันมองข้าม เรื่องส่วนตัวด้านลบของพิธา ไม่ว่าจะเป็นการพูดกลับไปกลับมาเรื่องงานศพพ่อ เรื่องชีวิตครอบครัวในอดีต ล้วนแต่ไม่มีผลในการสั่นคลอนคะแนนนิยมเขาแม้แต่น้อย และพาพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ชนิดที่คนไปเลือกไม่สนใจด้วยซ้ำว่า ผู้สมัครของพรรคเป็นใคร และผู้คนจำนวนมาก ไชโยโห่ร้องด้วยความยินดีบ้างก็ขึ้นสเตตัสอย่างปิติว่านี่คือ ‘สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง’ ทุกๆ การเลือกล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย เพียงแต่จะคุ้มหรือไม่คุ้มเท่านั้น!! ดังเช่นคน กทม. กว่า 1.3 ล้านคน มอบให้กับชัชชาติ และ 1 ปีที่ผ่านมาคือคำตอบ

ส่วนกรณีของพิธานั้น เพิ่งจะเริ่มต้น คงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ว่าผลของการเลือกนั้นจะคุ้มกับราคาที่คนไทยต้องจ่ายหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ราคาที่คนไทยต้องจ่ายสำหรับพิธานั้น ‘แพงกว่า’ ราคาที่คน กทม.จ่ายให้ชัชชาติหลายเท่านัก!!

ใจหาย!! ปลดฟ้าผ่า 'คุยถึงแก่น' รายการข่าวเด่นแห่งช่อง NBT ด้าน 'พิธีกรดัง' รับ!! วัฏจักรวงการสื่อ แย้ม!! แฟนๆ รอการขยับครั้งใหม่

(28 ธ.ค. 66) นายปรเมษฐ์ ภู่โต สื่อมวลชนอาวุโส พิธีกร ผู้ประกาศข่าว รายการคุยถึงแก่น ออกอากาศทางช่อง NBT ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...

ขอทำความเข้าใจ เรื่องรายการ 'คุยถึงแก่น' อย่างเป็นทางการนะครับ

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ผังรายการของ NBT จะไม่มีรายการ คุยถึงแก่นอีกต่อไป

ผมเองได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากผู้บริหารสถานี ว่ารายการ 'หลุดผัง' ปีหน้าแน่นอน เมื่อวานเวลา 15.00 น. โดยประมาณ ซึ่งกระชั้นชิดมาก

โดยให้เหตุผลว่า มีนโยบายจะปรับรูปแบบรายการของสถานีให้เป็นแบบเกาหลี ซึ่งผมก็ไม่มีความรู้จริงๆ ว่ามันคืออะไร แล้วแบบเกาหลีมันต้องถอดรายการที่คนดูเยอะ เรทติงดีออกด้วย ... งงมาก (หรือหน้าตาผมไม่ออกแนวเกาหลี555)

จริงๆ ผมและทีมก็เตรียมตัวเตรียมใจมานานแล้วว่า การเมืองมันเปลี่ยน วันนึงเราก็อาจจะได้รับผลกระทบก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องอยู่กันไปจนชั่วฟ้าดินสลายหรอก

เพียงแต่ บอกกันสักนิดนึงให้ เด็กๆ เขาเตรียมตัว กันบ้างแค่นั้นแหละนี่มาบอกกันข้ามวัน แบบนี้

แต่ก็ไม่เป็นไร เพียงแต่เสียดาย ความรู้สึกของแฟนๆ รายการที่ ติดตามเรามา 5 ปีเกือบ 6 ปีที่นับวันก็จะเพิ่มมากขึ้น และมีความผูกพันแน่นเหนียว

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกๆ กำลังใจที่ให้พวกเรา

เดี๋ยวจะขยับไปไหนจะรีบแจ้งให้ทราบครับ

คิดเสียว่า มันคือวิถีจอมยุทธ์ ยุทธภพมีไว้ให้เราย่ำเดิน!!

#คุยถึงแก่น

สื่อมองสื่อ!! รุ่นใหญ่ปรับตัวสู่ออนไลน์ ไม่ธรรมดา พกแต้มต่อ 'ความน่าเชื่อถือ-แฟนคลับเหนียวแน่น'

(3 ม.ค. 67) นายกิตตินันท์ นาคทอง ผู้สื่อข่าวเครือผู้จัดการ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Kittinun Nakthong' ในหัวข้อ 'จากทีวีสู่ออนไลน์ เข้าสู่ยุคนีชมาร์เก็ต' ระบุว่า...

ก่อนหน้านี้ วารินทร์ สัจจเดว เคยทำยูทูบช่อง Nomad Media Thailand จัดรายการ Thailand Morning Call ทุกเช้า (ใช้วิธีบันทึกเทปตอนค่ำ แล้วมาเรียบเรียงอัปโหลดพรีเมียร์ 6 โมงเช้า) หลังจากไม่ได้จัดรายการวิทยุ 

ปีนี้ ปรเมษฐ์ ภู่โต (คู่กับ นันทิญา จิตตโสภาวดี) และ ถนอม อ่อนเกตุพล หันมาจัดรายการผ่านออนไลน์ เพราะรายการที่ช่อง NBT หลุดผัง เริ่มทำแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยต้นทุนเล็กๆ น้อยๆ แต่ทำด้วยใจล้วนๆ

แม้มองผิวเผินดูเหมือนว่า ตามหลังคนรุ่นใหม่ ที่สร้างชื่อเสียงจากโลกออนไลน์ แต่จากประสบการณ์ความเป็นคนข่าวมายาวนาน มีความน่าเชื่อถือ และมีฐานคนดูประจำอย่างเหนียวแน่น ก็น่าจะเป็นแต้มต่อที่ดี

ต่อจากนี้อาจจะได้เห็นคนข่าวรุ่นใหญ่ ลงไปอยู่แพลตฟอร์มออนไลน์เรื่อยๆ

‘ก๊อง–ปรเมษฐ์ ภู่โต’ ลุยสื่อออนไลน์เต็มสูบ เปิดช่องใหม่ ‘ถึงแก่น Live’ เสิร์ฟ 4 รายการรวด

(14 ม.ค.67) ที่ผ่านมา ‘ก๊อง – ปรเมษฐ์ ภู่โต’ คนข่าวคุณภาพ อดีตผู้ดำเนินรายการ ‘คุยถึงแก่น’ เดินหน้าลุยสื่อออนไลน์เต็มสูบ ผุดช่องใหม่ ‘ถึงแก่น Live’ ชูคอนเซ็ปต์ ‘สื่อเพื่อประชาชน ทุกคนเป็นเจ้าของ’ เสิร์ฟสาระข่าวสาร ในสไตล์แซบจัดจ้าน ตรงไปตรงมา ถึงผู้ชมทุกวัน จัดงานแถลงข่าวเปิดช่องรายการออนไลน์ท่ามกลาง FC  ที่มาให้กำลังใจและให้การสนับสนุนอย่างอบอุ่นเต็มพื้นที่ห้องจัดงาน

ภายหลังจากรายการ ‘คุยถึงแก่น’ รายการดังเรทติ้งดีของ ช่อง NBT2HD ที่ยืนยงมากว่า 6 ปี แต่กลับถูกปลดออกผังรายการของช่องปี 2567 จนกลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงสื่อ เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา จนมีคำถามว่า เหตุใดผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ปัจจุบัน จึงปลดรายการที่มีเรตติงดีของช่องออกไป ขัดความรู้สึกของแฟนรายการจำนวนมาก และมีการตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุสำคัญน่าจะเป็นเพราะการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองอย่างเผ็ดร้อนของพิธีกร ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของ นายทักษิณ ชินวัตร จนไม่สบอารมณ์ผู้มีอำนาจ 

ล่าสุดวันนี้ นายปรเมษฐ์ ภู่โต ได้จัดงานแถลงข่าวถึงแนวทางการทำงานสื่อของตนและทีมงานจากนี้ไปใหม่ ผ่านช่องทางออนไลน์ ณ KliuqeX Samyan ชั้น 3 ศูนย์การค้า I’m Park สามย่าน ข้างอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่ามกลางแฟนรายการที่มาให้กำลังใจอย่างอบอุ่น 

นายปรเมษฐ์ กล่าวว่า จากการที่ได้จัดรายการ ‘คุยถึงแก่น’ ทางสถานีโทรทัศน์ NBT2HD มายาวนานเกือบ 6 ปี ทำให้มีฐานแฟนรายการจำนวนมาก และมีความเหนี่ยวแน่นมั่นคงกับตัวพิธีกรและทีมงาน โดยเมื่อมีข่าวว่า เราถูกปลดออกจากผังรายการ ของสถานีฯ ทำให้แฟนรายการที่ติดตามเรามานานต่างออกมายืนยันผ่านช่องทางต่างๆ ว่า พวกเราไปไหนก็จะตามไปดูและให้กำลังใจในทุกที่ และยินดีให้การสนับสนุนในทุกรูปแบบ ประกอบกับแนวทางการทำงานของเราที่ต้องการความ ‘เป็นอิสระ’ ในการนำเสนอเนื้อหาข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา

ทางทีมงานจึงตัดสินใจเดินหน้า ในรูปแบบออนไลน์ตามเสียงเรียกร้องของแฟนรายการ ที่อยากให้เราทำรายการต่อไป โดยก้าวใหม่ของเราในครั้งนี้ จะปรากฏออกมาในรูปแบบช่องข่าวออนไลน์ ชื่อ ‘ถึงแก่น Live’ ภายใต้คำขวัญ “สื่อเพื่อประชาชน ทุกคนเป็นเจ้าของ” 

สำหรับรายการทำงานภายใต้ ‘ถึงแก่น Live’ จะยังมี ก๊อง-ปรเมษฐ์ ภู่โต และ หนิง - นันทิญา จิตตโสภาวดี เป็นผู้ดำเนินรายการเช่นเดิม โดยจะเป็นรายการ Live สดทุกวัน ผ่านแพลตฟอร์ม Facebook และ Youtube ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของอดีตพิธีกรรายการ ‘คุยถึงแก่น’ ที่ปลดแอกออกจากสื่อดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยจะเน้นการนำเสนิในรูปแบบของการ Live ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook ,Youtube ,Tiktok 

และนอกจากรายการหลัก ช่วงเช้า โดยพิธีกรคู่เดิม แล้ว ช่อง ‘ถึงแก่น Live’ ยังมีรายการอื่นๆ ให้ติดตามถึง 4 รายการ ประกอบด้วย

- รายการ ถึงแก่น Live จันทร์ - ศุกร์ เวลา 07.00–09.00 น. 
- รายการ ถึงแก่น Live สุดสัปดาห์ เสาร์ - อาทิตย์ 18.00–19.00 น.
- รายการ ข่าวต้องคุย จันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.00–19.00 น.
- รายการ ไร่ลุงก๊อง วันเวลา ตามใจลุงก๊อง (รายการแนววาไรตี้สบายๆ)

นายปรเมษฐ์ ย้ำว่า ทิศทางของรายการใหม่ทั้ง 4 รายการ จะยังคงไว้ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘สื่อเพื่อประชาชน ทุกคนเป็นเจ้าของ’ ด้วยรูปแบบรายการที่เน้นสาระและข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชม พร้อมสะท้อนความจริงในทุกด้าน ผ่านการนำเสนอเนื้อหาที่ทันสมัย ฉับไว ตรงไปตรงมา และเข้าถึงง่ายเหมือนเดิม และที่สำคัญเราจะยังคงดำรงจุดยืนในการนำเสนอข่าวสารที่สร้างสรรค์ ไม่ทำร้ายสังคม และประเทศชาติเหมือนเช่นเคย

และสุดท้ายต้องขอขอบพระคุณ แฟนๆ รายการทุกท่านที่กรุณาให้กำลังใจ และร่วมระดมทุนในการสนับสนุน ให้เราสามารถเริ่มต้นทำภารกิจส่งข่าวสารเพื่อประชาชน จนก่อรูปนับหนึ่งเป็นช่องข่าวออนไลน์ ‘ถึงแก่นLive’ ขึ้นมาได้

‘ก๊อง-ปรเมษฐ์’ ชี้!! ประเทศไทยกำลังมีปัญหากับคำว่า ‘วิกฤต’ เศรษฐกิจไม่วิกฤต ‘บอกวิกฤต’ ทักษิณนั่งวีลแชร์ ‘บอกวิกฤต’

(20 ก.พ. 67) นายปรเมษฐ์ ภู่โต อดีตผู้ดำเนินรายการ ‘คุยถึงแก่น’ ช่อง NBT2HD โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

ประเทศไทยกำลังมีปัญหากับคำว่า ‘วิกฤต’

1.รัฐบาลอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับว่า ‘เศรษฐกิจวิกฤต’ จะได้ออก พ.ร.บ.กู้เงินมาแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่แบงก์ชาติ สภาพัฒน์ฯ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่บอกยังไม่วิกฤต

2.ข้าราชการ และหมอบางคน ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการทำให้ทักษิณได้กลับบ้านโดยไม่ติดคุกเลย ก็บอกว่า ทักษิณ ป่วยเข้าขั้นวิกฤต

ล่าสุด...อธิบดีอัยการฯ บอกทักษิณ ‘ป่วยวิกฤต’ นั่งวีลแชร์ สวมที่ดามคอ พูดไม่มีเสียง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top