Friday, 19 April 2024
ปราศรัย

‘บิ๊กป้อม’ ขนทัพ พปชร. บุกหนองคาย ชาวบ้านแห่ร่วมฟังปราศรัยให้กำลังใจเพียบ

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.65 ที่ลาน ชิค ชิค มาร์เก็ต จ.หนองคาย พรรคพลังประชารัฐ จัดโรดโชว์เวที 2 เตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง ภายใต้งานชื่อ 'พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย' ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. นำทีมรัฐมนตรี แกนนำ และ ส.ส.พรรค พปชร.อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรค ร่วมปราศรัยถึงผลงานของพรรคและรัฐบาล พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายศักดิ์ดา จันทรสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย น.ส.ประภาลักษณ์ สิทธิ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนเริ่มงานว่า ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ประชาชนทยอยเดินทางเข้างาน โดยพร้อมใจสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน สกรีน 'ไม่แล้ง ไม่จน สร้างคน สร้างงาน พลังประชารัฐ' ตามสโลแกนงาน เพื่อฟังการปราศรัยของ พล.อ.ประวิตร ถึงผลงานการบริหารจัดการน้ำ ตามนโยบายรัฐบาล 

‘อุ๊งอิ๊ง’ เตรียมลุย 5 จังหวัดในอีสาน ปราศรัยรวม 9 เวที 17-19 ก.พ.นี้

(15 ก.พ.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่ปราศรัยใน 5 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่นระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ.นี้ รวมทั้งหมด 9 เวทีปราศรัย เพื่อนำเสนอนโยบายและรับฟังความคิดเห็นประชาชนร่วมกับ ส.ส.และผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคพท.ภายใต้แนวคิด ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ ทั้งนายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ดและกรรมการบริหารพรรค

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 17 ก.พ.เริ่มต้นเวทีปราศรัยวัดม่วงเดียด หลวงพ่อลี อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในเวลา 11.00 น. หลังจากนั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัยที่ 2 ที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ในเวลา 14.30 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ศาลากลางหลังเก่า อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 

ทั้งนี้ จ.อุบลราชธานีถือว่ามีความทรงจำร่วมกันระหว่างประชาชนกับการทำงานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยเมื่อครั้งเป็นพรรคไทยรักไทย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เริ่มต้นแคมเปญหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน โดยชวนแกนนำพรรค รัฐมนตรีขึ้นรถไฟออกจาก อ.วารินชำราบ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยก็จะนำนโยบายไปเสนอ โดยเฉพาะนโยบายด้านการคมนาคม รถไฟความเร็วสูง 

ในวันที่ 18 ก.พ.จะเปิดเวทีปราศรัยแรกที่รร.อำนาจเจริญ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ในเวลา 10.00 น. ไปต่อที่รร.เสลภูมิพิทยาคม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 14.00 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่บึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 17.00 น. 

ซึ่งที่ จ.ร้อยเอ็ด นายทักษิณเคยจัดโมเดลแก้จนที่ อ.อาจสามารถ เรียกว่า ‘อาจสามารถโมเดล’ วางแผนยกระดับคุณภาพชีวิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส น่าเสียดายที่หลังลงพื้นที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองนำไปสู่การรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นในการทำงาน แก้ปัญหาความยากจน ยังเป็นเป้าหมายหลักของพรรคะท.จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะนำเสนอบนเวทีนี้ด้วย

‘บิ๊กตู่’ ลุยภูเก็ต ดูความพร้อมไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 ฟาก ‘บิ๊กป้อม’ นำทีมบุกเชียงใหม่ ปราศรัยใหญ่ 19 มี.ค. นี้

(18 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 19 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ. ภูเก็ต โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะ โดยจุดแรกตรวจติดตามความพร้อมการเตรียมการของประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Expo 2028 Phuket Thailand ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานภูเก็ต แล้วไปยังสถานที่จัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีตรวจติดตามการใช้พื้นที่ป่าชายเลนภายใต้โครงการ 'ป่าในเมือง' ที่ชุมชนกิ่งแก้ว เทศบาลต.รัษฎา อ.เมือง และไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง รับฟังการนำเสนอวิสัยทัศน์เรื่อง 'อันดามันพร้อม' โดยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต จากนั้น นายกฯกล่าวแสดงทรรศนะและมอบทิศทางอนาคตอันดามัน จากนั้น เดินทางกลับกทม.

‘ลุงป้อม’ โชว์ลีลาควงตะหลิวทำ ‘ผัดซีอิ๊ว’ ก่อนเดินทางไป ‘เชียงใหม่-เชียงราย’ เพื่อปราศรัย

(19 มี.ค.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โชว์ทำผัดซีอิ๊ว เพื่อรับประทานเป็นอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางขึ้นเหนือไป จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เพื่อปราศรัยในนามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ปกติที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร มักชอบที่จะทำอาหารทานและเลี้ยงทีมงานใกล้ชิด โดยทุกคนที่ได้รับประทานจะติดใจฝีมือของ พล.อ.ประวิตร และต้องขอมาลองเมนูอื่น ๆ อีก

‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นปราศรัย ขออาสาสร้างความเป็นหนึ่งเดียว เมินโพลไม่ติด 1 ใน 10 ‘นายกฯ ในใจ’ ยันเดินหน้าต่อ

‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเวทีเชียงใหม่ อ้อนเลือกพปชร. ช่วยให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียว ลั่น เป็นรัฐบาลทำทุกนโยบาย ด้านปชช. หนีฝน กลับก่อน เมินไม่ติด 1 ใน 10 อันดับนายกฯ ในใจ ยัน เดินหน้าต่อ

(19 มี.ค.66) เมื่อเวลา 17.35 น. ที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาสมโภชน์ 700 ปี จ.เชียงใหม่  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางถึงเวทีปราศรัย ภาคเหนือ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน 6 จ. จำนวน 23 คน 

โดยบรรยากาศก่อนการปราศรัย พปชร. มีชาวบ้านเดินทางมารับฟังยิมเนเซียมตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น. ขณะที่ตามกำหนดการเดิม พล.อ.ประวิตร จะขึ้นปราศรัย 17.15น.แต่ปรากฏว่า ในช่วงที่ พล.อ.ประวิตร ยังไม่มาถึง ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ เนื่องจากมีลมแรง และเสียงฟ้าร้องดังต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงมรสุมพายุฤดูร้อน ทำให้ประชาชนบางส่วนขอเดินทางกลับก่อน จนยิมเนเซียมดูโล่ง 

ก่อนหน้านั้นร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พปชร.ในฐานะกำกับดูแลการเลือกตั้งพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวปราศรัยบนเวที ว่า ทราบว่ามีพี่น้องชาวเชียงใหม่มานั่งรอพรรคพปชร.อย่างคับคั่งเหมือนเช่นปี 62 เพื่อมารอฟังการปราศรัยของผู้บริหารพรรค ตนตั้งใจมาหาชาวเชียงใหม่ แต่วันนี้ก็มีพายุโซนร้อนเข้าที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็เข้าใจได้ที่อาจจะไม่ได้เจอกันครบทุกคน ล่าสุดตนไปปราศรัยกับพี่น้องชาวจังหวัดเชียงราย ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก แต่พี่น้องยังมีใจมาให้การต้อนรับและสนับสนุนพวกเรา

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายดีทุกพรรค หากว่าเกิดประโยชน์กับประชาชน แต่ พปชร.ได้พูดเสมอว่า เราเป็นพรรคของประชาชน ชื่อพรรคบอกชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นการรวมกันของพลังของคน 2 กลุ่ม คือ การร่วมพลังของประชาชนทั้งแผ่นดินทั้ง 77 จังหวัด ภายใต้การดูแลของรัฐ ก็คือรัฐบาล

"ประเทศไทยของเรามีโครงสร้างเป็นฐานพีระมิด เริ่มจากฐานรากหญ้า ก็คือ พี่น้องประชาชน นโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ นำเสนอออกมา คือต้องการทำให้คนฐานรากมีความเข้มแข็ง อย่างเช่น บัตรประชารัฐ  ที่จะมีการเพิ่มเงินจากมูลค่า 300 เป็น 700 บาท ทันทีเมื่อพรรคพลังประชารัฐได้บริหารประเทศ"

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ ที่ทุกวันนี้ผู้สู่งอายุได้รับอยู่ที่ 600 ถึง 1000 บาท แต่หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมดูแลผู้สูงอายุ 60 ปี เอาไปเลย 3000 บาท 70 ปี 4000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป 5000 บาท การสร้างความเข้มแข็งให้กับคนฐานรากต่อสิ่งสำคัญที่สุดที่พรรคพลังประชารัฐตั้งใจทำ เพราะเราต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเปราะบาง 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคพลังประชารัฐ เราจะดูแลราคาพืชผลทางการเกษตรสำคัญของชาวภาคเหนือ นั่นก็คือ ราคาลำไย คือสิ่งที่ผมต่อสู้อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนที่สนับสนุนพวกเรามาตลอดก็คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ของเรา 

ต่อมาเวลา 17.45 น. พล.อ.ประวิตร และคณะที่ในช่วงบ่ายเดินทางไปเวทีปราศรัยและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.ที่ จ.เชียงรายก่อนหน้านั้น ได้เดินทางมาถึงอาคารยิมเนเซียม ทันทีที่มาถึงประชาชนที่รอฟังการปราศรัยได้ตะโกนร้องต้อนรับเสียงดังกึกก้อง

จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัย ว่า รู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางพี่น้องชาวเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดเมืองใหญ่ของไทย มีการท่องเที่ยวก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ตนมาในวันนี้พร้อมกับผู้บริหารพรรคอีกหลายคน รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิก ฝาก พปชร.ไว้กับประชาชนทุกคนด้วย เราพร้อมจะทำงานรับใช้ชาวเชียงใหม่ทุกคน ฝากทุกคนไว้ว่า ให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.ทุกคน พปชร.ได้คัดสรรคนดี คนเก่ง คนที่ตั้งใจจริงมาเป็นผู้แทน มุ่งมั่น ร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนเชียงใหม่ เราต้องดการแก้ปัญหาทุกเรื่องให้คนเชียงใหม่ให้อยู่ดีกินดี ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ให้กับทุกคน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สำหรับนโยบายของพรรคพปชร. ได้แก่ บัตรประชารัฐ 700 บาท จะทำทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล ลดค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส อยู่ในความคิดของ พปชร.ที่จะทำทันทีเช่นเดียวกัน การดูแลคนทุกช่วงวัย เบี้ยผู้สูงอายุ แม่และเด็ก ให้เท่าเทียมกัน ลดปัญหาความเลื่อมล้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นภารกิจของตนที่จะทำให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าจะน้ำอุปโภค อุปโภค น้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะน้ำประปา ต้องมีความสะอาด ตนจะต้องดำเนินงานให้ทุกคนได้ใช้น้ำที่ดี นอกจากนี้ จะลด PM 2.5 ซึ่งสำคัญสำหรับคนเชียงใหม่ โดยจะแก้ทันทีเมื่อเราเข้ามาเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกัน เราจะปราบปรามยาเสพติด 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในเรื่องการใช้ที่ดินของรัฐ ซึ่งมีปัญหาซ้อน ตนกำลังทำอยู่ โดยจะให้คนที่ถือที่ดิน ส.ป.ก. ที่ดินของรัฐ และในป่าสงวน เราพยายามให้ทุกคนมีโอกาสมาเป็นเจ้าของที่ดิน โดยการออกโฉนดให้ ฝากทุกคนว่าให้เลือก พปชร. ทุกอย่างที่ตนพูด เราจะทำให้ท่านทันที ส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที ซึ่งเราทำมาแล้วและจะทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่เรื่องการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าจะมาต่อยอด ดำเนินการให้ จ.เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
 

จับตา ‘เพื่อไทย’ ปราศรัยใหญ่ 24 มี.ค.นี้ แย้ม!! ทีเด็ด 10 นโยบายเพื่อคนกรุงเทพฯ

(22 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้ซึ่งประสงค์รับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดงาน 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ' ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.66 นี้

โดย นายวิชาญ กล่าวว่า แม้พรรคเพื่อไทยได้ท้วงติงและไม่เห็นด้วยกับการแบ่งเขต กทม.ว่าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านข้อกฎหมาย และสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชน เป็นการแบ่งเขตที่พิลึกพิลั่น และมีตวามกังวลว่าอาจจะเกิดการล้มบัตรกาเบอร์ในวันเลือกตั้ง แต่เมื่อมีการประกาศแล้ว พรรคเพื่อไทยพร้อมรับทุกกติกา จึงมีการจัดสรรผู้สมัคร ส.ส.กทม.ใหม่ทั้ง 33 เขต ให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ เพราะบางเขต บางแขวง มีการทับซ้อนกันบ้างในบางพื้นที่ จึงมีการเปลี่ยนป้ายหาเสียง และชี้แจงพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย กรุงเทพฯ มีความพร้อมแล้ว 100% และจะมีการเปิดตัวในเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 24 มี.ค.66 ภายใต้แคมเปญ 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ' โดยภายในงานจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ ใหม่ในอนาคต 4 ด้าน เพื่อคนกรุงเทพฯ และประเทศไทย พร้อมเปิดตัวนโยบายใหม่ 10 ด้าน ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ มลพิษ การศึกษา สิ่งแวดล้อม การรักษาพยาบาล ฯลฯ ที่สเตเดียมวัน จุฬา ซอย 6 ตั้งแต่เวลา 17.30 - 19.30 น.

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีระบบในการจัดสรรผู้สมัคร แม้จะมีการสลับสับเปลี่ยนผู้สมัคร แต่พรรคเพื่อไทยมีฐานเดิม ซึ่งมีผู้สนับสนุนทุกเขต จากการที่เคยส่งผู้สมัคร สก.รวม 50 เขตในช่วงที่ผ่านมา และการที่พรรคเพื่อไทย มี สก.20 เขต ที่ยังคงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เป็นห่วง มั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต น่าจะทำงานได้ดีและประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในการเลือกตั้ง

‘เพื่อไทย’ เตรียมจัดปราศรัย กทม.เป็นครั้งแรก 24 มี.ค.นี้ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมเปิดวิสัยทัศน์ประเทศไทย

(23 มี.ค.66) พรรคเพื่อไทย (พท.) เผยแพร่คลิปเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมงานเปิดวิสัยทัศน์ประเทศไทย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ’ โดยเนื้อหาภายในคลิป น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม (พท.) และหัวหน้าครอบครัวเ พื่อไทย กล่าวว่า อยากเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ มางานเปิดวิสัยทัศน์ประเทศไทย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ’
.
คนที่จะแสดงมุมมองเพื่ออนาคตของคนกรุงเทพฯ และประเทศไทยทั้ง 4 ด้าน พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 คน 33 เขต พบกันวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้ ที่ Stadium One จุฬาซอย 4 และซอย 6 ถนนบรรทัดทอง เริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 น.

เพื่อไทย’ เตรียมปราศรัยใหญ่ จ.นครปฐม 26 มี.ค.นี้ ลั่น!! ขอทวงคืนพื้นที่เลือกตั้งจาก ‘บ้านใหญ่สะสมทรัพย์’

(23 มี.ค. 66) นายวินัย วิจิตรโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จังหวัดนครปฐม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการประกาศจะชนะเลือกตั้งยกจังหวัดนครปฐม ของบ้านใหญ่ตระกูลสะสมทรัพย์ ว่า…

“ตอนนี้ที่จังหวัดนครปฐม ไม่มีบ้านใหญ่ มีแต่บ้านประชาชนที่อยู่กันเป็นครอบครัวอันอบอุ่น ที่ผ่านมานครปฐมเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยมาช้านาน จะเห็นได้ว่าพอตระกูลสะสมทรัพย์ ไปลงสมัครในนามพรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อปี 2562 ก็สอบตกกันเป็นแถว ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถทวงคืนพื้นที่เลือกตั้งในจังหวัดนครปฐมกลับมาได้ แม้ว่าทั้ง 6 คน จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่อย่าลืมว่าส่วนใหญ่เป็นอดีต สจ.ที่อยู่ในพื้นที่มานาน มีฐานเสียงเป็นของตัวเองที่แน่นอน เมื่อบวกกับกระแสของคุณอุ๊งอิ๊งที่โพลทุกกสำนักให้คะแนนนำโด่ง หรือคะแนนนิยมของพรรคที่ได้เกือบ 50% ก็เชื่อว่าจะเป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทยที่จะทวงแชมป์ ส.ส.ในนครปฐมกลับคืนมา” นายวินัย กล่าว

นายวินัย กล่าวต่อว่า นโยบายหลายอย่างที่ออกมาล้วนโดนใจคนทุกกลุ่มทุกวัย โดยเฉพาะค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท หรือเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ภายในปี 2570 ที่คนรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยชอบมาก ยังไม่นับรวมนโยบายด้านการเกษตรที่ชาวนครปฐมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยทำได้จริง นโยบายดี ๆ ใครก็พูดได้ แต่พูดแล้วทำได้จริงก็คงมีแต่พรรคเพื่อไทย ที่ชาวบ้านให้ความเชื่อมั่นมาโดยตลอด ดูได้จากผลโพลที่ออกมา

“พวกเราจึงหาเสียงด้วยการชูประเด็น ‘นครปฐมแลนด์สไลด์ ให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล’ เพราะไม่ว่าจะเลือกพรรคไหน สุดท้ายพรรคเหล่านั้นก็จะไปเลือก พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร กลับมาเป็นนายกฯ อีกอยู่ดี ดูได้จากข่าวที่ออกมาพวกเขาไปประกาศจับมือกันเป็นรัฐบาลแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เลือกตั้งเลย ดังนั้น ถ้าจะเปลี่ยนนายกฯ ต้องเลือกเพื่อไทยพรรคเดียวที่จะสามารถสู้กับเสียง 250 ส.ว.ได้ เลือกพรรคอื่นไปก็เปลี่ยนนายกฯ ไม่ได้” นายวินัย กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top