Wednesday, 17 April 2024
ปราจีนบุรี

น้องหมาเจ้าเล่ห์ใส่แว่นดำ โป๊ะแตก ที่แท้แอบหลับ

ไปดูความน่ารักแบบเจ้าเล่ห์ ของ เจ้าไวท์ น้องหมาเพศผู้วัย 8 ขวบสีขาวเหมือนชื่อ ที่นั่งใส่แว่นตาดำช่วยเจ้าของเรียกลูกค้า เพื่อขายแครอทให้กระต่ายในงานวันมะปรางหวานปราจีนบุรี

ใครที่ผ่านไปผ่านมาเห็นเข้าก็อดที่ยิ้มให้ความน่ารักของมันไม่ได้ ด้วยท่าทีที่นั่งอย่างเรียบร้อยเหมือนหุ่นแบบไม่ไหวติง นิ่งซะจนคล้ายหลับ แม้จะมีเสียงดังจากเสียงเพลงและประกาศอึกทึกคึกโครมจากร้านค้าใกล้ ๆ หรือจะมีใครมาลูบหัวก็ตามที เจ้าไวท์ก็ยังคงนั่งนิ่ง

สอบถามสองสามีภรรยาเจ้าของน้องหมา บอกว่า ด้วยอาชีพขายของตามงานคาราวานสินค้าจึงต้องเดินทางจากบ้าน สุพรรณบุรี ครั้งละหลาย ๆ วันจึงจำเป็นต้องเอาเจ้าไวท์ไปด้วยทุกที่เพราะหากทิ้งไว้ที่บ้านมันคงอดตาย มีคนมองว่าเอาน้องหมามาทรมาน แต่ความจริงไม่ใช่เพราะตนรักเจ้าไวท์เหมือนลูกเพราะฉะนั้นไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน และทุกครั้งเจ้าไวท์ก็จะมานั่งคลอเคลียไม่ห่างแม้จะเอาไปนอนเดี๋ยวก็ออกมาหาอีกแล้ว เลยต้องหาเก้าอี้ไว้ให้นั่งเป็นส่วนตัว

เห็นว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็เลยหาแว่นตาดำเท่ ๆ มาใส่ให้เจ้าไวท์เพื่อให้ดูหล่อคนที่เดินผ่านไปมาเห็นก็จะมักจะยิ้มให้ จนเป็นปกติเจ้าไวท์เองเมื่อได้แว่นมาใส่ก็ไม่ได้ขัดขืนหรืออะไรกลับชอบใส่แล้วนั่งเฉยดูเป็นที่ชื่นชอบของคนรักหมา คุณหนึ่งและภรรยาบอกว่า เจ้าไวท์ใส่แว่นแล้วไม่ใช่ว่าจะหลับนะ มันยังนั่งคอยรับแขกเหมือนเดิม แต่พอเราสังเกตเห็นว่า ร่างเจ้าไวท์โยกไปเยกมา เหมือนถูกลมพัดเราเลยขอให้ภรรยาคุณหนึ่งช่วยถอดแว่นตาให้หน่อยเพื่อจะได้รู้ว่า เจ้าไวท์ หลับหรือนั่งคอยรับแขกอย่างว่า 

ปรากฏว่างานนี้ โป๊ะแตก พอถอดแว่นออกมาปรากฏว่า เจ้าไวท์ น้องหมานั่งหลับจริงๆ ไม่ใช้โยกเยกเพราะลมพัด แหม อุตส่าห์คุยอย่างดิบดีว่า เจ้าไวท์คอยเรียกแขกมาซื้อแครอทเลี้ยงกระต่าย ที่ไหนได้นั่งหลับโดยอาศัยแว่นตาดำพลางซะนี่ แหม ๆ เจ้าเล่ห์ไม่เบาเลยน้ะเจ้าไวท์


ภาพ/ข่าว : ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว

ปปช.จัดอบรมเยาวชนเชิงวิชาการ โครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต สร้างเยาวชน Anti-corruption Young Leaders (ACYL)

วันที่ 23 มีนาคม 2564 เวลา 09.30 น. ที่หอประชุมอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี “ นายจรัส คงเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด เป็นประธานเปิดโครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต สร้างเยาวชน Anti-corruption Young Leaders (ACYL) โดยมี นายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดปราจีนบุรี เป็นผู้กล่าวรายงาน

โดยทางชมรม STRONG – จิตพอเพียง ต้านทุจริต จังหวัดปราจีนบุรี ได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการจัดโครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัด ปราจีนบุรี กิจกรรม A3 สร้างเยาวชน Anti-corruption Young Leaders (ACYL)

ในปัจจุบันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประชาชนทุกคนมองว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาที่ไกลตัว และมีค่านิยมที่ผิดในการยอมทน ยอมเฉย จนกระทั่งชินชากับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันซึ่งรัฐบาลและสำนักงาน ป.ป.ช. ได้พยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต น้อมนำหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ทุกวันนี้เกิดกระแส การตื่นตัวของประชาชนต่อการทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้น ให้ความสนใจต่อข่าวสารและตระหนักถึงผลกระทบของการทุจริตคอร์รัปชัน ที่มีต่อประเทศมากขึ้น มีการแสดงออกซึ่งการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ทั้งในชีวิตประจำวัน และการแสดงออกผ่านสื่อสาธารณะและสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันการป้องกันการทุจริตเชิงรุก ด้วยการสร้างเสริมให้เยาวชนมีจิตพอเพียงต้านทุจริตด้วยกรอบ STRONG จนกระทั่งพัฒนาเป็นวัฒนธรรมต้านทุจริต ปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัว และผลประโยชน์ส่วนรวม รวมทั้งความอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพที่จะร่วมสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ปลูกฝังค่านิยมซื่อสัตย์สุจริตให้แก่ทุกคน ผ่านกระบวนการกิจกรรมการต่อต้านการทุจริต และเกิดการป้องปรามการทุจริตในชุมชน เพื่อจับตามอง ดูแลพื้นที่ การประกอบกิจการหรือการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งจะส่งผลให้การทุจริตเกิดได้ยากมากขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศให้มีความโปร่งใส ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ

ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 พ.ศ.2560 – 2564 วิสัยทัศน์ "ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต" รูปแบบการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการอบรม เชิงปฏิบัติการ แก่เยาวชน Anti-corruption Young Leaders (ผู้นำเยาวชนต่อต้านการทุจริต) แบ่งกลุ่มทำกิจกรรมการมีส่วนร่วมจำนวน 5 กลุ่ม ในการกำหนดข้อเสนอแนะที่เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาการทุจริตในพื้นที่ อย่างน้อยกลุ่มละ 1 เรื่องกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย เยาวชน จากโรงเรียนประจันตราษฎรบำรุง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 - 6 จำนวน 100 คน และโค้ชกรรมการชมรมฯ สมาชิกชมรมฯ จำนวน 10 คน


กองบรรณาธิการข่าว รายงาน

ปราจีนบุรี “สาธิต” หนุน “แล็บชาวบ้าน” อภัยภูเบศรเสริมแกร่งเกษตรเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก

วันนี้ 29 มี.ค.64   ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี  รายงานว่า  ดร.สาธิต ปิตุเตชะ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาที่รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรเบื้องต้นได้รับการต้อนรับและแสดงความขอบคุณจากพยาบาล-แพทย์แผนไทยในการได้รับบรรจุเป็นข้าราชการช่วงสถานการณ์โควิด -19 กว่า 130 คน ก่อนเดินทางรับฟังเรื่องรัฐวิสหกิจชุมชน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร  หนุนการสร้างแล็บชาวบ้าน   


ดร.สาธิต กล่าวถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันจากสินค้าเกษตร โดยในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 นั้น ประเทศไทยได้รับการยอมรับถึงศักยภาพด้านการแพทย์เป็นอย่างมากในส่วนของสมุนไพรนั้นก็มีการศึกษาวิจัยฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด-19 สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพโดยเฉพาะสมุนไพรนั้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลตั้งเป้าในการพัฒนา เพราะจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศเป็นอย่างมาก   


ซึ่งจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาการวิจัย สร้างความรู้จากประสบการณ์การใช้ของคนไทย และสร้างให้กลุ่มเกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจพื้นฐาน ตั้งแต่การปลูก การผลิต การแปรรูปสมุนไพรขั้นต้นนั้น อันจะทำให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีมาตรฐาน และมีโอกาสแข่งขันในตลาดโลกได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศเกิดการพัฒนาได้ 

โดยการมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานด้านสมุนไพรของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลได้นำเสนอโครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ  โดยมีเป้าหมายในการเป็นพี่เลี้ยงให้กับเกษตร ให้สามารถต่อยอดเพิ่มมูลค่าสมุนไพร และยังเป็นการช่วยส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจด้านตลาดสมุนไพรไทยเติบโตได้”พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า “ โปรเจ็กต์สร้างโครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ ให้เป็น แล็บชาวบ้าน นั้นอภัยภูเบศรมีความตั้งใจอยากให้เกิดขึ้นโดยจะใช้ พื้นที่หาดยาง จ.ปราจีนบุรี ที่ได้รับงบประมาณมาส่วนหนึ่งแล้วเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสมุนไพรครบวงจร   เพื่อให้ชาวบ้าน เกษตรกร ผู้ปลูกได้มาศึกษาพื้นฐานตั้งแต่ การปลูกสมุนไพรเบื้องต้น การจัดการ การผลิตและแปรรูปขั้นพื้นฐาน เป็นแนวทางในการช่วยเพิ่มมูลค่ากับสมุนไพร มากกว่าแค่ให้พวกเขาทำได้แค่การปลูกเท่านั้นแต่ยังต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้โครงการสมบูรณ์ ในอนาคตเราคิดว่าสมุนไพรจะเป็นคำตอบให้กับสังคม ทั้งในแง่ของการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ยา อาหาร และบริการ จะสามารถช่วยสร้างเม็ดเงินและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ และการพัฒนาสมุนไพรให้ตอบโจทย์สังคมยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ยุคสูงวัยอย่างมีสุขภาวะ มีสุขภาพดี 
โดยตั้งเป้าการส่งเสริมการพัฒนาสมุนไพรที่คิดว่าเกษตรกรมีศักยภาพ และสามารถต่อยอดเองได้ใน 5 กลุ่มด้วยกัน คือ สมุนไพรเพื่อสมองดี ด้วย บัวบก ตำรับกลีบบัวแดง สมุนไพรปรับสมดุลอารมณ์ เช่น กัญชา กัญชง สมุนไพรดูแลหัวใจดี คือ บัวหลวง สมุนไพรที่ดูแลกลุ่มกระดูกและข้อ เช่น ขมิ้นชัน เพชรสังฆาต และสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกันด้วยฟ้าทะลายโจร เป็นต้น โดยการพัฒนาสมุนไพรนี้เราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ ทางโรงพยาบาลได้ศึกษาวิจัยมาก่อนหน้าแล้วส่วนหนึ่ง ดังนั้นหากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ก็จะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 65”


และในขณะนี้คือ  การผลิตน้ำมันกัญชาเพื่อการรักษาโรค , การส่งเสริมเศรษฐกิจด้านอาหาร  - เครื่องดื่ม  จากกัญชา ตลอดรวมถึงการเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชน...

ภาพ/ข่าว  ลักขณา สีนายกอง
 

ปราจีนบุรี – ชาวบ้านนับร้อยออกหาเห็ดโลละ 100 ไม่พอขาย

วันที่ 14 เมย.64 ที่บ้านวังทอง ม.22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ชาวบ้านบ้านนายาว ต.ท่ากระดานนอ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา นับ 100 คน พากันออกหาเห็ดขมตั้งแต่เวลา 06.00 น.ห่อข้าวไปกินกลางป่ายูคาลิปตัสหาเก็บเห็ดยูคา หรือเห็ดขม ที่ขึ้นอยู่ในป่ายูคาลิปตัสนับ 1,000 ไร่ หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายครั้ง เห็ดขมได้ความชื้นจึงออกดอก ชาวบ้านได้ออกหาเก็บเก็ดขมมาประกอบอาหารในครัวเรือนและส่งขายพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัด

โดยซื้อขายกันในราคา กก.ละ 100 บาท พ่อค้าแม่ค้ารับซื้อทุกวันจะมีชาวบ้านไปหาเห็ดกันทั้งวัน เห็ดขมจะมีดอกสีเปลือกมังคุด ยาว 4 ซม.ดอกใหญ่เท่า 3 นิ้ว รสชาติเห็ดขมจะมีรสชาติขมนิด ๆ นำมาปรุงอาหารจะทำความสะอาดรสชาติขมนิด ๆ นำมาปรุงอาหารจะล้างน้ำทำความสะอาดแล้วแกงแกงเปรอะแกงป่า ผัดน้ำมันหอย แต่ละคนจะนำกะละมังซักผ้า ตระกร้า ถุงปุ๋ยมาใส่เห็ดขมที่มามาหาในป่ายูคาลิปตัส แต่ละคนจะได้เห็ดคนละไม่ต่ำกว่า 2 ตะกร้า 20-30 กก.เห็ดขมจะขึ้นโดยธรรมชาติหลังจากที่ได้ฝนชุกและจะมากในเดือน เมย.- สค.ของทุกปี

นส.อนัญญา ดุลไทยสงค์ ชาวบ้านบ้านวังใหม่ม.17 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อเดือนเมย.ที่ผ่านมาเห็ดขมออกจึงพากันมาหาเก็บเห็ดเพื่อประกอบอาหารและขายให้กับพ่อค้า หลายคนมีรายได้ในการขายเห็ดแต่ละวัน 1,500 -2000 บาท สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนในช่วงนี้


ภาพ/ข่าว  ทองสุข สิงห์พิมพ์

ปราจีนบุรี – เกิดเหตุไฟไหม้สายสัญญาณโทรศัพท์บนเสาไฟฟ้ าเจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด

ช่วงเที่ยงของวันที่ 20 เม.ย. 64 ได้เกิดเหตุไฟไหม้สายสัญญาณโทรศัพท์บนเสาไฟฟ้า ที่อยู่หน้าร้านขายกาแฟ เจ้าของร้านต้องทิ้งร้านหนี ก่อนที่ชาวบ้านจะแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และหน่วยดับเพลิงจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรี โดยที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากแยกสัญญาณไฟปราจีนตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรีเพียงเล็กน้อย ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี ได้พยายามนำถังดับเพลิงเคมีเข้าฉีดสกัดไฟ แต่เนื่องจากต้นเพลิงที่เกิดเหตุอยู่บนเสาไฟ ทำให้ไม่สามารถฉีดถึง ได้แต่คอยฉีดสกัดเพลิงที่อยู่ด้านล่างไม่ให้ลุกลาม จากนั้นรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรีได้มาถึง และใช้น้ำฉีดดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

สำหรับความเสียหายนั้น มีป้ายร้านค้าที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุถูกไฟไหม้เสียหาย สายโทรศัพท์จำนวนมากก็ถูกไฟไหม้เสียหายเช่นกัน ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องจัดการจราจรไม่ให้รถยนต์ผ่านในจุดที่เกิดเหตุ เนื่องจากมีสายสัญญาณโทรศัพท์หล่นลงมาขวางทางเดินรถทั้ง 2 ฝั่ง และเนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายจากกระแสฟ้า จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯทำการตรวจสอบ และตัดกระแสไฟเสียก่อน

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องทำการตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ โดยชาวบ้านละแวกดังกล่าวต่างให้ความเห็นว่า บนเสาไฟฟ้ามีสายสัญญาณโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก ไม่มีระเบียบ อาจทำให้เกิดการเสียดสีหรือทำให้เกิดความร้อนจนเป็นสาเหตุให้ไฟไหม้ได้


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี - แชมป์ไมค์ทองคำ 6 งานเข้าถูกแจ้งความข้อหากระทำชำเรา

นักร้องแชมป์ไมค์ทองคำ ซีซั่น 6 งานเข้า พ่อจูงมือลูกเข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดนตั้งสามข้อหาหนัก กระทำชำเรา หมิ่นประมาท และ ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์

นายหิรัญ  พิมพ์โพธิ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999/7 หมู่ 12 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นำตัว นางสาวพลอย  อินดี้  (นภาพร  พิมพ์โพธิ์ (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง ) อายุ 18 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.กฤชฐา  ปทุมแก้ว สารวัตรเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ในฐานะพ่อ และ ผู้จัดการส่วนตัว เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ภายหลังถูกเจ้าของค่ายเพลงดังที่รู้จักคบหากันมา 1ปี 4 เดือน โดยรู้จักสนิทสนมเมื่อครั้งไปแสดงคอนเสิร์ต ที่ จ.ขอนแก่น นำรูปภาพและข้อความอันเป็นเท็จลงเผยแพร่ในโซเซียลทำให้เกิดความเสียหายและเกิดความเข้าใจผิดกับผู้ที่พบเห็น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและส่งผลกระทบต่อครอบครัว โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ นางสาว พลอย รับงานถ่ายทำ MV ลักษณะนั่งหันข้างสวมใส่ผ้าถุง     

ซึ่งนางสาว พลอย กล่าวเสริม ว่าการถ่ายทำได้มีการเซฟอย่างดีมีเสื้อชั้นในและกางเกงขาสั้นอยู่ข้างในที่สำคัญ พ่ออยู่ด้วยตลอดเวลา  โดยนาย คเชนทร์ นำภาพดังกล่าวมาลงเผยแพร่ในโซเซียลและบอกรับไม่ได้ขี้เดียด อุบาทว์ลูกกะตา เกลียด

นอกจากนั้น ทางยายของนายคเชนทร์ แชมป์ไมค์ทองคำ ซีซั่น 6 ยังคอมเมนต์ ว่า “รับไม่ได้ ใช่เมียมึงรึเปล่า เหมือนกระหรี่แท้ ขี้เดียด” จนต่อมามีคนเข้าไปคอมเมนต์มากมายทำให้รู้สึกอับอาย และรับไม่ได้กับการที่ถูกทำเช่นนี้  น้องพลอย ยังบอกด้วยว่า ทั้งที่ก่อนหน้าตนเคยช่วยเหลือ เมื่อคราวคเชนทร์ ไม่มีสตางค์ก็เคยช่วย ที่หลงเชื่อเพราะถูกหลอกว่าจะมาแต่งงานในสิ้นปีนี้ แต่พอไปถ่าย MV มา เหมือนกับจะหาเรื่องเลิกจนทะเลาะกันและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ทางด้าน นายหิรัญ  พิมพ์โพธิ์ พ่อและผู้จัดการส่วนตัวของน้อง พลอย อินดี้ บอกรับไม่ได้ที่คนที่จะมาดูแลลูกสาวตนพูดจาดูหมิ่นและทำตัวเช่นนี้  พร้อมยืนยันปกป้องศักดิ์ศรีของลูกสาว ขอเอาเรื่องถึงที่สุด เบื้องตนขอแจ้งความกระทำชำเรา หมิ่นประมาท และ ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี – ชาวบ้านผวา น้ำในคลองเกิดฟองโฟมเป็นก้อนกลิ่นเหม็น หวั่นผลกระทบ เนื่องจากเป็นแหล่งทำมาหากิน

วันที่ 28 เมย.64 ชาวบ้าน บ้านคลองโสม ม.8 ต.ท่าตูมอ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ออกหาปลาในคลองโสมพบน้ำในคลองมีกลิ่นเหม็นจับตัวเป็นฟองสีขาวขนาดใหญ่เป็นก้อนสีขาวยาว 4 เมตร ฟองโฟมดังกล่าวเป็นมานานแล้วหลังฝนตก เดือนที่แล้วก็เกิดมีฟองน้ำสีขาวขนาดในคลองแห่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ฟองโฟมจะอยู่เป็นอาทิตย์ถึงจะหมดไปเอง ประชาชนในหมู่บ้านโดยเฉพาะคนหาปลาในคลองต่างรู้สึกหวั่นวิตก อาจเกิดมาจากสารปนเปื้อนไหลจากเขตโรงงานที่อยู่ใกล้เคียงกัน

จากการลงพื้นที่พบว่า ใต้คันดินมีฟองสีขาวเป็นก้อนยาวไปตามลำคลองมีกลิ่นเหม็นฉุน และได้พบกับนายสมพร (นามสมมุติ) ตนมีอาชีพหาปลาในลำคลองกับชาวบ้านคนอื่น ๆ พบว่าฟองสีขาวในลำคลองเป็นมาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งแรกเดือนที่แล้วครั้งนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งหลังจากฝนตกใหญ่ไม่ทราบว่าเกิดมาจากสาเหตุใดกันแน่ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าฟองโฟมที่เห็นในคลองอาจจะเกิดมาจากการปนเปื้อนสารเคมีที่ไหลลงสู่คลองตามธรรมชาติ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากการปนเปื้อนสารเคมีหรือไม่

ชาวบ้านต่างหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน เนื่องจากคลองแห่งนี้นั้น เป็นแหล่งหากินของชาวบ้านที่ออกมาหาปลาซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ฟองโฟมสีขาวที่เห็นในครั้งนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 2 วันหลังจากฝนตกหนัก ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า “น้ำในคลองมีกลิ่นเหม็นฉุนแสบจมูก หากใครไม่เชื่อให้มาดูด้วยตาตัวเองว่ามีกลิ่นเหม็นมากน้อยเพียงใด ยอมรับว่าปลาในคลองนี้ไม่ค่อยมีเหมือนแต่ก่อนอาจจะหนีไปอยู่ที่อื่น” ซึ่งน้ำในคลองแห่งนี้จะไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงหรือแม่น้ำปราจีนบุรี ที่อยู่ห่างกันแค่ 1 กม.เท่านั้น


ภาพ/ข่าว ลักขณา สีนายกอง

ปราจีนบุรี - บชภ.2 ร่วม ปปส.ภ.2 ยึดทรัพย์กว่า 30 ล้านบาท เครือข่ายยาเสพติด

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 28 เม.ย.64 ที่หน้ากองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 2  พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ปฏิบัติราชการ บก.สส.ภ.2 นายสุรเดช ละเต๊ะซัน ผอ.ส่วนบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภ.2 และ นายวินิจฉัย กาญจนางกูรพันธุ์ ผอ.ตรวจสอบทรัพย์สิน ปปส.ภ.2 ร่วมแถลงข่าว ตรวจค้นยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภ.2 แถลงว่า ตามคำสั่งโดย พล.ต.อ.เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป.) และ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(รรท.ผบช.ภ.2) ให้สืบสวนเครือข่ายยาเสพติดของ นางบัวจันทร์ ขาวอินทร์ หรือนางจิตตะ คำปิว ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จึงได้ร่วมกับ ปปส.ภ.2 ตำรวจสืบสวนภาค 2 รวมกว่า 170 นาย ออกตรวจค้นเป้าหมาย 20 เป้าหมาย มี จ.ชลบุรี , ระยอง , จันทบุรี ,ฉะเชิงเทรา และ จ.สระแก้ว ส่วนอีก 3 เป้าหมาย อยู่ในพื้นที่ จังหวัดสมุทรปราการ ,นนทบุรี และ กรุงเทพฯ ยึดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีของกลางเป็นเงินสด จำนวน 8,579,306  บาท เป็นธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 7,030,000 บาท และธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐ จำนวน 50,000 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงินไทย มูลค่าประมาณ 1,567,306 บาท และได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 17 บัญชี มูลค่าประมาณ 9,801,461 บาท ตรวจยึดบ้านพร้อมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 10 ล้านบาท ยึดรถยนต์ยี่ห้อ เมอสิเดซเบ็นช์ รุ่น GLE 20 D จำนวน 1 คัน 2.7 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จากการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่อง

จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พรบ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 และ พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 31,098,768 บาท นำส่ง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 2 ( ป.ป.ส.ภาค 2 ) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ปราจีนบุรี – ชาวบ้านหลบโควิด เข้าป่าหาเห็ดยูคาขายสร้างรายได้

ชาวบ้าน ในพื้นที่ อำเภอกบินทร์บุรี พากันเข้าป่าหาเก็บเห็ดยูคาลิปตัส หรือเห็ดขมขายสร้างตายได้ช่วงโควิด – 19 ระบาด เป็นรายได้เสริมดีกว่าอยู่บ้านเฉย ๆ

ชาวบ้าน ต.นนทรี และ ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ใช้เวลาว่างจากสถานการณ์ โควิด -19 ระบาด ออกหาเก็บเห็ดยูคาลิปตัส หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเห็ดขม ซึ่งจะขึ้นในพื้นที่ป่ายูคาลิปตัส เท่านั้น  ลักษณะของเห็ดยูคา หรือเห็ดขม จะเป็นเห็ดที่ขึ้นกระจายไปตามที่ชื้นในร่องป่ายูคา ลักษณะที่สังเกตุคือ เห็ดยูคาจะขึ้นกระจายไปตามพื้นที่ มีก้านขาวอมน้ำตาลนวลอวบใหญ่ มีฝาหรือ ดอกเหมือนร่มแต่ขอบมักจะเผยอขึ้นเล็กน้อยดอกใหญ่สุดจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 4 นิ้วฟุต ส่วนใหญ่จะพบกอหนึ่ง 4 ดอก มากสุด 5 ดอก รสชาติออกขม ก่อนรับประทานชาวบ้านจะลดความขมด้วยการนำเห็นมาต้มหรือนึ่งให้ขมลดลงก่อนนำไปปรุงอาหาร ซึ่งสามารถทำได้หลายเมนู ทั้งยำ ต้มยำ แกง หรือแล้วแต่ว่าใครจะนำไปปรุงอาหารชนิดใดก็ตามใจชอบ

โดยปีหนึ่งจะมีเพียงครั้งเดียว จึงเป็นที่นิยมของผู้ที่ชอบรับประทาน โดยเฉพาะในช่วงต่อฤดูร้อนกับฤดูฝนที่จะเข้ามาแทนอากาศร้อนชื้นทำให้เห็ดขม ออกเป็นจำนวนมาก และจะหมดในราวกลางเดือนพฤษภาคม สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในช่วงที่ ไวรัสโควิดระบาดได้คนละไม่น้อยกว่า 300 บาท ต่อวันซึ่งก็สามารถช่วยเสริมรายได้เป็นอย่างดี โดยจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ในราคา กก.ละ 60 บาท สำหรับเห็ดที่นึ่งบรรจุถุงเรียบร้อย และ ในราคา 50 บาท ในราคาเห็ดสดคนหนึ่งจะหาเก็บเห็ดได้มากถึงคนละ 15 – 20 กก.ทุกวันจึงเห็นชาวบ้านรวมกลุ่มทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กออกหาเก็บเห็ดขมมาขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ทั้งนำมาทำอาหารกินเองและขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อถึงที่

ยายบุญมี อุตตะบุตร ยายอุไร จันทร์คำมี ยายหลุนสี นายกอง กล่าวว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 ชาวบ้านทุกคนกลัวการแพร่ระบาดโรควิด-19 ทุกคนทราบว่ามีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประชาชนตามชนบทหวาดกลัวการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนจึงหาทางที่ได้เงินมาจุนเจือครอบครัวก็ต้องเอา พากันออกหาเก็บเห็ดทุกวันมาประกอบอาหารในครัวเรือนด้วยดีกว่าอยู่บ้านเฉย ๆ ออกหาเก็บเห็ดพอมีรายได้วันละ 300-500 ก็ยังดีแม้ไม่มีรายได้ที่แน่นอนแต่ก็ได้เงินทุกวันพอเป็นค่ากับข้าว


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี – พายุฝนถล่ม ตอนรุ่งสางน้ำท่วมรอระบาย ฉันทนาเดินลุยน้ำไปทำงาน

เมื่อเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมาวันที 6 พค.64 เกิดพายุฝนฟ้าคะนองพื้นที่อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นานนับชั่วโมงกระทั่ง 06.00 น.ฝนซาเม็ดลง ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังที่รอระบายที่บ้านรัชดาป่าจิก ม.11 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำสูง 30 ซม.ระยะทางยาว 50 ม.

ส่งผลให้การเข้าออกในซอยได้รับผลกระทบเนื่องจากว่าบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นแอ่งกระทะ ฝนตกทุกครั้งทำให้น้ำระบายไม่ทันนับชั่วโมงผู้ที่อยู่ในซอยเข้าออกลำบากรถยนต์และรถจักรยานยนต์ต้องค่อย ๆ ขับรถเข้าออกในซอย และบางคนต้องอ้อมไปใช้เส้นทางหลังโรงเรียนเข้าหมู่บ้านแทน คนที่มีบ้านอยู่กลางซอยต้องเดินลุยน้ำออกจากบ้านเพื่อไปทำงานและไปทำธุระด้านนอก นส.บังอร (นามสมมติ) พนักงานโรงงาน กล่าวว่าบ้านอยู่ทางด้านในซอยนี้ฝนตกหนักบริเวณนี้มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานลึกประมาณ 30-40 ซม.ระยะทางยาว 50 ม.ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำทำให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านในต้องลำบากลุยน้ำออกมาทำงานถ้าเป็นไปได้อยากจะให้มีการทำถนนบริเวณนี้ใหม่ให้สูงกว่าเดิมเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในแต่ละครั้งจะท่วมนานกว่าจะลด ณ.ขณะนี้เวลา 08.50 น.ฝนยังไม่หยุดตกคาดว่าจะตกริน ๆ ไปถึงเที่ยงตามคำพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาได้รายว่าทั่วทุกภาคจะมีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้


ภาพ/ข่าว  ลักขณา สีนายกอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top