Friday, 19 April 2024
ทหารเรือ

ทร.จัดชุดตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ให้กำลังพลเชิงรุก ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลา และไม่ติดเชื้อจากคนไข้

กองทัพเรือ จัดชุดตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ ในกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปีเชิงรุก อำนวยความสะดวกให้แก่กำลังพลในพื้นที่ส่วนกลาง ที่ทำการลงทะเบียน เชื่อมข้อมูลประวัติการรักษาของกรมแพทย์ทหารเรือ

เมื่อวันที่ (11 ม.ค. 66) พล.ร.ท.วิทยา สิริบุญโรจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. ช่วยปฏิบัติราชการสำนักงานผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาร่วมกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปีเชิงรุก จัดโดยคณะทำงานพิจารณาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการปฏิบัติงานและการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งดำเนินการจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในกองบัญชาการกองทัพเรือ และพื้นที่ใกล้เคียง ระหว่างเวลา 07.30 – 11.30 น. ณ บริเวณโถงชั้น 1 อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ถ.อิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กำลังพลกองทัพเรือตรวจสุขภาพประจำปี เป็นไปตามที่กองทัพเรือกำหนด , ไม่ต้องสำรองเงินส่วนตัวจ่ายก่อน ,ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปโรงพยาบาล , ไม่ต้องใช้เวลาในการรอนานและรอตรวจร่วมกับผู้ป่วยทั่วไป , ไม่เสียค่าพาหนะเดินทาง และไม่เสี่ยงการติดเชื้อจากคนไข้ที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยจัดให้มีการลงทะเบียนผ่าน QR code ที่กรมแพทย์ทหารเรือ จัดทำเข้าสู่ระบบ Line official NMD+Connect ซึ่งจะเชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษากับ 4 โรงพยาบาลหลัก (โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า , โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ , โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ และโรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ) โดยกรมแพทย์ทหารเรือได้จัดชุดตรวจสุขภาพเคลื่อนที่จากโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มาให้บริการแก่กำลังพลที่ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจสุขภาพ จำนวน 265 นาย

จะทำสิ่งไร ควรทำจริง สิ่งยึดเหนี่ยวสำคัญจาก ‘เสด็จเตี่ย’| THE STATES TIMES STORY EP.103

“กริยา เจ กริยาเถนัง จะทำสิ่งไร ควรทำจริง” คือ ‘ภาษิต’ นั้น

โดยปรากฏอยู่บนตราประจำพระองค์ ซึ่งเป็นตราประจำราชสกุล ‘อาภากร’

คือ ตราสุริยมณฑล มีสุริยเทพบุตร อยู่บนราชรถเทียมสิงห์ แล้วคุณเชื่อไหม?

ตราประจำองค์นี้ได้มาเมื่อพระองค์ถูกปลดจากราชการทหารเรือ!!!!

และผู้ที่พระราชทานตราประจำพระองค์นี่ก็คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

รัชกาลที่ 6 ผู้ปลดพระองค์จากทหารเรือนั่นเอง!!! .

 

ไปติดตามกันได้ใน THE STATES TIMES Story ใน EP. นี้ได้เลย 

 

🎥 ช่องทางรับชม

Facebook: THE STATES TIMES PODCAST

YouTube: THE STATES TIMES PODCAST

TikTok: THE STATES TIMES PODCAST

กองทัพเรือ เรียกกำลังพลสำรองฝึกทบทวนวิชาทหาร ให้มีความรู้ความเข้าใจในสายวิทยาการที่สังกัดอยู่ตามบัญชีบรรจุกำลังพลสำรอง

พลเรือโท สุเทพ  ปุจฉาการ รองเสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานเปิดการเรียกกำลังพลสำรอง เพื่อฝึกวิชาทหาร และเรียกกำลังพลสำรองเพื่อปฏิบัติราชการ ของกองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การเรียกกำลังพลสำรองเพื่อฝึกวิชาทหาร และเรียกกำลังพลสำรองเพื่อปฏิบัติราชการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อฝึกทบทวนวิชาทหาร และฝึกการปฏิบัติราชการ ให้ได้มีความรู้ความเข้าใจในสายวิทยาการที่สังกัดอยู่ตามบัญชีบรรจุกำลังพลสำรองของ สอ.รฝ. และสามารถปฏิบัติงานร่วมกับกำลังพลประจำการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมได้รับทราบถึงความก้าวหน้าด้านวิชาการและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ ทร.ได้รับ

โดยมีการฝึกต่างๆ อาทิ การอ่านแผนที่ การฝึกทหารราบบุคคลท่ามือเปล่า การรักษาฝั่ง การตรวจการณ์ การป้องกันภัยทางอากาศ การยิงอาวุธประจำกาย การบรรเทาสาธารณภัย และการบรรยายในหัวข้อต่างๆ เป็นต้น

โดยมีกำลังพลสำรองประเภทนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน และนายทหารประทวนกองหนุน สังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ประเภทละ 30 นาย รวม 60 นาย เข้าทำการฝึกวิชาทหาร และประเภทละ 10 นาย รวม 20 นาย เพื่อปฏิบัติราชการ รวมทั้งสิ้น 80 นาย จะทำการฝึกตั้งแต่ 19 - 28 เม.ย.66 เป็นระยะเวลา 10 วัน


นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

ทหารเรือ ไทย-สหรัฐ เปิดฝึกกะรัต 2023 สร้างความสัมพันธ์และพัฒนาความสามารถของกำลังพล

วันนี้ 8 พ.ค.66 พลเรือโท สมบัติ นาราวิโรจน์ เสนาธิการกองเรือยุทธการ พร้อมด้วย พลเรือตรี เดเร็ก ทริงค์ ผู้บัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสมที่ 76 สหรัฐฯ ร่วมเป็นประธาน ในพิธีเปิดการฝึกกะรัต 2023 ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พลเรือตรี ณัฐพงศ์ ปานโสภณ ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 2 คณะนายทหาร ข้าราชการ ทั้งฝ่ายไทยและฝ่าย สหรัฐฯ เข้าร่วมในพิธีเปิด อย่างพร้อมเพียง 

สำหรับ การฝึกผสม CARAT 2023 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือทั้ง 2 ประเทศ และร่วมกันพัฒนาความสามารถของกำลังพลในการปฏิบัติการร่วมกันในทุกระดับ เสริมสร้างความเข้าใจอันดีในการปฏิบัติการ และยกระดับขีดความสามารถภาพสถานการณ์ทางทะเล การฝึกผสม CARAT ได้ดำเนินการฝึกมาแล้ว 28 ครั้ง โดยในปีนี้ทำการฝึกในห้วงวันที่ 6-17 พฤษภาคม 2566 รวมเวลาทั้งสิ้น 12 วัน ประกอบด้วย 3 ห้วงการฝึก ได้แก่ การฝึกในท่า ระหว่างวันที่ 6-11 พฤษภาคม มีการฝึกที่สำคัญประกอบด้วย พิธีรับเรือรบสหรัฐฯ พิธีเปิดการฝึก งานเลี้ยงรับรอง การเยี่ยมคำนับของผู้บังคับบัญชา การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน การฝึกป้องกันหน่วยกำลัง การฝึกช่วยเหลือทางมนุษยธรรม การฝึกประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ การฝึกด้านการแพทย์ การสัมมนาเรื่องบทบาทและสิทธิสตรีด้านความมั่นคง การแข่งขันกีฬา และกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ ในพื้นที่สัตหีบและจังหวัดระยอง

กองทัพเรือจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี “เสด็จเตี่ย” ณ อาคารอเนกประสงค์ พิพิธภัณท์ทหารเรือ (อาคาร Utility Hall) พร้อมให้ข้าราชการทหารเรือและประชาชนที่สนใจเข้าชม

วันที่ 11 พ.ค.66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะประธานกรรมการจัดงานครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ติดตามความพร้อมในการจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์  100 ปีฯ เพื่อเปิดให้ข้าราชการทหารเรือ และประชาชนเข้าชมได้ในวันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่ 12 พ.ค.66 เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ อาคารอเนกประสงค์ พิพิธภัณท์ทหารเรือ (อาคาร Utility Hall) ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

การจัดแสดงนิทรรศการดังกล่าวดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการจัดทำหนังสือที่ระลึกและการจัดกิจกรรมด้านวิชาการ การจัดงานครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปีฯ ได้กำหนดกรอบและนำวัตถุพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญจัดแสดงนิทรรศการฯ เพื่อเทิดพระเกียรติ “เสด็จเตี่ย” ที่ทรงวางรากฐานให้กองทัพเรือเป็นปึกแผ่นตราบจนปัจจุบัน ณ ห้องโถงชั้นล่างของอาคารอเนกประสงค์ (Utility Hall) ดังนี้

ทหารเรือบุกจับเรือบรรทุกน้ำมันหนีภาษี เกือบ 3 แสนลิตร ใกล้เกาะสีชัง ศรีราชา

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 66 เวลา 20.30 น. กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) บูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบและจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันกลางทะเล 2 ลำ พบน้ำมันดีเซลไม่ผ่านการเสียภาษี จำนวน 290,000 ลิตร 

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 18 มิ.ย.66 ที่ ท่าเรือกลางอ่าว กองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือตรี อนุพงษ์ ทะประสพ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้เดินทางมาแถลงข่าวร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 

โดยได้เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติด้านการข่าวของ ทรภ.1/ศรชล.ภาค 1 นำไปสู่การมอบหมายภารกิจให้ เรือ ต.115 เข้าดำเนินการตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมันต้องสงสัย ที่มีลักษณะพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี ชื่อ เรือ MMM 8 มีไต๋เรือ พร้อมลูกเรือ รวม 6 นาย พบน้ำมันดีเซล จำนวน 230,000 ลิตร และเรือ NPK แสนสุข 33 มีไต๋เรือ พร้อมลูกเรือ รวม 7 นาย น้ำมันดีเซล จำนวน 60,000 ลิตร รวม 290,000 ลิตร ที่บริเวณ เกาะสีชัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 

ก่อนที่ เรือ ต.115 จะได้ดำเนินการควบคุมเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลหลบเลี่ยงภาษีดังกล่าว มายังท่าเรือกลางอ่าว กองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 

ทั้งนี้ การปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ/รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ที่ให้ดำเนินการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในทะเลอย่างจริงจัง

นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันชาติฝรั่งเศส

วันที่ 14 ก.ค.66 พลเรือเอก สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันชาติฝรั่งเศส ตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมี นายตีแยรี  มาตู (H.E. Mr. Thierry  MATHOU) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และภริยา เป็นเจ้าภาพ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสวิสโฮเตล ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร

ไทยกับฝรั่งเศส สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ.2399 ผ่านการลงนามสนธิสัญญาเจริญสัมพันธไมตรี โดยประเทศไทยถือเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือไทย และกองทัพเรือฝรั่งเศส เป็นไปด้วยดี โดยฝรั่งเศสมีสำนักงานผู้ช่วยทูตทหาร ฝรั่งเศส/กรุงเทพฯ ในส่วนของกองทัพเรือมีผู้ช่วยทูตทหารเรือ/ปารีส ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพเรือฝรั่งเศส ประกอบด้วย 

- ด้านการศึกษา ซึ่งกองทัพเรือจัดส่งข้าราชการไปศึกษาอบรมหลักสูตรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
- การเยี่ยมเยือนและการเยี่ยมคำนับ เป็นการเยี่ยมเยือนเมืองท่าของเรือรบ ซึ่งเรือรบฝรั่งเศสมีการเยี่ยมเยือนเป็นระยะ และการเข้าเยี่ยมคำนับของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ
- การฝึก มีการฝึก PASSEX ซึ่งเป็นการฝึกในโอกาสที่เรือรบของฝรั่งเศสเดินทางผ่านน่านน้ำ หรือแวะเยี่ยมประเทศไทย เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของกองทัพเรือทั้งสองประเทศ
- การจัดหายุทโธปกรณ์ กองทัพเรือมีการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ EC-645T2 รวมทั้งยุทโธปกรณ์อื่นอีกหลายรายการ

เป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และการมีบทบาทนำด้านความร่วมมือ และความมั่นคงในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาบรรจุทายาททดแทนให้ครอบครัวของกำลังพลที่เสียชีวิตและสูญหายจากการปฏิบัติหน้าที่

วันที่ 21 ก.ค.66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือและประธานคณะกรรมการพิจารณาได้รับสิทธิ์ในการบรรจุหรือแต่งตั้งทายาทของข้าราชการและทหารกองประจำการที่เสียชีวิต เนื่องจากการรบหรือการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เป็นประธานการประชุมในการพิจารณาบรรจุทายาทฯ ครั้งที่ 3/2566 ณ ห้องประชุม ชั้น 5 กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือขอให้คณะกรรมการฯ ติดตามความก้าวหน้า รวมทั้งให้หน่วยต้นสังกัดในฐานะตัวแทนกองทัพเรือติดต่อสอบถามครอบครัวของกำลังพลที่เสียชีวิตและสูญหายอย่างใกล้ชิด ให้สมกับที่กำลังพลเหล่านั้นได้เสียสละปฏิบัติหน้าที่เพื่อกองทัพเรือ ซึ่งการประชุมครั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาบรรจุทายาททดแทน

กรณี ร.อ.สุราษฎร์  แสงไชศรี สังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติราชการในเวลาปกติ ได้พิจารณาเสนอบรรจุทายาทเข้ารับราชการอัตราสัญญาบัตร (เพิ่งจบการศึกษา)

ในส่วนของการติดตามการดำเนินการในส่วนที่ได้พิจารณาเห็นชอบบรรจุทายาททดแทนไปแล้ว ประกอบด้วย

1 กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง
ทายาทกำลังพลที่เสียชีวิต จำนวน 24 ราย
- บรรจุแล้ว 10 ราย (สัญญาบัตร 5 ราย , ประทวน 5 ราย)
- อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานขออนุมัติบรรจุ 2 ราย
- ได้รับสิทธิ์บรรจุเมื่อสำเร็จการศึกษา 9 ราย
- สละสิทธิ์ 3 ราย

ทายาทกำลังพลที่สูญหาย จำนวน 5 ราย
- บรรจุแล้ว 2 ราย (สัญญาบัตร 1 ราย , ประทวน 1 ราย)
- ได้รับสิทธิ์บรรจุเมื่อสำเร็จการศึกษา 2 ราย
- สละสิทธิ์ 1 ราย

2 กรณี น.อ.สุทธิศักดิ์  ช่วยเมืองปักษ์ ช่วยปฏิบัติราชการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติราชการชายแดน อยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานอนุมัติบรรจุทายาทเข้ารับราชการอัตราสัญญาบัตรเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารเรือที่ต้องการดูแลกำลังพลของกองทัพเรือ และครอบครัว ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อกองทัพเรืออย่างดีที่สุด

'นัท-เขตต์' 2 นายทหารสัญญาบัตรสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือต่างประเทศ  'มุ่งมั่นทำงานรับใช้ชาติ - พร้อมเป็นเสาหลักและที่พึ่งพิงให้กับครอบครัว'

(28 ส.ค. 66) พลเรือโท ประวุฒิ รอดมณี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ให้โอวาทแสดงความยินดีและรับรายงานตัวนายทหารสัญญาบัตร ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือต่างประเทศ จำนวน 2 นาย ได้แก่ ว่าที่เรือโท ณัฐวุฒิ อุทรส พร้อมกับ ว่าที่เรือตรี สุรศักดิ์ บรรดาศักดิ์ ณ ห้องรับรอง2 กองบัญชาการโรงเรียนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

โดยว่าที่เรือโท ณัฐวุฒิ หรือ น้องนัท เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 58 นักเรียนนายเรือรุ่นที่ 115 สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือสเปน โดยเข้าการศึกษาตั้งแต่ 15 สิงหาคม 2560 ถึง 21 กรกฎาคม 2566 เป็นระยะเวลา 5 ปี

แรงบันดาลใจของน้องนัทในการเข้ามาเป็นนักเรียนนายเรือนั้น เกิดจากที่ต้องการจะแบ่งเบาภาระครอบครัว โดยในระหว่างที่ศึกษาเป็นนักเรียนนายเรือนั้น น้องนัทจะได้รับเงินเดือน ซึ่งสามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องลำบากผู้ปกครอง เนื่องจากครอบครัวมีฐานะปานกลาง จึงไม่อยากรบกวนผู้ปกครอง และการที่ได้เข้ามาเป็นทหารเรือนั้น สามารถมอบประสบการณ์ในการพบเห็นโลกกว้างทั้งจากการไปฝึกทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างจากอาชีพอื่น ดังคำกล่าวที่ว่า Join Navy to see the world ซึ่งการที่มีหลักสูตรไปศึกษาต่อในต่างประเทศนั้น ได้มอบโอกาสในการเห็นมุมมองของคนต่างประเทศจากภายในและได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาว

อีกทั้งในการไปราชอาณาจักรสเปนยังได้ภาษาที่ 3 ซึ่งภาษาสเปนถูกใช้มากเป็นอันดับ 3 ของโลกรองมากจากภาษาจีน และเรือลำใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือไทยก็มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปนด้วย จึงเป็นเหตุผลที่น้องนัทเลือกศึกษาในประเทศนี้

สำหรับประสบการณ์ที่ได้จากการไปศึกษาที่ราชอาณาจักรสเปน ด้วยการเรียนที่โรงเรียนนายเรือสเปนจะใช้ภาษาสเปนในการสื่อสาร ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนภาษาก่อน 1 ปี แล้วจากนั้นจึงเข้าศึกษาหลักสูตรในโรงเรียนนายเรืออีก 5 ปี รวมเป็น 6 ปี การศึกษาในโรงเรียนเป็นการศึกษาวิชาทางทหาร ทั้งยุทธวิธีและการปฏิบัติทางเรือควมคู่ไปกับหลักสูตรปริญญาสาขาวิศวกรรมเครื่องกลจากมหาวิทยาลัยบีโก้ ที่มีความเข้มข้นในหลักสูตร โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับเรือ เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับบริษัท Navantia ที่เป็นบริษัทที่ผลิตเรือทั้งเรือสินค้าและเรือรบ

โดยปัจจุบันทางสเปนกำลังผลิตเรือฟริเกตเป็นคลาส F-110 เป็นของตัวเอง คาดว่าแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2568 ในช่วงที่นัทศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนายเรือฯ ได้มีโอกาสไปฝึกเดินทางรอบโลกที่จะมีในรอบ 100 ปี ด้วยเรือใบฝึก A-71 Juan Sebastian Elcano เนื่องในโอกาสครบรอบ 500 ปีในการเดินทางรอบโลกครั้งแรกเป็นเวลา 6 เดือน และได้มีโอกาสไปฝึกปฏิบัติงานที่เรือยกพล LPD L-51 Galicia เรือน้ำมัน A-14 Patiño และเรือฟริเกต F-105 Cristobal Colón

ด้าน ว่าที่เรือตรี สุรศักดิ์ หรือ เขตต์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 59 นักเรียนนายเรือรุ่นที่ 116 สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา สาขา Electrical Engineering โดยเข้าศึกษาตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2562 ถึง 31 พฤษภาคม 2566 เป็นระยะเวลา 5 ปี แรงบันดาลใจของน้องเขตต์ ในการเข้ามาเป็นนักเรียนนายเรือนั้น เกิดจากที่ความตั้งใจของน้องเขตต์ที่ต้องการมีหน้าที่การงานที่มั่นคงเพื่อที่จะเป็นเสาหลักและเป็นที่พึ่งพิงให้กับครอบครัว

น้องเขตต์รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นข้าราชการคนแรกให้กับครอบครัวบรรดาศักดิ์ น้องเขตต์มีความสนใจในด้านภาษา เทคโนโลยี และชอบศึกษาความเป็นมาและความเป็นไปของวัฒนธรรม จึงจุดประกายความคิดที่อยากจะสมัครสอบเป็นนักเรียนทุนต่างประเทศ และน้องเขตต์ก็ทำได้สำเร็จ สอบชิงทุนได้ลำดับที่ 1 และเลือกที่จะไปศึกษาต่อประเทศสหรัฐอเมริกา น้องเขตต์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นตัวแทนไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนกองทัพเรือไทย ในการไปเรียนรู้สั่งสมประสบการณ์ เพื่อที่จะนำความรู้และวิทยาการที่ได้รับ มาปรับและประยุกต์ใช้กับกองทัพเรือไทย

โดยในระหว่างที่ศึกษาน้องเขตต์ได้รับประสบการณ์จากการไปศึกษาที่โรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ ด้วยความที่โรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ เปิดรับนักเรียนด้วยระบบโควตาจากทุก ๆ รัฐ อีกทั้งยังมีนักเรียนต่างชาติอีก 13 ประเทศ จึงทำให้มีความหลากหลายทั้งทางด้านความคิด มุมมอง วัฒนธรรม สำเนียง หรือแม้จะเป็นวิธีการพูดที่ไม่เหมือนกัน ถึงจะพูดภาษาเดียวกันหมด คือภาษาอังกฤษ แต่ที่น่าสนใจคือทุกวัฒนธรรมอยู่รวมปนกันได้อย่างลงตัว แม้จะเป็นสภาพแวดล้อมจะเป็นการฝึกศึกษาทางทหาร และเป็นที่น่าชื่มชมที่โรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการปลูกฝังทางความคิดทั้งทางด้านความเป็นผู้นำและทางสติปัญญาให้กับนักเรียนนายเรือ เช่น เรื่องแรกที่โรงเรียนปลูกฝังให้กับนักเรียนนายเรือคือ การมีทัศนคติความเป็นผู้ฟังที่ดี มีความเคารพในมุมมองที่ต่างจากตน และมีความกล้าที่จะคิดเห็นและแสดงออก จึงทำให้นักเรียนนายเรือทั้งมีการพัฒนาความคิดจากหลากหลายมุม แล้วยังเกิดการต่อยอดทางความคิดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับการไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ในภายภาคหน้าในฐานะนายทหารเรือซึ่งจะต้องไปนำหน่วยรบต่อไป

ทั้งนี้ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือได้กล่าวต้อนรับและให้โอวาทแก่นายทหารสัญญาบัตรที่จบใหม่ โดยขอให้ตั้งใจการทำงาน ใช้ความรู้ความสามารถเพื่อตอบสนองทุกภารกิจที่กองทัพเรือ ได้อย่างเต็มที่ เต็มขีดความสามารถ ธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

‘บิ๊กจ๊อด’ ปิดฉากเก้าอี้ ผบ.ทร. ไม่ทิ้งภาระไว้เบื้องหลัง เซ็นอนุมัติเครื่องยนต์จีน เพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำแล้ว

(1 ก.ย.66) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้กล่าวในงานพบปะสานสัมพันธ์สื่อมวลชน ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนกันยายนนี้ โดยระบุว่า สื่อเป็นกลางในการนำเสนอเรื่องที่ดี และเรื่องที่เคลือบแคลงโดยไม่ได้บิดเบือนให้ประชาชนได้รับทราบ เราเปิดเผยทุกเรื่อง ไม่ปิดบัง ทร.พยายามเผยแพร่ข้อมูลทางโฆษกกองทัพเรือ ซึ่งตนยืนยันว่าได้ว่าจัดทำข้อมูลในเอกสารข่าวตามความจริงทุกประการ และโฆษกฯ ก็ตอบคำถามได้ทุกประเด็น ช่วงปีที่ผ่านมามีหลายเรื่อง ซึ่งตั้งแต่ตนรับหน้าที่ก็ให้สัมภาษณ์สื่อว่าในรอบปีที่เข้ามารับตำแหน่งจะทำอะไรบ้างเป็นข้อ ๆ ถ้าย้อนกลับไป ณ วันนั้น ตนได้ทำตามที่พูดไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือดำน้ำ เรื่องของการจัดหาเรือฟริเกต การรับมอบ รล.ช้าง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก การปรับปรุงการประเมินยุทธศาสตร์กองทัพเรือเพื่อมองไปในอนาคต ถือว่าในรอบปีตนได้ทำตามสัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรที่ติดค้างที่จะต้องฝากให้ ผบ.ทร.และทีมบริหารรุ่นใหม่ดำเนินการต่อไป เพียงแต่สานต่อการดำเนินการ หรือจะคิดใหม่ทำใหม่ก็แล้วแต่ผู้บริหารที่จะเข้ามา 

มีรายงานว่า พล.ร.อ.เชิงชาย ได้ลงนามเห็นชอบเครื่องยนต์ CHD 620 ที่ผลิตจากบริษัทของจีน เพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำ S26T เรียบร้อยแล้วหลังจากคณะทำงานในการเจรจาเรื่องดังกล่าวได้พูดคุยกับ บริษัท CSOC หลายรอบ โดย ทร.ส่งทีมคณะทำงานด้านเทคนิคไปร่วมประเมินประสิทธิภาพ ก่อนสรุปให้กับประธานคณะกรรมการโครงการเรือดำน้ำ ที่มี พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน และได้รับข้อเสนอในการเพิ่มการรับประกันจาก 10 ปี เป็น 20 ปี การส่งกำลังบำรุง อะไหล่ และระบบอาวุธในเรือเพิ่มเติม โดยไม่รับข้อเสนอในการซื้อเรือดำน้ำมือสองในราคาถูก เพราะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมในการซ่อมบำรุง และต้องมีภาระในด้านอื่นที่ต้องปรับสภาพพร้อมใช้งานจริง ในระหว่างนี้เครื่องยนต์ดังกล่าวอยู่ระหว่างติดตั้งในเรือดำน้ำของปากีสถานที่ติดตั้งในเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าวนำร่องเพื่อเตรียมทดสอบการใช้งานจริงนำร่องไปแล้ว 

สำหรับความคืบหน้าในการกู้เรือหลวงสุโขทัย พล.ร.อ.เชิงชาย ได้อนุมัติให้ พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เตรียมทีโออาร์ เชิญชวนบริษัทที่จะเข้าทำการกู้เรือ และคาดว่าจะลงนามได้ภายในสองสัปดาห์นี้ โดยสำนักงบประมาณอนุมัติงบกลางให้ 90 ล้านบาท และกองทัพเรือได้จัดหางบประมาณในส่วนของกองทัพเรือ 110 ล้าน โดยจะใช้ระยะเวลาในการกู้เรือประมาณ 3 เดือน หลังจากที่มีการประเมินความคุ้มค่าจากเครื่องอุปกรณ์ อาวุธต่างๆ และจะเป็นวัตถุพยานประกอบกับคำให้การเหตุอับปางของเรือ ก่อนคณะกรรมการสรุปฯ ผลเพื่อดำเนินการต่อไป 

มีรายงานด้วยว่า หลังจาก พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ซึ่งจะมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทร.คนใหม่เข้ามารับตำแหน่ง ได้เตรียมแนวทางในการทำงานในช่วง 1 ปี เพื่อเรียกความเชื่อถือ ศรัทธา และความไว้วางใจต่อ ทร.ในสายตาประชาชนให้กลับมา หลังจากที่ ทร.ประสบปัญหาหลายเรื่องจนกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพ ทั้งที่เคยเป็นที่พึ่งของประชาชนในหลายโอกาส ไล่ตั้งแต่ เรือหลวงสุโขทัย เหตุอาวุธกระสุนหายในคลังแสง กำลังพลนอกแถวที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม โครงการจัดหาอาวุธที่เป็นปัญหาในอดีต

“จะเป็นปีที่ ทร.จะเริ่มดีขึ้นในทุกๆ ด้าน หลังจากที่ปัญหาทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย เมื่อรื้อมาดูเนื้อในแล้วจะเห็นว่าท ทร.มีระเบียบ หลักการปฏิบัติ ที่เป็นลายลักษณ์อักษรกำกับไว้ในเอกสารหมดแล้ว แต่เมื่อนำไปปฏิบัติทุกวันก็ไม่เป็นเหมือนที่กำหนดไว้ เหมือนเครื่องยนต์ที่หลวม ก็ต้องมีการขันน็อตให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อให้การทำงานเดินหน้า อย่างเช่นกรณีคลังอาวุธที่กำลังพลนำออกไปขายข้างนอก ทั้งที่มีการวางระบบตรวจสอบไว้แล้ว อีกทั้งต้องหาแนวทางในการสื่อสารให้สังคมเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของทหาร การเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพตามความเหมาะสม ทั้งโครงการเรือดำน้ำ ที่ถูกโจมตีช่วงเวลาที่ผ่านมาว่าปัญหาเกิดจากอะไร และได้แก้ไขอย่างไร เป็นต้น” แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.ร.อ.อะดุง ว่าที่ ผบ.ทร.


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top