Saturday, 20 April 2024
ตู้ห่าว

ผบ.ตร.ตั้ง ผบช.น.สอบคดี รองผู้การ 6 ช่วย ‘ตู้ห่าว’ หลังพบเอี่ยวปล่อยรถหรู 4 คัน แลกเงิน 8 ล้าน

ผบ.ตร. ตั้ง ผบช.น.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีรองผู้การ 6 ช่วย ‘ตู้ห่าว’ ปล่อยรถหรู 4 คันแลกเงิน 8 ล้าน 

วันนี้ (24 พ.ย.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) เปิดเผย ถึง คดี ‘ตู้ห่าว’ นายทุนจีนสีเทา ว่า ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น) เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงโดยมี  พล.ต.อ.สุเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร กำกับดูแล กรณี (พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ) รอง ผบก. น. 6 เข้าไปเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา ปล่อยรถหรูจำนวน 4 คัน แลกกับเงิน 8 ล้านบาท โดยยืนยันว่าหากพยานหลักฐานไปถึงใครก็จะต้องมีการดำเนินคดีทั้งหมด หากไม่มีมูลก็แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากมีการแจ้งข้อกล่าวก็แสดงว่ามีมูลอยู่ ส่วนรายละเอียดไม่อยากก้าวล่วงให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน ส่วนจะมีระดับใหญ่กว่า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 หรือไม่ที่เรียกรับเงิน 8 ล้าน ก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน จะไปพูดถึงหรือพาดพิงใครไม่ได้ ตอนนี้พยานหลักฐานถึง ตู้ห่าว เราก็ดำเนินคดีขออนุมัติหมายจับ ไปแล้ว

'อนุพงษ์' ลงนามแปลงสัญชาติ 'ตู้ ห่าว' ตามขั้นตอน เหตุถูกชงชื่อก่อนนั่ง มท.1 และต้องทำหน้าที่ตาม กม.

เมื่อวันที่ (28 พ.ย. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยปรากฏสำเนาเอกสารประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนพิเศษ 245 ง ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557 ระบุชื่อบุคคลลำดับที่ 35 นายหาว เจ๋อ ตู้ เอกสารหนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย ลงวันที่ 26 มกราคม 2558 ของ นายหาวเจ๋อ ตู้ และปรากฏข้อความระบุว่า ‘อนุพงษ์ เผ่าจินดา คือ ผู้ที่ให้สัญชาติไทยแก่ ตู้ห่าว’

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นายหาวเจ๋อ ตู้ แต่เดิมเป็นบุคคลสัญชาติจีน มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในพื้นที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ได้ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ต่อกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ กรณีเป็นสามีของบุคคลสัญชาติไทย และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา กระทรวงมหาดไทยได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอฯ และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย ในการประชุมครั้งที่ 2/2556 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 ซึ่งมีรองอธิบดีกรมการปกครองเป็นประธาน ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนกรมการกงสุล ผู้แทนกรมการจัดหางาน ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นอนุกรรมการ และได้นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ ในการประชุมครั้งที่ 3/2556 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกระทรวงแรงงาน ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการตามกฎหมาย เพื่อเสนอแนะและให้ความเห็นประกอบการใช้ดุลพินิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ได้ใช้ดุลพินิจตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ พิจารณาอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยได้ แล้วแจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ทำพิธีปฏิญาณตน และประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติครั้งดังกล่าว มีมติเห็นควรเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใช้ดุลพินิจอนุญาตให้คนต่างด้าวแปลงสัญชาติเป็นไทยได้ จำนวน 12 ราย เพราะเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนของการได้สัญชาติไทยตามที่กฎหมายกำหนด คือ

ชาวเน็ตเชียร์ 'ณัฐวุฒิ' อย่าหยุดคุ้ยปม 'ตู้ห่าว' หลังโบ้ยโยง พปชร. แต่กลับสะเทือนถึงเพื่อไทย

(2 ธ.ค. 65) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ ‘ปรับครม.ของพี่คนน้องคน ประชาชนไม่ได้อะไร?’ โดยมีเนื้อหาระบุว่า...

สังคมไทยวันนี้กำลังติดตามจับตาความเป็นไปของ 2 เครือข่าย 1) เครือข่าย “ตู้ห่าว” 2) เครือข่าย “ตู้ห่าว”
เอาที่ “ตู้ห่าว” ก่อน ชายคนนี้เป็นคนสัญชาติจีน เข้ามาทำมาหากินมีครอบครัวในประเทศไทย ถ้าโปร่งใสตรงไปตรงมาไม่ว่ากันนะครับ แต่นี่เข้ามาทำธุรกิจใต้ดินกลิ่นไม่ดี มีพิรุธ และกำลังถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่ในเวลานี้ เรื่องมันแดงขึ้นมาสาวไส้ออกมาก็ยิ่งเห็นภาพชัดว่ามันมีเครือข่ายอิทธิพลนอกระบบใหญ่โต ซึ่งขบวนการทุนข้ามชาตินอกระบบพวกนี้เข้ามาเดินยืดอยู่ในประเทศไทยได้มันมีเหตุผลเดียวเท่านั้นแหละครับ เขาต้องมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้มีอำนาจทางการเมืองและเครือข่ายกลไกรัฐ ซึ่งเครื่องมือเดียวที่จะทำให้สัมพันธภาพนี้ดีขึ้นมาได้ก็คือผลประโยชน์เป็นเม็ดเงิน

เฉพาะ “ตู้ห่าว” เครือข่ายเดียว มีการตรวจค้นมีการเจาะลึกทำให้คนไทยทั้งประเทศตกตะลึงว่า 8 ปีที่ผ่านมาของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งบอกว่าเป็นรัฐบาลคนดี เข้ามาปฏิรูปประเทศ จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด แล้วบ้านเมืองมาถึงวันนี้ได้ยังไง?

นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ล่ะครับ เพราะตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เรายังนับไม่ถูกเลยว่าเครือข่ายใต้ดินพวกนี้เข้ามาแล้วสร้างความเสียหายให้กับประเทศไปแล้วขนาดไหน? ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมืองทุกตรอกซอกซอย แต่คนพวกนี้กำลังยืนอยู่ในจุดบนสุดของสังคม มีเงินมีทองจับจ่ายใช้สอยได้ตามอำเภอใจ

พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงภาพย้อนหลังไปเราจะเห็นว่า “ตู้ห่าว” คนนี้ นอกจากทำมาหากินสีเทาใต้ดินแล้ว ยังเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้บริจาคเงินเข้าบัญชี มีหลักฐานในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เฉพาะที่มีหลักฐานก็สามล้านนะครับ แล้วใครจะกล้าฟันธงมั้ยว่าไม่มีการให้กันนอกระบบ ไม่มีการเติมเงินให้พรรคการเมืองนี้เอาไปใช้จ่ายในสนามเลือกตั้ง

นี่ไงครับ! คนพวกนี้ถึงเข้ามาก่อการอยู่ในประเทศไทยได้ แล้วพอพลังประชารัฐเป็นรัฐบาลมาสามปีกว่าๆ ที่เพิ่งด่ากันจบไปหยก ๆ ไงครับ กรณีรัฐบาลจะแก้ประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ 1 ล้านดอลลาร์ แล้วซื้อที่ดินได้ 1 ไร่ ถ้าผ่านไปบังคับใช้ ใครครับจะมาก่อน? ก็คนพวกนี้ไงครับ ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม หมู่บ้านหรูๆ หลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ราคา 30 ล้าน 60 ล้าน 100 ล้าน คนพวกนี้ยกโขยงกันมาซื้อยกโครงการ ที่ซอยลาซาล หมู่บ้านมี 66 หลัง เครือข่าย “ตู้ห่าว” และพวก ซื้อไปแล้ว 50 หลัง โดยนอมินีเป็นคนไทย คอนโดบางแห่งซื้อยกชั้น ยกสองชั้น ยกสามชั้น บ้านเดียวบางหลังราคา 100 ล้าน ใช้นอมินีคนไทยไปเป็นผู้ซื้อ

นี่ถ้าชาวบ้านไม่ช่วยกันด่า เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเครือข่ายทุนสีเทานอกระบบเหล่านี้จะครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ในประเทศไทยไว้มากมาย ก็ให้นอมินีคนไทยซื้อต่อๆ กัน คนละไร่ๆ 50 ไร่ 100 ไร่ เขาทำได้!

คนในรัฐบาลชุดนี้นอกจากจะกินเงินสกปรกจากขบวนการสกปรกแล้ว ส่อว่าคิดถึงขั้นจะขายแผ่นดินให้กับพวกใต้ดินด้วย!!!

ไหนล่ะครับการปฏิรูป? ไหนล่ะครับการบังคับใช้กฎหมาย?

พล.อ.ประยุทธ์ จะอ้างว่าก็กำลังปราบอยู่นี่ไม่ได้นะครับ ท่านมีอำนาจมา 8 ปี เฉพาะรัฐบาลนี้ก็อยู่มา3 ปีกว่า ๆ เรื่องเพิ่งเข้าหูเข้าตาเอาวันนี้เหรอครับ? เพิ่งคิดจะตาม คิดจะจับเอาวันนี้เหรอครับ?

นี่คนยังมองกันอยู่เลยว่าส่วนหนึ่งน่ะ เป็นเกมการเมือง ท่านต้องการจะเด็ดปีกเด็ดหางผู้ช่วยสำคัญคนหนึ่งของพล.อ.ประวิตร ใช่หรือไม่? และนั่นหมายความว่า ถ้าไม่มีความขัดแย้งกันทางการเมือง คนพวกนี้ก็ยังคงจะขยายอิทธิพลต่อไปเรื่อย ๆ หรือยังไง?

8 ปีแล้วนะครับที่ลูกๆ หลานๆ หลายคนที่คิดต่างเห็นไม่ตรงกับฝ่ายผู้มีอำนาจต้องพาตัวหลบภัยไปใช้ชีวิตต่างแดน ในทางกลับกัน ขบวนการทุนข้ามชาติพวกนี้ทำอีลุ่ยฉุยแฉกไว้ที่ไหนก็ตาม กลับเข้ามาเดินอย่างสง่างามในประเทศไทย มันหมายความว่ายังไงครับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ท่านกำลังทำงานกันอย่างเข้มข้น ถ้าโปร่งใสตรงไปตรงมา ท่านเดินหน้าไปเลยนะครับ ประชาชนเขาเอาใจช่วย เขาให้กำลังใจ

อีกเครือข่ายหนึ่งก็ “ตู่หาว” หมายถึงคนชื่อ “ตู่” ผู้มีอำนาจบาตรใหญ่เวลานี้คงกำลังนั่งหาวล่ะครับ เพราะทำยังไงคะแนนนิยมก็ไม่กระเตื้องขึ้นซะที จัดเอเปคก็แล้ว กระแสก็ยังตกต่ำอยู่อย่างเก่า ยิ่งต้องแยกตัวออกจากพล.อ.ประวิตร มาเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ แทนที่ผู้เห็นเหตุการณ์จะวิจารณ์ว่านี่คือการแตกมาเพื่อโต กลับกลายเป็นว่าใครก็ตามที่พูดเรื่องนี้ฟันธงตรงกัน 100% ว่ายิ่งแยกตัวจะยิ่งเล็กลง แบบนี้ “ตู่” จะไม่หาวได้ยังไงกันล่ะครับ

ส่วนคำถามที่ว่าเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในทัศนะผม ถ้าพอมีสำนึกยางอายอยู่บ้าง จะไม่เห็นการสมัครเป็นสมาชิกจนกว่าจะยุบสภา แต่ก็ไม่แน่นะครับ เห็นเนติบริกร ดร.วิษณุ แกตีไพ่ให้รายวันอยู่เหมือนกัน บอกว่าแม้ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพลังประชารัฐ ก็สามารถสมัครสมาชิกรวมไทยสร้างชาติได้ ไม่ผิดกฎหมาย นี่พูดอีกก็ถูกอีกล่ะครับ กฎหมายมันไม่ได้เขียนห้าม แต่ถามว่ามนุษย์มนาธรรมดาเขาจะคิดทำกันแบบนี้มั้ย? ก็ตัวคุณเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐ หมายความว่าได้ตำแหน่งนี้มาจากประชาชนที่เลือกพลังประชารัฐ แล้วส.ส.พลังประชารัฐยกมือให้ อยู่ 3 ปีกว่า ไม่คิดจะสมัครเป็นสมาชิก วันดีคืนดีไปสมัครสมาชิกพรรคอื่นซะอย่างนั้น แบบนี้จะเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ได้ยังไง? ไอ้กฎหมายน่ะไม่ผิด จะไปเทียบกับคุณหญิงสุดารัตน์กับผู้ว่าฯ ชัชชาติ ไม่ได้ล่ะครับ เพราะว่าสองคนนั้นแม้ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่วันนี้เดินออกจากพรรคไปไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ จากคะแนนเสียงหรือส.ส.ของพรรค ต่างกับพล.อ.ประยุทธ์

ใครที่คิดว่าจะทำได้แบบที่ ดร.วิษณุ อธิบาย ไม่ใช่แค่แม่นกฎหมายนะครับ ต้องหน้าด้านด้วยถึงจะทำ!!!

ส่วนสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ก็คงเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งแล้วล่ะครับ เพราะล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายลูก 2 ฉบับ ผ่านฉลุย! เชื่อว่าไม่น่าจะมีเกมพิสดารใดๆ จะขัดขวางหรือล้มการเลือกตั้งได้ ทุกพรรคเขาก็ขยับตัวไปสู่สนามเลือกตั้งแบบเดียวกันนะครับ รัฐบาลเพิ่งปรับคณะรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีใหม่ขึ้นมา 3 คน เห็น 3 รายชื่อนี้ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า นี่คือสัญญาณที่แม้ 2ป จะแยกทางกันไปกันคนละพรรค แต่สุดทางหลังการเลือกตั้งสามารถจะกลับมาจับมือกันได้ตลอดเวลา เพราะ 3 รายชื่อรัฐมนตรีหน้าใหม่คือการประนีประนอมกันของอำนาจ

'นพดล' ชี้!! คนโยง 'เพื่อไทย-ตู้ห่าว' หวังผลทางการเมือง ยัน!! 'อุ๊งอิ๊ง' ไม่เกี่ยวข้อง ขู่!! หากไม่หยุดเจอฟ้องแน่

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 65 เวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงว่า จากกรณีที่มีการตั้งข้อกล่าวหาต่อนายหาวเจ๋อตู้ หรือตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีน และพวกว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย และให้ข้อมูลว่ามีกลุ่มทุนต่างชาติกว้านซื้อบ้านในบางโครงการ และพยายามโยงเรื่องนี้มาบิดเบือนใส่ร้ายเพื่อไทย และแกนนำพรรคฯ ให้เสียหายนั้น พรรคฯ ขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนสอบสวนคดีต่าง ๆ อยู่ในขณะนี้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่มีอยู่ตามกฎหมายได้อยู่แล้ว เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับพรรค พรรคไม่ขัดขวางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอย้ำว่าเพื่อไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว และนายตู้ห่าวก็ไม่เคยบริจาคเงินให้พรรคเพื่อไทย ข้อกล่าวหาที่มีต่อผู้ต้องหาก็เกี่ยวเนื่องกับการทำธุรกิจในช่วงเวลาหลายปี

“ที่ผ่านมาที่เพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาลซึ่งเป็นเวลาเกือบ 8 ปีแล้ว ดังนั้นหากจะมีการกระทำที่ผิดกฎหมายในช่วงเวลานี้ในประเทศไทย ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะบังคับใช้กฎหมาย และรัฐบาลสามารถไปตรวจสอบว่ามีการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทำนองเดียวกันนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าเบี่ยงเบนประเด็น” นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พยายามโยงว่าชาวต่างชาติกว้านซื้อบ้านในโครงการของบริษัทเอสซี แอสเสท และพาดพิง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ผู้ถือหุ้นในบริษัทนั้น ตนเห็นว่าการพาดพิงและกระจายข่าวต่าง ๆ มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอย่างชัดเจน ขอเรียนว่าน.ส.แพทองธาร ไม่ได้รู้จักกับนายตู้ห่าว และเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายบ้านให้บุคคลใด ๆ 

นอกจากนั้น บริษัทเอสซี แอสเสท ได้แถลงไปแล้วว่าบริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลโดยยึดหลักไม่กระทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังขายให้คนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น และในการชำระค่าบ้าน ผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคาร ตนขอตั้งเป็นข้อสังเกตว่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดของบุคคลกลุ่มนี้ มีบ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินที่ซื้อจากหลายโครงการ หลายบริษัท กระจายไป ไม่ใช่ซื้อจากบริษัทเอสซี แอสเสท อย่างเดียว 

“ช่วงเวลานี้ ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นพรรคต่าง ๆ นำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อไทยขอเชิญชวนให้ช่วยกันนำเสนอนโยบายและหาทางออกให้ประเทศ และยุติการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไอโอที่เป็นการบิดเบือนใส่ร้ายฝ่ายอื่นด้วยความเท็จ ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ดังนั้นขอให้พวกที่พยายามตีกินหรือพยายามโยงให้เพื่อไทยเสียหาย ขอให้ยุติการดำเนินการไม่เช่นนั้นเราขอสงวนสิทธิ์ปกป้องเกียรติภูมิและชื่อเสียงของพรรคในกรอบของกฎหมายต่อไป” นายนพดลกล่าว

เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการโจมตีทางการเมืองเพื่อหวังผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่าตนคิดว่าการบิดเบือนมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองค่อนข้างชัดเจน เพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองที่พร้อมที่จะต่อสู้กันตามกฎกติกาและการนำเสนอนโยบายแข่งกัน ตนคิดว่าการที่มีการบิดเบือนบุคคลต่าง ๆ ก็พอจะดูออกว่ามีวัตถุประสงค์ทางการเมือง แต่เพื่อไทยสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็นและไม่มีอะไรที่จะซ่อนไว้ 

'สว.สมชาย' ถาม? เหมาซื้อบ้านเงินสด 50 หลัง ‘ผู้ขาย-สำนักงานที่ดิน’ ไม่สงสัยบ้างหรือ?

(5 ธ.ค. 65) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

นายกลุงตู่แปลกใจเหมือนผมมั้ยครับ? ใช้เงินสดเหมาซื้อบ้าน 50 กว่าหลัง ๆ ละ 50 ล้าน เหตุใดผู้ขายและสำนักงานที่ดินไม่รายงานความผิดปกติของการใช้เงินสดดังกล่าว 

'ดร.เสรี' ขยี้ซ้ำ!! ปมขายบ้านให้ทุนจีนสีเทา เหตุไฉน 50 คนไทย พร้อมใจขายให้คนจีน

(6 ธ.ค. 65) ไม่นานมานี้ ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

“คนไทย 50 คนซื้อบ้าน รับโอนจากบริษัทอสังหาฯ แล้ว มีคนจีนต้องการซื้อต่อ ปรากฏว่า คนไทยทั้ง 50 ราย พร้อมใจกันขายให้คนจีนทั้ง 50 คนเลย ฟังดูอัศจรรย์มากเลยนะคะ

เจ้าของโครงการที่เป็นลูกเจ้าของคอกยังเงียบอยู่ไม่พูดอะไรเลย เพราะกรณีนี้ งานเข้าจริง ๆ ยากที่จะหาคำอธิบายใด ๆ มาชี้แจง ว่าทำไมคนต่างชาติจึงเป็นลูกค้าซื้อบ้าน ทั้ง ๆ ที่กฎหมายไม่อนุญาต

ที่ร้ายไปกว่านั้น ก็คือ คนของตนเองดันออกมาพูดยืนยันว่าเรื่องที่พูดกันเป็นเรื่องจริง จนมีคนหลายคนเชียร์ให้ขุดต่อ อย่าได้หยุด ขุดให้เต็มที่ไปเลย

งานนี้ตำรวจที่ทำคดีจะต้องทำอย่างโปร่งใส จัดการกับคนทำผิดกฎหมายอย่างจริงจัง อย่าให้มีการลูบหน้าปะจมูก เป็นมวยล้มต้มประชาชนที่ต้องการกระฉากหน้ากากคนที่ทำผิดกฎหมายเพราะเห็นแก่ตัว”

‘คนเพื่อไทย’ โร่แจ้งความ หลังมีภาพร่วมเฟรมตู้ห่าว ยัน!! ไม่รู้จักกันส่วนตัว เจอกันตอนนี้ก็จำหน้าไม่ได้

(6 ธ.ค. 65) เมื่อเวลา 14.15 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีถูกโยงเป็นข่าวและมีภาพปรากฏออกมาว่ามีความรู้จักสนิทกับนายหาวเจ๋อตู้หรือตู้ห่าว กลุ่มทุนจีนสีเทาว่า ภาพที่ปรากฏเป็นข่าวนานมากแล้ว โดยเป็นการเปิดตัวโรงงานแถว จ.สมุทรปราการ ซึ่งตนไปเป็นเพื่อนกับคุณลุงที่ถูกเชิญไปร่วมงานเท่านั้น โดยงานดังกล่าว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผบ.ตร.ขณะนั้นเป็นประธาน แต่กลับถูกโยงทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย เพราะถูกนำมาเล่นข่าวในช่วงจะเลือกตั้ง ตนเป็นนักการเมืองที่ถูกป้ายสี ดังนั้นตนจึงได้ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายตู้ห่าวเลย เห็นหน้าตอนนี้ก็ยังจำไม่ได้เลย

นายวิชาญ กล่าวกรณีนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยที่จะย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า พรรคดูแลและให้โอกาสนายประเดิมชัยตั้งแต่ปี 62 ตั้งแต่สมัยนายประเดิมชัยเป็น ส.ก. ส่วนการตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรคใดก็ถือเป็นสิทธิ ซึ่งเราก็จะได้คัดสรรบุคคลลงสมัครแทนนายประเดิมชัยต่อไป ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้คุยกับนายประเดิมชัยในเรื่องดังกล่าว แต่ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เริ่มมีกระแสข่าวว่าจะย้ายพรรค แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยดูแลสมาชิกทุกคนเท่าเทียมกัน

‘เพื่อไทย’ จวก ‘ระบบราชการไทย’ เละเทะ เปิดช่องให้ธุรกิจสีเทาทำผิดกฎหมายได้ง่าย

‘เพื่อไทย’ สับระบบราชการเปิดช่องทุจริต ธุรกิจสีเทาบานเป็นดอกเห็ด ชี้สังคมจับตาคดี ‘ตู้ห่าว’ จะรอดหรือไม่ ตอกผู้นำปล่อยกลุ่มทุนจีนหนุนการเมือง ทำตัวเหนือกฎหมาย

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 65 น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีธุรกิจทุนจีนสีเทาของนาย ‘ตู้ห่าว’ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการบุกทลายผับดังย่านเจริญราษฎร์ พบยาเสพติดและบ่อนการพนัน นำไปสู่การขยายผลให้เห็นว่าทุนจีนสีเทามีเครือข่ายที่เติบโต ฝังรากอยู่ในสังคมไทยจนมีมูลค่าเงินหมุนเวียนและทรัพย์สินเกือบหมื่นล้านบาทว่า ขอตั้งคำถามหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ดำเนินการจริงจังมาตลอด 8 ปี ทุนจีนสีเทาคงไม่เติบโตเหมือนในวันนี้ใช่หรือไม่ กรณีของนายตู้ห่าว ไม่ใช่ความผิดส่วนบุคคล แต่เป็นเพราะการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันจึงเติบโต ซึ่งสาเหตุของความล้มเหลวการตรวจสอบการทุจริตและทุนจีนสีเทา ดังนี้

ผบ.ตร.เซ็นส่งสำนวนคดีนายตู้ห่าวกับพวก ให้อัยการสูงสุดพิจารณา มั่นใจพยานหลักฐานแน่นหนา เอาผิดเครือข่ายทุนจีนสีเทาได้

(13 ม.ค. 66) เวลา 9.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน สำนวนคดีนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ กับพวก เดินทางไปส่งสำนวนคดี 'ตู้ห่าว' ให้อัยการสูงสุด ณ สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารแจ้งวัฒนะศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ

ผบ.ตร.กล่าวว่า "คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 ที่ บช.น. นำกำลังเข้าตรวจค้นผับจินหลิง พบและยึดยาเสพติด พร้อมอุปกรณ์การเสพหลายรายการเป็นของกลางพร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาที่มั่วสุมเสพยา และจำหน่ายยาเสพติด นำสง พงส. สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาศาลได้ออกหมายจับนายตู้ห่าวกับพวก ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและสมคบ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งขยายผลสืบสวนจับกุมบุคคลผู้เกี่ยวข้อง

คดีนี้เป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้กับตน เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบร่วมกันทำการสอบสวนกับ พงส. ในสังกัด 4 กองบัญชาการประกอบด้วย บช.น. บช.ก. บช.สอท. บช.ปส. และร่วมกับพนักงานอัยการทำการสอบสวนคดีนี้ บัดนี้การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางคดีมีการสอบสวนพยานบุคคล 444 ปาก สืบพยานล่วงหน้า 20 ปาก ตรวจยึดทรัพย์สิน 5,345 ล้านบาท มีพยานเอกสาร พยานนิติวิทยาศาสตร์ และอื่นๆกว่า 67 แฟ้ม จำนวน 26,892 แผ่น  สอบสวนผู้ต้องหา ทั้งหมด 43 คน แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 38 คน นิติบุคคล 5 ราย 

ในส่วนของบุคคลธรรมดา 38 คน จับกุมดำเนินคดีแล้ว 20 คน ยังหลบหนี 18 คน ได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคลอีกจำนวน 5 บริษัทแจ้งข้อหาดำเนินคดีแล้วเช่นกัน

‘ชูวิทย์’ แฉ!! ผู้มีอิทธิพล ‘ข่มขู่-ปิดปาก’ พยาน ยัน!! แม้กฎหมายล่าช้า แต่จะสู้จนวันสุดท้าย

(20 ม.ค. 66) เวลา 15.00 น. ณ โรงแรมเดอะเดวิสบางกอก กรุงเทพฯ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้แถลงข่าวเปิดเผยถึง timeline ในประเด็นสำคัญ คดีทุนจีนสีเทา ที่เริ่มแฉตั้งแต่ ต.ค., พ.ย., ธ.ค. 65 ถึง ม.ค. 66 นายชูวิทย์กล่าวว่าเป็นการแฉเพื่อส่วนรวม ณ วันนี้เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติแล้วทำให้อัยการเข้ามาสอบสวนแทนตำรวจได้ 

ต่อมานายชูวิทย์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับพยานสำคัญ โดยพยานระบุว่า “มีผู้ติดต่อมาแล้วนำเสนอผลประโยชน์ให้ถอนตัว หรือกลับคำให้การ” 

ซึ่งบรรดาพยานล้วนเกรงกลัวผู้มีอิทธิพล จึงขอไม่เปิดเผยชื่อ และอธิบายต่อว่าตู้ห่าว เติบโตมาอย่างไร ซึ่งไม่สามารถดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวได้ ต้องมีผู้สนับสนุน และเกิดคำถามว่าใช่ ตม. สน. กรมการปกครอง ที่ละเลยใช่หรือไม่ และกระบวนการการสอบสวนของตำรวจ ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ยาวนานไปหรือไม่ ซึ่งตู้ห่าวโดนข้อหาฟอกเงินเป็นคนสุดท้าย แต่ลูกน้องโดนข้อหาก่อน กระบวนการยุติธรรมเกิดอะไรขึ้น ประเทศไทยจึงกลายเป็นดินแดนสวรรค์ของอาชญากรข้ามชาติ โดยเฉพาะที่พัทยา และภูเก็ต ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจค้นไม่เจอเงินที่บ้านตู้ห่าว แต่หน่วยงานไม่ออกหมายจับข้อหาฟอกเงิน ซึ่งมีความเคลื่อนไหวล่าช้ามาก ซึ่งความล่าช้าของคดีทำให้เกิดความอยุติธรรมได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top