Thursday, 25 April 2024
ช้างไทย

สุดเศร้า! "คุณปู่ป่าละอู" ช้างป่าแก่งกระจาน ล้มแล้วจากพิษกระสุนปืน หลัง 'หมอล็อต' ระดมทีมสัตวแพทย์ช่วยยื้อชีวิตนาน 2 สัปดาห์ พร้อมเร่งหาตัวคนใจโหดยิงช้างนับร้อยนัด!!

พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายอำเภอแก่งกระจาน ทีมสัตวแพทย์ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดกรณีช้างพลายงาด้วนชื่อ “คุณปู่ป่าละอู” อายุ 60 ปี หนักกว่า 5 ตัน ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลบริเวณลำตัวหลายจุดจากการต่อสู้และถูกยิงหลายแห่ง หลังจากทีมสัตวแพทย์ได้เข้าช่วยเหลือรักษาอาการนานกว่า 2 สัปดาห์ “คุณปู่ป่าละอู”ได้เสียชีวิตลงบริเวณอ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 หมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจบาดแผลนอกเหนือบาดแผลจากการต่อสู้กับช้างด้วยกันแล้ว พบบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซอง ปืนขนาด .38 และปืนขนาด.22 ถึง 186 นัด ฝังอยู่บริเวณผิวหนังก่อนทางอุทยานฯได้แจ้งความไว้เพื่อหาตัวคนยิง

“ช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างที่มีอายุมากแล้วไม่สามารถเข้าฝูงกับช้างหนุ่มได้ จึงถูกช้างงาไล่แทงขับออกจากฝูงและออกมาหากินพืชผลของชาวบ้านในชุมชน ก่อนถูกชาวไร่ใช้ปืนยิงขับไล่ ซึ่งบาดแผลจากถูกกระสุนปืนบางนัดทำให้เกิดอักเสบ บวกกับบาดแผลที่ชนกันเองติดเชื้อเป็นหนองรุนแรงจนเสียชีวิต จากการตรวจสอบกระสุนปืนฝังที่ตัวช้างมาหลายปีแล้วอีกทั้งแก่งกระจานก็มีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมหลายอำเภอทั้งเพชรบุรี-ประจวบฯ ขณะนี้ได้มอบกระสุนทั้งหมดให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด(พฐ.)เพชรบุรี นำไปตรวจเปรียบเทียบหาอาวุธปืนว่าใครเป็นผู้ครอบครองเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” 

13 มีนาคม ของทุกปี กำหนดเป็น ‘วันช้างไทย’ ปลูกฝัง ปชช. หันอนุรักษ์สัตว์คู่บ้านคู่เมือง

‘ช้าง’ เป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์และผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยโบราณ ช้างเป็นพระราชพาหนะเคียงคู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ไทยทุกยุคทุกสมัยเลยทีเดียว แต่สมัยปัจจุบัน คนไทยกลับเห็นคุณค่าและความสำคัญของช้างไทยลดลงไปทุกขณะ จนช้างถูกนำไปเร่ร่อนหาผลประโยชน์โดยควาญช้าง และล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นทุกที 

ดังนั้น เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญ และการดำรงอยู่ของช้างไทย รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทุกคนหันมาช่วยกันอนุรักษ์ช้าง ทางคณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบกำหนดให้ทุก ๆ วันที่ 13 มีนาคมของทุกปีเป็นวันช้างไทย 

ทั้งนี้ วันช้างไทยริเริ่มขึ้นจากคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงาน องค์การภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทยคณะกรรมการ เอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น จะช่วยให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น

คณะอนุกรรมการฯ จึงได้พิจารณาหาวันที่เหมาะสม ซึ่งครั้งแรกได้พิจารณาเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำยุทธหัตถีมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา แต่วันดังกล่าวถูกใช้เป็นวันกองทัพไทยไปแล้ว จึงได้พิจารณาวันอื่น และเห็นว่าวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจำชาติ มีมติให้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสม จึงได้นำเสนอมติตามลำดับขั้นเข้าสู่คณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 เห็นชอบให้ วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็น ‘วันช้างไทย’ และได้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2541

สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ เข้าตรวจสุขภาพช้าง ปางช้างสวนนงนุชพัทยา ตามมาตรฐานปางช้างประเทศไทย

ในวันที่ 18 มี.ค. 66 สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ โดย นางสาวภัทร เจริญภัณฑ์  นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษปฎิบัติหน้าที่ราชการในฐานะผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ เข้าตรวจเยี่ยม พร้อมทั้งให้บริการตรวจสุขภาพ ทำทะเบียนประวัติช้างเก็บตัวอย่างเลือด โดยมีกำหนดเข้าปฎิบัติงานที่ปางช้างสวนนงนุชพัทยาในวันที่ 18 ถึง 20 มีนาคม 2566 

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า ต้องขอบคุณสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ จ. สุรินทร์ เป็นอย่างมากที่เข้ามาให้บริการตรวจสุขภาพช้าง ณ ปางช้างสวนนงนุชพัทยา ปัจจุบันทางปางช้างสวนนงนุชพัทยาดูแลช้างกว่า 60 เชือก  และในวันเดียวกันนี้ทางสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ กองสวัสดิภาพสัตว์ สัตวแพทย์บริการ กรมปศุสัตว์  และโรงพยาบาลช้างลำปาง สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ ได้มอบเวชภัณฑ์ พยาธิเพื่อพัฒนาสุขภาพ และเวชภัณฑ์สำหรับประถมพยาบาล ในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นสำหรับช้าง ไว้ให้กับปางช้างสวนนงนุชพัทยา

‘พลายประตูผา’ ช้างไทยอีกเชือกในศรีลังกา สภาพผอม-อิดโรย หลังถูกพาตัวออกนอกวัด เพื่อเลี่ยงไม่ให้เจอทีม จนท.ไทย

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 66 เหล่าคนรักช้างเป็นห่วง หลังมีข่าวพบ ‘พลายประตูผา’ 1 ใน 3 ช้างไทยในศรีลังกา ถูกพาตัวไปนอกพื้นที่วัด เพื่อเลี่ยงไม่ให้เจอกับคณะทีมงานไทย ก่อนจะมีภาพพ่อพลายแพร่ออกมาว่อนเน็ต ว่าสภาพผอมอิดโรยชรามากแล้ว

‘พลายประตูผา’ เป็นช้างไทยมีอายุประมาณ 49 ปี ที่ทางการไทยส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรี ตั้งแต่ พ.ศ.2522 จนถึงปัจจุบันนี้รวมเวลา 44 ปี ที่พลายประตูผาอยู่ที่ประเทศศรีลังกา

ซึ่งตามข้อมูลพลายประตูผา อยู่ที่วัด Sri Dalada Maligawa เมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา แต่เมื่อมีข่าวว่าจะมีคณะของไทยเข้าเยี่ยม ทางวัดได้พาพลายประตูผาย้ายไปที่อื่น อ้างว่าช้างกำลังตกมัน ไม่ให้เข้าเยี่ยม

ด้าน ดร.ชญาน์นันท์ อัศวธรรมานนท์ อาจารย์ประจำสาขาพระพุทธศาสนา-วิทยาลัยสงฆ์ ชาวไทยที่อยู่ศรีลังกา ได้ออกตามหาพลายประตูผาจนพบ พร้อมวอนให้ช่วยพาพลายประตูผากลับไทยด้วย

โดย ดร.ชญาน์นันท์ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ข้อความส่วนหนึ่งว่า…

“ให้พลายประตูผาได้รับเพียงการเยี่ยมเยียนก็ยังดี เพื่อช่วยคลายโซ่ที่มัด 3 ขาจนเป็นแผล มีรอยแผลยับเยินและรีบใช้ยาดี รวมถึงทีมสัตวแพทย์ช่วยกันรักษานะคะ… กล้าหาญเพื่อพลายประตูผาอีก 1 เชือกที่กำลังรอคอยคนไทยนะคะ เอาใจช่วยพ่อพลายประตูผา ให้ได้รับการดูแลให้ดีกว่า หรือจะให้ดีที่สุด ให้พ่อพลายได้กลับไทยสู่บ้านเกิดด้วยนะคะ”

รู้หรือไม่ประเทศไทยเคยใช้ธงชาติเป็น ‘รูปช้างเผือก’

🔍 กว่าจะมาเป็นธงชาติแบบปัจจุบันนี้ รู้หรือไม่ประเทศไทยเคยใช้ธงชาติเป็น ‘รูปช้างเผือก’ ซึ่งชาวไทยเชื่อกันว่าช้างเผือกเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ ช้างเผือกจึงได้รับการยกย่องเสมือนเจ้านาย และเป็นสัตว์ประจำชาติไทย ว่าแต่ช้างไทย อยู่บนธงรัชกาลใดบ้าง? มาดูกันเลย!!

'ฝ่ายค้านศรีลังกา' ลั่น!! หากมารับช้าง 2 เชือกกลับไทย มีฟ้อง!! ชี้!! การขอของขวัญที่มอบให้คืนนั้น 'ผิดจรรยาบรรณ'

รายงานจากสำนักข่าวท้องถิ่นศรีลังกา เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 ระบุว่า นาย เนรัญชรา ไวเยรัตเน นักการเมือง ผู้นำฝ่ายค้าน อดีตผู้นำผู้ปกครองสำนักงานของหัวหน้าฝ่ายอุปัฏฐาก Sri Dalada Maligawa วัดพระเขี้ยวแก้ว หัวหน้าฝ่ายฆราวาส มีอำนาจหลายอย่างจัดการส่งเสริมเกี่ยวกับวัดในเมืองแคนดี้  

เนรัญชรา ไวเยรัตเน ให้ข้อมูลผ่านสื่อศรีลังกาว่าช้างไทยราชา ได้รับมอบเป็นของขวัญแก่ วัดศรีดาลดา มาลิกาวา (วัดพระเขี้ยวแก้ว) จากพระมหากษัตริย์ไทยเมื่อ 37 ปีที่แล้ว และมีสุขภาพแข็งแรงดี

NGO องค์กรเกี่ยวกับสัตว์ บางรายในศรีลังกากำลังส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปยังรัฐบาลไทยเกี่ยวกับช้าง

หากมีการพยายามนำช้างที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทยกลับไปยังประเทศไทยนั้น จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยสำหรับค่าใช้จ่ายในการบำรุง ดูแล รักษาช้างจนถึงปัจจุบัน

ช้างได้รับการดูแลอย่างดีจากรุ่นพี่ที่จบทางด้านสัตวแพทย์ศาสตร์ ตั้งแต่รับช้างมาเมื่อ 37 ปีก่อนใช้เงินจำนวนมหาศาลในการดูแล

นอกจากนี้เขายังชี้ให้เห็นว่าการขอของขวัญที่มอบให้คืนนั้นผิดจรรยาบรรณ

(สำหรับการแห่พระบรมสารีริกธาตุศักสิทธิ์ แห่พระเขี้ยวแก้ว เปรียบเสมือนการถวายของแก่พระพุทธเจ้า มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ที่อาจละเลยไม่ได้)

ด้าน NGO องค์กรเกี่ยวกับสัตว์ ที่พึ่งพาเงินจากต่างประเทศกำลังทำงานเพื่อส่งช้าง 2 เชือกกลับประเทศไทย ตามคำกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของไทย ได้กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า หากคนไทยเรียกร้อง พวกเขาพร้อมที่จะนำช้างที่เหลืออีก 2 เชือกกลับไทย 

เนรัญชรา ไวเยรัตเน กล่าวอีกว่า "ข้าพเจ้าทูลขอต่อพระเจ้าภูมิพลมหาราชาแห่งประเทศไทย ขอให้ถวายลูกช้างแก่ วังดาลดา (วัดพระเขี้ยวแก้ว) คำขอนั้นได้รับมอบช้างในปี 2529...ลูกช้างตัวนี้ถูกนำมาโดยเครื่องบินรบเครื่องบินขนส่งของอเมริกา และได้รับอนุมัติพิเศษจาก เจอาร์ เจวาร์ดีน ผู้นำศรีลังกาในสมัยนั้น"

ช้างตัวแรก มุทุราชา (พลายศักดิ์สุรินทร์) นั้นได้ส่งกลับถึงประเทศไทยแล้ว องค์กรเกี่ยวกับสัตว์กำลังพยายามจะนำช้างอีก 2 เชือกกลับในปัจจุบัน

✍️ อื่นๆ
*ศรีลังกา มีการแห่พระเขี้ยวแก้ว  พระบรมสารีริกธาตุ...แห่อื่นๆ จำนวนมาก หลายวัด ใช้ช้างมากถึง 150 เชือก+

ในการแห่ มีหลายแบบ ช้างทรงเครื่องตกแต่ง แห่ 20.00-02.00 + น. บางกรณีช้างเดินหลายกิโลเมตร 

*ช้างเอเชียในศรีลังกานั้นตัวใหญ่แต่ไม่เข้าตำรา เนื่องจากงาสั้น งายาวสุด 20 ซม. ช้างพม่า อินเดีย ไทย เข้าเกณฑ์ งายาว สวยงามตามตำรา จึงถูกขอจากศรีลังกาในโอกาสต่างๆ และถูกส่งมอบให้  ไทย อินเดีย พม่า ศรีลังกา มีความเชื่อมโยงทางศาสนา ประเพณี 

*การแห่พระเขี้ยวแก้ว มีมามากกว่า 270 ปี  
*หลายวัดของศรีลังกา เลี้ยงดูช้าง ที่เข้าตำราสง่า ไว้ร่วมกิจกรรมแห่ต่างๆ การแห่ขบวนด้วยช้างจำนวนมาก ได้รับความสนใจจากคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว

แฟนคลับดีใจ!! หลังเปิดให้เยี่ยม ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ ได้ทุกวัน ชวนชมความน่ารักของพ่อพลายได้ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง

(7 ก.ย. 66) แฟนคลับพ่อพลายศักดิ์สุรินทร์ดีใจ หลังทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง แจ้งข่าวให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมพ่อพลายได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. - 16.00 น.

เฟซบุ๊กเพจ ‘ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center’ Lampang โพสต์ข้อความว่า…

“FC ที่ต้องการเยี่ยมชม #พลายศักดิ์สุรินทร์ เราเปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. - 16.00 น. นะจ๊ะ” 🙏❤️🐘

กิจกรรมการท่องเที่ยว ก็ยังเปิดให้บริการเหมือนเดิมจ้า
🐘 ช้างอาบน้ำ
เวลา 10.45 น. และ 13.15 น.
🐘 ห้องเรียนของช้าง (การแสดงความสามารถของนักเรียนช้าง)
เวลา 11.00 น. และ 13.30 น.

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามรับชม Live ตามติดชีวิตพ่อพลายศักดิ์สุรินทร์ได้ทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 16.00 - 16.30 น. ทางเพจศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ [email protected] หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline

‘พลายแดนสยาม’ ช่วยลากต้นไม้ใหญ่กลางถนนเชียงราย หลังลมพัดหักขวางทางจราจร โซเชียลแห่ชมในความแสนรู้ 

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 66 หลังเกิดฝนตกหนักและลมพัดแรงในหลายพื้นที่ของเชียงรายตั้งแต่หัวค่ำ โดยเฉพาะเขตอกเภอเมืองเชียงราย ฝนและลมทำให้พ่อค้าแม่ขายบนถนนคนเดิน ซึ่งจัดขึ้นทุกคืนวันเสาร์ ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ต้องรอจนฝนซาถึงกลับมาเปิดบริการกันอีกครั้ง แต่ผู้คนก็บางตา

นอกจากนี้ ลมพายุที่พัดแรง ยังพัดเอาต้นไม้และกิ่งไม้ทับถนนหมายเลข 1022 พื้นที่หมู่ 17 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จนรถราไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นที่ตั้งของ ‘ปางช้างเผือกเชียงราย & mini zoo’ เมื่อลม-ฝนสงบลง ทางปางช้างได้นำช้างเพศผู้ชื่อ ‘พลายแดนสยาม’ ซึ่งเป็นช้างแสนรู้เฉลียวฉลาดออกมาร่วมกับชาวบ้าน ชักลากต้นไม้ใหญ่ที่ไม่สามารถใช้แรงคนเคลื่อนย้ายออกจากพื้นผิวจราจรไปได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่และชาวบ้านก็ช่วยกันเก็บกวาดส่วนที่เหลือ ซึ่งเป็นกิ่งไม้ใบไม้ออกไป จนสามารถเปิดใช้ถนนสัญจรไปมาได้ตามปกติ

ทั้งนี้ ทางปางช้างเผือกฯ ได้บันทึกคลิปการทำงานของพลายแดนสยาม และเผยแพร่ทางเพจ ‘Chang Puak Camp Chiang Rai’ ซึ่งมีผู้เข้าไปชมและแชร์กันออกไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีผู้ที่เข้าไปแสดงความเห็นชื่นชมในความแสนรู้ และน่ารักของพลายแดนสยามกันอย่างเนืองแน่นด้วย

‘กัญจนา’ ไม่เห็นด้วย!! นำ ‘หมีแพนด้า’ เข้าไทย แนะ!! ควรเอาเงินไปดูแล ‘ช้าง’ บ้านเราดีกว่า

เมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง หารือกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ รมว.การต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหวัง อี้ยินดีสนับสนุนให้ส่งหมีแพนด้ามายังประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งนั้น ระบุว่า "เคยแสดงความไม่เห็นด้วยไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปีก่อน ตอนมีข่าวใหม่ๆ ทั้งที่ดิฉันเป็นคนที่รักแพนด้ามาก

ขอกล่าวเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยอีกครั้ง

1. แพนด้าอยู่จีนดีแล้ว เขาเลี้ยงแต่ละตัวในพื้นที่กว้าง มีสนามส่วนตัว อากาศเหมาะสม

2. ส่วนจัดแสดงแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่เล็ก พื้นที่จำกัด เป็นห้องแอร์ ไม่เป็นธรรมชาติเลย แพนด้าจะมีโอกาสออกสวนเล็กๆ ยามอากาศหนาวเพียงไม่เกินปีละ 1 สัปดาห์ ที่เขาจะได้เจออากาศธรรมชาติ

3. ค่าเช่าแพนด้าแพงมาก ปีละหลายสิบล้าน

4. กระแสแพนด้าในไทยหมดไปแล้ว

5. กระแสช้างไทยมาแรง ควรใช้เงินดูแลช้างและสัตว์ในบ้านเรา รวมทั้งทำแหล่งอาหารสัตว์ป่า แก้ปัญหาระหว่างคนกับช้าง

สรุป... แพนด้าอยู่จีนดีกว่า ควรใช้เงินเพื่อสัตว์ในบ้านเรา และไม่ควรใช้สัตว์เป็นทูตแล้ว"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top