Friday, 29 March 2024
Tutor

HSK คือ การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนมาตรฐานสากลสำหรับผู้ที่ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาที่สอง เพื่อวัดความสามารถในการนำภาษาจีนไปใช้ในชีวิตประจำวัน การทำงานและการเรียน

รวมรายชื่อ 14 สถาบันจัดสอบ HSK ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด

1. สถาบันขงจื่อแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

https://www.chula.ac.th/academic/confucius-institute/

2. สถาบันขงจื่อแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา http://cibsru.th.chinesecio.com/node

3. สถาบันขงจื่อแห่งมหาวิทยาลัยบูรพา

http://confucius.buu.ac.th/th/?page_id=180

4. มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

https://clc.hcu.ac.th/index.php

5. ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

https://sclc.mfu.ac.th/sclc-home.html

6. วิทยสถานแห่งวัฒนธรรมตะวันออก (OCA)

http://www.ocanihao.com/index.php?route=common/home

7. สถาบันขงจื่อแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

https://confucius.human.ku.ac.th/

8. สถาบันขงจื่อแห่งมหาวิทยาลัยสวนดุสิตสุพรรณบุรี

https://ilac.dusit.ac.th/2020/10/3433.html/

9. โรงเรียนช่องฟ้าซินเซิง วาณิชย์บำรุง จังหวัดเชียงใหม่

http://www.chongfah.ac.th/?p=87988

10. สถาบันขงจื่อแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

http://www.ci.cmu.ac.th/tha/index.php

11. ศูนย์สอบสถาบันขงจื๊อ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

https://confucius.kku.ac.th/home/th/

12. สถาบันขงจื่อแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

https://www.psu.ac.th/th/node/614

13. มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปีกกิ่ง กรุงเทพฯ

http://www.blcubangkok.com/detailblcubangkok.php?qno=1

14. มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

http://www.rbru.ac.th/


ขอบคุณที่มา: https://www.facebook.com/101346805058193/posts/215189883673884/

Apple สนับสนุนการศึกษาในไทยเปิดตัว 2 เว็บไซต์สำหรับการศึกษาระดับอุดมศึกษา เว็บไซต์สำหรับสถาบันการศึกษาและเว็บไซต์ให้ข้อมูลกับนักศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ Apple

Apple เดินหน้าสนับสนุนการศึกษาในประเทศไทยเปิดตัว 2 เว็บไซต์สำหรับการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยเว็บไซต์แรกเป็นเว็บไซต์สำหรับสถาบันการศึกษา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มของ Apple เพื่อการสอน สร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจในระดับอุดมศึกษา รวมถึงกรณีศึกษาการนำนวัตกรรมไปใช้เพื่อส่งเสริมการศึกษาจากสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วโลก

ส่วนอีกหนึ่งเว็บไซต์มุ่งเน้นให้ข้อมูลกับนักศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ Apple รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อช่วยให้นักศึกษาระดับอุดมศึกษาประสบความสำเร็จในการเรียน ไม่ว่าจะเรียนในสาขาใดก็ตาม นำเสนอเทคนิคดีๆ ในการใช้งานเพื่อการเรียน รวมถึงคำแนะนำ และประสบการณ์การใช้งานที่น่าสนใจจากนักศึกษาทั่วโลก

ชมเว็บไซต์สำหรับสถาบันการศึกษาได้ที่ https://www.apple.com/th/education/higher-education/

ชมเว็บไซต์สำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษาได้ที่ https://www.apple.com/th/education/college-students/

ในโอกาสเปิดตัวเป็นครั้งแรก Apple นำเสนอกรณีศึกษาภายใต้หัวข้อ Innovation in Action โดย ดร.มยุรี ศรีกุลวงศ์ ผู้ช่วยศาตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มาบอกเล่าการใช้ iPad Pro ในการสอนแนวคิดเชิงคำนวณ และช่วยนักศึกษาในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชุมชน สอนให้ทุกคนรู้จักวิธีใช้ Swift Playgrounds เพื่อออกแบบแอปที่ช่วยแก้โจทย์ความท้าทายในท้องถิ่นที่พวกเขาได้พบ

ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.apple.com/th/education/higher-education/innovation-in-action/


ที่มา: https://www.techoffside.com/2021/02/apple-website-education/

แชร์เก็บไว้เลย! ตารางสอบของเด็ก'64 ที่ The Study Times รวบรวมมาให้แล้ว เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

GAT/PAT

วันสอบ 20 - 23 มี.ค. 64

ประกาศผล 23 เม.ย. 64

 

O-NET

วันสอบ 27 - 28 มี.ค. 64

ประกาศผล 27 เม.ย. 64

 

9 วิชาสามัญ

วันสอบ 3 - 4 เม.ย. 64

ประกาศผล 29 เม.ย. 64

 

วิชาเฉพาะของแต่ละสถาบัน

วันสอบ 6 - 10 เม.ย. 64

ประกาศผล สถาบันกำหนด

ใกล้วันสอบที่สำคัญอย่าง GAT/PAT หลายคนอาจตื่นเต้น! อยากรู้ว่าตัวเองจะนั่งอยู่ส่วนไหนของห้องสอบ ปกติแล้วผังที่นั่งสอบสนามสอบ GAT/PAT มีการจัดแถว/ตอนที่นั่งยังไงบ้าง ไปลองดูกัน

โซนหน้าห้อง คือ ตอน 1 ตั้งแต่แถว 1-5

โซนหลังห้อง คือ ตอน 6 ตั้งแต่แถว 1-5

โซนริมหน้าต่าง คือ แถว 5 ตั้งแต่ตอน 1-6

*จากภาพประกอบนี้เป็นการจัดผังที่นั่งแบบ Basic ของสนามสอบหลาย ๆ แห่ง บางสนามสอบที่ใช้ห้องเรียนพิเศษที่มีขนาดใหญ่อาจจะมีแถว 6 เพิ่มมา

*การจัดแถว/ตอน ในบางสนามสอบอาจจะสลับกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกและขนาดของพื้นที่ห้องสอบ

ส่องปรากฏการณ์ "Clubhouse" แพลตฟอร์มแชทด้วยเสียงที่กำลังเป็นกระแสความนิยมในขณะนี้ กับความท้าทายสถาบันการศึกษาของไทย ที่กำลังเผชิญกับอีกคลื่นหนึ่งของการดิสรัปชั่นที่ทำให้ตกไปจากเส้นความสนใจ และต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อสนองตอบต่อคนรุ่นใหม่

ช่วงสองสัปดาห์นี้หน้านิวส์ฟีดของทุกคนคงเต็มไปด้วยเรื่องของ Clubhouse โซเชียลมีเดียที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในสังคมไทยขณะนี้ ทุกวงการต่างกล่าวถึงการเข้าไปแลกเปลี่ยนพูดคุยกันบนแพลตฟอร์มนี้ ตั้งแต่เรื่องธุรกิจ สังคม การเมือง ไปจนกระทั่งเรื่องจิปาถะในห้องที่เปิดให้พูดคุย ฟัง แสดงความเห็นอย่างหลากหลาย

ความโด่งดังยิ่งเพิ่มขึ้นจากการต้องถูกเชิญจากผู้ที่เข้าไปเป็นสมาชิกก่อนหน้า ความยากและการจำกัดจำนวนที่ไม่ใช่ใครก็ได้ เลยทำให้ยิ่งเพิ่มความกระหายของผู้คน จน Clubhouse ดังเปรี้ยงในชั่วข้ามคืน ไม่นับรวมการเข้าร่วมของคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันในสังคม จนคนที่กลัวตกขบวนต้องขวนขวายเข้าไปใน Clubhouse ด้วย

ความหลากหลายในประเด็นที่พูดคุย ผู้ตั้งประเด็น ผู้ร่วมคุยร่วมฟังและให้ความเห็นจะเป็นตัวทำให้ Clubhouse ร้อนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีกจากความง่าย ความสด ความเร็ว และการมีส่วนร่วมในประเด็นต่างๆ ในไม่ช้าจะได้เห็นแพลตฟอร์มเช่นนี้ออกมาอีกหลายราย ซึ่งก็จะเป็นเรื่องดีที่เราจะมีช่องทางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างหลากหลายจากผู้รู้จริง ทำจริงที่จะทำให้ความรู้แตกฉานไปได้อีกมากมายในสังคม

ความท้าทายอย่างยิ่งภายใต้ปรากฏการณ์ Clubhouse คือสถาบันการศึกษาของไทยกำลังจะเผชิญกับอีกคลื่นหนึ่งของการดิสรัปชั่นที่จะกวาดให้สถาบันการศึกษาตกไปจากเส้นความสนใจ หรือไม่ก็ต้องปรับตัวอย่างรุนแรงมากเพื่อสนองตอบต่อคนรุ่นใหม่ นักศึกษาจำนวนไม่น้อยบอกว่าการเข้าไปคุยกันใน Clubhouse ให้อรรถรสยิ่งกว่าการนั่งหน้าจอเรียนออนไลน์ที่ออกจะน่าเบื่อทั้งคนเรียนและคนสอนในเวลาที่มหาวิทยาลัยยังไม่เปิดอย่างตอนนี้

ที่กระทบหนักๆ แน่ๆ ในเบื้องต้นคือ ตลาดการฝึกอบรมที่น่าจะซบเซาหรือถูกกวาดล้างไปแทบจะสิ้นเชิง หลังจากที่เผชิญปัญหาหนักอยู่แล้วจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้การรวมตัวในการอบรมและสัมมนาใหญ่ๆ ทำไม่ได้อีกต่อไป การฝึกอบรมที่เคยทำรายได้ให้กับสถาบันการศึกษาและธุรกิจฝึกอบรมต่างๆ จะมี Clubhouse เป็นคู่แข่งโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Clubhouse สามารถทำได้ไม่แตกต่างกับการอบรมในห้องเรียน แถมได้วิทยากรหรือกูรูชื่อดังมาพูดให้ฟังโดยไม่ต้องเชื้อเชิญ สามารถรองรับคนได้ครั้งละหลายพัน ที่สำคัญคือฟรี ในที่สุด Clubhouse ยังจะกลายไปทำหน้าที่แทนบริษัทที่ ปรึกษาอีกด้วย ลองนึกภาพห้องสนทนาที่รวมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างๆ มารวมกันเพื่อชี้แนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ปัญหาการทำมาหากิน ปัญหาครอบครัว ปัญหาสุขภาพ ฯลฯ การฝึกอบรมที่จะยืนหยัดอยู่ได้จึงต้องเป็นการอบรมแบบเข้มข้นสามารถหวังผลสัมฤทธิ์ได้ทันทีคนจึงจะยอมเสีบเงินมาอบรม ถ้าจะให้มานั่งฟังวิทยากรพูดเฉยๆ ทุกคนก็สามารถหาได้จาก Clubhouse

การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยต้องปรับตัวอย่างแรง ที่จริงถึงไม่มี Clubhouse ก็ต้องปรับกันหนักอยู่แล้ว การสอนเลคเชอร์แบบเดิมๆ ของอาจารย์จะไม่เป็นที่ศรัทธาของนักศึกษาอีกต่อไป หรือจะเชิญวิทยากรมาร่วมสอนในชั้นก็ไม่อาจเทียบความเข้มข้นได้กับหมู่กูรูชื่อก้องใน Clubhouse ที่เขาสามารถสร้างตัวตนหรือแฟนคลับได้ง่ายและกว้างขวางโดยไม่ต้องพึ่งมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะด้านสังคมศาสตร์จะต้องปรับปรุงหลักสูตรให้สามารถลงมือทำจริงได้มากขึ้น วิชาประเภทท่องตำรามาสอบต้องเลิกเสียทีแล้วหันมาโฟกัสกับการลงมือทำ หลายๆ วิชาสามารถยุบรวมกันได้ จำนวนหน่วยกิตที่เรียนต้องลดลงแล้วหาเวทีจริงให้นักศึกษามากขึ้น ที่สำคัญการเรียนแบบวิชาเอกหรือที่เรียกกันว่าไซโลเป็นเรื่องล้าสมัยแล้ว นักศึกษากระหายที่จะเรียนรู้ในเรื่องที่ไม่มีให้เขาเรียนที่อื่น กระหายที่จะข้ามศาสตร์ไปหาสิ่งที่เขาอยากค้นหา โดยไม่ติดกับคณะหรือวิชาเอก

ธรรมศาสตร์คิดเรื่องนี้มาตลอด ปริญญาที่เรียกว่า “ธรรมศาสตรบัณฑิต” จะทำให้นักศึกษารอบรู้ ทำได้จริง ทำเป็น โดยไม่ต้องติดว่าเมเจอร์อะไร นักศึกษาควรได้ความคล่องตัวในการออกแบบหลักสูตรที่เขาเชื่อว่าตรงกับความถนัดและโอกาสที่จะออกไปเลี้ยงชีพเขาในอนาคต ไม่ใช่ถูกกำหนดมาจากระเบียบข้อบังคับในการเรียนของมหาวิทยาลัย

ไม่น่าเชื่อว่า Clubhouse จะพลิกโฉมมหาวิทยาลัยไทยได้รวดเร็วพอๆ กับโควิด-19 เลยทีเดียว


ขอบคุณที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923949

สถิติการคัดเลือก TCAS64 รอบที่ 1 แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)

ผู้สมัคร 151,609 คน
ผู้ผ่านการคัดเลือก 101,097 คน

ผู้ยืนยันสิทธิ์ 77,990 คน
ผู้ไม่ใช้สิทธิ์ 17,847 คน (ไม่ดำเนินการใด ๆ) + 5,260 คน (กดไม่ใช้สิทธิ์) รวม 23,107 คน
ผู้สละสิทธิ์ 1,574 คน

ผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาทั้งหมด 76,416 คน

ที่มา: https://www.facebook.com/567180110004511/posts/3683861175003040/?sfnsn=mo

ไขข้อข้องใจ การสอบ SAT คืออะไร? ทำไมต้องสอบ? จำเป็นไหม? ทำความรู้จักกับสนามสอบสำคัญอย่าง SAT ในทุกแง่มุมที่ควรรู้

ในประเทศสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ล้วนใช้คะแนนจากการสอบ SAT หรือ Scholastic Aptitude Test เพื่อยื่นสมัครเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งข้อสอบตัวนี้ยังเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงหลักสูตรอินเตอร์ในประเทศไทย

ชวนมาทำความรู้จักกับสนามสอบสำคัญอย่าง SAT ในทุกแง่มุมที่ควรรู้ เพื่อนำไปสู่การพิชิตคะแนนในฝัน

SAT คืออะไร?

SAT คือ การสอบเพื่อนำคะแนนไปยื่นในระดับอุดมศึกษา ณ ต่างประเทศ

โดยตัวข้อสอบนั้นจะได้รับการพัฒนาจากองค์กร College Board อย่างสม่ำเสมอ เพื่อทดสอบว่าคุณเป็นคนที่มีทักษะการอ่าน การวิเคราะห์ และการเขียนที่ดีในระดับมาตรฐานที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งส่วนที่จะถูกเน้นความสำคัญมากที่สุดคือ Mathematics และ Reading & Writing

อายุเท่าไหร่ถึงสอบได้?

การสอบ SAT ไม่ได้มีการกำหนดอายุของผู้เข้าสอบ แต่เนื่องจากคะแนนจะมีอายุแค่ 2 ปีนับตั้งแต่วันที่ประกาศผล ดังนั้นจึงนิยมสอบกันอย่างเร็วที่สุดในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ลักษณะการสอบ SAT:

ข้อสอบ SAT มี 2 PARTS ได้แก่

1.) Evidence-Based Reading & Writing

ใช้เวลา 1 ชม. 40 นาที (คะแนนเต็ม 800) แบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ชุด คือ

– Reading มี 52 ข้อ

– Writing and Language มี 44 ข้อ จาก 4 บทความ

2.) Mathematics

ใช้เวลา ใช้เวลา 1 ชม. 20 นาที (คะแนนเต็ม 800) แบ่งข้อสอบเป็น 2 ชุด คือ

– Math Test : Calculator มี 38 ข้อ เป็นทั้งแบบ Choice และ เติมคำตอบ โดยสามารถใช้เครื่องคิดเลขในการช่วยคำนวณได้

– Math Test : No Calculator มี 20 ข้อ เป็น Choice 16 ข้อ และเติมคำตอบ 4 ข้อ โดยห้ามใช้เครื่องคิดเลข คะแนนเต็ม 1,600 (Part ละ 800 คะแนน) ตอบผิดไม่ติดลบ

วิธีสมัครสอบ:

การสมัครสอบสามารถทำได้ผ่านทางออนไลน์ โดยจะต้องชำระเงินล่วงหน้าผ่านทางช่องทางที่กำหนด

ที่สำคัญ ควรเช็คสถานที่สอบที่ใกล้ที่สุดเพื่อความสะดวก และควรวางแผนการสมัครแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากสถานที่สอบหลายแห่งมักเต็มเร็ว ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพื่อไปสอบที่อื่นแทน

คะแนนนี้มีผลอย่างไร?

คะแนนจากการสอบทั้งหมดสูงสุดจะอยู่ที่ 1,600 คะแนน (พาร์ทละ 800 คะแนน) ค่าเฉลี่ยที่คนส่วนใหญ่ทำได้จะอยู่ที่ 1,060 คะแนน นั่นหมายความว่าหากยิ่งทำคะแนนได้สูง โอกาสที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ก็ยิ่งมีมาก

ทำอย่างไรให้ได้คะแนนดี?

สิ่งแรกที่ควรศึกษา คือรูปแบบการสอบ SAT และการฝึกทำข้อสอบปีเก่า ๆ เพื่อให้รู้ว่าตัวเองพลาดตรงส่วนไหน อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์ได้ว่าควรตอบลักษณะไหนจึงจะเข้าข่ายข้อถูกมากที่สุด

SAT เทียบกับ ACT อย่างไหนดีกว่า?

การสอบทั้งสองแบบมีความแตกต่างไปตามความถนัด ซึ่งโดยส่วนมาก มหาวิทยาลัยมักจะรับผลคะแนนทั้งสองแบบในการสมัครเข้าเรียน

หากคุณถนัดในสายวิทยาศาสตร์ ACT อาจตอบโจทย์มากกว่า SAT ที่เน้นไปในด้านคณิตศาสตร์ สิ่งสำคัญคือการทบทวนข้อสอบและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับในส่วนของการเปิดรับสมัคร ในแต่ละปี College Board จะประกาศเปิดสอบเป็นรอบ ๆ ทำให้สามารถติดตามข่าวสารได้โดยตรงทั้งบนเว็บไซต์ หรือหน้าเพจที่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลดังกล่าว

ใครที่รู้ตัวว่าอยากไปเรียนต่อ หรือกำลังรอสอบรอบต่อไป อย่ารอช้า เตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่วันนี้ แล้วไปลุยเลย!


ขอบคุณที่มา

https://www.wegointer.com/2021/02/what-students-should-know-about-the-sat/

https://www.bachelorstudies.com/article/what-students-should-know-about-the-sat/

https://www.ignitebyondemand.com/sat-คืออะไร/

ประกาศรับสมัครสอบ EJU (Examination for Japanese University Admission for International Students) การสอบเพื่อวัดความรู้ทางภาษาญี่ปุ่น รอบ 1 ประจำปี 2564

การสอบ EJU เป็นการสอบสำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีและอุดมศึกษาอื่นๆ (เช่นวิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิค) ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อวัดระดับความสามารถภาษาญี่ปุ่นและความรู้พื้นฐานทางวิชาการ

ประกาศกำหนดรับสมัครสอบ EJU รอบ 1 ประจำปี 2564

สอบวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2564

==============================

1st Session : รอบแรก

รับสมัคร : ถึงวันที่ 12 มีนาคม

วันสอบ : วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2564

==============================

สถานที่รับสมัคร

หมายเหตุ* ประสงค์สอบที่ใด สมัคร ณ สนามสอบนั้น

สนามสอบ กรุงเทพฯ

???? องค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น (JASSO)

โทร: 0-2661-7057-8

???? สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่นในพระบรมราชูปถัมภ์ (OJSAT)

โทร: 0-2357-1241-5

(สาขาพหลโยธินและสาขาจามจุรีสแควร์)

https://www.ojsat.or.th/main/eju-1-2564/

สนามสอบ เชียงใหม่

???? สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่นฯ ภาคเหนือ (ตรงข้ามวัดพระสิงห์) โทร. 053-272-331, 080-491-1298

https://www.facebook.com/ojsatn/posts/3684252071664906

==============================

ค่าสมัคร

- กรณีสมัครด้วยตนเอง 419 บาท

- กรณีสมัครทางไปรษณีย์ 439 บาท (รวมค่าบริการ)

เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร

รูปถ่ายผู้สมัคร 1 นิ้ว 3 ใบ

==============================

Download คู่มือ Mini Student Guide

• การสอบ EJU คืออะไร

• ประโยชน์ของการสอบ EJU

• สถานที่รับสมัคร ข้อสอบเก่า ฯลฯ

https://goo.gl/Kybzqd


ที่มา: https://www.facebook.com/JASSO.Thailand/posts/4010680572285006

เด็กโรงเรียนไทยจะฝึกภาษาอังกฤษยังไงให้ปัง? หาคำตอบพร้อมกันวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม ผ่าน Facebook Live ของ THE STUDY TIMES!

อยากฝึกภาษาอังกฤษแต่ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร...? หาแรงบันดาลใจจากที่ไหน...? ควร focus อะไรก่อน...? แล้วเมื่อไหร่จะเห็นผล...?

เชื่อว่าผู้ปกครอง และน้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนไทยหลายท่าน คงจะเคยสงสัยว่าจะฝึกภาษาอังกฤษอย่างไรให้ได้ผลที่สุด ทุกวันนี้มีสื่อการสอนภาษาอังกฤษมากมายจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะทางโซเชียลมีเดีย Facebook, Instagram, Tik Tok ฯลฯ ควรจะเลือกอะไรดี? จำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินซื้อคอร์สเรียนพิเศษตามสถาบันสอนภาษา โรงเรียนกวดวิชา หรือไม่? ฝึกฝนด้วยตนเองเพียงพอมั้ย? ผ่านช่องทางไหนดี?

วันจันทร์ที่ 15 มีนาคมนี้ THE STUDY TIMES ร่วมกับ Edsy (www.edsy.co) ได้เชิญครูภาษาอังกฤษ มากประสบการณ์ มาร่วมให้คำตอบและแนะนำวิธีการฝึกภาษาอังกฤษแบบไม่มีกั๊ก

แล้วพบกันวันจันทร์หน้าครับ!

โดย ทีมงาน Edsy สตาร์ทอัพด้านการศึกษา

Line ID: @edsy.th


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top