Wednesday, 4 December 2024
Info

28 มหาเศรษฐี รวยสุดในไทย ปี 2023

นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) สื่อชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ประกาศการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลก หรือ 'The World’s Billionaires' หรือผู้มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประจำปี 2023

โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศส 'เบอร์นาร์ด อาโนลด์' เจ้าของอาณาจักร LVMH ขึ้นแท่นเป็นบุคคลที่ 'รวยที่สุดในโลก' ปี 2023 แทนที่แชมป์เก่าอย่าง 'อีลอน มัสก์' เจ้าของ Tesla และ SpaceX

ในส่วนของประเทศไทยมี 28 มหาเศรษฐีไทยที่ติดอันดับมหาเศรษฐีโลก ในปี 2023 ดังนี้

>>อันดับ 1
'เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์' ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) หรือ ซีพี ติดอันดับที่ 116 ของโลก มีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งหมด 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ รวยเพิ่มขึ้นกว่าการจัดอันดับในปี 2022 (ในปี 2022 ติดอันดับที่ 137 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

>>อันดับ 2
'เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี' ไทยเบฟเวอเรจ มีทรัพย์สิน รวมทั้งหมด 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับ 118 ของโลก รวยเพิ่มขึ้นกว่าการจัดอันดับในปี 2022 (ในปี 2022 ติดอันดับที่ 156 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

>>อันดับ 3
'สารัชถ์ รัตนาวะดี' กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ มีทรัพย์สิน รวม 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับที่ 141 ของโลก รวยเพิ่มขึ้นกว่าการจัดอันดับในปี 2022 (ในปี 2022 ติดอันดับที่ 161 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

>>อันดับ 4 
'สุเมธ เจียรวนนท์' เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ทรัพย์สิน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับที่ 425 ของโลก

>>อันดับ 5
'จรัญ เจียรวนนท์' เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มูลค่าทรัพย์สิน 5.9 พันล้านดอลลาร์ ติดอันดับที่ 437 ของโลก

>>อันดับ 6 มี 2 คน
'วานิช ไชยวรรณ' ไทยประกันชีวิต ติดอันดับที่ 721 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

'สมอุไร จารุพนิช' ลูกสาวคุณมนตรี เจียรวนนท์ ติดอันดับที่ 721 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 7
'นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ' กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ติดอันดับที่ 818 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 8
'สมโภชน์ อาหุนัย' พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ติดอันดับที่ 852 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 9
'ประยุทธ์ มหากิจศิริ' เจ้าพ่อเนสกาแฟ กลุ่มธุรกิจแบรนด์ P 80 และการขนส่งสินค้าทางเรือ ติดอันดับที่ 1,217 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 10 
'ฮาราลด์ ลิงค์' ผู้บริหารบี.กริม. ประเทศไทย ติดอันดับที่ 1,368 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

>>อันดับ 11 
'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ติดอันดับที่ 1,434 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวยเพิ่มขึ้นกว่าการจัดอันดับในปี 2022 (ในปี 2022 ติดอันดับที่ 1,512 มูลค่าทรัพย์สิน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

5 อันดับ ล่าสุด!! สกุลเงินสำรองระหว่างประเทศ

ผลกระทบของสงคราม 'รัสเซีย-ยูเครน' ที่ส่งผลให้ระบบการเงินโลกเริ่มแยกขายออกเป็น 2 ส่วน ระหว่างระบบการเงินฝั่งสหรัฐฯ และระบบการเงินฝั่งจีนแล้วนั้น จะสังเกตได้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สกุลเงินหยวนคล้ายจะได้รับ 'อานิสงส์' จากเหตุการณ์ดังกล่าวในการปรับสถานะมาเป็น 'สกุลเงินม้ามืด' ที่อาจเข้ามาแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมือง และการทหารอย่าง 'สหรัฐอเมริกา' ได้

ทั้งนี้หากย้อนไป เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า ซินเฉิง กรุ๊ป (Xin Cheng Group) ของจีนและบริษัท ไชน่า นอร์ท อินดัสทรีส์ กรุ๊ป (China Industry Group) ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลายฉบับกับบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ซาอุดี อารามโก (Saudi Aramco) หนึ่งในนั้นคือความร่วมมือสร้างโรงกลั่นน้ำมันมูลค่า  83.7 พันล้านหยวน (มากกว่า 4 แสนล้านบาท)

ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่าทางการรัสเซียเริ่มกลับมาใช้สกุลเงินรูเบิลและหยวนมากขึ้นหลังจากชาติตะวันตกคว่ำบาตรซึ่งเป็นผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2566 สำนักข่าววอลล์ สตรีท เจอร์นัล (The Wall Street Journal) รายงานว่าซาอุดีอาระเบียกำลังพิจารณาการซื้อขายน้ำมันด้วยสกุลเงินหยวน ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งประเมินว่าหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงอาจส่งผลโดยตรงให้สกุลเงินหยวนกลายเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินหลักของโลกเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับสกุลเงินดอลลาร์ในช่วงทศวรรษ 70 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2566 สำนักข่าวนิเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า จีนและบราซิลบรรลุข้อตกลงใช้สกุลเงินหยวนในการทำธุรกรรมทางการเงินโดยตรงแบบไม่ต้องใช้สกุลเงินดอลลาร์เป็นตัวกลางอีกต่อไป

ย้อนไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2566 'CNOOC' บริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีนบรรลุข้อขายแก๊สธรรมชาติเหลว (LNG) ให้กับ “TotalEnergies” ของฝรั่งเศสด้วยสกุลเงินหยวน โดยสำนักข่าวโกลบอล ไทมส์ (Global Times) สื่อของรัฐบาลจีน ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการทำธุรกรรมด้านน้ำมันข้ามชาติที่ชำระเป็นสกุลเงินหยวนครั้งแรกในประวัติศาสตร์

จากทั้ง 5 เหตุการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน ประกอบกับเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่าสัดส่วนของเงินสำรองทั่วโลกในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์ลดลงต่ำสุดในรอบ 25 ปี จากเดิม 72% ในปี 2542 เป็น 59.1% ในปัจจุบัน อาจเป็นตัวชี้วัดว่าความนิยมในสกุลเงินดอลลาร์กำลังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง  ขณะที่สกุลเงินหยวนอาจเป็น 'สกุลเงินม้ามืด' เข้ามาแทนดอลลาร์ได้อย่างแท้จริง

เช็ก ‘มาตรการ-ข้อห้าม’ เที่ยว ‘สงกรานต์ 66’ ในกทม.

(11 เม.ย.66) เพจเฟซบุ๊ก ‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ โพสต์ข้อความ ‘ข้อห้าม ตามมาตรการสงกรานต์ กทม.’ ระบุว่า…

เทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงนี้ หลายพื้นที่ทั่วประเทศ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสนุก และมีความสุขไปกับประเพณีปีใหม่ไทย เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของประชาชนทุกคน ก่อนออกไปร่วมกิจกรรมวันสงกรานต์ ควรศึกษาข้อปฏิบัติ หรือข้อห้ามของสถานที่นั้น ๆ ที่ได้กำหนดไว้

ในส่วนของพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รวบรวมข้อห้ามต่าง ๆ ในการร่วมกิจกรรมวันสงกรานต์ (ตามมาตรการสงกรานต์ กทม.) ไว้ดังนี้

- ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ห้าม เช่น วัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา, สาธารณสุขของรัฐ, ปั๊มน้ำมัน หรือร้านค้าในปั๊มน้ำมัน, สวนสาธารณะ, สถานีรถไฟ และท่าเรือโดยสารสาธารณะ

- ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลาที่กำหนด ซึ่งให้ขายได้เวลา 11.00-14.00 น. และเวลา 17.00-24.00 น. เท่านั้น

- ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

- ห้ามขับขี่รถ ในขณะเมาสุรา

- ห้ามโป๊เปลือยในที่สาธารณะ

- ห้ามบรรทุกโดยสารท้ายกระบะเกินจำนวนที่กำหนด

- ห้ามเปิดเครื่องเสียงดังรบกวนจนก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญ

- งดเล่นแป้ง

- งดเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง

ด้วยความปรารถนาดีจาก ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สุขสันต์วันสงกรานต์นะครับ

ผู้ป่วยโควิด-19 'สิทธิบัตรทอง 30 บาท' สามารถพบแพทย์ผ่านระบบ Telemedicine ส่งยาฟรีถึงบ้าน ผ่าน 4 แอปพลิเคชัน เฉพาะพื้นที่กรุงเทพ

(18 เม.ย.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากเทศกาลสงกรานต์ พบว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมระบบการรักษาพยาบาลไว้รองรับผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นยา เวชภัณฑ์ รวมถึงเตียงรองรับไว้อย่างเพียงพอ โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติร่วมกับ 4 ผู้ให้บริการด้านสุขภาพดิจิทัล ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 สิทธิบัตรทอง 30 บาท หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผ่านบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) พร้อมบริการจัดส่งยาถึงบ้าน เฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไว้ให้บริการผู้ป่วย ดังนี้

เมื่อตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด พบติดเชื้อโควิด-19 ให้ดำเนินการดังนี้...

1.สามารถเลือกลงทะเบียน เพื่อพบแพทย์ผ่านออนไลน์ ซักถามและจ่ายยาตามอาการ (หากเข้าเกณฑ์ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์หรือยาโมลนูพิราเวียร์ตามดุลยพินิจของแพทย์) พร้อมจัดส่งถึงบ้าน ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือเลือกบริการทางแอปพลิเคชันอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้...

1.1 แอป Totale Telemed (โททอลเล่ เทเลเมด) โดย บริษัท โททอลเล่เทเลเมด https://lin.ee/a1lHjXZn รับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกประเภท เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี, ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และหญิงตั้งครรภ์) สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @totale หรือสายด่วน 0620462944, 0618019577

1.2 แอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) ให้บริการโดย บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด https://form.typeform.com/to/cNKqNz3p รับผู้ป่วยโควิด-19 เฉพาะกลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608)  
สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @mordeeapp

1.3 แอปพลิเคชัน Clicknic (คลิกนิก) ให้บริการโดย บริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด https://forms.gle/hfo2Wr9jdvybn8d57 รับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608) 
สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @clicknic

1.4 แอปพลิเคชัน Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) โดยสุขสบายคลินิกเวชกรรม ลงทะเบียนที่ www.telemed.salubermdthai.com รับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608) 
สอบถามเพิ่มเติม Add Line: @SOOKSABAICLINIC หรือ โทรติดต่อ สุขสบายคลินิกเวชกรรม 02-065-3344 หรือ 095-575-5901

วันเบียร์เยอรมัน

เมื่อไหร่เราถึงจะเรียกเบียร์ว่าเบียร์ ตามกฎว่าด้วยความบริสุทธิ์ของเบียร์ของเยอรมัน ค.ศ.1516 หรือ Reinheitsgebots นั้น ส่วนผสมหลักที่สำคัญในเบียร์ที่จะขาดไม่ได้ คือ ดอกฮอปส์ ข้าวมอลต์ ยีสต์ และน้ำ

ด้วยจำนวนเบียร์กว่า 6,000 ยี่ห้อจากโรงงานเบียร์กว่า 1,500 แห่ง ทำให้ประเทศเยอรมนีมีเบียร์ให้เลือกสรรค์มากมาย ธุรกิจการผลิตเบียร์เพียงอย่างเดียวมีการจ้างงานถึง 27,000 ตำแหน่ง

วัฒนธรรมเบียร์ยังฝังรากลึกอยู่ในภาษาเยอรมันอีกด้วย เช่นสำนวนที่ว่า “ทำให้ถังเบียร์ล้น” (ฟางเส้นสุดท้าย ในภาษาไทย) หรือ "สุนัขในกระทะเป็นบ้าไปแล้ว" (ใช้เมื่อผู้พูดเจอเรื่องประหลาดใจมาก ๆ มาจากนิทานพื้นบ้านเยอรมัน ที่ตัวเอก Till Eulenspiegel ซึ่งมีนิสัยคล้ายศรีธนญชัย โยนสุนัขชื่อฮอปลงในหม้อต้มเบียร์ ตามคำสั่งของนายจ้างที่บอกให้ต้มดอกฮอปส์ลงไปในเบียร์ด้วย) 
สุดท้ายนี้ เราขอดื่มให้กับวันเบียร์เยอรมันในวันนี้ พร้อมกล่าวดัง ๆ ว่า Prost! 

ในที่สุด 'อินเดีย' ก็แซง 'จีน' ขึ้นเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการแล้ว

ในที่สุด 'อินเดีย' ก็แซง 'จีน' ขึ้นเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการแล้ว

‘รัฐบาล’ ยกระดับ Soft Power ไทย ดัน ‘16 เทศกาลไทย’ สู่เวทีสากล ดึงดูด นทท. สร้างรายได้ให้ชุมชน

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งส่งเสริมฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน สร้างรายได้แก่ประชาชน ผ่านการคัดเลือกเทศกาลประเพณีทั่วประเทศที่โดดเด่น เพื่อยกระดับเทศกาลประเพณีไทย (Festival) ไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ 

โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล ในการขับเคลื่อน Soft Power ของไทยที่มีศักยภาพ หรือ 5F (Food, Fight, Film, Fashion, Festival) โดยแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการคัดเลือกเทศกาลประเพณีของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน 16 ประเภท ซึ่งทั้ง 16 เทศกาลประเพณีที่ได้รับการคัดเลือก ล้วนมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ แสดงออกถึงวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถนำมาพัฒนาต่อยอด ส่งเสริมการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และเผยแพร่ประเพณีของไทยให้เป็นที่รู้จัก ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้แก่ชุมชนและประเทศชาติ

20 โปรเจกต์ หนุน EEC เดินหน้า ภายใต้รัฐบาลตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

โครงการ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งมีอีกชื่อเป็นภาษาไทยว่า ‘โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก’ อีกหนึ่งความหวังใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 โดยปัจจุบันมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเงื่อนไขในการเอื้อต่อการลงทุนแล้วหลายประการ ได้แก่

1. พัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา)
2. พัฒนารถไฟทางคู่ (ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย)
3. พัฒนาท่าเรือมาบตาพุด / ท่าเรือแหลมฉบัง เป็น ‘ประตูการค้า’ เชื่อมโยงกับประเทศในอาเซียน
4. พัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ หรือท่าเรือจุกเสม็ด รองรับนิคมอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวทางทะเล
5. ปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top